<<
กุมภาพันธ์ 2564
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
5 กุมภาพันธ์ 2564

:: หนังสือคือส่วนหนึ่งของลมหายใจ ::


:: หนังสือคือส่วนหนึ่งของลมหายใจ ::










20 กว่าปีก่อน หนังสือยังราคาไม่แพงมากเท่าทุกวันนี้
หนังสือใหม่ปกหนึ่งราคาประมาณ 80 บาท ถึง 200 บาท
ถ้าซื้อหนังสือเก่ามือสอง ราคายิ่งถูกลงไปอีก
อาจเริ่มต้นเพียงเล่มละ 5 บาท 10 บาท
ไปจนถึงเล่มละ 100 บาท
ผมเริ่มต้นการอ่านจากการซื้อหนังสือมือสอง
พอทำงานมีเงินเดือนเป็นของตนเอง จึงเริ่มซื้อหนังสือใหม่
ในกระเป๋าเงิน ผมมีบัตรเครดิตเพียงใบเดียว
แต่มีบัตรสมาชิกร้านหนังสืออยู่ 6 - 7 ใบ
ร้านประจำในสมัยก่อน คือ สุริวงศ์บุ๊คส์เชียงใหม่
ดวงกมล ดอกหญ้า แว่นแก้ว ซีเอ็ด บีทูเอส นายอินทร์
ผ่านร้านหนังสือเมื่อไหร่ ก็ขอแวะเข้าไปดู ไปเลือกหนังสือสักหน่อย
ยังไงก็ต้องได้ติดไม้ติดมืออยู่เสมอ


ปัจจุบันผมซื้อหนังสือน้อยลงมาก
เพราะแทบไม่มีหนังสือในแนวที่ผมชอบอ่านวางจำหน่ายในร้านค้า
ผมจึงเปลี่ยนไปสั่งซื้อโดยตรงจากสำนักพิมพ์ นักเขียน
หรือไม่ก็เว็บขายหนังสือออนไลน์แทน
สิ่งแรกที่ต้องทำเมื่อนำหนังสือกลับมา
คือ การห่อปกหนังสือด้วยพลาสติก
สมัยก่อนมีพี่ที่ร้านช่วยห่อปกหนังสือให้
พอพี่เขาลาออกไป ผมก็เริ่มฝึกลองทำด้วยตัวเอง
เล่มแรก ๆ ก็ทั้งห่อเบี้ยว ทำออกมาปกไม่พอดี
แต่พอทำไปเรื่อย ๆ ก็เริ่มคล่องมือและสนุกกับการห่อปกหนังสือมากขึ้น
ปกพลาสติกช่วยรักษาสภาพหนังสือได้ดีมาก ๆ
ผมเคยทำหนังสือร่วงหลุดมือหล่นไปบนแอ่งน้ำเล็ก ๆ
โชคดีมากที่มีปกพลาสติกทำให้หนังสือไม่เสียหาย


ถ้าซื้อหนังสือมือหนึ่ง
ผมแค่ห่อปกหนังสือด้วยพลาสติกใสก็จบ
แต่ถ้าซื้อหนังสือมือสอง โดยเฉพาะการ์ตูนญี่ปุ่นเก่า ๆ
ปัญหาคือ มันจะมีฝุ่นเยอะมากทั้งปกและเนื้อกระดาษ
ก่อนอ่านผมจึงต้องเอามาตบเบาๆ เคาะฝุ่นออก
(ตอนทำควรใส่หน้ากากด้วยนะครับเพื่อป้องกันฝุ่น)
จากนั้นก็ใช้น้ำยาเดทตอลผสมน้ำใส่กระบอกฉีดน้ำรีดผ้า
ฉีดแล้วก็ใช้ผ้าแห้งนุ่มๆเช็ดทุกด้าน
แล้วค่อยห่อปกพลาสติกอีกครั้ง
เท่านี้ก็อ่านหนังสือได้อย่างสบายใจแล้วล่ะครับ


