Poseidon ... ความมันส์ล้นต้นคอ
เรือล่มตั้งแต่ปากอ่าว คือ Poseidon ตอนต้นเรื่อง ... ความไม่มีต้นสายปลายเหตุ ไม่มีที่มาที่ไป ไม่สมเหตุสมผล บทจะมาก็มากันง่ายๆ คลื่นยักษ์ตัวร้ายที่พัดพาความวินาศมาให้กับพระเอกของเรื่อง แทบไม่ได้โชว์พาวอะไรให้คนดูรู้สึกเกรงกลัวไปกับมันเลยสักนิด แม้ภาพซีจีที่เห็นมันจะเนียนเหมือนจริง แต่ความน่าขนลุกเทียบไม่ได้กับสึนามิที่เราผ่านพ้นมาเลย แล้วยังกับกลุ่มตัวละครหลักที่จะต้องมาร่วมชะตากรรม และวีรกรรมหนีตายด้วยแล้วอีก คนดูยังแทบไม่ทันได้รู้จักใครๆจนสนิทใจเลย ปูพื้นคาแรกเตอร์ก็ปูแบบผิวๆ แสดงความรู้จักแบบผ่านๆ หนังเมินที่จะใส่ใจในการบิวต์อารมณ์ร่วมในส่วนนี้ไปอย่างไม่น่าให้อภัย ซึ่งส่งผลให้คนดูเราๆ ก็เมินเฉยในบทสรุปของตัวละครแต่ละตัว แม้ต่อให้หนังได้ทีมนักแสดงคุณภาพที่ต่างเล่นได้ดีมีฟีลก็แล้ว แต่กับคนดูก็ไม่ใคร่จะผูกพันใคร ไม่เห็นใจคนไหนเป็นพิเศษเลย... บทหนังของ Poseidon ก็เปรียบเสมือนคลื่นยักษ์ที่ซัดโครม คว่ำเรือใหญ่นี้ได้เพียงแค่ใช้ลำคลื่นลูกเดียว ... ถ้าจะถามหาความสมเหตุสมผล จากหนังบันเทิงสักเรื่องแล้ว... หนังเรื่องนี้ยังไม่ใช่เรื่องนั้นแน่นอน แต่ถ้าจะถามหาความสนุกสมบุกสมบันแล้ว Poseidon บรรทุกมัน(ส์)เอาไว้เต็มลำเรือ "เล็กๆไม่ ใหญ่ๆทำ" ...ถือเป็นสโลแกนประจำตัวของผู้กำกับ วูล์ฟกัง ปีเตอร์สัน (ที่ขอยืมใช้มาจากเครื่องถ่ายเอกสาร Mita อีกทีหนึ่ง) แค่ได้ยินชื่อ ก็เป็นที่รู้กันว่าหนังของเขาแต่ละเรื่องล้วนเป็นเมกกะโปรเจคต์แน่นอน ตั้งแต่งานแรกของเขาอย่าง Das Boot แล้วก็ไม่เห็นว่าในเครดิตของเขาจะมีหนังเรื่องไหนที่มีคำว่า "เล็ก" ตีตราบอกไว้เลย จึงไม่มีอะไรให้แปลกใจ กับ Poseidon ที่ผกก.คนนี้ ถูกวางตำแหน่งให้เข้ามารับหน้าที่เป็นกัปตันเดินเรือ ตั้งแต่ประกาศสร้างกันเลย Poseidon เปิดตัวมาด้วยฉากแสดงแสนยานุภาพ ของเรือสำราญลำโต ที่คนดูเราๆต่างก็รู้ว่ามันคือ ซีจี อย่างถ้วนทั่ว ...แม้ว่าจะทำการโกหกได้ไม่เนียน แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่า ภาพที่เห็นอยู่บนจอ มันช่างเนียนสวยหรูหรา และสร้างความตื่นตาตื่นใจได้เป็นอย่างมาก หลังจากตะลึงใจกับฉากเปิดตัวแล้ว... 10 นาทีต่อมา ก็เป็นอย่างที่ผมได้กล่าวไปในย่อหน้าข้างต้นทั้งหมดทั้งมวล (ข้อแนะนำสำหรับใครที่จะไปดูหนังเรื่องนี้ อยากให้เปลื่ยนความคิดเอาจริงเอาจังกันซะก่อน แล้วถือคติเสียว่า ดรามาช่างมัน เอาแอ๊คชั่นกันดีกว่า...) ถ้าใครปฏิบัติตามข้อแนะนำนี้ได้ ...