"Casino Royale 007" ... นี่แหละ 'เจมส์ บอนด์' ที่ผมต้องการ
ในที่สุด เขาก็มาแล้ว เขากลับมาในแบบฉบับของชายหนุ่มคนใหม่รูปไม่งาม หน้าตาไม่ชวนให้เคลิ้มใจ แต่เรื่องของความมันส์บรรลัย ขอให้บอกว่าสุดยอดจริงๆ ... หลังจากที่แฟนพันธุ์แท้ และพันธุ์ทางต่างก็ยึดติดอยู่กับ เจมส์ บอนด์ คนที่ 5 มาอยู่นานนับสิบปีได้แล้ว ...เราก็แทบไม่ได้เปิดใจลองมองหาคนใหม่ที่คิดว่าจะเหมาะสมมารับเป็นคนๆนี้มาก่อนเลย จนกระทั่งถึงตอนที่ "เพียร์ซ บรอสแนน" ประกาศออกมาอำลาวงการนักฆ่า ขอวางปืนยุติรหัส 00 ในทันที ตั้งแต่เวลานั้นเป็นต้นมา รายชื่อลิสต์บัญชีของคนที่น่าจะได้เป็นเจ้าของรหัสนี้คนใหม่ ก็มีมาให้เห็นให้เฝ้าติดตามกันอย่างสนุก ในความน่าจะเป็นหลายๆความ ล้วนมุ่งไปหาแต่กับนักแสดงที่ต้องเน้นชื่อเสียง ความมีฝีมือ และภาพลักษณ์ซึ่งเหมาะจะเป็นบุรุษเจ้าสำราญคนนี้ ...ชื่อของ โคลิน ฟาร์เรลล์ เคยผ่านเข้ามาในหูแล้วก็ผ่านไปกับสายลมพร้อมคำปฏิเสธที่ว่า เขาไม่อยากจะยึดติดกับบทบาทนี้จนวันตาย ...ชื่อ ของ อีวาน แมคเกรเกอร์ ก็เคยมีโอกาสได้เฉียดจะเป็น แต่เจ้าตัวก็ขอเมินเพื่อจะได้เล่นหนังเรื่องอื่นที่จะทำให้เขามีภาพลักษณ์ที่หลากหลาย ...นี่ยังไม่รวมกับชื่ออีกหลายสิบชื่อ ที่เคยเป็นความคาดหวังของคอหนัง ซึ่งสุดท้ายท้ายที่สุดแล้ว ชื่อของคนๆหนึ่งที่ไม่ใครจะคิดมา ก่อน และแทบไม่อยากจะหวัง ก็กลายเป็นชื่อของบอนด์คนใหม่ที่พอประกาศปุ๊บ มันก็ได้กลายเป็นชื่อของความอคติปั้บ ก็ต้องยอมรับโดยดุษฎีล่ะว่าภาพบอนด์ของบรอสแนนมันค้างคาติดตาไปซะนี่ ...แล้วจะไปมีช่องว่างเหลือพอให้แฟนๆคนไหนที่ใจดีไปยอมรับในทันทีเลยว่า "แดเนียล เครก" คนนี้ จะเจ๋งพอมาสร้างภาพเจ้าสำราญด้วยใบหน้าที่แสนจะไม่เข้าตาเช่นนี้ได้ มันก็ดูจะง่ายเกินไป เมื่อได้รู้ข่าวว่า เครก ได้เป็นบอนด์แล้ว ผมก็คิดจะอยากดู Layer Cake เลยทันที เพราะเขาว่ากันว่า ความตัดสินใจของผู้สร้างก็มาจากหนังเรื่องนี้นี่แหละ ...ซึ่งจากที่ผมเห็นลีลาแอ๊คชั่นของเขาในเรื่องนั้น ก็ยังไม่เห็นอะไร ที่พอจะเปล่งรัศมีความเป็นบอนด์ออกมาได้เลย ...