Match Point ... คนจะเฮง-ซวยช่วยไม่ได้
"ชีวิตคนเรามันก็เหมือนเช่นกับ ลูกเทนนิสในช่วงเวลาที่มันกำลังบินไปแตะปลายเน็ต ... เราไม่สามารถคาดเดาได้ว่า ลูกกลมๆที่ตีไปนั้น มันจะเลือกตกที่ฝั่งใด ระหว่างของเรา หรือว่าคู่แข่ง ถ้าบังเอิญว่าเราเฮง ลูกเด้งไปหาคู่แข่ง เราก็จะเป็นฝ่ายได้คะแนน ...แต่อีกบังเอิญถ้าเราซวย ลูกมันกระดอนกลับมาหาเราละก็ คู่แข่งของเราจะกลับกลายได้คะแนนไปกิน แบบฟรีๆ" Match Point คือ ช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายของผู้เล่นเทนนิสทุกคน... มันคือ การทำคะแนนสุดท้ายเพื่อปิดประตูแพ้ของฝ่ายที่ได้เปรียบ แต่ขณะเดียวกัน มันก็ยังเป็น โอกาสสุดท้ายของคู่แข่งที่กำลังพบว่าตนเองจะต้องพ่ายแพ้ ...ทั้งสองคนจะต้องต่อสู้กันด้วย พละกำลัง มันสมอง และความว่องไว ในเกมนี้จะต้องไม่มีใครยอมใครเป็นอันขาด เพราะถ้าคนใดคนหนึ่งยอม ก็มันจะกลายเป็นโอกาสของอีกคนเลยทันที Match Point ... มีจุดเริ่มต้นที่ความเฮงของพระเอก "คริส วิลตัน" (โจนาทาน รีส เมเยอร์...หนึ่งในสมาชิก M:I:3) ซึ่งความเก่งและความหล่อเข้าตากรรมการ หลังจากเป็นครูฝึกเทนนิสให้กับลูกเศรษฐีใหญ่ "ทอม ฮิววิต" (แมทธิว กู๊ด) ด้วยความที่เป็นคนง่ายๆ มีรสนิยมดี และมารยาททางสังคมสูง คริสเลยกลายเป็นคนโปรดของทุกคนในครอบครัว "ฮิววิต" อย่างง่ายดาย ...ทั้งยังตกกระไดพลอยโจน ได้ทำงานในบริษัทของครอบครัว และแต่งงานกับ "โคว์ ฮิววิต" (เอมิลี่ มอร์ติเมอร์) ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน ที่มีนิสัยหึงหวงและเอาแต่ใจ ...แม้ว่าคริสจะมีใจรักกับผู้หญิงคนนี้จริงๆ แต่ตัวของเขาเอง ก็ไม่อยากตกล่องปล่องชิ้นกับใครไปโดยบริบูรณ์ (ถ้าจะพูดแบบชาวบ้านๆ ว่า คริส หวังเพียงเกาะภรรยากินก็คงไม่ผิด) ด้วยราคะ ความโลภ และเห็นแก่ตัวของคริส มันทำให้เขาตกหลุมประสบความซวยเขาจนได้ ...มันเริ่มต้นที่เขา แอบลอบมีความรู้สึก และสัมพันธ์สวาท กับคนรักของทอม "โนล่า ไรซ์" (สการ์เล็ต โจแฮนสัน) เขาไม่สามารถฝืนทนที่จะไม่อยากร่วมรักกับผู้หญิงคนนี้ได้ อารมณ์ผลุสวาทครุกรุ่นทุกครั้งที่เขาอยู่ใกล้ผู้หญิง ยิ่งนานไปยิ่งกลายเป็นความรู้สึกที่ต่อต้านไม่อยู่ ...ความสัมพันธ์ผิดๆที่ต้องซ่อนเร้นไว้ ได้ส่งผลร้ายไปต่อชีวิต หน้าที่การงาน และความเป็นสามีของเขาต้องสั่นคลอน ... ความรักที่คริสไม่เคยซื่อสัตย์... ก่อให้เกิดความรู้สึกอันบ้าคลั่งที่โนล่าต้องทนรับว่าเธอเป็นเพียงชู้รัก เป็นแค่ทางผ่านเพื่อระบายอารมณ์ ของคริส เท่านั้น ในขณะที่ความทุกข์ใจของโคว์ ก็มีแต่จะหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ เพราะความหวัง ที่เธอต้องการมาตั้งแต่เธอกับเขาคิดจะร่วมทาง คริสเองก็ไม่เคยสนองตอบออกมาให้เธอด้วยความจริงใจเลย (ก็เพราะว่าเขาไม่ได้หวังอะไรมากไปกว่า ความดีพร้อมทางฐานะ ที่ภรรยาของเขาเอาติดสอยห้อยตามมาก็เท่านั้น) ตกลงแล้วชีวิตทางไหนกันแน่ที่ คริส วิลตัน ต้องการ... ความหรูหรา ฟู่ฟ่า สะดวกสบาย แต่ผิดความรู้สึก หรือว่า ความสุข เคลิบเคลิ้ม ชอบใจ แต่ผิดทำนองคลองธรรม ...