หลังจากช่วงเวลานั้นเป็นต้นมา ก็เตรียมคาดหวังกับฉากแอ๊คชั่น และความระทึกใจ ขบวนใหญ่เอาไว้เลย คงจำเป็นต้องใช้สารอะดรีนาลีนจำนวนมากอย่างฟุ่มเฟือย ความสนุกโถมทับเข้าใส่คนดูอย่างบ้าคลั่ง เล่นงานกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ...ผกก. วูล์ฟกัง จับคนดูมัดติดกับเก้าอี้ ล่ามตรวนกันหนีไว้อีกต่างหาก 70 กว่านาทีที่เข้มข้นไปด้วยความมันส์ และอารมณ์กดดัน ช่วงเวลาที่ Poseidon กำลังจมดิ่งลงใต้ผืนสมุทร คือ ช่วงเวลาแห่งการหนีตายของกลุ่มตัวละคร และกลุ่มคนดู ... ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ผู้สังเกตการณ์เช่นผม ออกจากโรงหนังมาด้วยอาการล่อแล่แช่น้ำเกลือ กันเลยทีเดียว Poseidon รัวหมัดหนักน็อกคนดูเอาดื้อๆ ได้หลายลูก จุกในอารมณ์ลุ้นไปก็หลายฉากอยู่ หมัดแรกที่เรียกคะแนนกรรมการอย่างเต็มเหนี่ยว คงต้องให้กับ ฉากปีนช่องลิฟท์ แม้จะใช้ลูกเล่นเก่าๆ เอาสถานการณ์เดิมๆมาใส่ แต่มันก็ยังได้ผลต่อจิตใจคนดูกันตรงๆ (จะสงสารก็ว่าสงสาร แต่เป็นเรา เราก็ต้องทำ) จนถึงหมัดต่อมา ฉากหนีน้ำในช่องแอร์ ก็เล่นในสถานการณ์ความกดดัน กับคนดูเอาอย่างเต็มรัก ...แล้วสำหรับใครที่กลัวที่แคบแล้ว อาจมีหลอนตามไปในทันที ...ยังมีหมัดอีกหลายๆลูก ที่กระหน่ำใส่อย่างบ้าคลั่ง ก็อาจจะพอมีช่วงพักให้คนดูหายใจหายคออยู่บ้าง แต่หนังก็ให้แค่ประเดี๋ยวเดียว หมัดลูกต่อๆมาก็ประเคนรอรัวต่อเนื่องอีกอย่างเมามันส์ ความมันส์ชั้นดีที่ Poseidon มอบให้กับคนดูนั้น ถือเป็นการอภินันทนาการจาก งานโปรดักชั่นที่ทำได้อย่างถึงพร้อม ... ทุกอย่างล้วนดูสมจริง และมีความน่าเชื่อถือ กระทั่งกับงานซีจีก็ไม่มีร่องรอยของความไม่แนบเนียนหลงมาให้เห็น การกำกับภาพ การตัดต่อ ก็ควบคุมอารมณ์กดดันในคนดูได้อย่างสุดๆ และที่ต้องยกย่อง ก็คือ ฉากภายในเรือ ที่ทุ่มทุนสร้างต่อต้านแรงโน้มถ่วง ให้เชื่อขนมกินไปเลยว่า ใครจับผิดหนังได้ คนนั้นล่ะโคตรเซียน โคตรเจ๋งของจริง ในทุกฉากของความสนุก กับหมัดทุกลูกที่หนังอัดเข้าไปนั้น คงจะไม่ได้ผลเด็ดขาดเป็นอย่างแน่ ถ้า Poseidon ไม่ได้ทีมนักแสดงที่เข้าขั้น ... การที่หนังไม่เจาะลึกตัวละครตัวไหนเป็นพิเศษ จึงเป็นแต้มต่อของดาราแต่ละคนที่จะได้โอกาสงัดสภาวะอารมณ์ความกดดัน มาเล่นอินใส่กันอย่างเต็มที่ ...