"Saw 4" ... ชีวิตแค่โดนทำร้าย แต่ที่สุดก็ต้องโดน(จิ๊กซอว์)ทำลาย (มาถึง 4 ครั้ง!)
หลายคนคงคิดเหมือนๆกัน ว่าหนังทริลเลอร์สยองหักมุมสุดตรีนตระกูล "Saw" มันก็ดูจะจบลงด้วยดีในภาคสามก็ได้แล้ว (ให้ถึอซะว่าเป็นการปิดไตรภาค) ...แต่ถึงกระนั้นตราบใดที่หนังมันยังขึ้นชื่อว่าดังและเป็นของขายได้อยู่ ต่อให้ผ่านไปอีกกี่ภาค ผู้สร้างก็สามารถหาเรื่องให้มันเกิดเหตุการณ์ขึ้นอีกได้อยู่ร่ำไป โดยไม่ต้องไปเกี่ยงว่าจะมีใครอยู่หรือใครตาย ...และถึงต่อให้ไม่เหลือใครสักคนที่จะโดนตามกลับมา สุดท้ายก็กลายเป็นสร้างเงื่อนไขขึ้นใหม่ หาอะไรมาจับยัดจับพ่วงให้ขยายความโกยเงินเข้าไปได้อีก แต่ก็ว่ากันไม่ได้เหมือนกันสำหรับกรณีของ Saw ...เพราะถ้าจะบอกว่าภาคสามเป็นภาคที่สมบูรณ์แล้ว ก็ไม่เชิงซะอยู่ีดี ...อย่างน้อยๆ หนังก็ยังทิ้งปมปริศนาบางอย่าง ที่ดูยังค้างๆคาๆ ล่อหลอกให้เราต้องหวลกับไปคิดว่ามันมีส่วนเกี่ยวข้องกันได้เยี่ยงไร แล้วก็ไม่ได้สร้างความค้างคาเอาไว้จนนานนมอีกเช่นเคย ...เมื่อหนึ่งปีถัดมา ทองที่ยังตีตอนร้อนก็ออกร่างมาเป็นขุมทรัพย์แห่งความระทึกสุดสยอง ที่ปลุกจิตคนตายให้กลับมาหลอนกันได้อีกในภาคที่ 4"Saw 4" ...สานต่อจากเรื่องราวภาคสาม ที่จบลงด้วยการตายของคุณลุงจิตวิปริต "จิ๊กซอว์" ที่ดูยังไงๆก็ไม่มีทางฟื้นได้อีก ...เมื่อแพทย์ที่ผ่าชันสูตรศพได้พบกับเทปบันทึกเสียงตกอยู่ในช่องท้องของศพ จิ๊กซอว์ จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งมารับฟัง ...และสิ่งที่จิ๊กซอว์พูดออกมา ก็คือ ความจริงที่ว่า แผนการของเขาจะยังไม่มีวันสิ้นสุดแม้กระทั่งตัวเองจะตายก็ตามไปที ...เว้ากันซื่อๆ ก็คือ มีผู้ดำรงตำแหน่งวิปริต สืบทอดเจตนารมณ์เอาไว้เรียบร้อยแล้ว เรื่องราวในภาคนี้ ได้กำหนดให้ ตำรวจหน่วยสวาทหนึ่งนาย ที่สูญเสียกลุ่มเพื่อนที่เขารักไปให้กับเกมสุดโหด เกิดมีไฟแค้นส่วนตัวกะจื๊กซอว์ จึงพยายามที่จะตามล่าถึงต้นสายโดยไม่สนว่าจะมีใครหน้าไหนมาตามกรีดขวาง ...นั่นจึงเข้าทาง ลุงจิ๊ก ที่จะท้าทายให้ตำรวจนายนี้มาลองสวมบทบาทเป็นตัวเขาเองดูซะบ้าง ด้วยการหาเหยื่อมาวางไว้ตามทางที่นายตำรวจต้องเดินหน้าตามล่า ไปพร้อมๆกับการพิสูจน์ความแน่จริง ว่าเขาเจ๋งพอจะจบเกมการท้าครั้งนี้ได้หรือไม่ การที่หนังตระกูลใบเลื่อยยังเดินทางมาถึง ภาค 4 ได้อย่างหน้าชื่นตาบาน ระรื่นไปด้วยรอยยิ้ม(ที่สะใจของคนสร้าง) ในวันนี้ ...อย่างหนึ่งที่ต้องยินยอม ก็คือ เรื่องของบทหนังจากมันสมองอันชาญฉลาดของคนเขียน ที่เจ๋งพอจะหาทางหลบหลีก สร้างเงื่อนงำใหม่ๆ มาสมทบกับเงื่อนเก่าๆ ได้อย่างน่าเชื่อถือ ...