ก่อนที่มันจะถึงจุดจบของทุกสิ่งทุกอย่าง เขาต้องเลือก ที่จะยังคงเด้งไปข้างหน้า หรือว่า จะยอมกระดอนกลับ ... คริสต้องสำเร็จ Match Point กับหัวใจของเขาเองให้ได้ Match Point ... เป็นผลงานการกำกับชิ้นล่า ของ ผู้กำกับเก๋าประสบการณ์ ที่มีออสการ์เป็นตัวรับประกัน ... ลุง "วู้ดดี้ อัลเลน" กลับมาพร้อมกับการผันผวนตัวเองมานั่งเก้าอี้ตัวเก่า ในหนังแนวทางที่แปลกออกไปจากงานเก่าๆ ซึ่งส่วนใหญ่ทั้งนั้น จะเป็นคอมเมดี้ ไม่ก็โรแมนติก ...คนที่รู้จักชื่อของ "วู้ดดี้ อัลเลน" ต่างก็ต้องรู้ว่า งานดังๆมีระดับของเขา ล้วนแล้วแต่เป็นหนังแนวสรวลเสเฮฮา หรือไม่ก็มาอารมณ์รักหวานชื่นไปเลย แต่ใน Match Point ลุงวู้ดดี้ได้เปลี่ยนแปลงตัวเองขนานใหญ่ (ส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนไปก็เป็นเพราะความชีช้ำ ที่ช่วงหลังๆมานี้ งานของลุงเป็นที่ผิดหวังของนักดูหนังกันมาก) Match Point ... ได้เปลี่ยนรูปโฉม วู้ดดี้ อัลเลน เสียหมดจด เอาตั้งแต่ ความเป็นหนังแนวทริลเลอร์ ดรามา ซึ่งเป็นงานที่คนดูหนังไม่เคยเห็นลุงวู้ดดี้จับมาก่อนเลย ไล่ไปจนถึงโลเคชั่นของหนัง ...ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีก็มีแต่ นิวยอร์ค เป็นฉากหลังในหนังของลุงเท่านั้น นี่คือการออกนอกประเทศครั้งแรกของหนังวู้ดดี้ อัลเลน ...ซึ่งเมืองหลวงของผู้ดีอังกฤษ "ลอนดอน" ได้แจ๊คพอตมาในโอกาสนี้ Match Point อาจจะเป็นหนังที่ไม่ค่อยเหมาะกับคนที่ไม่ชอบหนังที่มีทางการเล่าเรื่องแบบเรื่อยๆไปเรียงๆ พยายามเน้นปูพื้นความสัมพันธ์ของตัวละคร ...ถ้าคุณเคยเบื่อหน่าย กับรักสี่เส้าใน "Closer" หรือว่าไม่ชอบใจการประดิษฐ์ความสัมพันธ์แบบเชื่องช้า อย่างเช่น หนังชู้เกาหลี "April Snow" ...หนังรักสัมพันธ์สวาทเรื่องนี้ คุณก็อาจจะจำเป็นต้องมองข้ามมันไปอย่างน่าเสียดาย ...แต่ถ้าคุณไม่ใช่ประเภทนี้แล้ว ขอรับประกันว่าหนังเรื่องนี้ เป็น "หนังที่คุณต้องดูให้ได้" Match Point เต็มไปด้วยองค์ประกอบอันมีคุณภาพ ในตัวหนังที่สร้างออกมาได้สมบูรณ์ ... ในส่วนของบทหนัง จากฝีมือของผู้กำกับเอง แทบจะไม่มีอะไรให้ต้องติ วู้ดดี้ อัลเลน สามารถสร้างเอาเรื่องราวที่จับต้องอารมณ์ด้านลึกของคนดูได้อย่างอยู่หมัด บทหนังได้สอดคล้องเอาประเด็นทางสังคมของคนยุคปัจจุบัน มาเล่าได้อย่างลงตัว ...พลอตหลักที่พูดถึง ความรักสามเส้า และพลอตรองที่เสนอ เรื่องของฐานะ เรื่องของชีวิตคู่ และเรื่องของครอบครัว ถูกวางลงไปให้สอดแทรกกับการเล่าเรื่องที่เน้นการ Slow But Sure ...