ไปไหนไปกัน..คว้ากล้อง.. ส่องเลนส์..

Homestay ที่ Tazawako Lake




เปลี่ยนบรรยากาศไปพัก Homestay บ้างดีกว่า ..
เบียดตารางเที่ยว คัดสรรมาให้คุณเพื่อนบัดดี้ ... ที่ Homestay Teruko



ค้นเจอในเวปนี้ .. Let's stay Farm Inn in Akita!


“โฮมสเตย์บ้านเกษตรกร เทรุโกะ” แห่งนี้ทำสวนสมุนไพรอยู่ริมฝั่งทะเลสาบทาซาว่า (Tazawako) ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดในญี่ปุ่น

จากภาพโปรยและข้อความของคุณป้าเทรุโกะ ที่ฝากไว้ในเวป บอกว่า โฮมสเตย์นี้
ภายในห้องสมุนไพรกลิ่นหอมจะมีจำหน่ายของทำมืออย่าง “ดอกสมุนไพรตากแห้ง” “เครื่องประดับจากผ้าเก่า” “ตระกร้าเถาวัลย์จากผลอะเคบิ วอลนัท และเปลือกองุ่นป่า” และยังมีชาสมุนไพรกับกาแฟให้ได้เพลิดเพลินกันอีกด้วย เราให้ความสำคัญกับแนวคิดในตอนที่จะสร้างสรรค์สิ่งของต่างๆ ซึ่งหาซื้อไม่ได้ด้วยเงิน

ช่างถูกจริตเสียจริง



เลือกวันที่เดินทางออกจาก Akita เพื่อจะกลับเข้าโตเกียว
แวะเที่ยวที่ Kakunodate ก่อนครึ่งวัน กำลังเที่ยวเพลิน ๆ ฝนตกตอนท้ายซะงั้น

ฝนก็พ่วงตกจนกระทั่งตอนที่เราเดินทางถึง JR Tazawako station ...

การจองโฮมสเตย์ผ่านเวปนั้น เราจะได้รับการติดต่อจากผู้จัดการกลุ่มโฮมสเตย์ ผ่านทาง e-mail
เค้าแจ้งว่า เราสามารถเคลมค่าเดินทาง จากสถานีรถไฟไปยังโฮมสเตย์จุดหมายได้ ด้วยการจองแท็กซี่ TAKKO MaaS taxi ซึ่งต้องโหลด App ของเค้่าเพื่อจอง แล้วส่งใบเสร็จไปเคลมค่าแท็กซี่คืน


แต่.... เราลืม มาเช็คเมล์อีกที (ตอนใช้อินเตอร์เน็ตได้) ก็ตอนเย็น เลยเวลา deadline ที่เราจะจองแท็กซี่ได้ ไปแล้ว ... เค้ามีเมล์มาว่า ถ้าพลาดแท็กซี่ เราก็ยังใช้ TAKKO Bus ได้ ที่สามารถเคลมค่าเดินทางได้ ... เสียใจด้วย email มาช้า




ณ ที่หน้างาน ฝนยังตกไม่เลิก และตกหนักด้วย .. แท็กซี่สาธารณะคือคำตอบ





จะรอรถบัส ลากกระเป๋า ขึ้นลง ก็สงสารตัวเอง ... ยังไม่ได้ฉลองมื้ออาหารมื้อหนัก เอาเงินส่วนนั้นมาจ่ายค่าแท็กซี่ดีกว่า



ในเวปทำนายใบไม้แดง บอกว่า ใบไม้เปลี่ยนสีที่ริมทะเลสาบทาซาวะ เปลี่ยนตั้งนานแล้ว ไหนดู



พีคเป็นบางจังหวะ ..


