กวน มึน โฮ
ความรัก อาจแพ้บ้างอะไรบ้าง แต่ ความ เห็นแก่ตัว เอาชนะได้ทุกสิ่ง!
นอกจากติดตามตัวผมในบล็อกนี้แล้ว ก็ขอชวนไปสนุกกันในอีกช่องทางกับ "Facebook" และ "Twitter" ด้วยครับ Like Me @ //www.facebook.com/Onc3.UPoN.a.MaN และ Follow Me @ //twitter.com/once_upon_a_man แหมมมมมมม! โรแมนติก คอมเมดี้ อีกแล้วนะ GTH ..ไม่เบื่อบ้างหรือไง? คงเป็นเสียงที่หลายๆคนคงร้องบ่นระงม เมื่อได้รู้ว่าค่ายนี้จะปล่อยหนังแนวไม้ตายของตัวเอง เข้าฉายอีกแล้ว ...และไม่ใช่แค่คุณที่ร้องอย่างนั้นหรอกครับ ผมเองก็ร้องเป็นเสียงเดียวกับเขาเช่นกัน แต่พอดีว่า ไม้นี้ ของ GTH มันดันเป็นไม้ที่มีคุณภาพ เป็นมาตรฐานของหนังไทยได้ด้วยนี่สิ ..นี่ก็เลยเป็นเรื่องที่มีเหตุมีผลจะให้มองข้ามความน่าเบื่อ แล้วสุดท้าย ก็ทำให้ใครต่อใครอดรนทนใจไม่ได้ ต้องไปอุดหนุนมันซะทุกทีไปด้วยประการฉะนี้ โดยเฉพาะกับหนัง โรแมนติก คอมเมดี้ เรื่องล่าสุด ที่หาเรื่องเปลี่ยนนิยามของตัวเองให้ไปเป็น โฮแมนติก กวนมิดี้ ให้มันสอดคล้องกับชื่อหนัง กวน มึน โฮ ..นี่ก็คือ ครั้งแรกของ บรรจง ปิสัญธนกูล กับการเปลี่ยนแนวถนัดเล่าเรื่องหลอนๆ แถมมีเห่าหอนเป็นเสียงฮาบ้างในบางโอกาส ให้มาลองทำหนังแนวถนัดที่เป็นไม้ตายของทางค่าย โดยคงไว้ในสไตล์แบบบรรจง ที่ยังมีเอกลักษณ์ ชวนฮาแบบไม่นึกปรึกษาคนดู (คือ ตูจะฮา กับฉากนี้ มีอะไรไหม?) ...พอเห็นเป็นชื่อ บรรจง เท่านั้นแหละ หวังไว้เลย ..เอาฮาเว้ย เอาฮา! กวน มึน โฮ เล่าเรื่องราวที่เริ่มต้นด้วย ความบ้าบอ ของหนุ่ม และสาว สองคน ..ซึ่งคนแรก บ้าที่จะทำอะไรก็ได้ ที่ไม่เกรงใจชาวบ้าน ในทุกๆที่ ..ส่วนกับคนหลัง เป็นบ้ากับทุกๆสิ่งที่เรียกว่า เกาหลี ...สองคนนี้ ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนหน้า และสองคนนี้ ก็เป็นคนไทยที่เลือกจะเดินทางมาท่องเที่ยว ในดินแดนเมืองโสม ประเทศที่คนทุกๆคน ต่างกำลังคลั่งไคล้ และหลงใหลกันเข้ามา เพียงเพราะเข้าใจว่า นี่แหละ คือ ดินแดนแห่งความรัก แต่ในกรณีเดียวกัน คนสองคนที่ว่านั้น ก็เพิ่งจะผ่านพ้นจากการมีปัญหาเรื่องความรักด้วยกันทั้งคู่ ..ฝ่ายชาย เพิ่งเลิกกะแฟนมาหมาดๆ เพียงเพราะเขายังไม่พร้อมที่จะผูกมัดมีพันธะกับใคร ..ส่วนฝ่ายหญิง ต้องหลบเลี่ยงพูดปดโกหกกับแฟน เพียงเพื่อจะได้มาร่วมงานแต่งของเพื่อนสนิทที่เป็นคนเกาหลี (และพอเรื่องมันแดง ก็โดนบอกเลิกกะเขาอีกคนจนได้) เมื่อบังเอิญว่าทั้งคู่ อยู่ในสถานะโสด ..