(หรือที่ผมไม่เห็นอะไรนั้น มันจะเป็นเพราะอคติที่บังตาอยู่ละมั้ง) หน้าตาไม่ให้ ใจก็ไม่ได้ ดูเหมือนอะไรๆจะไม่เข้ากันอย่างพอดีสำหรับผม ... เขาได้กลายเป็นคนที่ผมไม่รักในตอนนั้น แต่ผมก็ยังจะรอคอยชมผลงานของ แดเนียล เครก ในบทบาทนี้ เพราะความที่เป็นแฟนหนังบอนด์มันคล้ำคออยู่ ..."Casino Royale" ... เป็นเรื่องราวจากนิยายสายลับรหัส 007 เล่มแรกของ "เอียน เฟลมมิ่ง" ที่ได้เขียนเอาไว้ อันคือ จุดเริ่มต้นของเส้นทางสายลับที่ เจมส์ บอนด์ ได้ดำเนินสืบมาเป็นตัวอักษร ก่อนจะถูกถ่ายทอดบนแผ่นฟิล์มเป็นเวลาถึง 40 กว่าปี ... (ซึ่งก็น่าแปลกใจอยู่นิดๆที่ผู้สร้างในสมัยนั้น เลือกจะทำ Dr.NO เป็นตอนแรกของฉบับหนังซะอย่างงั้น) การได้ผู้กำกับที่เคยได้ชื่อว่าสร้างหนังบอนด์ตอนที่ดีเยี่ยมอีกตอนหนึ่ง กลับมาในหนนี้ เป็นความตัดสินใจของผู้สร้างที่ได้ใจผมไปแต่แรกเริ่มรู้ชื่อ ... "มาร์ติน แคมป์เบลล์" ในบอนด์เรื่องที่สองนี้กลับมาปฏิบัติการหน้าที่ที่เขาได้รับอย่างตั้งใจ แถมด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างหนังบอนด์ตอนที่ยอดเยี่ยมกว่า Goldeneye ของเขาเสียอีก ... เขาสามารถปลุกวิญญาณความอำมหิตเงียบที่ได้จางหายไปจากตัวตนของบอนด์มานาน ให้คืนกลับมาสร้างความดิบของภาพหนัง และความเด็ดของเรื่องราว เวลา 140 นาทีที่ดูเหมือนจะยาว และน่าจะเยิ่นเย้อในหนังแอ๊คชั่นเรื่องอื่นๆ ...แต่กับหนังเรื่องนี้แล้ว มันดูไม่น่าเบื่อ และทุกนาทีมันก็มีอะไร ชวนให้อยากติดตามอย่างที่เราคนดูไม่สามารถละสายตาไปจากจอได้ ... ฉากแอ๊คชั่นทุกๆฉากดูสมจริงจนน่าทึ่ง ตื่นตะลึงในความตื่นเต้น เร้าใจ อันสุดจะกดดัน ... ด้วยงานกำกับอันแม่นยำในจังหวะ ได้งานสตันต์อันลื่นไหล อีกทั้งต้องรวมไปยังงานโปรดักชั่นทุกสิ่งที่ทำออกมาได้สมบูรณ์แบบ ... ผมสนุกสุดๆกับฉากบู๊ด้วยมือ เท้า ปืน และประทับใจกับฉากบู๊ด้วยสมองกับเกมโปกเกอร์ที่เล่นกันแรง และเจ็บปวดไปถึงหัวใจ(บอนด์) แล้วกับบทหนังที่ได้ผู้เขียนร่วม อันมีฝีมือระดับออสการ์อย่าง "พอล แฮ็กกิส" มาคิดสรรความเป็นไปของเรื่องราว ...ก็ไม่มีอะไรให้น่าผิดหวังเลย มิหนำซ้ำยังทำให้หนังตระกูลบอนด์ได้ถูกกำหนดให้มีมาตรฐานข้อใหม่ขึ้นมา เพื่อสร้างความหนักใจให้กับนักเขียนบทรุ่นต่อไปให้ปวดขมับ ...