:: กะก๋าแนะนำหนังสือ - UTOPIA ::
:: UTOPIA ::เขียน : Sir Thomas More แปล : สมบัติ จันทรวงศ์
หนังสือนิยายเชิงเสียดสีและเย้ยหยันซึ่งถูกเขียนขึ้นในปี ค.ศ. 1516 โดยเซอร์โธมัส มอร์ ขุนนางและอัครสเนาบดีชาวอังกฤษ ต้นฉบับถูกเขียนขึ้นด้วยภาษาละติน แต่กว่าหนังสือเล่มนี้จะได้รับการตีพิมพ์ และถูกแปลเป็นภาษาอังกฤษต้องรออีกนานกว่า 16 ปี ภายหลังการประหารชีวิตท่านเซอร์ฯ ผู้เขียน
หนังสือเล่มนี้มีกลวิธีการเขียนที่น่าสนใจ ขณะอ่านจะรู้สึกว่าเรื่องนี้เหมือนเรื่องจริง มีบุคคลจริงกำลังสนทนากัน แต่ตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นมา ทั้งชื่อตัวละคร ชื่อเมือง ชื่อประเทศ เมื่อแปลความหมายออกมา จะพบว่ามีความหมายไปในเชิงเสียดสีทั้งสิ้น เช่น ตัวละครชื่อราฟาเอล ฮิธโลเดย์ แปลว่า ผู้ให้สิ่งที่ไร้สาระ เมือง Amaurot แปลว่า ไม่แน่นอน แม่น้ำ Anyder แปลว่า ปราศจากน้ำ เป็นต้น
แนวคิดในยูโทเปีย หรือ เมืองสมมุติฝัน นั้นเหมือนเป็นแนวคิดในการสร้างสังคมอุดมคติ แนวคิดในการจัดการที่ดิน การวางผังเมือง การแบ่งงานให้ประชาชน การใช้ชีวิตโดยไม่มีเงินตรา ทุกคนมีความเท่าเทียมในการกินอยู่ ไม่มีการพนัน ไม่มีสิ่งเสพติดและอบายมุข ทำงานน้อย งานไม่หนัก และพักผ่อนอย่างเต็มที่ มีชนชั้นปกครองที่ไม่กดขี่ประชาชน รับฟังความคิดเห็นประชาชน มีการควบคุมจำนวนประชากรอย่างพอเหมาะ มีภาษาเป็นของตนเอง มีอิสระในการเลือกนับถือศาสนา และที่น่าทึ่งมาก คือ มีการพูดถึงการทำการุณยฆาตในหนังสือเล่มนี้ ซึ่งถือว่าเป็นแนวคิดที่มาก่อนกาลและล้ำสมัยมาก ๆ ในยุคนั้น
เซอร์โธมัส มอร์แจกแจงรายละเอียดของยูโทเปีย ตั้งแต่ลักษณะทางกายภาพของประเทศ ไปจนถึงรายละเอียดยิบย่อยต่าง ๆ เพื่อสร้างประเทศในฝัน นักการเมืองในอุดมคติ และประชาชนผู้มีความสุข ชนิดที่ไม่น่าจะมีประเทศใดในโลกนี้จะทำได้
ท่ามกลางยุคสมัยอันวุ่นวายยุ่งเหยิงทั้งปัญหาในราชวงศ์อังกฤษ และปัญหาทางด้านการนับถือนิกายในศาสนาคริสต์ที่นำไปสู่การแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ความเหลื่อมล้ำต่ำสูงระหว่างชนชั้นที่เกิดขึ้นอย่างเห็นเด่นชัด ขุนนางช่วงชิงอำนาจ ชาวนาและชนชั้นล่างถูกกดขี่จนทนไม่ไหว
เรื่องราวในยูโทเปียจึงคล้ายกระจกสะท้อนภาพที่บิดเบี้ยวไปจากความจริง กลายเป็นแนวคิดที่ไม่มีทางเป็นจริงได้ แต่มันกลับกระตุ้นเตือนให้คนอ่าน ได้คิดคำนึงถึงวันหนึ่งวันใดข้างหน้า ที่สังคมจะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ด้วยเวลา ด้วยการศึกษาที่ดีขึ้น ด้วยชนชั้นปกครองที่มีความรับผิดชอบและเสียสละ
หรือแม้แต่อาจเกิดขึ้นด้วยการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง จนนำไปสู่การสร้างประเทศใหม่ท่ามกลางกองซากปรักหักพังและเลือดเนื้อของประชาชน
เพราะช้าหรือเร็ว การเปลี่ยนแปลงย่อมเกิดขึ้นในทุกประเทศ เคยยิ่งใหญ่กลับตกต่ำ เคยร่ำรวยกลับยากจน เคยลำบากกลับกลายเป็นมหาอำนาจ นี่คือกฎแห่งความจริงที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง และ “ยูโทเปีย” อาจไม่ใช่เพียงภาพฝันที่ไกลเกินเอื้อมอย่างที่คิด !
Create Date : 16 มิถุนายน 2562 |
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2563 22:41:35 น. |
|
17 comments
|
Counter : 786 Pageviews. |
|
|
|
|
ไม่ว่าประเทศไหนชาติใด ปัญหาวงในที่คนวงนอก
ต้องมารับผลลัพธ์ที่ออกมาจากการบริหารจัดการ
ขอบคุณที่แนะนำหนังสือค่ะ