ใบไม้ก็สวย .. ตัวเลขมิเตอร์ก็พุ่ง ... ปาดเหงื่อ



ตรงนี้คือ ถนนหน้าที่พักค่ะ เห็นภาพนี้ คือถึงแล้ว สิริรวมมิเตอร์ไปหยุดที่ 4,700 เยน



บ้านคืออยู่ริมถนนใหญ่ ที่เลียบทะเลสาบทาซาวะ ..
คุณป้าเทรุโกะ ออกมารับ เก็บกระเป๋า และแนะนำบ้าน






ห้องพักแขก ปูที่นอนไว้รอแล้ว วิวดีค่ะ หันหน้าไปทางหน้าบ้าน เห็นบ้านเพื่อนบ้านหลังสวย ๆ เป็นฉาก

คืนนี้มีเราเป็นลูกค้ากลุ่มเดียว พรุ่งนี้คุณป้าบอกว่า จะพาไปเที่ยววนรอบทะเลสาบ วันนี้ไปไม่ได้ เพราะว่าต้องเตรียมอาหารเย็นให้พวกเรา

ติดกับห้องเรา มีห้องพักแขกอีก 1 ห้อง



มุมทำธุระล้างหน้าแปรงฟัน วิวดี มาก
มีห้องส้วมแยกชายหญิง แต่ห้องอาบน้ำรวม แต่ล็อคห้องได้เวลาใช้
การอาบน้ำในโฮมสเตย์หรือมินชุกุ ก็แนวอ่างเดียวกัน แช่น้ำเวียนกันไป ก่อนแช่หลังแช่ก็นั่งอาบน้ำล้างตัวข้างบน ... พอเราจะอาบคุณป้าค่อยมาเติมน้ำ ปรับอุณหภูมิให้ ...




มุมนี้เป็นห้องโถงใหญ่ของบ้าน เป็นห้องเอนกประสงค์



หันหน้าออกไปทางทะเลสาบ วิวนอกหน้าต่าง ดีงามมาก ๆ



ชั้นบนเป็นพื้นที่ของเจ้าของบ้าน




เรามาถึงบ่าย 3 พอสำรวจบ้านเสร็จ ฝนก็ซาพอดี ออกไปสำรวจพื้นที่ด้านนอกก่อน หมดสิทธิ์ไปเที่ยวที่อื่นแล้ว เพราะฟ้ามืดมากเหมือนสัก 5-6 โมงเย็น



ประตูหน้าบ้าน หันหน้าออกอีกด้าน ..



วิวหน้าบ้าน ไม่มีทางเข้าออกด้านนี้ กลายเป็นสวนผักของคุณป้า ตอนนี้จะเข้าหน้าหนาวแล้ว หยุดการปลูกผักทุกอย่าง เดี๋ยวหิมะก็ตก



ออกมาทางหลังบ้าน ที่เป็นทางเข้าบ้าน มุมนี้สวนดอกไม้ สวนผักของคุณป้ายังอยู่ครบ มีแห้งเหี่ยว แก่จัด รอพักตัวในฤดูหิมะ ในฤดูใบไม้ผลิ สวนคุณป้าคงสวยน่าดู




โรงเรือนที่อยู่ข้าง ๆ กันเป็นโรงสมุนไพร ที่คุณป้าใช้ทำ work shop สมุนไพรและงาน art ทั้งหลาย วันที่เรามาไม่มีกิจกรรมใด ๆ เพราะอยู่นอกฤดู ไว้มาใหม่ฤดูร้อนนะคะ




ทางเข้าบ้านม่ีป้ายบอกค่ะ แต่เราอ่านไม่ออก
เดินเลยไปอีกนิด เป็นป้ายรถเมล์ที่ใกล้ที่สุดของที่นี่ ถ้าเรามารถบัส ก็ต้องลงป้ายนี้ค่ะ



รถบัสที่วิ่งรอบทะเลสาบ จะมี 2 เส้นทาง คือ วนซ้าย และวนขวา จะวนไหน ๆ ก็จะผ่านหน้าบ้านเหมือนกันค่ะ แต่รอบรถเป็นคนละเวลา แถว เวลาห่างกันมาก รถส่วนตัวตอบโจทย์การท่องเที่ยวที่นี่มากที่สุดค่ะ



เดินเลยป้ายรถเมล์ไป จะเป็นทางเข้าหมู่บ้าน





มีวัด มีโรงเรียน เราไม่ได้เดินไปให้ถึง แค่เดินมาเช็คอินบ้านหลังสวย ๆ (ที่ไม่มีคนอยู่ คงเป็นบ้านพักตากอากาศของใครสักคน)



