<<
กันยายน 2564
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
26 กันยายน 2564

:: Taste of Cherry ::



:: Taste of Cherry ::









Taste of Cherry เป็นภาพยนตร์จากประเทศอิหร่าน
ผลงานกำกับของ อับบาส เคียรอสตามี ได้รับรางวัล Palme d'Or ในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ปี 1997
ผมเคยดูหนังเรื่องนี้เมื่อหลายปีก่อน ชอบบทสนทนาของตัวละครช่วงท้ายเรื่อง
เลยกลับไปค้นแผ่น DVD ที่ซื้อเก็บไว้ โชคดีที่หาเจอ และกลับมาดูซ้ำอีกครั้ง

หนังของเคียรอสตามีไม่มีดนตรีประกอบ ตัวละครดำเนินเรื่องมีเพียงไม่กี่คน
ฉากในภาพยนตร์เวิ้งว้าง แห้งแล้ง เป็นถนนลูกรังที่เต็มไปด้วยฝุ่น มีเนินเขาอันสลับซับซ้อนเป็นฉากหลัง
หนึ่งชั่วโมงแรกของหนังผ่านไปอย่างเชื่องช้า ชวนอึดอัด และเนิบเนือย



บาดี้ ชายวัยกลางคนตัวเอกของเรื่อง ต้องการที่จะฆ่าตัวตาย
(โดยที่ในหนังก็ไม่มีการกล่าวถึงสาเหตุว่าบาดี้อยากตายเพราะอะไร)
เขาจึงตระเวนขับรถเพื่อจ้างใครก็ได้มาช่วยฝังศพของเขา
คนแล้วคนเล่าต่างก็ปฏิเสธที่จะรับงานของบาดี้ แม้จะให้ค่าจ้างสูงเพียงใดก็ตาม
ทหารหนุ่ม แรงงานก่อสร้าง ครูสอนศาสนา ทั้งหมดปฏิเสธและไม่ต้องการทำตามคำขอร้อง
ไม่ว่าบาดี้จะให้เหตุผลมากเท่าไหร่ก็ตาม บาดี้รับคนขึ้นรถ บอกงานที่เขาจะจ้าง
พาไปดูหลุมศพที่เขาขุดไว้บนยอดเขา และบอกว่านี่คืองานง่าย ๆ
แค่วันรุ่งขึ้นให้ใครก็ได้มาดูที่หลุมศพ เรียกชื่อเขาสองครั้งถ้าเขาไม่ขานรับหรือตายไปแล้ว
ก็ช่วยกลบหลุมฝังศพให้เขาหน่อย จากนั้นก็รับเงินกลับบ้านได้เลย

บทภาพยนตร์ในช่วงแรกจึงเต็มไปด้วยความสงสัยว่าทำไมบาดี้จึงอยากฆ่าตัวตาย
เพราะเขาไม่ยอมบอกเหตุผลใดใด แค่บอกว่าอยากให้มีใครสักคนช่วยจัดการเรื่องศพเพียงเท่านั้น
ภาพส่วนใหญ่จึงเป็นบทสนทนาซ้ำๆย้ำๆ ให้รู้ถึงความต้องการของบาดี้
ตัดสลับกับภาพรถที่วิ่งวนอยู่บนยอดเขาอันเวิ้งว้าง บรรยากาศแห้งแล้ง หม่นมัว

จนมาถึงชายคนสุดท้ายที่บาดี้ไปพบ เป็นชายชราชื่อ
บาเกรี่
ซึ่งทำงานอยู่ในพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ บาเกรี่ตกลงรับปากรับคำบาดี้ว่าจะทำงานให้
เพราะเขามีลูกซึ่งป่วยและต้องการใช้เงินอยู่พอดี
บทสนทนาระหว่างชายชรากับบาดี้เป็นแก่นแกนสำคัญของเรื่อง
เพราะขณะที่บาดี้กำลังขับรถพาบาเกรี่ไปส่งยังที่ทำงาน ชายชราได้ชวนคุยและเล่าเรื่องของตัวเองให้ฟังว่า



“ผมจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวผมให้ฟัง มันเกิดขึ้นหลังจากผมแต่งงานไม่นานนัก
เราต่างมีปัญหากันทุกรูปแบบ จนผมเอือมระอากับมัน
เลยตัดสินใจว่าจะยุติมันซะให้หมด
เช้ามืดวันหนึ่งก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ผมหยิบเชือกมาไว้ในรถ
ตั้งใจแล้วว่าอยากจะฆ่าตัวตาย ผมเดินทางไปเมืองเมียเน่ห์ (เมืองแห่งหนึ่งในอิหร่าน)
เรื่องนี้เกิดขึ้นในปี 1960 เมื่อไปถึงสวนต้นหม่อน ผมจอดรถไว้ที่นั่นตอนยังมืดอยู่
ผมโยนเชือกขึ้นไปบนต้นไม้ แต่มันเกี่ยวไม่อยู่สักที
ลองทำหนที่หนึ่ง หนที่สอง แต่ก็ไม่ได้ผล
ดังนั้นผมเลยปีนขึ้นไปบนต้นไม้ แล้วมัดเชือกจนแน่น
ตอนนั้นผมรู้สึกว่ามีอะไรนุ่มๆอยู่ใต้ฝ่ามือ
“ลูกหม่อนนั่นเอง...”
ลูกหม่อนรสหวานฉ่ำ ผมกินไปลูกหนึ่ง มันชุ่มฉ่ำจริงๆ
แล้วผมก็กินลูกที่สอง ลูกที่สาม
ทันใดนั้นเอง ผมก็เห็นพระอาทิตย์กำลังขึ้นเหนือยอดเขา
ทั้งพระอาทิตย์ ทั้งวิวทิวทัศน์ ทั้งดอกไม้ป่าเขา ช่างงดงามอะไรเช่นนี้ !
จู่ๆผมก็ได้ยินเสียงเด็กๆ เดินมุ่งหน้าไปโรงเรียนกัน
พวกแกหยุดดูผม ขอให้เขย่าต้นไม้ให้ ลูกหม่อนร่วงลงไป
แล้วเด็กๆเก็บลูกหม่อนกิน ผมรู้สึกมีความสุขมากๆเลย
เสร็จแล้วก็เลยเก็บลูกหม่อนกลับบ้าน เมื่อกลับไปถึงบ้าน เมียผมยังหลับอยู่
พอเธอตื่นขึ้นมา ก็หยิบลูกหม่อนมากินด้วยเช่นกันและชอบมันมากเสียด้วย
ผมออกจากบ้านไปเพื่อฆ่าตัวตาย แต่กลับมาพร้อมลูกหม่อน
ลูกหม่อนช่วยชีวิตผมไว้ !
ลูกหม่อนช่วยชีวิตผมไว้ !!!”




บาเกรี่พยายามชวนบาดี้คุย พยายามขอร้องให้บาดี้เปลี่ยนความคิดที่จะฆ่าตัวตาย
และกลับมาแก้ไขปัญหาที่ตนเองกำลังเผชิญอยู่ ชายชรายังได้เล่าเรื่องตลกอีกเรื่อง


“ชาวเติร์ก (ตุรกี) คนหนึ่งไปหาหมอ เขาบอกหมอว่า
“พอผมเอานิ้วแตะที่ตัว มันเจ็บมาก พอแตะที่หัว ก็ยังเจ็บมากๆ
พอแตะที่ขา มันเจ็บเหลือเกิน แตะท้อง แตะมือ แตะตรงไหนก็เจ็บไปหมด”
หมอตรวจเขา จากนั้นก็กล่าวว่า
“ร่างกายคุณปกติดี แต่นิ้วคุณหักต่างหากเล่า !”