กับมาตรฐานข้อนั้นที่ชื่อว่า "ความลึก" ตัวบทหนังของ CR นอกจากจะเน้นไปถึงปฏิบัติการที่เล่าเรื่องได้อย่างสนุก และมีจุดเล็กจุดน้อยเป็นรายละเอียดปลีกย่อยที่คนดูต้องตามเก็บไปตลอดแล้ว ผู้เขียนบทก็ยังสนใจจะเพิ่มความสำคัญของตัวหนังด้วยการเจาะลึกลงไปยังก้นบึ้งความรู้สึกของตัวละคร ที่เราไม่เคยได้ไปถึงในบอนด์ตอนเก่าๆอย่างก่อนๆ ... ความผิวเผินที่เคยรู้สึกจากการมีเพศสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนของบอนด์ ในคราวนี้แม้เราจะไม่ต้องเห็นฉากหวาบหวามเรต R กับสาวบอนด์ของเขา แต่เราก็รู้สึกได้เลยว่า ในเวลาที่เขาอยู่ใกล้กัน ตัวละครสองตัวนั้นเขาและเธอกำลังคิดอะไรอยู่ ...ความปรารถนาดีที่เขามีให้เธอ และความห่วงใยที่เธอมีให้เขา ดูเป็นความรู้สึกที่จริง ไม่หลอกตาคนดู และทำให้เราได้รู้ว่าแรกเริ่มต้นของ เจมส์ บอนด์ คนนี้ เขาก็เคยเป็นสุภาพบุรุษที่จิตใจอ่อนโยน บอบบาง ผู้ต่ำต้อยด้อยเรื่องรัก และยังไม่ใช่คนเย็นชาอย่างที่เป็นอยู่อย่างเราคุ้นเคย ... ซึ่งกับบทสาวเจ้าที่เข้ามามีบทบาทต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมความรักของพ่อหนุ่มคนนี้นั้น ได้ผู้หญิงสวย(ประหลาด) อย่าง "อีวา กรีน" มาสวมบท ...สาวบอนด์ที่ชื่อว่า "เวสเปอร์ ลินด์" คนนี้ ทำหน้าที่ของเธอได้อย่างเยี่ยม กับการแสดงออกต่อหน้าบอนด์ที่ดูจริงใจ แต่พอลับหลังแล้วเธอก็แอบแฝงความน่าสงสัยที่เราคนดูเองก็ไม่สามารถจะเดาออกในความเป็นไปของเธอได้ ...อีกอย่างหนึ่งที่ผมต้องขอชม ก็คือ ความสวยเซ็กซี่ของเธอช่างขึ้นกล้อง และความคมของใบหน้าก็แสนจะบาดตาบาดใจชายอย่างผมซะเหลือเกิน (เคยสบประมาทในความสวยทะมึนจาก Kingdom of Heaven มาเรื่องนี้สวยขึ้นจนงงแตกว่าใช่คนเดียวกันหรือเปล่าเนี่ย) "แมด แม็กเคลเซน" กับ บทบาทศัตรูคนแรกในชีวิตสายลับของบอนด์ "เลอ ชีฟร์" ...สร้างความร้ายกาจน่ากลัวของตัวละครโดยไม่ต้องทำตัวให้เว่อร์ฟุ่มเฟือยพลังเหมือนคนอื่นๆ ...เขาใช้เพียงแค่แววตาที่เต็มไปด้วยรังสีความโลภ และลีลาเงียบงันแต่บ้าคลั่งมันก็พอเพียงและจำเป็น ...ผมรู้สึกชอบตัวร้ายตัวนี้ เพราะ ความร้ายของเขาอยู่ในระดับที่คนจริงๆเขาจะเป็นกัน โดยไม่หวังเอาโลกเป็นเดิมพัน เพราะเอาแค่เงินและความรวยก็สามารถทำให้ เลอ ชีฟร์ อำมหิตอันตรายอย่างเจ็บแสบได้แล้ว , "M" ของป้าจูดี้ เดนซ์ ยังคงเด่นเป็นสง่ามาดเจ้านายใหญ่ไม่เปลี่ยนแปลง แม้จะเล่นน้อย แต่การแสดงของเธอก็ให้ได้มากเหมือนเคย ในที่สุด เขาก็มาแล้ว เขากลับมาในแบบฉบับของชายหนุ่มคนใหม่รูปไม่งาม หน้าตาไม่ชวนให้เคลิ้มใจ แต่เรื่องของความมันส์บรรลัย ขอให้บอกว่าสุดยอดจริงๆ ...