นักแสดงทุกคนล้วนแต่มีพลังแรงขับเคลื่อนที่ดี เมื่อหนังเดินหน้าไต่ระดับความระทึกไปไม่ยอมหยุดหย่อน กลุ่มคนหนีตายต่างก็สู้ประชันความสามารถอย่างไม่ยอมหยี่หระ ตัวละครแต่ละตัวล้วนก็มีคาแรกเตอร์เฉพาะตัวให้ได้เล่น นักแสดงแต่ละคนต่างก็สามารถตีโจทย์ของตัวเองได้ และให้การแสดงดูน่าเชื่อถือ ...แม้ไม่มีใครที่ทำหน้าที่ออกมาได้โดดเด่นเป็นพิเศษก็ตาม แต่ก็ไม่มีใครที่หลุดจอไป ในช่วงเวลานาทีที่เขาหรือเธอกำลังขึ้นกล้อง เหมือนว่าที่ผมกล่าวมานี้ กำลังบอกคุณๆว่า ทีมนักแสดง คือ อีกหนึ่งส่วนที่ดีของ Poseidon ...ความจริงส่วนหนึ่งต้องบอกว่าใช่ แต่ความจริงอีกส่วนที่ผมเคยหลุดบอกออกไปแล้วในย่อหน้าแรกนั้น ในย่อหน้านี้มันกำลังจะย้อนกลับมาทำลายส่วนที่ดีของหนังเรื่องนี้ไป ... เพราะบทหนังที่ไม่ถึงคุณภาพนั่นเอง ที่ทำให้ทีมนักแสดงเรื่องนี้ แทบจะไม่มีความหมายในใจคนดูเลย มันเป็นเพียงแค่ความอินชั่วประเดี๋ยวของพวกเราเท่านั้น และเมื่อออกจากโรงมาแล้ว เขาพวกนั้นก็ถูกลืมเลือนไปด้วยในบัดดล ...ความสนุกลุ้นระทึกคุ้มค่าตั๋วในเวลา 99 นาทีที่ประดังเข้ามา กลายเป็นเพียงแค่ความทรงจำจางๆที่เรามีให้ต่อหนังเรื่องนี้ "ความประทับใจ" ที่ควรมี ยังเรียกหาไม่ได้จากหนังเรื่องนี้ ... Poseidon ...เป็นอีกหนึ่งหนังป๊อบคอร์นชั้นดีที่มีให้เห็นในทุกฤดูกาลซัมเมอร์ อยากรู้ว่า "ความมันส์ล้นต้นคอ" เป็นอย่างไรต้องมาลองพิสูจน์ ยิ่งถ้าคุณไม่คิดจริงจังกับชีวิต หนังสนุกฉาบฉวยเรื่องนี้คุ้มค่าตั๋วเป็นแน่ ดู{ดี} วิธ มายเซลฟ์ : 1. ความกดดันสุดกู่ ความอึดอัดสุดขีด ความระทึกที่หนังมีให้เราอย่างเต็มเหนี่ยว 2. การแสดงชั้นดีของทีมดาราคุณภาพ 3. งานโปรดักชั่นที่สมจริงในทุกด้าน ดู{ด้อย}วิธ มายเซลฟ์ : 1. บทหนังที่ไม่สมเหตุสมผล 2. การตัดขาดรายละเอียดของเหตุการณ์ และตัวละคร อันเป็นหัวใจสำคัญสำหรับหนังแนวหายนะ เกรด B+ ขอเชิญทุกท่านเสนอความคิดเห็นกัน... 1 Comment ของคุณ คือ 1 Happy ของเจ้าของบล็อก ขอบคุณมากครับ
Create Date : 14 พฤษภาคม 2549
Last Update : 14 พฤษภาคม 2549 19:32:44 น.