ที่สุดแล้วทุกคนต่างมีปัญหาของตัวเอง
ซึ่งต้องผ่านมันไปให้ได้ ถ้าไม่ใช่ตอนนี้ เวลานี้ ก็ต้องอดทนและรอคอย
เพราะความตายอาจไม่ใช่คำตอบสุดท้ายอันเป็นปลายทางของการหลุดพ้น
บางคนตาย แต่ปัญหาไม่ได้จบตามไปด้วย
แถมยังส่งต่อความเจ็บปวดให้กับคนรอบข้างทั้งๆที่คนเหล่านั้นอาจไม่ได้ร่วมรับรู้ปัญหาด้วยเลย


บางครั้ง “รสชาติอันหอมหวานของชีวิต” ก็อาจไม่ได้รินไหลมาจากหยดน้ำผึ้ง
หากแต่มาจากรสชาติขม ๆ ของน้ำตาและความเสียใจมากมาย
ที่เราต้องเรียนรู้และผ่านมันไปให้ได้ด้วยตัวเราเอง



































Create Date : 26 กันยายน 2564
Last Update : 17 กรกฎาคม 2565 6:40:23 น. 31 comments
Counter : 200 Pageviews.  

 
เจิมๆๆ
เป็นภาพยนตร์ที่ให้ข้อคิดดีจริงๆ
ฟินตามภาพและอารมณ์ของบาเกรี่
บนต้นหม่อนด้วยค่ะ
ว่าแล้วก็อยากทานลูกหม่อน

ทุกปัญหามีทางแก้ไข
เพียงปรับเปลี่ยนมุมมองของตนเอง
เพื่อนเปลี่ยนโลกรอบตัวเรา...จริงๆ

แวะมาเป็นนายทวารบาล เฝ้าหน้าประตูบ้านให้คุณก๋า ค่ะ
เดินทางปลอดภัยนะคะ


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 26 กันยายน 2564 เวลา:6:57:40 น.  

 
อ่านแล้ว ทำให้ อ.เต๊ะ ต้องไปลองหาหนังเรื่องนี้ดู
ดูไป 10 นาที เกือบไม่รอด 555 ตามสไตล์หนังประกวด
ก็จะง่วงๆประมาณนี้นะครับ

แต่มุมมองในหนัง +เรื่องนิ้วหัก นี่ ทำให้นึกถึงเรื่อง ทัศนคติ
ของคนเรา ถ้าทัศนคติไม่ดี มีแต่แง่ลบ พบเจออะไรก็มีแต่เรื่องแย่ไปหมด ถ้าเราปรับทัศนคติได้ ลองหาข้อดีของเรื่องต่างๆที่เราพบเจอ
มีมุมมองด้านบวก ชีวิตก็จะน่าอภิรมย์มากขึ้นนะครับ

ปล.คุณก๋าหายไปตั้งนาน แล้ว อ.เต๊ะ จะคุยกับใครได้ละครับนี่ เหงาแย่เลยอะ อิอิ

คุณก๋าบอก เอ็งไม่ต้องเลย สารภาพมาว่าเอ็งดีใจ กระโดด ไชโยอยู่ใช่มั้ย เดี๊ยะๆ อย่ามาหลอกข้าเสียให้ยาก 555



โดย: multiple วันที่: 26 กันยายน 2564 เวลา:8:38:53 น.  

 
ภาพยนตร์รางวัลเนี่ยดูยากนะคุณก๋า
ป.ล. ลากิจนานเกินไปนะ



โดย: หอมกร วันที่: 26 กันยายน 2564 เวลา:8:43:54 น.  

 
สวัสดี จ้ะ น้องก๋า

วันนี้ นำภาพยนตร์ มาเล่าให้อ่าน อ่านเรื่องย่อแล้ว ก็เป็น
เรื่องให้ข้อคิดดีนะ ผูกเรื่องให้ตัวละครอายุมากกว่า (ุ้ผู้รับงาน)
เป็นคนเล่าเรื่องเกี่ยวกับประสบการณ์ที่เคยคิดฆ่าตัวตาย ในที่สุด
ก็สามารถรอดพ้นจากความคิดที่จะฆ่าตัวตายได้ หรือเรื่องที่สอง
เรื่องความเจ็บปวดทุกส่วนของร่างกาย สาเหตุมาจากนิ้วกระดูกหัก
ก็เป็นเรื่องที่สอนให้รู้จักค้นหาปัญหาที่ทำให้เกิดทุกข์ นับว่า เป็น
หนังที่ดีเรื่องหนึ่งนะ และหวังว่า นายบาดี้ คงล้มเลิกความตั้งใจ
ฆ่าตัวตาย นะ เฮ้อ!
โหวดหมวด ภาพยนตร์

ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ ทำกิจธุระผ่านพ้นไปอย่าง
เรียบร้อย จ้ะ


โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 26 กันยายน 2564 เวลา:11:12:00 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ก๋า
ไม่แปลกใจว่าทำไมหนังเรื่องนี้ได้รางวัลอะ จริงๆ นุ่นเลี่ยงหนังรางวัลมากเลย ไม่ค่อยชอบรู้สึกเข้าไม่ถึง อย่าง parasite อะ หนังได้รางวัลดังมาก แต่ดูแล้วทำไมหดหู่เหลือเกิน ชนชั้นนี่มันชนชั้นจริงๆ นะ ไม่ชอบ 55 ดูรอบเดียวพอค่ะ ยอมแพ้ความเส็งเคร็งของชีวิตต่างชนชั้นแบบนั้นเหลือเกิน
ส่วนเรื่องนี้จากที่พี่ก๋าเล่ามาเป็นหนังที่เหมือนเรียบๆ เรื่อยๆ แต่แฝงแนวคิดมากเลยค่ะ เอาจริงนะ หนังสองชั่วโมงที่ได้รางวัลมันต้องมีดีแหละเนาะ นุ่นชอบเรื่องที่บาเกรี่เล่าให้บาดี้ฟังเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ความเล็กน้อยก็อาจทำให้คนที่คิดฆ่าตัวตายแบบบาเกรี่รู้สึกว่าตัวเองยังมีคุณค่า แค่ลูกหม่อนไม่กี่ลูกสร้างคามสุขให้ทั้งเด็กแม้แต่ภรรยาที่เขาอาจมีปัญหากับเธอ มันเรื่องเล็กมากๆ แต่มันช่วยชีวิตบาเกรี่จริงๆ อะ นุ่นว่าหนังดีเลย ต้องหาดูบ้าง ได้เรื่องยังไงเดี๋ยวเล่าพี่ก๋าบ้างค่ะ
มีหนังรางวัลอีกเรื่องที่ชอบเหมือนกันก็ slumdog millionaire นุ่นชอบมากเลยอะ ทำไมๆ ไม่เข้าใจแต่มันดีจริงๆ นะ ชอบ 55

ขอบคุณพี่ก๋าที่แนะนำหนังให้ค่ะ
นุ่นก็ไม่ได้เข้าบล็อกสามวันมีงานด่วนเข้าค่ะ


โดย: lovereason วันที่: 26 กันยายน 2564 เวลา:11:27:31 น.  

 
ผมชอบใบปิดทุกอันเลยครับ แค่เห็นก็อยากดูละ 555
ยิ่งมาอ่านคุณก๋ารีวิว ยิ่งเพิ่มความอยากดูขึ้นไปอีก
ชอบตรงบทสนทนาระหว่างบาเกรี่กับบาดี้ด้วยครับ เหมือนมันช่วยเสริมสร้างกำลังใจขึ้นมาอีกนิดนึง
บางครั้ง “รสชาติอันหอมหวานของชีวิต” ก็อาจไม่ได้รินไหลมาจากหยดน้ำผึ้ง อันนี้ก็โดนมากครับ
เมื่อคืนผมเสียดายเลยครับ ซาล่า กับ มาเน่ หลุดเดี่ยว แต่ยิงไม่เข้า ไม่งั้นชนะไปแล้ว คู่เชลซี กับ แมนฯซิ ก็เตะกันสนุกมาครับ


โดย: The Kop Civil วันที่: 26 กันยายน 2564 เวลา:14:08:55 น.  