ทุกวันนี้เมื่อซื้อหนังสือกลับมาก็ต้องห่อปกทุกครั้งทุกเล่มก่อนจะอ่าน
ผมยังไม่เคยลองนับจำนวนเล่มหนังสือที่มีในบ้านเลย
แต่เดาว่าน่าจะเกิน 5 พันเล่ม
เพราะผมอ่านหนังสือหนึ่งปีเกิน 200 เล่ม
ติดต่อกันนาน 20 กว่าปี
แม้หลายปีก่อนจะเอาหนังสือเด็กของลูกชายไปบริจาคเป็นจำนวนมาก
แต่หนังสือที่มีอยู่ก็น่าจะมีจำนวนมากอยู่ดี
ทุกวันนี้ไม่เคยเอามาจัดเรียง เอามานับ
เพราะส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ในชั้นหนังสือ
แต่อยู่ในถุงพลาสติกใบใหญ่จำนวนมากบนบ้าน
ถ้าเอามาจัดเรียงเอามานับ
น่าจะใช้เวลาหลายวันเลยกว่าจะทำเสร็จ























 



Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2564
Last Update : 17 กรกฎาคม 2565 6:50:21 น. 22 comments
Counter : 389 Pageviews.  

 
มันจะมีได้ไงแนวที่คุณก๋าชอบมันไม่ใช่แนวตลาด
ยุคนี้ขืนทำเป็นเล่มหนังสือก็ขายไม่ได้
ที่เห็นตามร้านก็นิยายแปลเกาหลีญุี่ปุ่น
อะไรพวกนี้แหละคุณก๋า วัยสะรุ่นเขาอ่านกัน



โดย: หอมกร วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:7:52:27 น.  

 
สวัสดียามเช้าค่ะ คุณก๋า

ของเรามีเยอะ แต่ก็ไม่น่าจะถึง 1000

โอ้ นี่ 5000 นี่เรียกว่า "โกดัง" แล้วนะคะ

---จากกระทู้เรา----

การเรียนออนไลน์เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้วค่ะ
เหนื่อยหน่อย แต่ก็เพื่อความปลอดภัยของลูก และทุกๆ คน

คุณแม่สายสตรองอย่างเรา ก็ต้องเหมาทุกวิชาไปนะคะ

เพื่อลูก สู้ๆ



โดย: Love Memoirist (blue_medsai ) วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:8:05:23 น.  

 
อ.เต๊ะ มีแค่ ซีเอ็ด บีทูเอส นายอินทร์ แค่นั้นเองครับ
ตอนนี้บัตรหมดอายุ เลิกซื้อเลยไม่ได้ต่ออายุเลยครับ 555

สาเหตุก็เพราะ
1. มีปัญหาเรื่องปลวก
2. ไม่มีที่เก็บ
3. ไปอ่านในคอมแทบทุกอย่าง

เลยเลิกซื้อไปโดยปริยาย จริงๆก็ยังชอบหนังสือแบบเป็นเล่มๆมากกว่า เพราะไม่เป็นอันตรายกับสายตานะครับ

ปล.เห็นชั้นหนังสือ บ้านคุณก๋าแล้ว ห่วงเรื่องความปลอดภัย
ไม่รู้ว่า คานตรงนั้นจะรับน้ำหนักไหวมั้ยเนี่ย ดูแล้ว น่าจะเกิน 2ตัน เย้ย 555 ล้อเล่นนะครับ เดี๋ยวคุณก๋าเกิดไปตามช่างมาเสริมคาน จะยุ่งกันใหญ่555



โดย: multiple วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:8:09:06 น.  

 
เซียนกระบี่ลุ่มแม่น้ำวัง 



จากบล็อก ต้องบอกว่า ทีมเรากำลังมีปัญหากับทีมอุด และ งง กับบอส ทำไมคำตอบต้องเป็น โอริกิอุส


โดย: เซียน_กีตาร์ วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:9:30:25 น.  

 
คลังความรู้อยู่ที่บ้านคุณก๋านี่เองครับ 55 เยอะมาก ๆ ครับ ผมว่าเปิดเป็นห้องสมุดให้ยืมอ่านได้เลยนะครับ


โดย: The Kop Civil วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:10:21:51 น.  

 
เยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกก


โดย: kae+aoe วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:11:19:33 น.  