3 comments
Counter : 3549 Pageviews.
โดย: เข็มขัดสั้น วันที่: 14 พฤษภาคม 2549 เวลา:20:32:05 น.
โดย: merf1970 IP: 124.120.7.177 วันที่: 14 พฤษภาคม 2549 เวลา:20:50:00 น.
โดย: Dark Phoenix IP: 203.114.100.59 วันที่: 24 กันยายน 2549 เวลา:19:18:20 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [? ]
สวัสดีครับ ...บล็อคแก๊งค์ คิดไม่ออก จะพูดอะไรดี พูดถึงประวัติตัวเอง... ก็ดูไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจ พูดถึงนิสัยตัวเอง... ก็มีทั้งดีทั้งร้ายสับเปลี่ยนหมุนเวียนไป เฉกเช่นคนธรรมดา พูดถึงหน้าตา... ก็บ้านๆแบบพื้นๆ น้องๆ แบรด พิตต์ หลานๆ ทอม ครูซ เท่านั้นเอง (แหวะ!!!) ตอนนี้ อาจยังคิดไม่ออก แต่ถ้าตอนไหน คุณชวนผมคุย ตอนนั้นผมก็พร้อมจะคุยกับคุณ ในทุกเรื่อง ได้ทุกแนว เพียงแต่ขอยกเว้น ...เรื่องส่วนตั้ว ส่วนตัว ขอขอบคุณ ในมิตรภาพของทุกท่าน ความรู้จักที่คุณมีให้ผม ...ผมขอน้อมรับ ในทุกสิ่ง ที่ท่านมีต่อผม ไม่ว่าจะด้วยภาษา หรือว่าความรู้สึก ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ...แต่ถ้านี่ยังน้อยไป ก็อย่าลืม ...เมล์ของผม แอดกันได้นะ once_upon.a.man@hotmail.com My @ http://twitter.com/once_upon_a_man ขอขอบคุณ และสวัสดีครับ ...รักนะ คนอ่านผลงานบทความที่อยู่ใน Blog นี้ สามารถให้คนอื่นนำไปเผยแพร่ในที่อื่นๆได้ แต่ต้องขอให้แจ้งทางเจ้าของ Blog ก่อน ว่าจะนำไปใช้เพื่อประโยชน์ในทางที่ถูก พร้อมทั้งให้เครดิตของเจ้าของผลงานตัวจริงด้วย โดยห้ามทำการดัดแปลงแก้ไข ด้วยภาษาของตัวคุณเอง เพื่อทำให้เจ้าของ Blog เสียหาย ขอความกรุณา อย่าละเมิดสิทธิ์กันเลยครับ เพราะกว่าจะเป็น กว่าจะเกิดผลงานขึ้นมาแต่ละชิ้นได้ อาจคิดขึ้นมาได้ไม่ยาก แต่มันก็ลงมือทำไม่ง่ายเช่นเดียวกัน ถ้าท่านผู้ใดไปพบว่า มีคนนำผลงานของเจ้าของ Blog ไปเผยแพร่ นำเสนอ ในทางที่ไม่ดีไม่ชอบ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อตัวเจ้าของ Blog กับคนอื่นๆ หรือว่าสังคม ..ขอให้แจ้งมาทาง "หลังไมค์" ของเจ้าของ Blog เลยทันที ขอบคุณมากๆครับ
1 2 3 4 5 6
7 8 9 10 11 12 13
14 15 16 17 18 19 20
21 22 23 24 25 26 27
28 29 30 31