ทั้งๆที่รู้ว่า การสานต่อบางประเด็นอาจจะทำให้คนดูรู้สึกระแคะระคายว่ามันเกินไปหรือเปล่า แต่ถึงกระนั้นคนเขียนก็หาเหตุหาผลมาใส่มากพอที่จะไม่ทำให้ตัวหนังต้องเดินหน้าไปหาทางตัน และอีกอย่างที่ถือว่าเป็นทีเด็ดของหนังตระกูลใบเลื่อยนี้ ก็คือ การสร้างบทเรียนสอนใจคนดูทั้งทางตรงและอ้อม ถึงเรื่องของการมีชีวิตที่เกิดมาเป็น 'คน' ...นั่นจึงเป็นส่วนที่ทำให้ คนเป็นแฟนอาจจะรู้สึกเมินๆเบื่อๆที่หนังยังบังอาจเกิดใหม่มาเรื่อยๆมาก็ตาม แต่สุดท้ายก็เป็นเงื่อนที่ผูกพันให้เรายังอยากตามจะดูมันไปเรื่อยๆอยู่ดี"ดาร์เรน ลินน์ บัวสแมน" ผู้กำกับคนเก่าจากภาค 2 และ 3 ถูกตามกลับมาให้ลากเลื่อยกันต่ออีกในภาคนี้ ...ซึ่งหน้าที่ของเขาก็ยังคงไม่ต่างไปจากภาคก่อนๆ ก็คือ คุมเรื่องคุมราวจากบทที่ร่างมาให้ลากเหตุจูงการณ์กันต่อไป ...ก็ไม่มีอะไรที่รู้สึกว่าผู้กำกับคนนี้จะมีของดีงัดไม้เด็ดแสดงออกมาให้รู้สึกมากกว่าภาคก่อนๆ ...เขาก็แค่มีดีตรงที่สามารถทำให้เราหลงไปกับเรื่องต่างๆ ก่อนจะมาตบหน้าด้วยสิ่งที่ปิดบังเอาไว้ได้อย่างแนบเนียน ...ความเป็นจริงคนที่ควรจะได้เครดิต ก็คือ ทีมคนเขียนบท ซะมากกว่า ที่ยังหาที่หาทางมาให้เราปวดขมับ มึนหัวกับเรื่องสารพัดสารพันที่เหมือนจะไม่อยู่ในสารบบ แต่มาบรรจบในที่ทางเดียวกันได้อย่างลงตัว ทั้งยังฆ่าคนดูที่หลงทางกันได้อย่างลงคอซะด้วย แล้วภาคนี้ มีอะไรให้เราต้องรู้สึกว่ามันน่าติดตามกันบ้างล่ะ? ...นอกเหนือไปจากวิธีการปลิดชีพมนุษย์ที่ลุงจิ๊กยังหาของใช้เครื่องมือใหม่ๆมาเล่นได้สนุกมือลุง ระทึกใจคนดูแล้ว หนังภาค 4 ก็ยังฉลาดที่จะหาเรื่องหยิบเอาตัวละครเก่าๆ ที่เหมือนว่าเราจะลืมไปแล้ว กลับมาเรียกใช้บริการได้อีก และอีกอย่างที่ถือว่าล้ำเกินคาดอยู่นิดๆ ก็คือ... การที่หนังสามารถซ้อนเอาเรื่องราวในภาคก่อนมาทับกับภาคใหม่นี้ได้อย่างสุดเซอร์ไพรส์เนียนๆ ...ทั้งยังคงคมคายที่จะหาเรื่องหักมุมได้อีก ในแบบที่ต้องร้อง โอ้ว! ว้าว!! พร้อมกับจับ(เขาที่อยู่บน)หัว ว่าทำไมเราถึงไม่คิดถึงเรื่องนี้เลยวะเนี่ย!!? แล้วก็ยังรวมไปถึงทีเด็ดที่หนังยังคงแอบซ่อนบทเรียนชีวิตเอาไว้ในแต่ละตัวละครที่โดนลุงจิ๊กสั่งสอน(ปนรังแก)ให้รู้ว่า การได้เกิดมาเป็น'คน' มันมีบุญล้ำค่ามากแค่ไหน ...แต่ละกลวิธีของลุงยังคงทำร้ายและทำลายได้เจ็บแสบแปลบที่หัวคนดูอยู่เช่นเคย อาจแม้ว่าตัวบทหนังจะยังเป็นส่วนที่ทำให้เรารู้สึกต้องสนุกไปกับตัวหนังในภาคนี้ได้ต่อเนื่องกันไปได้อีก ...แต่ถ้าเมื่อเอาไปเปรียบไปเทียบกับภาคเก่าๆแล้ว ผมก็รู้สึกว่าภาคนี้มันเป็นหนังที่ดูแล้วอึดอัดสุดๆ กว่าภาคก่อนๆ อึดอัด ในที่นี้ ไม่ได้หมายความว่า อึดอัดเพราะความระทึกน่าติดตามแบบที่ภาคก่อนหน้าเคยทำให้ผมรู้สึกลุ้น แต่มันเป็นความอึดอัดที่ผมไม่ค่อยอิน ไม่เห็นใจชะตากรรมที่ตัวละครแต่ละตัวต้องได้เจอซะเท่าไหร่ ...