:: Taste of Cherry ::
:: Taste of Cherry ::
Taste of Cherry เป็นภาพยนตร์จากประเทศอิหร่าน ผลงานกำกับของ อับบาส เคียรอสตามี ได้รับรางวัล Palme d'Or ในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ปี 1997 ผมเคยดูหนังเรื่องนี้เมื่อหลายปีก่อน ชอบบทสนทนาของตัวละครช่วงท้ายเรื่อง เลยกลับไปค้นแผ่น DVD ที่ซื้อเก็บไว้ โชคดีที่หาเจอ และกลับมาดูซ้ำอีกครั้ง
หนังของเคียรอสตามีไม่มีดนตรีประกอบ ตัวละครดำเนินเรื่องมีเพียงไม่กี่คน ฉากในภาพยนตร์เวิ้งว้าง แห้งแล้ง เป็นถนนลูกรังที่เต็มไปด้วยฝุ่น มีเนินเขาอันสลับซับซ้อนเป็นฉากหลัง หนึ่งชั่วโมงแรกของหนังผ่านไปอย่างเชื่องช้า ชวนอึดอัด และเนิบเนือย
บาดี้ ชายวัยกลางคนตัวเอกของเรื่อง ต้องการที่จะฆ่าตัวตาย (โดยที่ในหนังก็ไม่มีการกล่าวถึงสาเหตุว่าบาดี้อยากตายเพราะอะไร) เขาจึงตระเวนขับรถเพื่อจ้างใครก็ได้มาช่วยฝังศพของเขา คนแล้วคนเล่าต่างก็ปฏิเสธที่จะรับงานของบาดี้ แม้จะให้ค่าจ้างสูงเพียงใดก็ตาม ทหารหนุ่ม แรงงานก่อสร้าง ครูสอนศาสนา ทั้งหมดปฏิเสธและไม่ต้องการทำตามคำขอร้อง ไม่ว่าบาดี้จะให้เหตุผลมากเท่าไหร่ก็ตาม บาดี้รับคนขึ้นรถ บอกงานที่เขาจะจ้าง พาไปดูหลุมศพที่เขาขุดไว้บนยอดเขา และบอกว่านี่คืองานง่าย ๆ แค่วันรุ่งขึ้นให้ใครก็ได้มาดูที่หลุมศพ เรียกชื่อเขาสองครั้งถ้าเขาไม่ขานรับหรือตายไปแล้ว ก็ช่วยกลบหลุมฝังศพให้เขาหน่อย จากนั้นก็รับเงินกลับบ้านได้เลย
บทภาพยนตร์ในช่วงแรกจึงเต็มไปด้วยความสงสัยว่าทำไมบาดี้จึงอยากฆ่าตัวตาย เพราะเขาไม่ยอมบอกเหตุผลใดใด แค่บอกว่าอยากให้มีใครสักคนช่วยจัดการเรื่องศพเพียงเท่านั้น ภาพส่วนใหญ่จึงเป็นบทสนทนาซ้ำๆย้ำๆ ให้รู้ถึงความต้องการของบาดี้ ตัดสลับกับภาพรถที่วิ่งวนอยู่บนยอดเขาอันเวิ้งว้าง บรรยากาศแห้งแล้ง หม่นมัว
จนมาถึงชายคนสุดท้ายที่บาดี้ไปพบ เป็นชายชราชื่อ บาเกรี่ ซึ่งทำงานอยู่ในพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ บาเกรี่ตกลงรับปากรับคำบาดี้ว่าจะทำงานให้ เพราะเขามีลูกซึ่งป่วยและต้องการใช้เงินอยู่พอดี บทสนทนาระหว่างชายชรากับบาดี้เป็นแก่นแกนสำคัญของเรื่อง เพราะขณะที่บาดี้กำลังขับรถพาบาเกรี่ไปส่งยังที่ทำงาน ชายชราได้ชวนคุยและเล่าเรื่องของตัวเองให้ฟังว่า
“ผมจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวผมให้ฟัง มันเกิดขึ้นหลังจากผมแต่งงานไม่นานนัก เราต่างมีปัญหากันทุกรูปแบบ จนผมเอือมระอากับมัน เลยตัดสินใจว่าจะยุติมันซะให้หมด เช้ามืดวันหนึ่งก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ผมหยิบเชือกมาไว้ในรถ ตั้งใจแล้วว่าอยากจะฆ่าตัวตาย ผมเดินทางไปเมืองเมียเน่ห์ (เมืองแห่งหนึ่งในอิหร่าน) เรื่องนี้เกิดขึ้นในปี 1960 เมื่อไปถึงสวนต้นหม่อน ผมจอดรถไว้ที่นั่นตอนยังมืดอยู่ ผมโยนเชือกขึ้นไปบนต้นไม้ แต่มันเกี่ยวไม่อยู่สักที ลองทำหนที่หนึ่ง หนที่สอง แต่ก็ไม่ได้ผล ดังนั้นผมเลยปีนขึ้นไปบนต้นไม้ แล้วมัดเชือกจนแน่น ตอนนั้นผมรู้สึกว่ามีอะไรนุ่มๆอยู่ใต้ฝ่ามือ “ลูกหม่อนนั่นเอง...” ลูกหม่อนรสหวานฉ่ำ ผมกินไปลูกหนึ่ง มันชุ่มฉ่ำจริงๆ แล้วผมก็กินลูกที่สอง ลูกที่สาม ทันใดนั้นเอง ผมก็เห็นพระอาทิตย์กำลังขึ้นเหนือยอดเขา ทั้งพระอาทิตย์ ทั้งวิวทิวทัศน์ ทั้งดอกไม้ป่าเขา ช่างงดงามอะไรเช่นนี้ ! จู่ๆผมก็ได้ยินเสียงเด็กๆ เดินมุ่งหน้าไปโรงเรียนกัน พวกแกหยุดดูผม ขอให้เขย่าต้นไม้ให้ ลูกหม่อนร่วงลงไป แล้วเด็กๆเก็บลูกหม่อนกิน ผมรู้สึกมีความสุขมากๆเลย เสร็จแล้วก็เลยเก็บลูกหม่อนกลับบ้าน เมื่อกลับไปถึงบ้าน เมียผมยังหลับอยู่ พอเธอตื่นขึ้นมา ก็หยิบลูกหม่อนมากินด้วยเช่นกันและชอบมันมากเสียด้วย ผมออกจากบ้านไปเพื่อฆ่าตัวตาย แต่กลับมาพร้อมลูกหม่อน ลูกหม่อนช่วยชีวิตผมไว้ ! ลูกหม่อนช่วยชีวิตผมไว้ !!!”
บาเกรี่พยายามชวนบาดี้คุย พยายามขอร้องให้บาดี้เปลี่ยนความคิดที่จะฆ่าตัวตาย และกลับมาแก้ไขปัญหาที่ตนเองกำลังเผชิญอยู่ ชายชรายังได้เล่าเรื่องตลกอีกเรื่อง
“ชาวเติร์ก (ตุรกี) คนหนึ่งไปหาหมอ เขาบอกหมอว่า “พอผมเอานิ้วแตะที่ตัว มันเจ็บมาก พอแตะที่หัว ก็ยังเจ็บมากๆ พอแตะที่ขา มันเจ็บเหลือเกิน แตะท้อง แตะมือ แตะตรงไหนก็เจ็บไปหมด” หมอตรวจเขา จากนั้นก็กล่าวว่า “ร่างกายคุณปกติดี แต่นิ้วคุณหักต่างหากเล่า !”
ที่สุดแล้วทุกคนต่างมีปัญหาของตัวเอง ซึ่งต้องผ่านมันไปให้ได้ ถ้าไม่ใช่ตอนนี้ เวลานี้ ก็ต้องอดทนและรอคอย เพราะความตายอาจไม่ใช่คำตอบสุดท้ายอันเป็นปลายทางของการหลุดพ้น บางคนตาย แต่ปัญหาไม่ได้จบตามไปด้วย แถมยังส่งต่อความเจ็บปวดให้กับคนรอบข้างทั้งๆที่คนเหล่านั้นอาจไม่ได้ร่วมรับรู้ปัญหาด้วยเลย
บางครั้ง “รสชาติอันหอมหวานของชีวิต” ก็อาจไม่ได้รินไหลมาจากหยดน้ำผึ้ง หากแต่มาจากรสชาติขม ๆ ของน้ำตาและความเสียใจมากมาย ที่เราต้องเรียนรู้และผ่านมันไปให้ได้ด้วยตัวเราเอง
Create Date : 26 กันยายน 2564 |
Last Update : 17 กรกฎาคม 2565 6:40:23 น. |
|
31 comments
|
Counter : 200 Pageviews. |
|
|
|
|
เป็นภาพยนตร์ที่ให้ข้อคิดดีจริงๆ
ฟินตามภาพและอารมณ์ของบาเกรี่
บนต้นหม่อนด้วยค่ะ
ว่าแล้วก็อยากทานลูกหม่อน
ทุกปัญหามีทางแก้ไข
เพียงปรับเปลี่ยนมุมมองของตนเอง
เพื่อนเปลี่ยนโลกรอบตัวเรา...จริงๆ
แวะมาเป็นนายทวารบาล เฝ้าหน้าประตูบ้านให้คุณก๋า ค่ะ
เดินทางปลอดภัยนะคะ