:: กะก๋าแนะนำหนังสือ - รหัสยนัยแห่งชีวิต ::
:: รหัสยนัยแห่งชีวิต ::บรรยายธรรม : ชุนเรียว ซูสุกิ แปล : วรรณี อัศวชนานนท์
นิกายเซนอาจแบ่งได้เป็นสองแนวทางหลัก นั่นคือ นิกายเซนฝ่ายใต้ มีท่านเว่ยหลางเป็นผู้ถ่ายทอดธรรมคำสอน แบบ “ฉับพลันทันใด” การบรรลุธรรมเกิดขึ้นได้ในเสี้ยวพริบตา ต่อมามีท่านรินไซ และท่านฮวงโป ช่วยเผยแพร่แนวคิดนี้จนเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ในชื่อ “รินไซเซน”
นิกายฝ่ายเหนือ ถือกำเนิดโดยท่านเสินซิ่ว เน้นการเรียนรู้แบบค่อยเป็นค่อยไป ใช้การนั่งสมาธิ พิจารณาธรรมไปเรื่อย ๆ ในประเทศญี่ปุ่น มีท่านโดเกนเป็นผู้เผยแพร่ธรรมจนได้รับความนิยม และกลายเป็นรูปแบบของ “โซโตเซน” ในที่สุด“รหัสยนัยแห่งชีวิต”เป็นหนังสือที่เรียบเรียงจากคำสอนในการบรรยายธรรม โดยอาจารย์เซนชาวญี่ปุ่นชื่อ ท่านชุนเรียว ซูสุกิ ท่านได้เปิดสำนักโซโตเซนที่อเมริกา และสอนอยู่ที่นั่นนานหลายปี เนื้อหาสาระสำคัญของหนังสือ คือ การสอนเรื่องการปฏิบัติ การนั่งสมาธิ การกระตุ้นให้ผู้ฝึกฝนตนมุ่งมั่นตั้งใจ เพียรพยายาม และใช้ความอดทนในการฝึกปฏิบัติธรรมอย่างไม่ย่อท้อ
ท่านชุนเรียว ซูสุกิไม่เคยแบ่งแยกว่านิกายใดดีกว่า ไม่เคยเปรียบเทียบว่าพุทธ เซน เต๋า คริสต์ ฯลฯ ศาสนาใดดีกว่ากัน เพราะไม่ว่าจะเป็นเซนนิกายฝ่ายเหนือหรือฝ่ายใต้ “พุทธจิต” ย่อมมิได้แตกต่างกันเลย กล่าวคือ ผู้ฝึกฝนตนเองทุกคน ล้วนมี “จิตพุทธะ” อยู่ในตน นี่คือความเท่าเทียมกันของสรรพชีวิต แต่ที่แต่ละคนไม่อาจเข้าถึงธรรมได้นั้น ย่อมเป็นเพราะจิตถูกกิเลสและความหลงผิดร้อยรัดบดบัง จนจิตมิอาจเปล่งแสงสว่างแห่งความรู้แจ้งออกมาได้
การนั่งสมาธิไม่ใช่หนทางแห่งความหลุดพ้น แต่เป็นวิธีการหนึ่งซึ่งจะช่วยฝึกจิตให้นิ่งจนเห็นพุทธะที่ตัวเองมี ดังที่อาจารย์เซนได้กล่าวกับศิษย์ว่า
“จะเป็นไปได้อย่างไรล่ะ ที่เธอจะฝึกสมาธิให้เป็นพุทธะ เธอต้องการจะบรรลุพุทธภาวะใช่ไหม พุทธภาวะไม่มีหรอก นอกจากจิตธรรมดาของเธอนั่นแหละ เมื่อรถลากมันไม่เคลื่อน เธอจะตีม้าหรือตีเกวียนล่ะ”
ท่านเน้นย้ำว่า เมื่ออยู่ในระหว่างการปฏิบัติ อย่าพยายามหยุดความนึกคิดใดใด จงปล่อยให้ความคิดที่วาบผ่านเข้ามา ค่อย ๆ หยุดลงด้วยตัวมันเอง ไม่ต้องขับไล่ ไม่ต้องปัดปฏิเสธ แต่ให้นั่งสมาธิเพื่อนั่งสมาธิ ไม่ใช่นั่งเพื่อแสวงหาธรรมะ พุทธะ ไม่ใช่นั่งเพื่อให้เห็นสิ่งต่าง ๆ ที่คิดว่ามหัศจรรย์หรือแปลกประหลาด การรู้ตัวรู้ตน จะเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ เพราะ “พุทธจิต” มีอยู่แล้วในตัวเราเอง ขอเพียงเรานิ่ง ไม่ปล่อยให้ตัวเองถูกลากจูงไปตามความอยาก ความคิด ความรู้สึก การตามลมหายใจไปเรื่อย ๆ อย่างเงียบสงบ จะทำให้ร่างกายและจิตใจค่อย ๆ ผ่อนคลาย
สมาธิที่แท้จริงมิได้จำกัดอยู่เพียงการเดินจงกรม หรือ การนั่งสมาธิ หากแต่อยู่ในทุกกิจกรรมที่เรากำลังดำเนินชีวิต แต่ต้องเป็นการดำเนินชีวิตอย่างรู้ตัวทั่วพร้อม มีสติว่ากำลังทำอะไรอยู่ หลายคนกินข้าว แต่ใจไปอยู่กับเรื่องการงาน คุยกับคู่รัก แต่ปล่อยให้จิตฟุ้งไปเพ่งเรื่องอื่น เราจึงมิได้ใช้ชีวิตอยู่ในปัจจุบันขณะอย่างมีสติเลย
เราไม่จำเป็นต้องคาดหมายว่า “การบรรลุธรรม” จะต้องเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ไม่จำเป็นต้องเร่งความเพียรมากเสียจนกลายเป็นความกดดัน“นั่งเพื่อนั่ง” ฟังดูง่าย แต่ใช่ว่าทุกคนจะทำได้ การเรียนรู้ธรรมเกิดขึ้นได้ในทุกที่ ทุกเวลานาที ทุกขณะจิต
จากไม่รู้ กลายเป็นไม่รู้ จากเห็นผิด กลายเป็นเห็นชอบ จากหลง กลายเป็นกระจ่างแจ้งได้ ไม่ว่าจะรู้อย่างฉับพลัน หรือเชื่องช้า ไม่ว่าจะรู้อย่างไร ขอเพียงให้รู้อย่างถูกต้องตามหลักธรรม ตามความเป็นจริงอย่างที่มันเป็น “รหัสยนัยแห่งชีวิต” หาได้ซ่อนอยู่ในที่ลึกลับซับซ้อนไม่ หากแต่วางไว้อยู่ใน “จิต” ของทุกผู้ตัวคน อยู่ที่ใครจะมองเห็นหรือไม่เห็นเท่านั้นเอง
Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2564 |
Last Update : 17 กรกฎาคม 2565 6:49:45 น. |
|
20 comments
|
Counter : 434 Pageviews. |
|
|
|
|
สวัสดียามเช้าครับ คุณก๋า
เช้านี้ตื่นมาได้ข่าวหงส์เสริมหลังมาสองตัว แต่ไม่รู้จะปรับตัวได้แค่ไหน แต่ก็ยังดีกว่าไม่มี เนอะ