<<
พฤษภาคม 2564
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
31 พฤษภาคม 2564

:: กะว่าก๋าแนะนำหนังสือ – แด่หนุ่มสาว ::


:: แด่หนุ่มสาว ::

เขียน : กฤษณมูรติ
แปล : พจนา จันทรสันติ






“แด่หนุ่มสาว” ถูกแปลและตีพิมพ์ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2518
ในยุคที่บ้านเมืองของเรากำลังขัดแย้งกันอย่างรุนแรง
กบฏหนุ่มสาวจำนวนมากตั้งคำถามกับชีวิตและสังคม
ลุกขึ้นมาเรียกร้องสิทธิ และ อิสรภาพในการคิดของตนเอง


การเมือง การประท้วง คอมมิวนิสต์ ประชาธิปไตย นักศึกษา ทหาร
อุดมการณ์ อุดมคติ ความหวัง อนาคต อาวุธ การปฏิวัติ การปฏิรูปการศึกษา ฯลฯ
กลายเป็นถ้อยประโยคที่แบ่งคนออกเป็นฝักเป็นฝ่าย
มองเห็นคนเป็นศัตรูท่ามกลางความคิดเห็นที่แตกต่าง




“แด่หนุ่มสาว” เป็นหนังสือซึ่งพูดถึงคนหนุ่มคนสาว
พูดถึงความคิดความเชื่อที่จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในชีวิต

อุดมคติทางการศึกษา ความรักที่แท้จริง การครองอำนาจ และอิสรเสรีภาพ
คือ หัวข้อที่ท่านกฤษณมูรติพยายามอธิบายถึง พยายามให้คำจำกัดความ
เพื่อชี้ให้ผู้ฟังและผู้อ่านได้ขบคิดตามไปด้วย
ว่าชีวิตที่แท้จริงคืออะไร



คำนำในตอนต้นซึ่งเขียนโดยคุณพจนา จันทรสันติผู้แปลหนังสือเล่มนี้น่าสนใจมาก


“สิ่งเดียวที่การศึกษาในระบบการศึกษามอบให้แก่เรา ก็คือ “ความกลัว”
ความกลัวอย่างสุดจิตสุดใจ เพราะยิ่งเรากลัวเท่าไหร่
ก็ยิ่งง่ายต่อการควบคุม การศึกษาจึงไม่สอนให้คิด
ไม่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนแสวงหา
แต่สอนให้ฟัง ให้จด ให้ท่องจำ ปลูกฝังค่านิยมผิด ๆ
ควบคุมคนด้วยคำขู่ ด้วยคะแนน เพื่อผลิตคนเข้าสู่ระบบโรงงานและบริษัท
และการศึกษากลายเป็นเครื่องมือของรัฐ
ในการหล่อหลอมคนให้คิดและเชื่อเหมือนๆกัน
ให้สยบยอมและเชื่อฟังรัฐ ไม่คิดต่อต้านแม้รัฐนั้นจะเป็นผลผลิตของเผด็จการก็ตาม”



รัฐย่อมกลัวการกบฏ กลัวการถูกท้าทายอำนาจ กลัวการถูกตรวจสอบ
เพราะนั่นย่อมหมายถึงอำนาจนั้นกำลังสั่นคลอนและถูกทำลาย
ในทุกยุคทุกสมัย “คนหนุ่มสาว” จึงคล้ายเป็นความหวังแห่งยุคสมัย
เพราะคนหนุ่มสาวยังเหลือฟอนไฟแห่งความกล้าหาญ
พร้อมเผชิญหน้ากับความเปลี่ยนแปลงอย่างไม่เกรงกลัว


ท่านกฤษณมูรติชี้ชวนให้ผู้ฟังลองตั้งคำถามกับตัวเอง
ว่าการศึกษาที่แท้จริงคืออะไร ?
ทำไมต้องเล่าเรียนวิชาต่าง ๆ มากมาย ?
ทำไมต้องสอบแข่งขันเพื่อให้ได้คะแนนดีดี ?
ท่านตั้งคำถามว่า ทำไมคนเราจึงต้องเรียนให้เก่ง
เพื่อให้ได้การงานที่ดีและมีเงินเยอะ ๆ
นั่นคือจุดประสงค์ทั้งหมดของชีวิตจริง ๆ หรือ ?
ชีวิตที่แท้จริงคือสิ่งใด ?
อะไร คือ ความงาม ความจริง ความรัก ?
ชีวิตที่ดีและมีคุณค่าเป็นอย่างไร ?
ความรักและความสัมพันธ์ที่ดีเป็นอย่างไร ?
ฯลฯ
ทั้งหมดต้องเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กับการศึกษา
ไม่ใช่ยิ่งศึกษายิ่งกลัว ยิ่งถอยห่างออกจากสิ่งที่ควรจะเป็น