ไดอะล็อคตัวละครออกแบบมาได้อย่างคมคาย ในบางคำพูดมันก็ชวนขบขัน แต่ในบางคำพูดมันก็ชวนให้เราคิดตามตัวละครไปด้วย ...และจุดหักมุม ที่ทำให้คนดูอย่างผม เกิดอึ้ง รู้สึกทึ่ง และฮาออกมาอย่างเจ็บแสบ แม้ว่าส่วนของบทหนังดูจะเป็นส่วนที่ทำออกได้อย่างเข้าทีแล้ว แต่ส่วนของการกำกับที่ต้องเดินตามควบคู่กันไป ...ยังคงขาดความกระชับ มีฉากบางฉากที่ถูกวางเอาไว้ให้สำคัญ และวางลงไปในหนังเพื่อยืดเรื่องราว แต่ในความรู้สึกแล้ว ถ้าตัดมันออกไปก็คงไม่ทำให้หนังหลุด หรือเข้วไปด้วย (เช่น ฉากในโรงละคร ที่ คริส พยายามจะขืนใจ โนล่า ...แม้ว่าหนังจะพูดให้เรารู้ว่า โนล่ารู้สึกอย่างไรกับคริส แต่ถ้าตัดออกไปเราก็ยังคงเข้าใจได้ว่า โนล่า นั้นคิดอะไรอยู่ หรือว่าเป็นฉากที่ โคว์ เดินดูงานศิลปะกับเพื่อนสาว ที่ใส่เข้ามาอย่างโดดๆ ไม่สำคัญอะไร) ในด้านการแสดงก็เรียกว่า คัดสรรมาได้อย่างมีฟอร์ม ...แต่ละคนรับหน้าที่ในตัวละครอย่างซื่อตรง โดยเฉพาะสองพระนาง ที่ปะฝีมือกันอย่างเข้ารส ..."โจนาทาน รีส เมเยอร์" อาจจะดูเป็นหน้าใหม่อยู่ก็จริงแต่ ฝีมือการแสดงก็จัดได้ว่าเข้มข้น จัดจ้าน ถือได้ว่า Match Point เป็นผลงานแจ้งเกิดได้เลย ส่วน "สการ์เล็ต โจแฮนสัน" ก็ทำให้ผมลืมภาพลักษณ์นิ่มๆใน Lost In Translation จนสนิท ด้วยหุ่นสะโอดสะอง หน้าตาที่ชวนหลงชวนเคลิ้มของเธอ บทบาทของ โนล่า สร้างความเผ็ดร้อนให้หนังเนิบๆเรื่องนี้ได้อย่าง เต็มรัก ... "เอมิลี่ มอร์ติเมอร์" อาจจะไม่โดดเด่นเท่าพระนาง แต่การสวมบทเป็นภรรยาหลวงของเธอก็ทำออกมาได้ดี เป็นตัวละครที่จะว่าน่าสงสารก็ใช่ หรือน่ารำคาญก็ยังถูก Match Point ...หนังรักในด้านมืด ของ วู้ดดี้ อัลเลน จะพาคุณไปสำรวจจิตใจ เบื้องลึก และความสำนึก ถึงการมีชู้ของมนุษย์ ...ความรู้สึกที่ต้องซ่อนเร้น พฤติกรรมอันเกินห้ามใจ การโดนล่อลวงตกบ่วงที่ถึงกับทำให้คนหลายคนเจ็บตัวมานักต่อนักแล้ว ...ความสนุกนั้นเป็นเพียงแค่ของนอกกาย แต่ความรู้สึกภายในเมื่อชมหนังจบอาจจะทำให้คุณไม่กล้าผิดศีลข้อ 3 เข็ดขยาดกับการมีชู้ หรือแอบกิ๊กกับชาวบ้านไปเลยก็ได้ ... หนังเรื่องนี้ ผมขอแนะนำครับ... ดู{ดี} วิธ มายเซลฟ์ : 1. บทภาพยนตร์อันคมคาย ดีสมการได้รับเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ 2. การแสดงของ โจนาทาน รีส เมเยอร์ และ สการ์เลต โจแฮนสัน อันโดดเด่น 3. "ลอนดอน" ในมุมมองของ วู้ดดี้ อัลเลน ขึ้นกล้อง ดูดี ดูงามไปซะทุกมุม ดู{ด้อย} วิธ มายเซลฟ์ : การขาดความกระชับ ฉากบางฉากถูกใส่เข้ามาเพื่อยืดเวลาของหนังโดยเปล่าประโยชน์ เกรด A- ขอเชิญทุกท่านเสนอความคิดเห็นกัน... 1 Comment ของคุณ คือ 1 Happy ของเจ้าของบล็อก ขอบคุณมากครับ
Create Date : 05 พฤษภาคม 2549
Last Update : 5 พฤษภาคม 2549 17:05:23 น.