แม้กระทั่งกับสถานการณ์ที่บีบรัดบังคับให้ผมต้องตื่นเต้น แต่ผมก็ไม่เห็นว่าความตื่นเต้นนั้นจะทำให้ผมติดตรึงในฉากการฆ่าที่กลายเป็นน่ากลัวน้อยลง รู้สึกไม่หลอนอะไรทั้งๆที่ตัวละครกรีดร้องทรมานกันเจียนตาย ผมไม่แน่ใจที่ผมรู้สึกแบบนั้นมันจะเกี่ยวกับเวลาช่วงนี้ ที่ดูจะเข้าผิดที่ผิดทางของ Saw 4 หรือเปล่า ? ...เป็นความรู้สึกที่ผมคิดว่าตัวหนังน่าจะมีพลังดึงดูดมากกว่านี้ได้ ถ้ามันมีโอกาสฉายในช่วงเวลาที่บรรยากาศฮัลโลวีนยังกรุ่นๆ เหมือนที่เคยเป็นในช่วงปีก่อนๆหน้าทั้ง 3 ภาคที่ผ่านมา ซึ่งนั่นก็คงเป็นเรื่องหนึ่งในความรู้สึกที่ทำให้ผมเข้าใจว่า ...การที่ช่วงเวลาฮัลโลวีน(ของมะกัน)ทุกๆปี ยังต้องพยายามเร่งรีบมีหนังตระกูลใบเลื่อยเข้าฉาย จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย ...และนั่นก็อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ Saw ยังคงขายดี มีภาคต่อคลอดตามออกมา เสียจนไม่กล้าคิดแล้วว่าเรื่องราวทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับ ลุงจิ๊ก มันควรจะไปจบลงในอีหรอบไหนกันแน่ แม้ผมอาจจะไม่ถึงกับชอบภาค 4 นี้ก็ตามที ...แต่จงเชื่อเถอะว่า ถ้ายังมีภาค 5 ตามมาอีก แฟนลุงจิ๊กคนนี้มีหรือจะยอมพลาด ? (และตราบใดที่ดอกกุึหลาบยังคงจัดจำหน่าย ...ผมก็ยังจะต้องตามไปดูไปพิสูจน์แต่ในโรงเท่านั้น มิมีทางรอเป็นดีวีดีแท้อย่างแน่นอน ...เออ! แต่ดีวีดีเถื่อนก็เข้าท่าอยู่นะ เหอๆ)"Saw 4" ...ถ้าคุณเป็นแฟนลุงจิ๊ก ก็ตามไปดูให้เป็นขวัญตาเถอะ ...แต่ถ้าคุณไม่ใช่ แล้วมองหาหนังที่ดูเอาระทึกข่มขืนใจ เรื่องนี้ก็พอให้ได้ แต่มันจะดีกว่านี้ ถ้าคุณตามกลับไปดูภาคก่อนๆหน้าให้เป็นขวัญใจอีกด้วย เกรด B ... { } ส่วนที่เป็นฟอนท์สี เขียว -แดง เพิ่มเข้ามา... ซึ่งที่เน้นนั้นจะเป็นที่ผมพูดถึง ส่วน ดูดี(เขียว) -ดูด้อย(แดง) ของหนังแต่ละเรื่องครับ ...สำหรับบางคนที่ยังไม่ได้ดูหนัง แล้วอยากจะรู้ว่าหนังมีอะไรดีอะไรด้อยบ้าง ก็อ่านเอาจากที่ผมทำไฮไลท์ไว้ก็ได้เลยครับ ตามแต่สะดวกละกันลำดับความชอบ ของ "Saw" ... 3 > 1 > 2 > 4 ปล. ความจริง ผมก็มีความคิดอยากจะเขียนบทวิเคราะห์ถึง หนังชุดตระกูลใบเรื่อยนี้เป็นอย่างมากๆ ...แต่ถ้าจะถามว่าเมื่อไหร่ อันนี้คงตอบไม่ได้ซะหรอก ...เอาเป็นว่า อย่างน้อยๆ ก็คิดหัวข้อจะเขียนแล้วว่า... "Saw" ... ชีวิตมีไว้ให้รัก แต่ทำไมหนอ คนเราถึงไม่ยอมรักชีวิต? ขอเชิญทุกท่านเสนอความคิดเห็นกัน... 1 Comment ของคุณ คือ 1 Happy ของเจ้าของบล็อก ขอบคุณมากครับ
Create Date : 25 มกราคม 2551
Last Update : 25 มกราคม 2551 0:23:10 น.