หน้าที่ของการศึกษา ควรทำให้ผู้เล่าเรียนเข้าใจกระบวนการทั้งหมดของชีวิต
ขจัดความกลัวและความหวาดหวั่นในการใช้ชีวิต
ไปจนถึงขั้นที่สามารถมอบความรักและส่งต่อการให้ไปยังผู้คนรอบตัว

แม้กระทั่งในเรื่องของศาสนาและจิตวิญญาณ
ท่านก็ยังท้าทายให้เราลองคิดออกนอกกรอบที่เคยชินมาตลอด
เพราะศาสนาไม่ได้อยู่เพลงสวด บทสวดมนต์ ไมได้อยู่ในพิธีกรรม
ไม่ได้อยู่ในเทวรูป ไม่ได้อยู่ในโบสถ์วิหารหรือคัมภีร์ต่าง ๆ
หากแต่ศาสนา คือ สำนึกแห่งความดีงาม สำนึกแห่งความถูกต้อง
สำนึกแห่งความกล้าอย่างถูกต้อง

คำถามของท่านกฤษณมูรติอาจมองดูว่าเป็นอุดมคติที่เป็นไปไม่ได้
ในยุคที่คนเราต้องแข่งขันและฟันฝ่าปัญหาชีวิตอย่างเหน็ดเหนื่อย
เพื่อให้ได้ชื่อว่าเป็นผู้ประสบความสำเร็จในชีวิต มีชื่อเสียง เงินทอง
มีความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สิน

เด็กและหนุ่มสาวจำนวนมากบนโลกนี้
กำลังเผชิญหน้ากับความคิดเก่า โลกใบเก่า
โลกซึ่งเต็มไปด้วยความกลัว การกดขี่ การใช้อำนาจอย่างไม่เป็นธรรม
เด็กและหนุ่มสาวจำนวนมากบนโลกนี้
ยังคงทนทุกข์กับระบบการศึกษาที่เชี่ยวกรากไปด้วยการแข่งขัน
ถูกวัดคุณค่าของความเป็นมนุษย์ด้วยเกรดและคะแนน
ด้วยฐานะทางสังคม และจำนวนเงินในบัญชีเงินฝาก

ทางเลือกและทางเดินที่หนุ่มสาวเหล่านี้จะเลือก
อาจไม่ใช่โลกใบเก่าที่ผู้ใหญ่เฝ้าหวงแหนอีกต่อไป
แต่เป็นโลกใบใหม่ โอกาสใหม่ ๆ
ที่หนุ่มสาวเหล่านี้พร้อมจะถากถางเส้นทาง
และดุ่มเดินไปด้วยสองเท้าของพวกเขาเอง



 




 

Create Date : 31 พฤษภาคม 2564
18 comments
Last Update : 17 กรกฎาคม 2565 6:46:42 น.
Counter : 274 Pageviews.

 

บางทีเราก็เรียนกันแยะไปนะครับ
วิชาที่เรียนใน รร.กว่าครึ่ง ไม่ได้เอาไปใช้ในชีวิตจริงเลย
ทำให้เสียทั้งเงินทั้งเวลาไปมากมาย

ชาวนาชาวสวน พ่อค้าแม่ค้า อาชีพช่างต่างๆ หรืออีกหลายอาชีพ
ที่ฝึกฝน ถ่ายทอดเรียนรู้กันมาในครอบครัว ตั้งแต่เด็กๆ
ก็ไม่เห็นต้องเข้า รร. ก็ทำมาหากินเลี้ยงปากท้องกันได้แยะไปนะครับ

ปล.เรื่องเข้าครัว ช่วยกันคนละไม้ละมือ ครอบครัวอบอุ่น สัมพันธ์แน่นแฟ้น
ดีไม่ดี หาเมนูอร่อยๆทำขายก็เข้าท่านะครับนี่

 

โดย: multiple 31 พฤษภาคม 2564 8:19:13 น.  