จากคนที่ผมไม่เคยคิดจะรักในเวลานั้น มาถึงเวลานี้ที่ผมได้เห็นหนังทั้งเรื่องแล้ว ผมก็กล้าจะพูดได้เต็มปากเลยว่า แดเนียล เครก คนนี้ ได้เปลี่ยนทัศนคติของผมที่มีต่อเจมส์ บอนด์ไปอย่างสิ้นเชิง ... เขาสามารถกับความเป็นดาราคุณภาพที่มีอยู่ ...เขาทำให้ผมอยากจะลืมบอนด์ คนเก่าก่อนที่ชื่อว่า เพียร์ซ บรอสแนน ไปเลย ...และเขาก็ทำให้ สายลับบอนด์ที่เคยโดนดูถูกว่ามีหัวคิดแค่การใช้ข้าวของไฮเทคเอาตัวรอด ได้หวนกลับมาสู่ความสามัญธรรมดาบนโลกความจริง ที่เอาตัวรอดเฉกเช่นมนุษย์คนอื่น ด้วยร่างกาย จิตใจ และปฏิญาณไหวพริบล้วนๆ ฉากแอ๊คชั่นทุกๆฉากดูสมจริงจนน่าทึ่ง ตื่นตะลึงในความตื่นเต้น เร้าใจ อันสุดจะกดดัน ...นอกจากด้านอื่นๆที่ว่าไปแล้ว ก็ต้องมีการแสดงของ เครก เป็นอีกสิ่งจำเป็นที่นำพาความมันส์มาประโคมโถมถลาเข้าคนดูจนต้องลุ้นกันสุดกู่ ... แม้หน้าตาจะไม่ให้ แต่เรื่องของใจได้ผมไปเต็มๆ ... ด้วยภาระหน้าที่อันหนักอึ้งที่แบกรับความคาดหวังของคนดูนับล้านๆคน เครกสามารถแปรเปลี่ยนความกดดัน ให้เป็นการแสดงที่อุดมไปด้วยเสน่ห์อันเหลือล้น ...เขาคืนตัวตนบอนด์ไปสู่ความเป็นรากเหง้า อย่างที่ "ฌอน คอนเนอรี่" เคยทำเอาไว้ พร้อมกันนั้นยังใส่ความเป็นตัวเองลงไปในมาดที่ดิบ เถื่อน โหด คือพยัคฆ์เสือร้ายที่อันตรายในเวลาเอาจริง แต่เมื่อกลายสภาพเป็นแมวเหมียวร้องหง่าว มันก็แสนจะสงสาร จนอดที่จะขำแตกในความทุรนทุราย อันกวนอารมณ์ของเขาไม่ได้เลยจริงๆ (คนดูแล้วคงไม่ต้องบอกก็รู้ว่าผมกำลังหมายถึงฉากไหน) ฉากโรแมนติกที่แอบเข้ามามีบทบาทต่อบอนด์ในตอนนี้ คือสิ่งที่ผมไม่ได้คาดคิดว่าจะได้เห็น ...ในทุกฉากที่เครก และอีวา กรีน อยู่ด้วยกันมันเป็นการแสดงที่ดูเข้าคู่เหมาะเจาะ และลงตัวกับการผสมเคมีได้ถูกสูตร ...ภาพเหล่านั้นมันเป็นภาพที่ชวนให้คนดูอยากจะกลับมาฝันหวานนึกภาพเป็นตัวเองกับคนรัก แทนตัวละครสองตัวนี้ซะเหลือเกิน ...ช่วงเวลาที่บอนด์ปลอบใจเวสเปอร์ในห้องอาบน้ำ ดูเป็นเวลาเพียงสั้นๆที่ช่างกินใจ และอยากจะประทับความเรียบง่ายของมันไปบนความทรงจำดีๆ อีกหนึ่งข้อที่ผมมีต่อหนังบอนด์ตอนที่ 21 เรื่องนี้ อีกอย่างที่จะลืมไม่ประทับใจเป็นไม่ได้ ก็คือ ไตเติลเปิดหนัง ...ที่ช่างสรรสร้างมาได้อย่างเข้าใจคิดเข้าใจทำและเข้าใจเล่น ผนวกเอาไพ่โปกเกอร์เข้ามาผสมผสานการต่อสู้เป็นภาพอนิเมชั่นของบอนด์ หลังจากที่ดูบอนด์มาก็หลายตอน มามีตอนนี้นี่แหละที่ผู้หญิงหมดความสำคัญในการเป็นตัวเอกของไตเติล ...