3 comments
Counter : 1976 Pageviews.
โดย: เข็มขัดสั้น วันที่: 5 พฤษภาคม 2549 เวลา:17:14:51 น.
โดย: นายเบียร์ วันที่: 5 พฤษภาคม 2549 เวลา:18:50:45 น.
โดย: คนขับช้า วันที่: 30 พฤษภาคม 2552 เวลา:16:47:06 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [? ]
สวัสดีครับ ...บล็อคแก๊งค์ คิดไม่ออก จะพูดอะไรดี พูดถึงประวัติตัวเอง... ก็ดูไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจ พูดถึงนิสัยตัวเอง... ก็มีทั้งดีทั้งร้ายสับเปลี่ยนหมุนเวียนไป เฉกเช่นคนธรรมดา พูดถึงหน้าตา... ก็บ้านๆแบบพื้นๆ น้องๆ แบรด พิตต์ หลานๆ ทอม ครูซ เท่านั้นเอง (แหวะ!!!) ตอนนี้ อาจยังคิดไม่ออก แต่ถ้าตอนไหน คุณชวนผมคุย ตอนนั้นผมก็พร้อมจะคุยกับคุณ ในทุกเรื่อง ได้ทุกแนว เพียงแต่ขอยกเว้น ...เรื่องส่วนตั้ว ส่วนตัว ขอขอบคุณ ในมิตรภาพของทุกท่าน ความรู้จักที่คุณมีให้ผม ...ผมขอน้อมรับ ในทุกสิ่ง ที่ท่านมีต่อผม ไม่ว่าจะด้วยภาษา หรือว่าความรู้สึก ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ...แต่ถ้านี่ยังน้อยไป ก็อย่าลืม ...เมล์ของผม แอดกันได้นะ once_upon.a.man@hotmail.com My @ http://twitter.com/once_upon_a_man ขอขอบคุณ และสวัสดีครับ ...รักนะ คนอ่านผลงานบทความที่อยู่ใน Blog นี้ สามารถให้คนอื่นนำไปเผยแพร่ในที่อื่นๆได้ แต่ต้องขอให้แจ้งทางเจ้าของ Blog ก่อน ว่าจะนำไปใช้เพื่อประโยชน์ในทางที่ถูก พร้อมทั้งให้เครดิตของเจ้าของผลงานตัวจริงด้วย โดยห้ามทำการดัดแปลงแก้ไข ด้วยภาษาของตัวคุณเอง เพื่อทำให้เจ้าของ Blog เสียหาย ขอความกรุณา อย่าละเมิดสิทธิ์กันเลยครับ เพราะกว่าจะเป็น กว่าจะเกิดผลงานขึ้นมาแต่ละชิ้นได้ อาจคิดขึ้นมาได้ไม่ยาก แต่มันก็ลงมือทำไม่ง่ายเช่นเดียวกัน ถ้าท่านผู้ใดไปพบว่า มีคนนำผลงานของเจ้าของ Blog ไปเผยแพร่ นำเสนอ ในทางที่ไม่ดีไม่ชอบ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อตัวเจ้าของ Blog กับคนอื่นๆ หรือว่าสังคม ..ขอให้แจ้งมาทาง "หลังไมค์" ของเจ้าของ Blog เลยทันที ขอบคุณมากๆครับ
1 2 3 4 5 6
7 8 9 10 11 12 13
14 15 16 17 18 19 20
21 22 23 24 25 26 27
28 29 30 31
ปล. (กระซิบครับ) ว่างๆ ไปเที่ยวบล็อกผมได้เสมอนะครับ ยินดีต้อนรับครับ จุ๊ๆๆๆ