และอยู่ในสถานที่ ที่ไม่มีใครรู้จักพวกเขา ให้คิดจะทำอะไรก็ทำได้ โดยไม่ต้องอายชาวบ้านชาวช่อง ...ฉะนั้นแล้ว พวกเขาเลยคิดพิเรนทร์ๆ ที่จะขอตั้งเงื่อนไข ในการรู้จักกันของพวกเขา ด้วยการปฏิเสธที่จะบอกชื่อของแต่ละคน ..เพราะเมื่อไม่รู้จัก(ชื่อ)กัน ต่างคน ก็ต่างคิดที่จะทำอะไร จะพูดอะไรกับอีกคนได้เลย โดยไม่ต้องกังวลใจว่าอีกฝ่ายจะเสียหน้า จนกระทั่งเมื่อเดินทางกลับเมืองไทย แล้วสุดท้ายต่างคน ก็จะได้ต่างแยกย้ายกันไป โดยที่ไม่รู้สึกถึงความเป็นห่วงเป็นใยซึ่งกันและกัน แต่สิ่งที่เคยคิดเอาไว้แต่เริ่ม กับวันเวลาที่ได้ผ่านไปยังไม่ทันไร มันก็ผิดถนัดไปในทันทีที่ คนสองคน ได้บรรจงรอยจูบซึ่งกันและกัน ..และคนสองคน เผลอตกหลุมรักกันอย่างไม่ทันตั้งตัว! คำถาม คือ.. คนสองคนนี้ มันไปเอาเวลาตอนไหนที่ทำให้ผูกพันกันได้หนอ? แม้ กวน มึน โฮ จะมีจุดประสงค์สำคัญ คือ การทำหนังเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อสร้างความบันเทิงให้กับคนดู เป็นหลัก ..ตามสไตล์ GTH ที่จะขำๆ ทำจีบ ทำเขิน กันไปในช่วงแรกๆ และช่วงหลังๆ ก็คือ โหมดดรามาที่ตัวละครจะเอาจริงเอาจังกับความรักอย่างเต็มที่ แต่ หนังโฮแมนติก กวนมิดี้ เรื่องนี้ ก็ไม่เหมือนกับ หนังโรแมนติก คอมเมดี้ ที่ GTH เรื่องก่อนๆ เคยเป็นมาไปหมดซะทีเดียว ...เพราะถ้าเราดูกันที่องค์ประกอบของความรักใน กวน มึน โฮ แล้ว จะเห็นได้ว่า มันมีมุมมองอีกรูปแบบที่แตกต่างออกไป จากที่เคยเห็น เหมยลี่ มาราธอนสุดพลังเดินทางไปบอกรักที่สุวรรณภูมิ ..เคยเห็น เจี๊ยบ วิ่งสุดพลังเอาหนังยางไปคืน น้อยหน่า ..หรือเคยเห็น ไข่ย้อย กล้าสุดพลังขึ้นเวทีไปร้องเพลงเพี้ยนๆ ให้ดากานดา เต้น ...ใน กวน มึน โฮ เราอาจจะไม่ได้เห็นอะไรที่สุดพลัง แต่มันจะเปลี่ยนมาเป็น ความเห็นแก่ตัว ที่มีเงื่อนไขเกาะกุมความรักของคนสองคนเอาไว้ ไม่หลุดเสียแทน เพียงเอาแค่เปิดประเด็นมาให้คนสองคน ไม่เปิดโอกาส รู้จักชื่อของกันและกัน.. เอาแค่นี้ ก็แสดงออกซึ่ง ความเห็นแก่ตัว ที่เป็นลักษณะเฉพาะของตัวละครในหนังได้แล้ว แต่ก็อย่าหลงเข้าใจว่า ความหมายของ ความเห็นแก่ตัว ..คือ การที่คนๆหนึ่ง จะทำอะไรก็ขอทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองล้วนๆ ดังความหมายทั่วๆไป ...แต่ ความเห็นแก่ตัว สำหรับ กวน มึน โฮ ก็คือ การที่เรารู้สึกว่าตัวเองจะทำอะไรก็ย่อมได้ โดยที่ไม่ต้องไปแคร์คนอื่น เขาจะว่าอะไร ..