แม้เรื่องราวจะมาพร้อมพลอตเดิมๆ เป็นเหล้าเก่าในขวดใหม่ที่ดูไม่น่าตื่นเต้นอะไรเลยก็ตามที ..แต่กระนั้น หนังแอ๊คชั่น คนจริง สัตว์(ซีจี)เทียม เรื่องใหม่อันล่าว่า “G-Force” ก็ยังไม่ถึงกับต้องมองข้ามไปเลยซะทีเดียว ...เพราะถ้าดูเอาความน่ารักจากเจ้าสัตว์ในเรื่อง อันคือ คุณหนู(ตะเภา)ที่ถูก(คนคิดเรื่อง)วานให้เป็นสายลับ ถ้วนๆ ผมว่า หนังก็ใช้งานพวกมันได้คุ้มค่าอยู่

G-Force มีเนื้อเรื่องที่ไม่ซับซ้อนอะไรมาก จุดเริ่มต้นก็เหมือนหนังสายลับที่เราเคยคุ้น ซึ่งเปิดมาด้วยความผิดพลาดในการปฏิบัติงานครั้งสำคัญของตัวเอก ..และเหตุครานี้ก็เกิดมาจาก การพยายามจารกรรมข้อมูลแผนการร้ายระดับโลกของเจ้าหนูตัวน้อย ที่ได้รับการฝึกให้มาเป็นสายลับขนาดจิ๋ว ผู้ซอกซอนซอกแซกได้เก่งยิ่งกว่าคนอย่างเราๆ

แม้สุดท้าย งานครานี้ จะจบลงด้วยความไม่เสียหายของใคร แถมอุตส่าห์คว้าข้อมูลที่ต้องการมาได้ครบครัน.. แต่มิวายเกิดเรื่องหักมุม ที่ข้อมูลเจ้ากรรมดันกลายเป็นของหลอกลวงในสายตา FBI และนั่นก็ส่งผลให้ หมู่มวลคนตัวใหญ่ใน FBI ผู้กะจ้องจะปิดหน่วยหนูจารกรรมนี้อยู่แล้ว ได้มีเรื่องโดยชอบธรรมที่จะสั่งการให้ล้มเลิก G-Force ก็เลยต้องเป็นหมันในทันที



และนับจากตอนแต่นี้ เป็นต้นไป ก็คงไม่ต้องถามอีก ว่าหนังจะดำเนินเรื่องราวไปอย่างไร ในทิศทางไหน ..เพราะทั้งหมดหลังจากนั้น มันก็มาพร้อมสูตรสำเร็จ ที่ยังไงๆ ย่อมจะต้องส่งท้ายให้จุดจบของหนัง คือ การยังมีลมหายใจต่อไปของหน่วย G-Force อย่างเลี่ยงไม่ได้อยู่ดี

แต่ถ้าเราตัดปัจจัยของส่วนเนื้อเรื่องที่ดูไม่มีอะไรแปลกใหม่ไปแล้ว... G-Force ก็ถือเป็นหนังแนวเด็กตัวเล็กๆดูอีกเรื่องหนึ่ง ที่ผู้ใหญ่ไซท์โตเช่นผม ยังคงสามารถทำตัวแบ๊ว พาสนุกกับหนังไปได้เนียนๆ

ความสนุกของมัน ย่อมไม่ได้ตกอยู่ในอำนาจของบทหนังซึ่งเล่าเรื่องแบบเด็กๆ ไม่คิดมาก เพราะนั่นคือ สิ่งที่เราควรมองข้ามไปแต่ต้นได้เลย เมื่อคิดจะดู G-Force ..ผมจึงแน่ใจมาแต่ต้นว่า หนังเรื่องนี้จะทำออกมาอย่างสนุกดูเพลินๆได้ ก็ต่อเมื่อมันสามารถผสมผสาน การสร้างตัวละคร(ซีจี)น้องหนูที่มีเสน่ห์ ให้เข้ากันได้กับฉากแอ๊คชั่นน่าลุ้นพอเป็นกระษัย และเรื่องราวที่ชวนยิ้ม ..เพียงหากขาดสามสิ่งเหล่านี้อันใดไป สักอย่างใดอย่างหนึ่ง ถึงยังไงๆอารมณ์สะดุดย่อมต้องมีเป็นแน่



ซึ่งก็ถือว่าโชคดีไปที่ ในที่สุดแล้ว G-Force ได้สามารถกับสามสิ่งที่ผมวางเป็นเงื่อนไขเอาไว้โดยครบถ้วน ..และการผสมผสานของสิ่งเหล่านั้น ก็จัดว่าดูเนียนได้ในประมาณหนึ่ง ประมาณเดียวกับที่ผมไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจในจุดอ่อนหลายๆอย่างที่หนังมี

ถึงจะต้องยอมรับกันว่า พอได้ออกจากโรงมาแล้ว มันก็เริ่มนึกที่จะขอย้อนความ กลับไปจับผิดสิ่งนั้นสิ่งนี้ ที่หนังยังกลบความอ่อนของมันได้ไม่มิด ..แต่พอเอามันมาประกอบ แล้วคิดพร้อมๆกันไปกับ การยอมจ่ายแพงขึ้น เพื่อได้ดูเจ้าหนูสายลับซ่าส์ทะลุจอ ในมุมมอง 3D แล้วละก็ ผมว่าการดูหนังเด็กๆในงวดนี้ ไม่ได้รู้สึกผิดหวังอะไรเลย