 
ผมไม่ค่อยได้ดูหนังทางนั้นสักเท่าไหร่ ที่ดูส่วนมากจากเป็นยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น จีน เสียมากกว่า ทุกคนมีปัญหาของตัวเองจริงๆ เรื่องเล็กของเราอาจเป็นเรื่องคอขาดบาดตายของคนอื่นเลยล่ะครับ

เซ็นชื่ออนุมัติ ลายาวมากนะครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 26 กันยายน 2564 เวลา:17:02:03 น.  

 
อ่านแล้ว คนสร้างหนังเสี่ยงมากนะครับ 555

และคนบางคนก็ คิดถึงตัวเอง (เป็นเรื่องธรรมดาอีกแหละ 555)
เรื่องเลยยุ่งหน่อย... แต่เมื่อมีใครร้องขอให้ช่วย เช่นเด็กขอให้
ขย่มเขย่าหม่อน ก็ทำให้ เริ่มรู้ว่าตนเองมีค่า ขึ้นบ้าง

แต่แหะ ๆ ผมยังไม่เคยเห็นต้นหม่อนโตเลย มีสูงแค่เสมอหัว
แถวนั้น ใช่ต้นมะเดือหรือเปล่าครับแต่ ก็ขัดแย้งกันอีกแหละ
มะเดื่อส่วนใหญ่ ออกผลิตลำต้นนี่นา

งั้นต้องดูหนังก่อน ต้นอะไรแน่

....

วันนี้เบื่อ ๆ ไปท่องน้ำท่วม แต่ไม่ได้ท่อง สงสัยมีคนเอาใจพร่องน้ำอย่างเร็วซะมั้ง

เลยดู แดจังกึมไป 2 ตอนแทน แก้เซ็งครับ


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 26 กันยายน 2564 เวลา:19:51:29 น.  

 
หุยยย นึกว่าเข้าห้องผิด...555+



โดย: Love Memoirist (blue_medsai ) วันที่: 26 กันยายน 2564 เวลา:20:33:35 น.  

 
ตอนจบของเรื่อง บาดี้กลับบ้านไปหาลูกหาเมีย
ปัญหามีทุกวัน ทุกวันต้องแก้ไขปัญหา

ฝนตกทั้งเสาร์-อาทิตย์ เน็ตเสียตั้งแต่เที่ยงวันเสาร์ถึงบ่ายวันอาทิตย์
โทรเข้าสายด่วนทีโอที ก็ตอบกลับมาว่า พนักงานกำลังให้บริการลูกค้ารายอื่นอยู่ โทรกี่ครั้งก็ตอบแบบเดิม

เดินทางไปกลับปลอดภัยครับ



โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 26 กันยายน 2564 เวลา:22:28:21 น.  

 
สวัสดีครับคุณก๋า

อ่านตามแล้วรู้สึกน่าสนใจ ไม่น่าเบื่อเลยแฮะ หรือคุณก๋าเล่าสนุก
ชอบบทสรุปที่ว่า
ทุกคนต่างมีปัญหา ต่างเหตุ ต่างกาลเวลากัน การอดทนและใช้สติตรึกตรองเท่านั้นที่จะแก้ไขให้ผ่านมันไปได้
คนหนึ่งตายหนีปัญหา แต่อาจส่งปัญหาเป็นภาระต่อให้คนข้างหลัง
ตรงจุดนี้ก็ดีมากครับ
แว่บแรกนึกถึงเคสตายหนีหนี้ แล้วลูกหลานต้องมาผ่อนใช้ต่อ

และในความที่ว่าปัญหาของแต่ละคนล้วนมาต่างเวลากัน ผมก็เลยนึกไปถึงหนังสือเล่มนึงที่เคยอ่าน เค้าว่าไว้ว่า ชีวิตของคนเรามีช่วงเวลาที่เบ่งบานแตกต่างกัน ดังนั้นอย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใครๆ ในเวลาที่เราตกต่ำแล้วคนรอบข้างมีสุขครับ

Happy vacation นะครับ


โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา วันที่: 26 กันยายน 2564 เวลา:23:31:11 น.  