 
สวัสดี จ่ะ น้องก๋า

เห็นภาพตู้หนังสือที่เธอถ่ายภาพมาให้ชม มากมายจริง ๆ
ของครูมีประมาณ3 ตู้ นับว่าเยอะแล้วนะเนี่ย ซ่อมบ้านครั้งนี้ คัด
ไว้เพื่อบริจาคประมาณ 5-6 ลัง ส่วนใหญ่เป็นหนังสือวิชาการ มี
หนังสืออ่านเล่นบ้างเล็กน้อย หนังสือธรรมะบ้าง ก็ยังเหลืออีก
มากโขอยู่
นับถือเธอจริง ๆ รักการอ่านมาก ๆ ครูไม่ค่อยได้อ่านซ้ำ
ที่เหลือยังไม่ได้อ่านก็มีไม่น้อยนะเนี่ย

โหวดหมวด งานเขียนฯ


โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:11:39:39 น.  

 
สวัสดีครับคุณก๋า

โอ๊ยชอบจังครับ เห็นหนังสือเยอะๆ เป็นไม่ได้ อิอิ

คุณก๋ามีสามก๊กการ์ตูนครบเลยใช่มั้ยครับนั่น ดีจังครับ ตอนออกใหม่ๆ เคยเห็นตามร้าน แต่ไม่ได้ซื้อ ตอนนั้นไม่ได้อ่านแนวนี้ และซื้อไม่ไหวด้วยครับ

เรื่องเก็บรักษาหนังสือ เคยจัดวางบนชั้นแบบสวยๆ ในที่สุดเจอแดดเลียไป เสียดายมากครับ
สันการ์ตูนซีดไปหลายเล่มเลย และการ์ตูนที่บ้านก็ผ่านวีรกรรมมากมาย ทั้งโดนแมวข่วน โดนน้ำฝน (เพราะดันไปวางริมหน้าต่างแล้วลืมปิดตอนออกไปข้างนอก ฮือออ หนักมากครับ )


สำหรับเรื่องห่อปก ผมมักปล่อยให้อ่านจบแล้วห่อ เลยผ่านความเยินไปพักนึง 55 แต่การห่อปกพลาสติกมันคือการทำประกันชีวิตให้หนังสือจริงๆ ครับ

อยากชมภาพหนังสือแบบไม่ใส่effect จังเลยครับ


โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:12:43:22 น.  

 
สวัสดีครับ

เห็นแล้วน่าไปนอนอ่านสักเดือนครับ อลังการมาก
สวรรค์ของนักอ่านเลยครับ



โดย: Sleepless Sea วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:12:47:38 น.  

 

เย็นเป็นคนรักหนังสือ เด็กสมัยโบราณถ้าวางหนังสือต่ำกว่าเท้าไม่ได้ ถ้าจะเดินต้องยกขึ้นวางบนโต๊ะ ถ้าบังเอิญข้ามหรือเหยียบก็ต้องลงไหว้หนังสือ หนังสือเรียนทุกเล่มของเย็น ห่อปกพลาสติก สมัยก่อนมีศึกษาภัณฑ์อยู่หน้า รร. ซื้อปกพลาสติกง่ายมาก ถ้าเล่มไหนไม่มีขนาดปกสำเร็จ ใช้พลาสติกเมตรมาตัดและห่อ ใส่ให้ทุกเล่ม ถ้าเป็นหนังสือเก่าจากพี่บางทีก็ใส่ภาพตัดจากปฏิทินวิวสวยงามสมัยก่อนมักเป็นภาพวิวใบไม้เปลี่ยนสีประเทศญี่ปุ่น บางฤดูกาลใช้รูปนักเตะฟุตบอลโลกรูปหล่อใส่หน้าปก นิยายเช่า ใช้กระดาษพิมพ์มันที่บริษัทยาแจกผลการทำวิจัยเอามาห่อไว้นอนอ่านได้

หนังสือที่รักมากที่สุด น่าจะเป็นตำราเรียนแพทย์ แต่ละเล่มสวยงามและราคาแพง แต่ระหว่างเรียนก็ยังถูกแยกเล่มแกะปกออกเพื่อ แบ่งให้ขนาดเล็กพกพาง่าย อ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
เมื่อเรียนจบแต่ละวิชา เก็บเล่มย่อยนั้นมารวมใส่ปกแข็งเก็บไว้อีก ทุกเล่มรักนักหนาเขียนด้วยลายมืออย่างสวยงามไว้ทุกย่อหน้า เคยเก็บไว้ในตู้หรูหราราคาแพง แต่ ณ วันนี้ เย็นจับทิ้งไปได้ไม่มีเยื่อใยอีกแล้ว เราอยู่กับปัจจุบัน สิ่งใดเป็นของชอบเราละได้ก็ช่วยบอกผลการปฏิบัติ ว่าเราละลดได้จริงหรือแค่ความคิดค่ะ


โดย: mcayenne94 วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:12:49:45 น.  