 

นามปากกาก็อ่านยากแล้ว
หนังสือของเขาคงไท้ต้องพูดถึงนะคุณก่า 55

 

โดย: หอมกร 31 พฤษภาคม 2564 8:36:51 น.  

 

หนุ่มสาวรุ่นใหม่ไฟแรง แต่บางครั้งขาดโอกาสไปก็เยอะ เสียดาย

วันหลังขอหนังสือแบบแนะนำคนรุ่นวัยทองบางนะคะ

 

โดย: โอน่าจอมซ่าส์ 31 พฤษภาคม 2564 8:48:38 น.  

 

สวัสดียามสาย จ้ะ น้องก๋า

"แด่หนุ่มสาว" ของ ท่านกฤษณมูรติ ที่แนะนำวันนี้ อ่านจากความคิดเห็นของคนแปลและความคิดเห็นของเธอเกี่ยวกับการศึกษาของเมืองไทยที่กล่าวว่า สอนให้จดให้จำไม่ให้แสดงความคิด
เห็น ก็มีส่วนเป็นเช่นนั้น แต่ครูเอง ไม่ได้อยู่ในจำพวกนี้แน่นอน
เพราะครูสอนให้เขาคิด ให้เขาวิเคราะห์ คะแนนที่ให้ก็เป็นไปตาม
เกณฑ์ที่หลักสูตรกำหนด ข้อสอบก็ออกวิเคราะห์ มีความจำบ้าง
เล็กน้อย (โดนเด็กต่อว่าเสมอ ว่ายาก ต้องคิดเยอะ) และก็เห็นด้วย ยังมีครูที่ชอบสอนแบบจำ ขู่เด็กด้วยคะแนน บ้าง (เขียน
จากประสบการณ์ที่เห็นในตอนยังไม่เกษียณ )

เรื่องการจัดการศึกษา ที่ให้เด็กจด จำ ซึ่งการศึกษาแต่
โบราณก็น่าจะจริงนะ แต่ก่อนที่ครูจะเกษียณสัก 5-6 ปี ครูว่า
การศึกษาไทยก็มีการเปลี่ยนแปลงไปมากพอสมควร ในการสอนให้
เด็กคิด วิเคราะห์ นะ เพราะ มีมาตรฐานการศึกษาข้อหนึ่ง คือ
นักเรียนต้องสามารถคิดวิเคราะห์แยกแยะเรื่องราว เหตุการณ์ ฯลฯ
ได้ เพราะครูเป็นหัวหน้าจัดกิจกรรม มาตรฐาน 4 คิด วิเคราะห์
มาตรฐานนี้เอง จึงขอแย้งว่า การศึกษาไทยไม่ใช่ไม่ได้รับการ
แก้ไข แต่..ข้อสำคัญอยู่ที่ครูผู้สอนจะนำไปใช้มากน้อยเพียงใด
ข้อนี้ ผู้บริหารที่ดี ต้องมีการสอดส่องเอาเอง ครูก็ขอแสดง
ความคิดเห็นได้แค่นี้แหละนะ

สำหรับเรื่องความกลัว ความกล้า คงต้องสอนให้รู้จักใช้
ความคิดวิเคราะห์ว่า สิ่งใดควรกลัว ควรกล้า และต้องดูให้เหมาะ
กับสถานการณ์ในตอนนั้น ๆ ด้วยนะ ไม่ใช่สักแต่ว่าอยากแสดง
ความคิดเห็นและด่ากันอย่างหยาบคายอย่างที่ได้ยิน ได้ฟัง ตาม
ในยูทูป ตามสื่อต่าง ๆ ที่เป็นอยู่ขณะนี้ น่ะ

โหวดหมวด แนะนำหนังสือ

 

โดย: อาจารย์สุวิมล 31 พฤษภาคม 2564 8:55:08 น.  

