ก็เคยได้ยินได้ฟังและได้ดูหนัง มาหลายหลากเรื่องแล้ว ที่ทำให้เราได้เห็นว่า การจะได้มาซึ่งชัยชนะ มันต้องมีการเสียสละ ..บางครั้ง อาจจะเสียด้วยความรู้สึก ความอ่อนไหว หรืออีกบางครั้ง ก็ย่อมหนักหน่วงอาจต้องแลกกับชีวิตน้อยๆของคนเราเลยก็ได้เช่นกัน

ซึ่งในหนังใหม่ล่าสุดจากการรับหน้าที่เป็นผู้สร้างของ “ปีเตอร์ โฮ-ซัน ชาน” (ผู้กำกับ “The Warlords” รวมถึงหนึ่งในสามตอนของ “Three” ภาคแรก ..และที่สำคัญเขายังเป็นคนจีนที่พูดไทยได้ค่อนข้างชัดเจนเลยทีเดียว เพราะช่วงชีวิตหนึ่งเคยเติบโตจากที่นี่) อย่าง “Bodyguards and Assassins” หรือว่าในชื่อไทย “5 พยัคฆ์พิทักษ์ซุนยัดเซ็น” ..ก็ว่าด้วยพลอตที่ต้องมีใครสักคนยอมเสียสละ เพื่อความยิ่งใหญ่เกรียงไกรของใครบางคน หรือบางสิ่งบางอย่าง

แต่กระนั้น นี่ก็ไม่ใช่เรื่องที่แต่งเสริมปรุงรสขึ้นมาเพื่อความสนุกแบบหนังเรื่องหนึ่ง ..แต่เป็นการได้นำเอาเรื่องราวเศษเสี้ยวหนึ่งที่มีอยู่จริง ของบุรุษผู้หวังเปลี่ยนแผ่นดินจีนให้ยิ่งยง นามว่า “ซุนยัดเซ็น” มาเล่าผ่านจอหนัง ...เพื่อจะเป็นการทำให้ชาวมังกรได้เรียนรู้ว่า ก่อนที่ทุกวันนี้ พวกเขาจะลืมตาอ้าปากได้ คนๆหนึ่งที่ต้องขอบคุณก็คงจะพ้นไปจากท่านบุรุษหัวทันสมัยคนนี้ เป็นไม่ได้

และแม้ในความเป็นจริง มันอาจจะผิดจากประสงค์ที่ ซุนยัดเซ็น เคยตั้งเป้าเอาไว้ว่า จะเปลี่ยนจีนด้วยประชาธิปไตย ...แต่ก็คงเพราะความเป็นไปไม่ได้นี่แหละมั้ง ที่มีส่วนทำให้เราได้เห็น จีนในวันนี้ กลายเป็นมหาอำนาจบิ๊กเบิ้มของโลก ในระดับที่อาจเป็นรองๆมะกัน เพียงแค่นั้น ..แล้วมันก็เป็นไปได้ ทั้งๆที่ จีน ยังคงหนักแน่นในความเป็นชาตินิยมแท้ๆ (ขณะที่อื่นเขาเป็นทุนนิยมกันไปทั้งหมด)






Bodyguards and Assassins อาจจะมาพร้อมกับรูปลักษณ์การเป็นหนังแอ๊คชั่น ที่เดินเรื่องไปพร้อมๆกับการที่เหล่าตัวละครเอก ต้องสวมบทบาทเป็นบอดี้การ์ด คอยคุ้มครองป้องชีวิตคนหนึ่งคนที่ถือเป็น VIP ระดับฝังเพชรของพวกเขา เพื่อให้ไปรอดจากคมกระสุน คมดาบ คมธนู จากฝูงแร้งนักฆ่า ที่หมายหัวตัวการเอาถึงตาย.. แต่เอาเข้าจริง ในความสนุกแบบหนัง ก็ยังแฝงไว้ด้วย รูปรส กลิ่น เสียง ที่บ่งบอกถึงความเป็นหนังจีน ได้อย่างเต็มคราบ และขณะเดียวกันนั้น มันก็มีสาระ ไม่ได้เป็นเพียงหนังเรื่องหนึ่งที่ดูเรื่อยๆเปื่อยๆแล้วก็จบไป ไม่มีอะไรต้องใส่ใจ

ผู้กำกับ “เท็ดดี้ ชาน” อาจจะดูโนเนมสำหรับผมในแง่ความรู้จัก แต่ถ้าดูกันที่ฝีมือการทำหนังแล้ว คนๆนี้ก็ถือว่า ไม่ธรรมดา เลยทีเดียว.. โดยเฉพาะกับความน่าแปลกใจ ที่เล่าเรื่องของ Bodyguards and Assassins ออกมาในเชิงของหนังดรามาเป็นหลักสำคัญ ทั้งๆที่ถ้าอ่านแต่เรื่องย่อ เหมือนว่าพลอตคงจะส่งให้เรื่องทั้งเรื่องเต็มไปด้วยการต่อสู้ หรือเอาแต่หนีตาย ก็ยังได้