 
อดทน รอคอยและเรียนรู้เพื่อจะผ่านไปให้ได้ด้วยตัวเอง
ขอบคุณสำหรับภาพยนตร์น่าชมและข้อคิดดีๆค่ะคุณก๋า

คุณก๋าเดินทางโดยสวัสดิภาพนะคะ
ขอบคุณมากค่ะสำหรับคอมเมนท์และกำลังใจ



โดย: Sweet_pills วันที่: 26 กันยายน 2564 เวลา:23:39:16 น.  

 

สวัสดีค่ะ น้องก๋า



โดย: newyorknurse วันที่: 27 กันยายน 2564 เวลา:2:00:06 น.  

 
เซียนกระบี่ลุ่มแม่น้ำวัง
สวัสดีครับ

คุณไม่มีทางรู้สึกเหมือนที่ผมรู้สึก... จนกว่าคุณจะเจ็บเอง

จริงเลยครับ

เมื่อคืน ไก่เดือยทอง แพ้อีก... ตอนยังไม่มีเคน ชนะ 1-0 สามนัดรวด พอเคนมา แพ้โดนสามดอก อาตี๋ซนยิงเพิ่มได้ลูกเดียว
ดูท่า เคนจะกลายเป็นตัวปัญหาของทีมไปแล้ว
มีความสุข รักษาสุขภาพ ห่างไกลโควิด นะครับ


โดย: เซียน_กีตาร์ วันที่: 27 กันยายน 2564 เวลา:11:51:45 น.  

 
หนังอิหร่านนี่ไม่เคยดูเลยครับ แถมเนื้อเรื่องน่าสนใจมากเลยครับ
ความทุกข์มีอยู่ทุกที่ เรื่องทุกข์ของคนนึงอาจเป็นเรื่องปกติของอีกคนก็ได้
เราไม่มีสิทธิ์ไปตัดสิ้นความทุกข์หรือความสุขของคนอื่นครับว่าสมควรหรือไม่สมควร
แค่จัดการกับความทุกข์นั้นให้ได้ก็พอแล้วครับ ^^


โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 27 กันยายน 2564 เวลา:16:27:18 น.  

 
สวัสดีมีสุขค่ะ

ถ้าเรามัวแต่เอาความทุกข์โศกไปแผ่ให้คนรอบข้าง
เขาก็พลอยทุกข์ไปด้วย
สร้างแต่ความสุขใจสบายตาดีกว่าค่ะ
ยิ่งคนใกล้ชิดด้วยแล้ว ยิ่งต้องส่งกระแสความสุขต่อกันให้มาก
หนังมีคติดีนะคะ


โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 28 กันยายน 2564 เวลา:7:04:48 น.  

 
น่าดูมากเลยน้องก๋า


โดย: อุ้มสี วันที่: 28 กันยายน 2564 เวลา:16:38:38 น.  

 
ก๊อก ๆ ไม่มีคนอยู่ เอ้าเฝ้าบ้านให้ค่ะ


โดย: mariabamboo วันที่: 28 กันยายน 2564 เวลา:18:00:42 น.  

 
เซียนกระบี่ลุ่มแม่น้ำวัง
สวัสดีครับ


เมื่อคืน หงส์ชนะสวย ๆ เลยครับ (ตื่นมาดูไฮไลต์)

มีความสุข รักษาสุขภาพ ห่างไกลโควิด นะครับ


โดย: เซียน_กีตาร์ วันที่: 29 กันยายน 2564 เวลา:7:35:54 น.  

 
แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจครับ


โดย: **mp5** วันที่: 29 กันยายน 2564 เวลา:9:38:31 น.  

 
เยี่ยมเจ้า


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 29 กันยายน 2564 เวลา:14:25:52 น.  

 
แหล่มเลยจ้า


โดย: อุ้มสี วันที่: 29 กันยายน 2564 เวลา:23:28:44 น.  

 
แวะมา



โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 29 กันยายน 2564 เวลา:23:31:16 น.  

 
เป็นอะไรหรือเปล่าน๊าาาา...หายไปหลายวัน





โดย: Love Memoirist (blue_medsai ) วันที่: 1 ตุลาคม 2564 เวลา:8:18:36 น.  