อีกทั้งเพลงประกอบ You Know My Name ก็ช่างแสนจะสุดยอดของความเร้าใจ เป็นการกล้าที่จะเปลี่ยนเอกลักษณ์เดิมๆจากเสียงร้องอันทรงพลังของนักร้องหญิงคุณภาพทั้งหลาย มากลายนักร้องชายร็อคแอนด์โรล นาม "คริส คอนเนลล์" ที่กระชากความมันส์ให้บังเกิดควบคู่ไปกับการดูไตเติลสุดบรรเจิดในหนนี้Casino Royale ... เป็นหนังบอนด์ที่ยอดเยี่ยม และสร้างความประทับใจจนถึงขั้นสูงสุดสำหรับหนังตระกูลนี้ที่ผมเคยดูมา ... ผมขอรับประกันได้เลยว่า แฟนๆรุ่นเก่า ต้องถูกใจ ...แฟนๆรุ่นใหม่สมัยบรอสแนน อาจจะเปลี่ยนใจมารักเครก ...ส่วนคนที่ชอบหนังแอ๊คชั่นก็ขอรับรองได้ว่า นี่จะเป็นหนังที่คุ้มค่าตั๋วสำหรับคุณได้แน่ ขอแนะนำเป็นอย่างยิ่ง ...ครับดู{ดี} วิธ มายเซลฟ์ : 1. "แดเนียล เครก" เขาคือบอนด์ที่ยอดเยี่ยมเท่าเทียม "ฌอน คอนเนอรี่" 2. "อีวา กรีน" เธอคือสาวบอนด์ที่ผมตกหลุมรักอย่างเต็มใจ 3. "แมด แม็คเคลเซน" เขาคือศัตรูที่ดูสมจริงที่สุดของหนังตระกูลนี้ 4. ฉากแอ๊คชั่นที่มันส์สุดขั้วหัวใจลุ้น 5. งานทุกส่วนที่รวมเป็นหนังเรื่องนี้ 6. ฉากโรแมนติกในห้องอาบน้ำ ...ผมรักในความเรียบง่ายแต่ได้ใจของมัน 7. ไตเติลเปิดตัว ช่างคิดช่างทำบรรเจิด เกรด A ...ขอเชิญทุกท่านเสนอความคิดเห็นกัน... 1 Comment ของคุณ คือ 1 Happy ของเจ้าของบล็อก ขอบคุณมากครับ "James Bond Theme" โดย "Moby"
Create Date : 20 พฤศจิกายน 2549
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2549 9:16:15 น.
18 comments
Counter : 5789 Pageviews.
โดย: Clear Ice วันที่: 20 พฤศจิกายน 2549 เวลา:9:46:23 น.
โดย: YUI_MUNMOO วันที่: 20 พฤศจิกายน 2549 เวลา:20:46:08 น.
โดย: skycreeper IP: 58.8.184.137 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2549 เวลา:1:36:51 น.
โดย: o IP: 202.12.118.36 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2549 เวลา:8:40:10 น.
โดย: cmr IP: 58.8.13.113 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2549 เวลา:16:10:41 น.
โดย: Go-kung IP: 58.9.137.230 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2549 เวลา:0:30:32 น.
โดย: civic_coupe วันที่: 26 พฤศจิกายน 2549 เวลา:7:18:19 น.