 

ผู้ปกครองซึ่งเป็นครูคนแรก
ต้องสอนให้เด็กคิดเป็น
ช่วยเหลือตัวเองได้ตั้งแต่เยาว์วัย

เขาจะดูแลตัวเอง
เพื่อนฝูงและสังคมรอบตัวได้
ในระยะต่อไป

 

โดย: เริงฤดีนะ 31 พฤษภาคม 2564 9:37:42 น.  

 

*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*

^U^ ไม่รัก แต่ คิดถึง

อยากให้เรา " รักกัน "


*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*







💚💜💛💚💜💛💖💜💛💖💚💜💛💚💜

*~*~* แวะมาทักทายจ๊ะ..ขอหัวใจเบิกบาน *~*~*

💚💜💛💚💜💛💖💜💛💖💚💜💛💚💜






 

โดย: *~ต้นกล้า...ของหัวใจ~* 31 พฤษภาคม 2564 13:53:04 น.  

 

สวัสดีมีสุขค่ะ

หนังสือเขาแนะนำหนุ่มสาว
ถ้างั้นคนแก่ ไม่อ่านละค่ะ
แวะมาส่งกำลังใจนะคะ

 

โดย: ตะลีกีปัส 31 พฤษภาคม 2564 14:52:43 น.  

 

ของไทยเราการศึกษานับวันยิ่งจะมีแต่ตกต่ำลง

ล่าสุดเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี ออกกฎบังคับให้นักเรียนใส่ถุงเท้าแบบมีแถบสี ซึ่งหาซื้อไม่ได้ทั่วไป แต่โรงเรียนมีขายในราคาคู่ละ 25-30 บาท ซึ่งแพงกว่าราคาตลาด และยังบังคับให้ซื้อกับทางโรงเรียนเท่านั้น

เพื่ออะไร? อ้อ...หาเงินยามโควิดระบาดเพราะมันหาเงินยากนี่เอง เข้าใจคิดดี

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 31 พฤษภาคม 2564 15:08:16 น.  

 

เราต้องแข่งขันกันตั้งแต่เล็กๆ เลยนะคะ พ่อแม่ผู้ปกครองก็ยึดติดกับเกรด ถ้าเรียนได้ดีก็จะมีรางวัล ถ้าเรียนได้ไม่ดีก็จะโดนดุ อย่างนี้เด็กก็ไม่ค่อยมีความสุขสักเท่าไร

เด็กบางคนไม่เก่งวิชาการ แต่เก่งวิชาอื่นๆ ก็มีมากมาย แต่วิชาเหล่านั้นได้เกรดสี่แล้วไม่ค่อยมีใครชม อย่างเช่น พลศึกษา

ถ้าเด็กรู้ตัวเร็ว และได้มุ่งไปในสิ่งที่ตัวเองชอบเร็วก็เป็นเรื่องดีนะคะ

 

โดย: comicclubs 31 พฤษภาคม 2564 15:38:54 น.  

 

อ่านรีวิวเล่มนี้ของคุณก๋า แล้วทำให้ผมนึกถึงละครเรื่อง นิยายรักนักศึกษา สมัยโน้นเลยครับ ผมติดงอมแงมเลยครับ และก็คิดถึงหนังสือ
ฉันจึงมาหาความหมาย ของวิทยา เชียงกูลด้วยครับ

 

โดย: The Kop Civil 31 พฤษภาคม 2564 17:07:32 น.  

 

ลูกสาวคนโตของแม่ถึงได้เลือกให้หลานๆเรียนแบบโฮมสกูล
แต่แม่เหนื่อยมากสุดท้ายให้ไปเรียนกับ ครูเล็ก ภัทราวดี มีชูธน ไปอยู่ประจำที่โรงเรียน
เป็นการเรียนแบบทางเลือกค่ะ เด็กๆมีเวลามากขึ้น ไม่ใช่ท่องเรียนเขียนอ่านอย่างเดียว

 

โดย: ซองขาวเบอร์ 9 31 พฤษภาคม 2564 18:15:29 น.  