หากเราทำแล้ว เราสบายใจ ก็ทำไปเถอะ ดังตัวอย่าง ที่ตัวละครพระนาง ไม่รู้จักกัน ในเรื่องของชื่อ เพราะคงสบายใจมากกว่า หากมันจะช่วยทำให้เขาสามารถแสดงตัวตนลึกๆข้างในออกมาได้โดยไม่ต้องเคอะเขินกันและกัน ผมมองว่า ความเห็นแก่ตัว ใน กวน มึน โฮ มันเป็นอะไรที่มีเสน่ห์.. และยังคิดว่า ความรัก ในยุคสมัยนี้ มันก็มี ความเห็นแก่ตัว แฝงตัวอยู่ในนั้น ไม่ได้แตกต่างไปจากที่ในหนังเรื่องนี้เป็น เพราะในเวลานี้ เชื่อว่า คงจะมีคนที่เป็นแบบ เหมยลี่ เจี๊ยบ หรือว่า ไข่ย้อย เหลืออยู่ไม่เยอะเท่าไหร่หรอก ..และคงจะมีหลายคนที่อ่านรีวิวนี้ แล้วจะรู้ตัวว่า ตัวเอง ก็แอบเห็นแก่ตัว ในเรื่องของความรัก อยู่ไม่น้อยเหมือนกัน มีบางทีที่เรา คงเคยโกหกกะแฟนของตัวเอง ..แต่อาจไม่ได้เป็นการโกหกที่คอขาดบาดตายอะไรนัก ที่โกหกไปก็เพื่อจะทำให้ตัวเองได้มีอิสระบ้างอะไรบ้าง (เพราะคนเราทุกคน มันต้องมีบางช่วงเวลาบ้างแหละ ที่อยากอยู่กับตัวเอง ไม่คิดเรื่องหวานกะใครๆ) คงมี บางทีที่เรา อาจเคยรู้สึกหวงเนื้อ หวงตัว หวงชีวิตโสด (คือ แฟนก็อาจมี แต่อยากมีชีวิตที่ไม่ผูกมัดซึ่งใบสมรส) ..ที่รู้สึกไปอย่างนั้น มันย่อมไม่ได้หมายความว่า ไม่รัก เพียงแต่ที่ทำไปนั้น ก็เพราะว่า ยังไม่พร้อม ยังอาจเตรียมตัวไม่ดีพอ ที่จะยอมดูแลใครอีกคนเข้ามาใช้ชีวิตร่วมกันได้ และคงจะมี บางทีที่เรา มองว่า เราเป็นคนที่ใช่ คือทำอะไร มันก็ดูว่า เราใช่ไปหมดทุกอย่าง โดยไม่มีทางที่เราจะผิด เพราะเราคิดว่า สิ่งที่เราทำมันถูกแล้ว ..อย่าได้แปลกใจ ที่เราจะเคยคิดอย่างนั้น เพราะขึ้นชื่อว่า เป็นคน มันต้องมีเวลาที่เราหลง(คิดแบบ)ผิดๆ บ้างแหละน่า เช่นเดียวกันกับ พระนางใน กวน มึน โฮ ที่คงจะคิดว่า สิ่งที่ใช่ สิ่งที่ตัวเองทำลงไป มันคือสิ่งที่ดีสำหรับพวกเขา ที่เลือกที่จะไม่รู้จักกัน โดยหลงเข้าใจไปกันเองว่า ไม่มีทางที่จะคิดถึงคนอีกคน เป็นอย่างอื่นนอกเหนือจากเพื่อนร่วมทางไปได้อย่างแน่นอน ...แต่ในขณะเดียวกันนั้น พวกเขาก็เลือกจะมองแต่ตัวเองมากไปเสียจน เผลอลืม ที่จะมองซึ่งบริบทรอบข้าง ที่ล้อมรอบตัวของคนทั้งคู่เอาไว้อยู่ ..และอย่าลืมว่า นี่คือ เกาหลี นี่คือ ดินแดนแห่งความรัก เชียวนะเว้ย! ฉะนั้นแล้ว ไม่ว่าเราจะไปอยู่ที่ไหนในโลกนี้ ความเห็นแก่ตัว มันตามติดเราไปในทุกที่ ..