 
ที่บ้านก็มีมุมหนังสือส่วนตัวครับ น้อยกว่าคุณก๋ามากๆ เมื่อก่อนนี้มีแต่หนังสือทำอาหาร หอบหิ้วมาจากออสเตรเลียตอนไปเรียนต่อก็เยอะครับ ที่ออสหนังสือถูกมาก (ห้ามเทียบเป็นเงินไทย ให้เทียบกับอาหารกลางวัน 1 มื้อ) ร้านหนังสือใหญ่ๆจะมีมุมนึงซึ่งเป็นหนังสือลดราคา หนังสือทำอาหารปกแข็งๆ กระดาษอาร์ตอย่างดี พิมพ์สีสวยงามเล่มนึงไม่ถึง 20 เหรียญ ในขณะที่กินกลางวันตามร้านอาหารจีนเป้นข้าวราดอะไรซักอย่างก็เกือบๆ 10 เหรียญแล้ว เลยขนซื้อมาเยอะแยะ จนต้อง ship กลับมาบ้าน กล่องหนังสือมาถึงบ้านก่อนที่ตัวจะถึงบ้านเนื่องจากบินไปอยูบริสเบนอีกเกือบ 10 เดือน แม่เปิดออกดูโทรมาบ่นหูดับเลย แม่นึกว่าขนหนังสือเรียนกลับบ้านซะอีก นี่มีแต่หนังสือทำกับข้าว ฮ่าๆๆๆๆ


หลังๆมาชอบอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ศิลปะครับ โดยเฉพาะสุโขทัย ล้านนา เลยไม่ค่อยซื้อหนังสือทำกับข้าวแล้ว อิอิ


ชวนไปชิม - ปลาจาระเม็ดทอดราดพริก ด้วยนะครับ



โดย: ทนายอ้วน วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:12:52:25 น.  

 
หนังสือเยอะจริงๆ บ้านผมก็หนังสือเยอะแต่ไม่มากขนาดนี้ ผมเสียหนังสือไปส่วนหนึ่งจากปลวก (เลวร้ายมาก) บางส่วนขายทิ้งไป หนังสือมันสะดวกในการอ่านมากกว่าซื้อ E-Book ซึ่งหากวันหนึ่งทางผู้ให้บริการปิดตัวลงหนังสือที่เราซื้อไว้ก็.....

ปัญหาใหญ่ของคนที่มีหนังสือเยอะอีกเรื่องก็คือที่เก็บครับ เรื่องการห่อปก เดี๋ยวนี้ผมเห็นบางคนมีแนวคิดใหม่ คือเขาซื้อถุงซิปมาใส่ เวลาจะหยิบมาอ่านก็เปิดออกแล้วหยิบมาอ่าน อ่านเสร็จก็ใส่ถุงซิป


จากบล็อก
ผ่าพิภพไททัน พี่ก๋าลองดูใน AIS Play ครับ สนุกมาก เรื่องราวมันซับซ้อนกว่าภายนอกที่เห็นเยอะ ตัวละคร เอเลน ที่พี่ก๋าเคยเลือกนักแสดงในบล็อกผมก็มาจากเรื่องนี้นี่แหละ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:14:05:35 น.  

 
อ่านหนังสือเยอะมากนะคะ
พี่ย้ายบ้านบ่อย โดนน้ำท่วมบ้าง
หนังสือเสียหายไปเสียมาก
แต่ตอนนี้ลูกชายขายหนังสือเก่า
ก็มีอะไรให้อ่านเยอะมาก



โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:16:57:06 น.  

 
สวัสดียามเย็นค่ะคุณก๋า
โห...ความสุขของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เห็นชัดละ
ตั้งชื่อเรื่องได้ตรงจริตคุณก๋ามากๆๆ เป็นส่วนหนึ่งของลมหายใจจริงๆ
เยอะขนาดน้าน... ไม่มีหนังสือก็เสมือนหมดลมหายใจแน่นอลลลล...