 
แชมป์เปี้ยนลีกนัดกลางสัปดาห์ ลิเวอร์พูลโชว์ฟอร์มสุดยอดเลยครับ อาทิตย์นี้เจอแมนซิฯ สนุกแน่ครับ


โดย: The Kop Civil วันที่: 1 ตุลาคม 2564 เวลา:17:31:10 น.  

 


โดย: หอมกร วันที่: 1 ตุลาคม 2564 เวลา:18:27:31 น.  

 
สวัสดี ตอนเย็นจ้ะ น้องก๋า

ลากิจไปน่าจะเป็นอาทิตย์เลยมั้ง เพิ่งกลับบ้านหรือ จ๊ะ

ขอบใจจ้ะ ที่แวะมาอ่าน เม้นท์และให้กำลังใจที่บล็อกครู นะ
เรื่อง คู่กรรม ครูอ่านและช่วยลูกศิษย์ที่มาเรียนพิเศษตอนเด็ก เขาไป
เรียนต่อที่ออสเตรเลีย และต้องเรียนภาษาไทยด้วย โดยเฉพาะต้อง
วิเคราะห์วรรณกรรมไทย 1 เรื่อง เขาเลยมาให้ครูช่วยเหลือ ครูเลย
เลือกเรื่อง คู่กรรม และอ่านอย่างละเอียดและคัดสำนวนที่ครูชอบเก็บ
ไว้ด้วย เลยมีโอกาสนำมาเขียนในช่วงนี้ ยังเหลืออีก 30 สำนวน
คงได้ลงต่อไปในบล็อก จ้ะ

ก๋าได้ฉีดวัคซีนหรือยัง ครูว่า อย่าเลือกวัคซีนเลย รัฐให้ฉีด
วัคซีน แอสตร้า ก็โอเค นะ ครูฉีดครบสองเข็มเมื่อวานนี้เอง จ้ะ



โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 1 ตุลาคม 2564 เวลา:18:40:11 น.  

 
คุณก๋ากลับมาแล้่ว ดีครับจะได้ไม่เหงากัน 555


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 1 ตุลาคม 2564 เวลา:18:47:18 น.  

 
สวัสดีครับคุณก๋า

คุณก๋าพักเบรกไป กลายเป็นผมเบรกตามคุณก๋าไปด้วย อิอิ เพราะติดธุระ เวลาไม่ลงตัว เพิ่งได้อัพบล็อกเมื่อตะกี้ เพราะถ้าไม่อัพวันนี้ ก็เดี๋ยวจะไหลไปอีก ^^

คาดว่าการเดินทางของคุณก๋าต้องมีอะไรแปรรูปกลับมาเล่าสู่กันแน่นอนเลย

ทางนี้ กทม. ฝนตกทุกวันแบบไม่สม่ำเสมอครับ บางทีบ่าย บางที่มืดๆ คุณก๋าอยู่ทางนู้นรักษาสุขภาพนะครับ


โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา วันที่: 1 ตุลาคม 2564 เวลา:20:23:58 น.  

 
สวัสดีค่า พี่ก๋า
ไม่เป็นไรค่ะพี่ก๋า นุ่นนานๆ อัปบล็อกทีค่ะ
พี่ก๋าพักผ่อนบ้างนะคะ ได้เดินทางบ้างน่าจะมีเรื่องราวดีๆ ภาพสวยๆ มาให้เพื่อนๆ อ่านแน่เลยค่ะ
ขอบคุณพี่ก๋ามากๆ เลยค่า


โดย: lovereason วันที่: 1 ตุลาคม 2564 เวลา:22:33:20 น.  

 
ฝนทิ้งช่วงไปเกือบ 5 วัน กลับมาตกใหม่วันนี้ เวลานี้ อย่างหนัก
ปิดทีวีไป 1 รอเสียงฟ้าจะปิดเน็ตแล้วครับ



โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 1 ตุลาคม 2564 เวลา:23:39:19 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]