หนังหมดไปกับเวลานับครึ่งเรื่องแรกได้เลยทีเดียว สำหรับการปูพื้น เล่าความเป็นมาของกลุ่มตัวละครหลัก ที่จะต้องมีบทบาทในการคุ้มครองตัวการของเรื่อง ในครึ่งหลัง... ซึ่งแทนที่ จะเอาความสนใจมุ่งตรงไปหา ซุนยัดเซ็น และใช้เวลาไม่นานก็สามารถเปิดตัวคาแรกเตอร์ที่สำคัญที่สุดได้แล้ว หนังกลับเลือกที่จะเล่าถึงตัวตนของ ซุนยัดเซ็น ให้น้อยที่สุด(เท่าที่จะทำให้ยังเห็นว่า เขาคือ บุคคลสำคัญ) แล้วปล่อยให้เราได้ทำความรู้จักกับผู้คนที่ต้องเสียสละ เสียอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะในแง่แนวความคิด การกระทำ ความรู้สึก หรือว่าความปรารถนา

ซึ่งนั่นต้องจัดว่า เป็นการตัดสินใจเลือกที่จะเล่าได้อย่างฉลาดเลยทีเดียว ..เพราะสุดท้าย เราจะไม่ลุ้นว่า ซุนยัดเซ็น จะรอดมั้ย? (ยังไง ความจริง เขาก็ไม่ตาย และมันก็ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่แล้ว) แต่เราจะหันไปเอาใจช่วยให้ เหล่าบอดี้การ์ด ควรจะรอดแทน

ยิ่งโดยเฉพาะตัวผม ที่ไม่เคยได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์เรื่องนี้ มาก่อนด้วยแล้ว ..การได้มีลุ้น ก็ยิ่งช่วยเพิ่มดีกรีให้ตัวเอง รู้สึกเห็นใจในเหล่าตัวละครผู้น้อยเหล่านี้ แบบไม่จำเป็นต้องพยายามบิวต์ หรือยัดเยียดความน้ำเน่าให้ในแบบคล้ายหนังแนวๆนี้อีกหลายเรื่อง

ถือได้ว่า ผู้กำกับ สามารถรับมือกับการเขียนประวัติศาสตร์ในหนัง ให้คนดูเกิดเชื่อได้อยู่ในมือของเขา ..แม้ทว่ากับบางสิ่งบางอย่าง จะยังรู้สึกได้ถึงการดัดแปลงเพื่อเป็นหนัง ก็เถอะ

ซึ่งไอ้ส่วนที่ดัดแปลงนี่แหละ ที่บางเรื่องบางราว ก็ได้แอบทำร้ายตัวหนังเองอยู่พอควรเหมือนกัน ..ยิ่งโดยเฉพาะกับ ความดูเว่อร์ ในช่วงครึ่งหลัง ...ทั้งๆที่ก็รู้แหละว่า มันคือ ส่วนที่องค์แอ๊คชั่นได้ลงอย่างเต็มตัว (เรื่องเว่อร์ เกิดมี ก็เป็นสิ่งปกติ) แต่ก็รู้สึกเชื่อได้ไม่เต็มสักเท่าไหร่ ..ไม่ว่าจะในแง่ความอึดของตัวละครบางตัว(ทั้งฝ่ายดีและร้าย) หรือว่าการกระโดดปีนป่ายขั้นเทพ ของตัวละครที่แสดงโดย “ดอนนี่ เยน” ทำให้ดูเหมือนว่า เขาไม่ใช่คน ยังไงยังงั้น

แต่ถึงกระนั้น ถ้าไม่คิดอะไรกับตรงนี้มากมาย ..ก็พอจัดว่า ช่วงครึ่งหลัง สอบผ่าน ได้เหมือนกัน ในแง่ของการสร้างความระทึก แอบกดดัน ได้ในระดับที่ทำให้รู้สึกว่า หนึ่งชั่วโมงเพื่อชาติของซุนยัดเซ็น มันดูยาวนานจริงๆ