G-Force ได้ใช้ศักยภาพของการเป็นหนังสามมิติสักเรื่อง ออกมาด้วยผลลัพธ์ที่ถือว่าคุ้มค่า สำหรับผมเลย ..ยิ่งหากย้อนไปเทียบกับการดู “Aliens VS Monsters” (ที่ IMAX) และ “Up” ในปีเดียวกันด้วยแล้ว ผมว่า G-Force ทำให้ผมตื่นตากับภาพทะลุจอของมันได้ดีที่สุด ..ซึ่งดูคล้ายว่าหนังคงตั้งใจมาแต่ต้นที่จะขายสามมิติเป็นสำคัญอยู่แล้วด้วยกระมัง จึงพยายามใส่อะไรๆหลายหลากให้ โชว์(3D)ล้ำ กันมาได้เรื่อยๆ แล้วมันก็ยังได้เพลิดเพลินดีทีเดียว ไปกับสิ่งโชว์ล้ำทั้งหลาย ที่ทำออกมาดูน่ารักซะเยอะ

ขณะที่ Aliens ยังไม่สามารถใช้งานการเป็นหนังสามมิติให้คุ้มเต็มเม็ดเต็มหน่วย ส่วน Up กลับดูไม่ค่อยจำเป็นจะต้องทำเป็นโชว์ อะไรเลยเสียด้วยซ้ำ (แม้ภาพจะสวยมากกกกก ..แต่เอาแค่ สองมิติ ก็ถือว่าสุดๆที่จุดลิมิตแล้ว).. G-Force กลับเป็นเพียงเรื่องเดียวที่ผมดูแล้ว รู้สึกได้ถึงความลงตัว ของการใส่ 3D ลงไปในตัวหนัง ..แม้จะไม่ได้สำคัญต่อเนื้อเรื่องอะไรเลย แต่มันก็แอบส่งผลให้เหตุการณ์ต่างๆในหนัง ดูน่ารักมากขึ้นในอีกระดับไปด้วย

ผมจึงเชื่อว่า ถ้าผมลองดูหนังเรื่องนี้แบบสองมิติ ภาพแนบจอ ก็คงจะได้รับอรรถรสไม่ครบครัน ..ถึงมันจะยังพอสนุกได้บ้าง กับ 3 ส่วนผสมที่เข้ากันได้พอดี ตามสไตล์หนังแอ๊คชั่นแบบเต็กๆก็ตามทีเถอะ

ฉะนั้นแล้ว ถ้ามีคนถามว่า “G-Force สนุกขนาดไหน?” ผมก็คงต้องบอกว่า เพลินๆเนียนๆได้ในประมาณหนึ่ง ..แต่ถ้าเกิดถามอีกอย่าง เพิ่มเข้าไปว่า “ควรดู สองหรือสามมิติดี?” ผมขอแนะว่า สาม ย่อมจะให้ความเพลินได้มากกว่า สอง ..แม้จะต้องเพิ่มทุนทรัพย์อีกพอสมควรก็น่าจะยอมกันได้ หากใจคุณอยากดู และอยากสนุกจนถึงลิมิตของมันกันจริงๆ



เกรด B+ ... {}

---

ส่วนที่เป็นฟอนท์สี เขียว-แดง เพิ่มเข้ามา... ซึ่งที่เน้นนั้นจะเป็นที่ผมพูดถึง ส่วน ดูดี(เขียว)-ดูด้อย(แดง) ของหนังแต่ละเรื่องครับ ...สำหรับบางคนที่ยังไม่ได้ดูหนัง แล้วอยากจะรู้ว่าหนังมีอะไรดีอะไรด้อยบ้าง ก็อ่านเอาจากที่ผมทำไฮไลท์ไว้ก็ได้เลยครับ ตามแต่สะดวกละกัน

ขอเชิญทุกท่านเสนอความคิดเห็นกัน...
1 Comment ของคุณ คือ 1 Happy ของเจ้าของบล็อก ขอบคุณมากครับ

ประกาศ...ประกาศ!!

ผมมี Twitter เป็นของตัวเองแล้วนะครับ.. ใครสนใจจะ follow ผม ก็ขอชวน follow เข้ามากันที่.. //twitter.com/once_upon_a_man

มีอะไรไวว่อง อยากจะบอก อยากจะพูด จะรีบมาอัพเดทที่ทวีตทันทีทันใดเลยนะครับ ..ขอขอบคุณที่รับผมเป็นเพื่อนครับ

ผมยินดีเสมอในมิตรภาพของทุกท่าน และบล็อคของผมก็ต้อนรับเสมอในความน่ารักของทุกคน ขอขอบคุณ และสวัสดีครับ

Create Date : 03 ตุลาคม 2552
Last Update : 3 ตุลาคม 2552 0:18:45 น.		4 comments
Counter : 3929 Pageviews.
Share Tweet