และทุกๆที่ ย่อมต้องมีคนเห็นแก่ตัว อาศัยอยู่ เป็นเรื่องปกติ เพียงแต่ ทุกๆอย่าง มันย่อมขึ้นอยู่กับเรา ..ว่า เราจะเอาความเห็นแก่ตัว ที่มีอยู่ไป ใช้อย่างไรให้เป็นประโยชน์กับตัวเอง ให้รู้สึกสบายใจ ...ขณะเดียวกัน ก็อาจทำให้ตัวเองเดือดร้อนย่อมได้ แต่อย่าได้เอานิสัยติดตัวนี้ ไปทำให้คนอื่นเขาต้องพลอยเดือดร้อนไปตามๆก็แล้วกัน ขอจงอย่าได้เหมือนเช่น ที่ตัวพระนางของ กวน มึน โฮ ทำให้ทั้งตัวเอง และคนอื่นต้องเป็นเดือดเป็นร้อนเลยเถิด!!! (ถึงจุดนี้ เล่ามากกว่านี้ เกรงว่าจะสปอยล์ ..ขอเก็บบ้างอะไรบ้าง เผื่อใครจะไปดู) กวน มึน โฮ ในมือของผู้กำกับ ชัตเตอร์ , แฝด รวมถึง หนึ่งใน สี่แพร่ง และ ห้าแพร่ง ...คือ หนังตลกแบบบรรจง ที่ทุกๆคนที่เคยดู คนกลาง และ คนกอง คงรู้กันดีว่า บทจะฮามันมาแบบไม่ปรึกษาใคร เรียกว่า เรื่องของมันพลิกผันตลอดเวลา ขณะเดียวกันกับมุขตลก ก็เดาไม่ถูกว่าจะมาทางไหนกันแน่! ...ซึ่งกับ กวน มึน โฮ ยังคงรักษาบรรยากาศประมาณนั้นเอาไว้ได้ เพียงแต่ ถ้าจะมีอารมณ์ถูกใจประเภทตบมือสรรเสริญ อย่างพร้อมใจทุกคนและใส่กันสุดพลังแบบใน สองครั้งที่แล้ว ก็ถือว่า กวน มึน โฮ ยังไปไม่สุดถึงขั้นนั้น แต่ก็ยังรับประกันได้ว่า แทบจะไม่มีมุขไหนที่ปล่อยมาแล้ว ดูไม่ฮา (สำหรับผม) ..ไม่ว่าจะดังน้อย ดังมาก แต่พอดังมาแล้ว ก็ทำให้โรงหนังครึกครื้นได้ไม่น้อยๆเลย ดังนั้น บรรจง จึงไม่ทำให้ทุกคนต้องผิดหวัง สำหรับคนที่เลือกจะมาดู กวน มึน โฮ เพราะคิดว่าเป็นหนังตลกกวนๆ ปะหน้า ..แล้วก็คงจะพากันถูกใจ ในหลายๆมุข ที่หนังเสียดสี ได้ทั้งมุมที่น่ารัก และสุดแสนจะน่าชัง ในเรื่องเดียวกัน รวมทั้งยังได้ความ กวน+มึน ของสองนักแสดงนำ "เต๋อ-ฉันทวิชช์" และ "หนูนา หนึ่งธิดา" ที่มีความเข้าขา รับส่งเข้าคู่ ด้วยกันได้ดี มีเคมีที่ถูกต้อง ..ขณะที่ฝ่ายชายก็ดูจะมีเสน่ห์ มากกว่าผลงานที่ผ่านๆมา (เทียบกับ "ปิดเทอมใหญ่ หัวใจว้าวุ่น" ความกวนๆในเรื่องนั้น มันจืดชืดสุดๆไปเลย) ส่วนฝ่ายหญิง ก็คือ ผลงานชิ้นแจ้งเกิด ที่ฉายแววนักแสดงดาวรุ่งที่โดดเด่นทั้งทางตลก และบทดรามาก็เอาอยู่ กลายเป็นหนึ่งในคนที่ต้องจับตามองให้ดี (แถมร้องเพลงยังเพราะมากกกก อีกต่างหาก) แต่ถ้าหวังกับ กวน มึน โฮ มากไปกว่าจานหลักที่เป็นความตลก และเอาจริงเอาจัง กับเรื่องของ ความรัก ที่มาตบท้ายเป็นดังของหวานแล้วละก็ ..