Nagasaki กลิ่นอายของเมืองท่าแห่งการเปิดโลกสู่ตะวันตก
วันที่ 3 ของการเดินทาง เรามาเยือนเมืองที่เป็นประตูสู่การค้ากับโลกตะวันตกของญี่ปุ่นในสมัยก่อน และอิทธิพลนี้ยังคงส่องประกายเป็นเอกลักษณ์ที่ปรากฏให้เราเห็นผ่านเขตที่มีบ้านสไตล์ยุโรปขนาดใหญ่และประชากรที่นับถือศาสนาคริสต์จำนวนมาก ความสัมพันธ์กับจีนและเกาหลีที่แข็งแกร่งมาตั้งแต่ยุคประวัติศาสตร์นั้นยังคงปรากฏให้เห็นอยู่

ด้วยความที่เราซื้อแพ็คเกจ ที่พักกับเครื่องบิน ทำให้เราต้องนอนพักที่ Fukuoka ตลอดทริป แต่เราอยากเที่ยวนางาซากิ เมืองที่มีร่องรอยของความเก่ามากมายหลากหลายมาก
นกน้อยเลยต้องออกเดินทางตั้งแต่เช้า ด้วยการจับรถไฟด่วน ขบวน Relay-Kamome จาก Hakata ไปลง Takeo-onsen station ใช้เวลา 56 นาที เราไปรอบเวลา 7.16 - 8.25 น. แล้วต่อชินคันเซ็นสาย Nagasaki อีก 25 นาที ถึงที่หมายคือ Nagasaki station

สถานีเค้าใหญ่ กว้างขวางมาก โดยเฉพาะในส่วนของชานชาลาชินคันเซ็น

ซื้อ Tram day pass ราคา 600 เยน ที่ Nagasaki Information Center ในสถานีรถไฟนางาซากิ นั่นเอง
หน้าตาของพาส มาในรูปแบบแผ่นพับ ที่ด้านหน้าประทับตราวันที่ที่เราใช้เดินทาง เอาไว้โชว์ให้คนขับแทรมดู เพื่อขึ้นลงรถโดยไม่ต้องจ่ายตังค์ พอกางแผ่นพับออกมาก็จะเป็นเส้นทางรถรางมีชื่อญี่ปุ่น ชื่อภาษาอังกฤษกำกับ

รถรางนางาซากิ เป็นของ Nagasaki Electric Tramway มีสายหลักทั้งหมด 5 สายด้วยกัน โดยสถานีส่วนใหญ่ที่จอดจะใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ รถรางนี้เริ่มวิ่งตั้งแต่ 6:00 ถึง 23:00 มีรถทุกๆ 5-8 นาที ค่าใช้จ่าย คิดขึ้นลงครั้งละ 150 เยนทุกระยะทาง ถ้าจะกระโดดขึ้นลงตามสถานที่ท่องเที่ยว การใช้ Day pass ตอบโจทย์ที่สุดค่ะ
รถรางแต่ละคันมีลวดลายเป็นของตัวเอง หน้าตาไม่มีการคลุมโทนว่าเป็นของสายไหน การดูว่าเป็นสายไหน ต้องดูหมายเลขที่รถรางเอง จะไปจำหน้าตาหรือสี ไม่ได้

สถานที่แรกคือ Suwa Shrine

ศาลเจ้าซุวะ (Suwa Shrine) เป็นศาลเจ้าที่สำคัญมากของจังหวัดนางาซากิ ถูกสร้างขึ้นมาในช่วงศตวรรษที่ 15 เป็นสถานที่จัดงานเทศกาลคันชิของเมืองนางาซากิ (Nagasaki Kunchi Matsuri Festival) ที่มีเป็นงานใหญ่ที่สุดงานหนึ่งของเมืองนางาซากิ งานจะจัดขึ้นทุกปีระหว่างวันที่ 7-9 ตุลาคม
วิธีการเดินทาง เดินทางโดยรถรางสาย 3, 4, 5 มาลงที่ป้าย Suwa-jinjya จากนั้นเดินต่ออีกนิดเดียวก็จะถึงทางเข้าศาลเจ้าเลย


ตัวศาลเจ้าอยู่บนเนินเขา มองลงไปจะเห็นเมืองนางาซากิทั้งเมือง


ภายในศาลเจ้าซุวะก็จะมีจุดให้ไหว้พระขอพรที่ตัวศาลเจ้าหลัก และมีศาลเจ้าเล็กๆ อยู่ในบริเวณด้านหลังศาลเจ้าหลัก


ถ้าเดินไปทางด้านหลังก็จะเจอเสาโทริอิสีแดงหลายสิบอันต่อๆกัน และนอกจากนี้ยังมีรุปปั้นจิ้งจอก ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเทพเจ้าที่คอยปกปักรักษาศาลเจ้าเต็มไปหมด




เป็นศาลเจ้าที่มีอะไรให้ชมมาก ไม่นับกิจกรรมสายมูต่าง ๆ เช่น ซื้อเครื่องราง เสี่ยงเซียมซี เล่นเกมส์เสี่ยงทาย ฯลฯ
ตอนเดินกลับลงมา แล้วข้ามถนนเพื่อไปยังป้ายรถราง เราก็เจอกับตลาดชุมชน



ร้านขายผักผลไม้ .. ราคาบ้าน ๆ .. ชมสินค้าเพลิน



มาตอนตลาดวาย .. คนน้อย ถ้ามาเช้า ๆ จะคึกคักมากค่ะ
ทางเดินไปป้ายรถราง มีทางลอดใต้ดินด้วย ข้างล่างประดับลวดลายสวยงาม ตามท้องเรื่องของศาลเจ้าซูวะค่ะ ถ้ามีแรงเดิน มีเวลาพอ ลองลงไปเดินดูข้างล่างนะคะ

เดี๋ยวนั่งรถรางไปเที่ยวจุดอื่น ๆ ต่อไปค่ะ

สารบัญ
ตอนที่ 1 Package Flight & Hotel ... ที่ Fukuoka
ตอนที่ 2 เกาะแมว คิวชู Ainoshima Island
ตอนที่ 3 เส้นทางแห่งแสง ศาลเจ้า Miyajidake แห่งฟุกุโอกะ
ตอนที่ 4 นังรถไฟสายสวยไปเดินเที่ยว Yufuin
Create Date : 21 มิถุนายน 2568 |
|
0 comments |
Last Update : 21 มิถุนายน 2568 8:30:06 น. |
Counter : 335 Pageviews. |
|
 |
|