มุมโฮมสเตย์ด้านข้าง



โฮมสเตย์คุณป้าอยู่ริมทะเลสาบใช่มั้ยคะ .. ป่ะ เราไปเดินเล่นริมทะเลสาบ





ข้ามถนนนี่ไป ก็ทุ่งนา ... แล้วก็ทะเลสาบ





เขาเกี่ยวข้าวไปหมดแล้วค่ะ เหลือแต่ดอกไม้วัชพืช



ใกล้ ๆ กัน มีทางสำหรับปั่นจักรยานเลียบริมทะเลสาบด้วยค่ะ



ออกจะร้าง ๆ รก ๆ หน่อย ที่โฮมสเตย์ไม่มีจักรยาน เลยไม่ได้ปั่นเล่น



จ็อกกิ้งแทน แต่เข้าไปได้ไม่ลึก เพราะเริ่มรกและใบไม้เต็มพื้น ถนนลื่น



ชมสวนคุณป้าค่ะ ดอกไม้ยังมีเยอะ ที่เหี่ยวไปก็เยอะ ที่ยังอยู่และสวยก็มี







ผักต่าง ๆ ก็เริ่มพักตัว ที่ยังเห็นปลูกเยอะ ก็คือกระเทียม น่าจะเอาไปใช้ประโยชน์ทางสมุนไพรมากกว่าปลูกไว้กิน เพราะปลูกไว้เยอะมาก

เข้าบ้านกันดีกว่าค่ะ เริ่มหนาว



คุณป้าจุดเตาผิงไว้ แล้วเอา คิริทัมโปะ ย่างไว้เหนือเตาผิง



กลับมา คิคิทัมโปะ ก็สุกได้ที่ แต่บางที่ก็ทำเกรียมกว่านี้นะคะ



คุณบัดดี้สวมรอย .. ว่าทำเอง 555 คิริทัมโปะ นี่ จะเอาไปทำหม้อไฟค่ะ

คิริทัมโปะนาเบะ (きりたんぽ鍋 / kiritanpo nabe) อาหารประจำท้องถิ่น ของ Akita ตัวคิริทัมโปะ คือ ข้าวสวยหุงสุกใหม่ๆ นำมาบดละเอียด จากนั้นก็นำมาปั้นเป็นแท่งกลมๆ คล้ายไส้กรอก พันไม้สนที่เรียกว่า "ทัมโปะ" นำไปย่างจนเป็นสีเหลืองทอง กลิ่นหอมหวนชวนกินและมีความกรอบนิดๆ

ด้วยความเป็นพื้นที่หนาว ๆ การกินหม้อไฟ จะทำให้ร่างกายอุ่นขึ้น แถบนี้จึงมีหม้อไฟข้าวปั้น หรือ คิริทัมโปะนาเบะ



คิริทัมโปะ มาทำเป็นนาเบะ ใส่ลงไปในซุปแสนอร่อยที่เคี่ยวด้วยไก่ฮินะอิไก่พื้นเมืองแถบนี้

ไก่ฮินะอิ หนึ่งในสามไก่ที่อร่อยที่สุดในญี่ปุ่น เนื้อจะแน่นกว่าไก่ซุปเปอร์
ใส่เห็ดไมตาเกะ ด้วยอร่อยเหาะ



แล้วเมนูซิกเนเจอร์ของ Akita อีกหลายเมนู ก็ขึ้นเต็มโต๊ะ ฝีมือคุณป้าทำคนเดียว




เมนูกลีบดอกเบญจมาศลวกปรุงรสด้วยน้ำส้ม เป็นอาหารพื้นถิ่นของ Tohoku ... มีทั้งเบญจมาศสีม่วงและสีเหลือง พอโดนน้ำส้ม จะขับสีออกมาจัด ๆ แบบนี้ ถ้ามาช่วงนี้จะเห็นเค้าเด็ดกลีบดอกเบญจมาศ แยกสี ใส่ถุงขายสด ๆ ตอนแรกไม่ค่อยเข้าใจว่าเค้าซื้อไปทำอะไร แต่พอเห็นเมนูนี้ก็ถึงบางอ้อค่ะ ... อร่อยดี ออกเปรียว ๆ กินแล้วสดชื่น




เพราะเราเลือกเหล้าบ๊วย เป็นเครื่องดื่มเรียกน้ำย่อย ช่วยกระตุ้นการหลั่งน้ำย่อยและช่วยในการเจริญอาหาร ดื่ม 1 ก่อน ก่อนอาหาร ...
คุณป้าไปทำกับแกล้ม มาให้ เป็นเมนูพิเศษ มาให้