แต่ที่ผมรู้สึกว่า Bodyguards and Assassins ทำออกมาได้ดีจริงๆ ..ก็คือ การทำให้เราได้เห็นว่า ถ้าคนพันธุ์มังกร คิดจะทำอะไรแล้ว ความจริงจังก็จะเกิดอย่างเข้มข้น ..แต่ขณะเดียวกันนั้น ในแง่ของความสัมพันธ์ของคนด้วยกัน พวกเขาก็ยังคงมีแง่งามแฝงอยู่ ดังเช่น การมีความเคารพนบนอบ (ในฐานะของศิษย์กับอาจารย์ ..แม้ว่าความต้องการจะต่างกันโดยสิ้นเชิง) การมีความเป็นมิตรกับทุกคน ไม่ถือตัวเองเป็นใหญ่ (ในฐานะของคนรวยกับคนจน ..ค่าของเงิน ไม่ได้วัดคุณค่าของคน) การขอได้ช่วยเหลือ ทั้งๆที่ตัวเองไม่ควรมีสิทธิ์ (ในฐานะของตำรวจกับชาวบ้าน ..แม้เบื้องบนจะไม่เห็นควร ก็เลือกที่จะแอบๆ ทำเพื่อช่วยคนชาติเดียวกัน) ...และที่สำคัญ ก็คือ การได้มีส่วนทำอะไรก็ตามให้ชาติที่ตัวเองรัก ..สิ่งไหนที่เห็นว่าจะทำให้ชาติเจริญ ทัดเทียมกับอารยะประเทศได้ สิ่งนั้นก็จะปลุกสัญชาตญาณมังกรให้ตื่นขึ้นมา และพร้อมกายใจ ยอมที่จะเสียสละทุกสิ่งทุกอย่าง เพียงให้ชาติของตัวเองได้มีสิ่งที่ดีเกิดขึ้นในวันข้างหน้า ..แม้มันจะเป็นวันที่เขาอาจต้องตายตาหลับไปแล้ว แต่ลูกหลานก็จะได้รับมันเอาไว้อย่างภาคภูมิใจ

พอได้ดูหนังเรื่องนี้ แล้วนึกมาย้อนดูคนแถวนี้ ..ผมก็ทำได้แต่เหนื่อยใจ ต้องถอนใจ ที่ต้องทนเห็น ความรักชาติแบบทำลายตัวเอง (ทำลายคนอื่นไปๆมาๆ ก็เท่ากับทำลายตัวเองนั่นแหละ) ...แทนที่จะส่งเสริมแง่งาม ก็ดันมีแต่ทำให้บ้านเมืองดูติดลบในสายตาของใครคนอื่นเขาเพียงเท่านั้นเอง

ในฐานะที่ผมมีเชื้อมังกรแฝงในตัวตนอยู่ครึ่งๆ การได้ดู Bodyguards and Assassins ได้ทำให้ผมเกิดความภูมิใจอยู่ลึกๆ ที่ได้เกิดมาเป็นลูกหลานคนจีน ...ได้เห็นว่าการก้าวมาเป็นมหาอำนาจของเขา มันมีที่มาจากคววามร่วมมือร่วมใจสุดแรงเกิดของคนที่รักชาติยิ่งชีพ (อันเป็นแนวทางของชาตินิยมแหละนั่น) ..แม้อุปสรรคใดๆหมายจะทำลาย พวกเขาก็ไม่หวั่น และเข้าขวางมันอย่างกล้าหาญ โดยที่ไม่สนใจว่าตัวเองจะไม่มีอาวุธใดๆในมือก็เหอะ

ในขณะที่เชื้ออีกครึ่งในร่างของผม กำลังรู้สึกผิดหวัง กับการเห็นประเทศที่เกิดค่อยๆล้ม อย่างไม่สงบ ..ผมก็ขอใช้อีกครึ่งที่เหลือ ช่วยเชียร์และยินดีไปกับความยิ่งใหญ่เกรียงไกรของชาติมังกร ที่หวังว่าสักวัน อำนาจจะเท่าเทียมกับพี่มะกันได้อย่างไม่เขินอาย






“Bodyguards and Assassins” ...เป็นได้ทั้งหนังดูเอาสนุก อย่างระทึกใจ และในอีกแง่มุมหนึง ก็คือ หนังที่สอดใส่ความมีคุณธรรม เอาไว้ให้เราได้สัมผัส ..ซึ่งถ้าอยากรู้จักความเป็นจีน ในมุมมองของประชาชนคนธรรมดา แล้วละก็ นี่คือ หนังที่น่าสนใจ ใคร่ควรจะลองเข้าไปดู

แม้ไม่ใช่หนังที่ห้ามพลาด หรือต้องแนะนำ ..แต่ ความดีที่มีอยู่ ก็มีค่าพอแก่การได้เชยชม


เกรด B+ ... {}

---

ขอเชิญทุกท่านเสนอความคิดเห็นกัน...
1 Comment ของคุณ คือ 1 Happy ของเจ้าของบล็อก ขอบคุณมากครับ

ผมยินดีเสมอในมิตรภาพของทุกท่าน และบล็อคของผมก็ต้อนรับเสมอในความน่ารักของทุกคน ขอขอบคุณ และสวัสดีครับ

Create Date : 09 มกราคม 2553
Last Update : 9 มกราคม 2553 0:10:39 น.		4 comments
Counter : 1958 Pageviews.
Share Tweet