ได้ไอเดียละ...คุณก๋าเปิดสตูดิโอหรือ Shop เล็กๆเก๋ ในบริษัท
จัดเป็นร้านหนังสือให้เช่าอ่าน พร้อมขายหนังสือทั้งเก่าและใหม่ในราคาประหยัด
เปิดมุมจำหน่ายเครื่องดื่มออร์แกนิค หรือชา กาแฟ แล้วแต่ชอบ
+เบเกอร์รี่ เล็กๆน้อยๆ รองรับยามช่วงโควิด น่าสนุกดีนะคร้า
เผลอๆคุณน้องหมิงๆกับมาดามอาจมาช่วยลงเล่นด้วยละคร้า

ปล. ขอพูดถึงทีมรัก สะดุดทีมเล็กท้ายตาราง ก็มีบ้างไม่เป็นรัย
และก็ดีใจที่มี 2 ตัวช่วยเสริมทัพมาใหม่ มาอุดหลังน่าจะดีขึ้นละ
(แถมหน้าตาหล่อเอาเรื่องเชียว อิ อิ ) นัดต่อๆไปเจอศึกหนักทั้งน้าน
ได้ลุ้นกันแบบหายใจไม่ทั่วท้องอีกแล้วเรา 5 5


โดย: Tui Laksi วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:17:07:05 น.  

 

เรื่องละวางได้รึเปล่า ขำๆนะคะ
เพื่อนบอกวางหมดก็ถอดสร้อยแหวนนาฬิกา
ของมีค่าออกมาสิ


โดย: mcayenne94 วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:17:56:43 น.  

 
สวัสดีอีกครั้งครับคุณก๋า

ได้พูดคุยเรื่องหนังสือหนังหาแล้วชอบจังครับ ^^
จะรอชมนะครับ
และรอพูดคุยเรื่องหนังสืออีกเรื่อยๆ ครับ


โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:20:32:06 น.  

 
หนังสือของพี่ก๋าเยอะมาก ของแตงถ้ายังไม่ได้อ่านก็เอาไว้ในกล่องในลัง พออ่านจบก็เคลียร์บริจาคเลย จะเก็บไว้เฉพาะบางเล่ม


โดย: comicclubs วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:22:25:46 น.  

 
สวัสดีครับน้องแตง

พี่ก๋าก็บริจาคไปหลายรอบเหมือนกัน
ส่วนใหญ่เป็นหนังสือเด็กของลูกชายนี่ล่ะครับ
แต่หนังสือที่พี่ก๋าอ่าน
น่าจะมีคนอ่านไม่มากครับ 555




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:23:42:37 น.  

 
ช่วงนี้ ผมก็ซื้อหนังสือออนไลน์ครับ ซื้อผ่านShppee ล่าสุดซื้อหนังสือ 2 เล่ม กับ ซีรีย์จีน 1 เรื่อง
ส่วน หนังสือมือสอง ผมซื้อที่ร้าน กาลครั้งหนึ่ง ที่อุทัย อินบ๊อกซ์สั่งไว้ ไปรับเย็น
อนาคตมีโครงการออกงาน เปิดร้านขนมโบราณ(ขนมหารับประทานยาก)+กาแฟสด จะมีมุมหนังสือที่มีอยู่ ไว้ในร้านให้ลูกค้าได้หยิบอ่านครับ



โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:23:45:48 น.  

 
โซฟากับชั้นหนังสือ มุมนี้ถือเป็นมุมโปรดได้มั๊ยคะคุณก๋า
คุณก๋าอ่านหนังสือปีหนึ่งเกิน 200 เล่ม เป็นนักอ่านตัวจริงแบบจริงๆเลยค่ะ



โดย: Sweet_pills วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:23:47:29 น.  

 
เหมือนห้องสมุดเลยค่ะ ถ้าเป็นเรา จำไม่ได้หรอก อะไรอยู่ตรงไหน


โดย: Sai Eeuu วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:0:36:46 น.  

 
สวัสดีตอนเช้าตรู่คร่า

วันนี้มาแต่เช้าตรู่ เพราะว่า
วันนี้จะต้องพาลูกไปลงแข่งกอล์ฟเยาวชนค่ะ



โดย: Love Memoirist (blue_medsai ) วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:5:55:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]