อิบุริ – กักโกะ (Iburi Gakko) .. หัวไขเท้ารมควันก่อนดอง อาหารเฉพาะถิ่นของที่นี่ topping ด้วยเนยแข็ง

จุดเด่นอยู่ตรงสัมผัสการเคี้ยวที่กรอบ กลิ่นรมควันหอมกับรสหวานของหัวไชเท้ากลมกลืนกันเป็นรสชาติเฉพาะตัว เอามา topping ด้วยเนยแข็งรสเค็ม ๆ นิด ๆ เป็นกับแกล้มชั้นดีเลย


อิบุริ – กักโกะ เป็นอาหารดั้งเดิมเฉพาะตัวของอาคิตะซึ่งได้รับการพัฒนาเรื่อยมาท่ามกลางสภาพอากาศไม่อำนวย ในฐานะอาหารสำรองฤดูหนาวของอาคิตะที่ผลิตอาหารไม่ได้เพราะมีช่วงฤดูหนาวหิมะทับถมยาวนาน ชื่อเรียกมีที่มาจากสำเนียงอาคิตะว่า "กักโกะ " ที่หมายถึงของดอง หลังจากผู้ค้าของดองในจังหวัดตั้งชื่อสินค้าเป็นครั้งแรกว่า "อิบุริกักโกะ" เมื่อ ค.ศ.1967 ชื่อนี้ก็แพร่หลายในตลาดนับแต่นั้นมา

 หัวไชโป้วทั่วไปจะตากแห้งในวันที่แดดดีแล้วเอาไปดอง แต่ จ.อาคิตะเป็นจังหวัดในภูมิภาคโทโฮคุที่อยู่ติดฝั่งทะเลญี่ปุ่น ทำให้มีความชื้นสูง ตากหัวไชเท้าแห้งยาก ยิ่งกว่านั้นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงจนถึงต้นฤดูหนาวที่เป็นระยะเก็บเกี่ยวหัวไชเท้ายังมีหิมะตกบ่อย ไม่เพียงแค่ตากแห้งในวันแดดออกไม่ได้แต่เสี่ยงกลายเป็นน้ำแข็งได้ด้วย

ด้วยเหตุนั้นเอง วิธีการเฉพาะจึงถือกำเนิดขึ้น โดยจะแขวนหัวไชเท้ากับคานในห้องแล้วใช้ไฟจากเตาผิงตากหัวไชเท้าให้แห้ง จึงค่อยนำไปดอง "หัวไชเท้ารมควันดอง" สืบทอดผ่านเกษตรกรอาคิตะมาเช่นนี้

จัดการอาหารค่ำเสร็จแล้ว ก็แยกย้ายเข้าห้อง คุณป้ากำชับว่า ต้องอาบน้ำก่อนนอนนะ (ห้ามเบี้ยว) แล้วก็ไปเตรียมน้ำอุ่นให้เรา

ค่าที่พักรวมอาหารค่ำและอาหารเช้า และเตาน้ำมันให้ความร้อนในห้อง คนละ 8,500 เยน ... อย่าถามหาราคานี้ในโรงแรม

อยากจ่ายค่าเตาน้ำมันเพิ่มเพราะว่า อุ่นแค่ครึ่งคืน ที่เหลือคือหนาวเย็นมาก หิมะตกตอนกลางคืนแล้ว



เช้ามาเรารีบออกไปดูร่องรอยของหิมะที่ตกเมื่อคืน
บนพื้นราบไม่เห็นอะไร ไม่มีแม่คะนิ้งด้วย



แต่มีหิมะบนเขา

เราไม่เห็นพระอาทิตย์ขึ้น ฟ้าปิด .. แต่พอได้เห็นแสงเช้าที่ลอดเมฆไปกระทบฝั่งตรงข้ามของทะเลสาบ





เก็บวิวแล้วก็มาเก็บกระเป๋า แต่งตัว รับอาหารเช้า





อาหารเช้า จัดเต็มค่ะ .. อิ่ม อร่อย



กระเป๋าแฮนด์เมด ถักจากเถาวัลย์ผลอะเคบิ วอลนัท และเปลือกองุ่นป่า ฝีมือคุณป้าเทรุโกะค่ะ ทำเองใช้เอง ทำขายด้วยค่ะ