3 comments
Counter : 2179 Pageviews.
โดย: nikanda วันที่: 25 มกราคม 2551 เวลา:2:59:37 น.
โดย: แชมป์คุง วันที่: 26 มกราคม 2551 เวลา:21:57:46 น.
โดย: wichmata IP: 118.175.72.64 วันที่: 17 มีนาคม 2551 เวลา:11:22:24 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [? ]
สวัสดีครับ ...บล็อคแก๊งค์ คิดไม่ออก จะพูดอะไรดี พูดถึงประวัติตัวเอง... ก็ดูไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจ พูดถึงนิสัยตัวเอง... ก็มีทั้งดีทั้งร้ายสับเปลี่ยนหมุนเวียนไป เฉกเช่นคนธรรมดา พูดถึงหน้าตา... ก็บ้านๆแบบพื้นๆ น้องๆ แบรด พิตต์ หลานๆ ทอม ครูซ เท่านั้นเอง (แหวะ!!!) ตอนนี้ อาจยังคิดไม่ออก แต่ถ้าตอนไหน คุณชวนผมคุย ตอนนั้นผมก็พร้อมจะคุยกับคุณ ในทุกเรื่อง ได้ทุกแนว เพียงแต่ขอยกเว้น ...เรื่องส่วนตั้ว ส่วนตัว ขอขอบคุณ ในมิตรภาพของทุกท่าน ความรู้จักที่คุณมีให้ผม ...ผมขอน้อมรับ ในทุกสิ่ง ที่ท่านมีต่อผม ไม่ว่าจะด้วยภาษา หรือว่าความรู้สึก ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ...แต่ถ้านี่ยังน้อยไป ก็อย่าลืม ...เมล์ของผม แอดกันได้นะ once_upon.a.man@hotmail.com My @ http://twitter.com/once_upon_a_man ขอขอบคุณ และสวัสดีครับ ...รักนะ คนอ่านผลงานบทความที่อยู่ใน Blog นี้ สามารถให้คนอื่นนำไปเผยแพร่ในที่อื่นๆได้ แต่ต้องขอให้แจ้งทางเจ้าของ Blog ก่อน ว่าจะนำไปใช้เพื่อประโยชน์ในทางที่ถูก พร้อมทั้งให้เครดิตของเจ้าของผลงานตัวจริงด้วย โดยห้ามทำการดัดแปลงแก้ไข ด้วยภาษาของตัวคุณเอง เพื่อทำให้เจ้าของ Blog เสียหาย ขอความกรุณา อย่าละเมิดสิทธิ์กันเลยครับ เพราะกว่าจะเป็น กว่าจะเกิดผลงานขึ้นมาแต่ละชิ้นได้ อาจคิดขึ้นมาได้ไม่ยาก แต่มันก็ลงมือทำไม่ง่ายเช่นเดียวกัน ถ้าท่านผู้ใดไปพบว่า มีคนนำผลงานของเจ้าของ Blog ไปเผยแพร่ นำเสนอ ในทางที่ไม่ดีไม่ชอบ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อตัวเจ้าของ Blog กับคนอื่นๆ หรือว่าสังคม ..ขอให้แจ้งมาทาง "หลังไมค์" ของเจ้าของ Blog เลยทันที ขอบคุณมากๆครับ
1 2 3 4 5
6 7 8 9 10 11 12
13 14 15 16 17 18 19
20 21 22 23 24 25 26
27 28 29 30 31
ส่วนตัวไม่ชอบค่ะ...ดูมา3ภาคแล้ว..
ดูแบบดูจบไปแล้วถึงได้ถามตัวเอง
ว่า"ทนดูมาได้ยังไงเนี่ย"ดูจบไปยัง
งงๆจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าในเรื่อง.....
มันเกิดอะไรขึ้น......................
เอ....หรือว่าเราโง่หว่า..............