โดย: sassey IP: 124.121.1.245 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2549 เวลา:11:11:51 น.
โดย: ThirskUK IP: 218.186.8.10 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2549 เวลา:11:13:42 น.
โดย: รถเมล์สาย 170 (รถเมล์สาย 170 ) วันที่: 26 พฤศจิกายน 2549 เวลา:14:25:08 น.
โดย: onna chan IP: 125.25.32.154 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2549 เวลา:1:53:49 น.
โดย: hidepod IP: 203.155.221.240 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2549 เวลา:22:47:06 น.
โดย: โมลี IP: 125.25.85.239 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2549 เวลา:11:13:39 น.
โดย: Mucki_girl IP: 58.136.194.114 วันที่: 8 ธันวาคม 2549 เวลา:20:55:31 น.
โดย: โต IP: 86.219.144.55 วันที่: 18 ธันวาคม 2549 เวลา:3:59:24 น.
โดย: ปกป้อง IP: 203.113.51.164 วันที่: 28 พฤษภาคม 2550 เวลา:0:34:45 น.
โดย: sunontinee IP: 125.25.243.144 วันที่: 9 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:32:30 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [? ]
สวัสดีครับ ...บล็อคแก๊งค์ คิดไม่ออก จะพูดอะไรดี พูดถึงประวัติตัวเอง... ก็ดูไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจ พูดถึงนิสัยตัวเอง... ก็มีทั้งดีทั้งร้ายสับเปลี่ยนหมุนเวียนไป เฉกเช่นคนธรรมดา พูดถึงหน้าตา... ก็บ้านๆแบบพื้นๆ น้องๆ แบรด พิตต์ หลานๆ ทอม ครูซ เท่านั้นเอง (แหวะ!!!) ตอนนี้ อาจยังคิดไม่ออก แต่ถ้าตอนไหน คุณชวนผมคุย ตอนนั้นผมก็พร้อมจะคุยกับคุณ ในทุกเรื่อง ได้ทุกแนว เพียงแต่ขอยกเว้น ...เรื่องส่วนตั้ว ส่วนตัว ขอขอบคุณ ในมิตรภาพของทุกท่าน ความรู้จักที่คุณมีให้ผม ...ผมขอน้อมรับ ในทุกสิ่ง ที่ท่านมีต่อผม ไม่ว่าจะด้วยภาษา หรือว่าความรู้สึก ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ...แต่ถ้านี่ยังน้อยไป ก็อย่าลืม ...เมล์ของผม แอดกันได้นะ once_upon.a.man@hotmail.com My @ http://twitter.com/once_upon_a_man ขอขอบคุณ และสวัสดีครับ ...รักนะ คนอ่านผลงานบทความที่อยู่ใน Blog นี้ สามารถให้คนอื่นนำไปเผยแพร่ในที่อื่นๆได้ แต่ต้องขอให้แจ้งทางเจ้าของ Blog ก่อน ว่าจะนำไปใช้เพื่อประโยชน์ในทางที่ถูก พร้อมทั้งให้เครดิตของเจ้าของผลงานตัวจริงด้วย โดยห้ามทำการดัดแปลงแก้ไข ด้วยภาษาของตัวคุณเอง เพื่อทำให้เจ้าของ Blog เสียหาย ขอความกรุณา อย่าละเมิดสิทธิ์กันเลยครับ เพราะกว่าจะเป็น กว่าจะเกิดผลงานขึ้นมาแต่ละชิ้นได้ อาจคิดขึ้นมาได้ไม่ยาก แต่มันก็ลงมือทำไม่ง่ายเช่นเดียวกัน ถ้าท่านผู้ใดไปพบว่า มีคนนำผลงานของเจ้าของ Blog ไปเผยแพร่ นำเสนอ ในทางที่ไม่ดีไม่ชอบ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อตัวเจ้าของ Blog กับคนอื่นๆ หรือว่าสังคม ..ขอให้แจ้งมาทาง "หลังไมค์" ของเจ้าของ Blog เลยทันที ขอบคุณมากๆครับ