 

สวัสดีครับน้องแตง

พี่ก๋าโชคดีมาก
ที่โตมาในบ้านที่ไม่มีการบังคับเรื่องเรียน
พี่ก๋าเรียนดีได้โดยไม่เคยเรียนพิเศษ
จะด้อยหน่อยก็เรื่องภาษาอังกฤษกับคณิต
เพราะไม่ใช่วิชาที่ชอบ

ยุคนี้แข่งขันกันดุเดือดดมาก
โรงเรียนดังก็เลือกรับเด็กเก่งๆด้วยเกรด
เข้าไปเด็กก็ต้องเรียนพิเศษกันหนักหน่วงเพื่อแข่งกันอีก
เป็นระบบการศึกษาที่เรียนแล้วไม่มีความสุขเอาซะเลยครับ


 

โดย: กะว่าก๋า 31 พฤษภาคม 2564 18:44:08 น.  

 

เรื่องระบบการศึกษา
ไม่มีประสบการณ์นานมาก
ตามไม่ทัน ไม่มีความเห็นแล้วค่ะ

 

โดย: mcayenne94 31 พฤษภาคม 2564 19:46:05 น.  

 

ก็น่าคิดครับ
หนังสือเล่มนี้พิมพ์ปี 2518 ปีต่อมาเดือนตุลา 19 ตู้มเลย!
แต่ไม่น่าจะเกี่ยวกัน หนังสือเล่มนี้ไม่น่าจะมีอิทธิพลกับนักศึกษาตอนนั้นนะ
น่าจะเป็นเรื่องเหตุบังเอิญของยุคสมัยมากกว่า

ผมเกิดไม่ทันยุคนั้น (2516-19)
แต่อ่านแต่การ์ตูนหมัดดาวเหนือ ไม่ให้ใครมาข่มเหงกดขี่กันง่าย ๆ แน่

 

โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก 31 พฤษภาคม 2564 21:50:18 น.  

 

ถ้าบ้านเรามี บิดามารดา ผู้ปกครอง บุคลกรทางการศึกษา รมต.ทางการศึกษา นาย ก ที่เข้าใจเรื่องการศึกษา
เราจะได้หนุ่มสาวที่เข้าใจการใช้ชีวิต

งบประมาณกู้ครั้งนี้ กระทรวงศึกษาอันดับ 1 ครับ

 

โดย: สองแผ่นดิน 31 พฤษภาคม 2564 23:31:11 น.  

 

สวัสดีครับคุณก๋า

ผมว่าการตั้งคำถามกับตัวเองบ่อยๆ เป็นเรื่องที่ดีนะครับ
ทำให้เราได้ทบทวนตัวเองด้วย

จากบล็อก
ข้อดีที่ว่า จริงของคุณก๋าครับ
ช่วงก่อนลิขสิทธิ์ ได้อ่านอะไรที่หลากหลายมากๆ
แข่งกันหลาย สนพ.เลย ซ้ำซ้ำก็บ่อย 55

แต่เดี๋ยวนี้ ในยุคที่ระบบลิขสิทธิ์เข้ามาแล้ว ผมตั้งกฏกับตัวเองว่า
จะใจแข็งอุดหนุนแต่การ์ตูนที่ถูกลิขสิทธิ์เท่านั้น
ยกเว้นหนังสือเก่าที่เคยวางขายมาก่อนหน้า
(แต่ก็พ่ายไป1เรื่อง เพราะอยากได้จริงๆ)

เห็นเพื่อนในเฟสที่เค้าพิมพ์เถื่อนมาขาย
เป็นการ์ตูนที่เค้าชอบ พิมพ์ขายพรีออเดอร์ทำสวยเชียวแหละ
แต่ผมก็ได้แต่คิดในใจว่า ถ้าชอบงานก็ต้องเคารพผลงานเขาด้วยสิ

 

โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา 31 พฤษภาคม 2564 23:31:36 น.  

 

คำถามของท่านกฤษณมูรติชวนคิดและชี้นำให้เห็นคุณค่าและความหมายที่แท้จริงของชีวิต
มากกว่าสิ่งที่ไขว่คว้าอย่างเหน็ดเหนื่อยซึ่งอาจไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดนะคะ

ขอบคุณคุณก๋าแนะนำหนังสือดีๆเล่มนี้ค่ะ

ฝันดีนะคะ

 

โดย: Sweet_pills 31 พฤษภาคม 2564 23:45:54 น.  

 


สวัสดีค่ะน้องก๋า

มาอ่านรีวิวหนังสือค่ะ

 

โดย: newyorknurse 1 มิถุนายน 2564 3:02:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]