คุณป้าขับรถไปส่งที่สถานีรถไฟ ระหว่างทางก็วนรอบทะเลสาบทาซาวะ 1 รอบ



เลี้ยวออกจากบ้านก็เจอกลุ่มนักท่องเที่ยว ขับรถมาเที่ยว แวะเช็คอินแถวโฮมสเตย์









คุณป้าจอดให้เราลงไปเช็คอินที่รูปปั้น ทัตสึโกะ (Statue of Tatsuko) ตามคำเรียกร้อง



ทะเลสาบทาซาวะ (田沢湖, Tazawako) ตั้งอยู่ทางใต้ของอุทยานแห่งชาติโทวาดะ-ฮาจิมัน ไต เป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟ เป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดในญี่ปุ่น ทำให้ทะเลสาบแห่งนี้ไม่เป็นน้ำแข็งแม้จะมีหิมะตกหนักในแถบนี้

ทางด้านเหนือสุดของทะเลสาบมีศาลเจ้าโกซะโนะอิชิซึ่งเป็นสถานที่ที่ขุนนางท้องถิ่นเคยมาชื่นชมน้ำในสมัยศักดินาทางด้านตะวันตกสุดของทะเลสาบมีรูปปั้นทองคำอันโด่งดังของผู้หญิงชื่อทัตสึโกะซึ่งกลายมาเป็นสัญลักษณ์ประจำท้องถิ่น ตามตำนานเล่าว่าทัตสึโกะเป็นหญิงสาวสวยที่อธิษฐานขอให้เธอคงความงามไว้ตลอดไป แต่กลับถูกสาปและกลายเป็นมังกรในที่สุด และจมลงสู่ก้นทะเลสาบทาซาวะ







เดินทางต่อค่ะ












คุณป้ามาส่งที่สถานีรถไฟ บริการประทับใจจริง ๆ ค่ะ แม้คุณป้าจะพูดฟังภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่สมัยนี้มี application ที่ช่วยให้เราสื่อสารกับคุณป้าได้ไม่ยาก

แนะนำโฮมสเตย์แห่งนี้ค่ะ น่ามาเยือนทุก ๆ ฤดู

นั่งชินคันเซ็นกลับเข้าโตเกียวก่อนนะคะ JR pass วันสุดท้ายแล้ว






สารบัญ

ตอนที่ 1 Aomori & Hirosaki again


ตอนที่ 2 กองทัพเดินด้วยท้อง ที่ Aomori

ตอนที่ 3 Oirase Stream ลำธารทองแห่ง Aomori


ตอนที่ 4 Hirosaki Apple Park ... พ.ย.คือที่สุด

ตอนที่ 5 หุบเขาโอยาสุ (Oyasukyo) แห่งอากิตะ (Akita




 

Create Date : 21 ธันวาคม 2567
2 comments
Last Update : 21 ธันวาคม 2567 16:22:39 น.
Counter : 523 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณhaiku, คุณหอมกร, คุณดอยสะเก็ด, คุณtoor36

 

แวะมาชมโฮมสเตย์ญึ่ปุ่นค่ะ

 

โดย: หอมกร 22 ธันวาคม 2567 7:26:56 น.  

 

บรรยากาศดีจริงๆ ญี่ปุ่นยังไงก็ยังคงเป็นญี่ปุ่นมันมีเสร่ห์ในแบบที่เป็นเอกลักษณ์จริงๆ

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 24 ธันวาคม 2567 22:08:32 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


poongie
Location :
อุบลราชธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




มามะ มาเที่ยวกัน มามะ มาถ่ายรูปกัน..
I'm an one who fall in love with photographing and travelling, Let's travel by my photos together.
...การท่องเที่ยว คือกำไรของชีวิต.. ช่วงนี้เลย .. หัด .. ค้ากำไร .. เกินควร ถึงรูปจะไม่สวย เรื่องจะไม่เด่น แต่ขอสงวนลิขสิทธิ์ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539 ห้ามละเมิดไม่ว่าการลอกเลียน นำรูป ข้อความที่เขียนไว้หรือส่วนหนึ่งส่วนใดในบล็อกแห่งนี้ ไปเผยแพร่อ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล็อกนะคะ
Visitor Map
Create your own visitor map!
New Comments
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2567
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
21 ธันวาคม 2567
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add poongie's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.