จัดได้ว่า บรรจง ยังไม่อาจบรรจงในฝีมือมากพอ จะทำให้ กวน มึน โฮ กลายเป็นของหวานที่น่าประทับจิตไปได้ในท้ายที่สุด คือส่วนตัว มองว่า กวน มึน โฮ ใส่ความกวนมิดี้ มาได้สุดทาง และคุ้มไปแล้วกับการเข้ามาฮา ..แต่เมื่อหนังเรื่องนี้ มันลงนามบอกว่าตัวเองเป็น โฮแมนติก นั่นก็เท่ากับว่า มันต้องเป็นความโรแมนติกที่ทำให้ร้องไห้น้ำตาไหลพราก ชวนเข้าใจเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้แน่ๆ ซึ่งถ้าว่ากันตามเนื้อผ้าของบทหนังแล้ว ก็ดูจะไม่มีอะไรให้ผิดหวังอะไร ..เพราะมันก็ไม่ได้รู้สึกว่า พระนาง มันรักกันเร็วจนเกินไป ยิ่งหากมองที่สภาพบริบท การที่หนังใส่จุดเล็กๆอันชวนให้ประทับใจลงไปเรื่อยๆ ก็ไม่แปลกที่จะมีผลต่อคนคู่นี้ เกิดความพึงพอใจ และผูกพันกันได้อย่างไม่ต้องพยายามมาแบบโครมเดียวเอาอยู่ (ประเภทที่นางเอกจมน้ำ แล้วพระเอกลงไปช่วยเพียงครั้งเดียว แล้วก็รักกันเลย ..น้ำเน่า!) แล้วอีกอย่าง กับตัวพลอตหนัง ที่สร้างภาพให้พระนางทั้งคู่ดูเป็นคู่รักที่ เห็นแก่ตัว ..นี่สิ ที่ผมมองว่ามันเป็นเสน่ห์ ที่แปลกออกไปจากที่เคยดูหนังแนวๆนี้ของ GTH ผมรู้สึกว่ามันดูจริง ไม่เฟค และบิวต์มาให้เชื่อว่ารักกัน โดยสอดคล้องกับโลกความเป็นจริงได้ (คือ เรื่องก่อนๆ ก็ยังดูว่าจริง บิวต์ให้เชื่อได้เหมือนกัน ..เพียงแต่ในนิยามของมัน ก็มีจุดที่ดูเป็นนิยายเพ้อๆอย่างชัดเจน) เพียงแต่ว่า มันน่าเสียดายยิ่งนัก ตรงที่... ช่วงท้ายๆ รู้สึกจะเร่งรัดตัวเรื่องราวอะไรต่อมิอะไรเร็วเกินไป ขยี้ไปไม่ถึงที่สุด และกะจังหวะจะให้มีการเซอร์ไพรส์ ก็ดูจะทื่อๆเกินไป ทำให้เซอร์ไพรส์แบบงงๆซะมากกว่า คือถึงจุดนี้ ก็อยากจะพูดอยู่หรอกว่า ชอบ ตอนจบ เพราะมันเป็นการเอามุขที่เล่นค้างเอาไว้ กลับมาขยี้ได้ละเอียดกว่าเดิม ...แต่เมื่อมองย้อนไปถึง จุดก่อนที่จะจบกันจริงๆ มันยังมีความค้างๆคาๆ ในอีกบางมุข ที่น่าจะเอามาเล่นต่อ แล้วคงจะส่งผลกระทบทางอารมณ์หนักกว่า อีกช่วยเหลาให้ตัวเรื่องมันคมยิ่งกว่า จนอาจจิ้มตาบอด เพื่อทำคนร้องไห้โฮได้อย่างที่ชื่อหนังมันต้องการจริงๆ ผมขอยกเอา สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งหนังรอมคอม โดนใจวัยสะรุ่น ที่ออกฉายในช่วงเวลาใกล้ๆนี้มาเทียบเคียงกันเสียหน่อย ..แม้เรื่องที่มาก่อนจะฮาสุดไม่ถึงเท่าเรื่องที่มาทีหลัง แต่ผมกลับรู้สึกชอบมุมโรแมนติก(เคล้าดรามา)ของ สิ่งเล็กๆ มากกว่าซะอีก ...เพราะถึง มันจะได้เรื่องของเพลงมาช่วยส่งสุดๆ แต่กับอารมณ์ที่บิวต์มาเรื่อยๆ ก็ดูจะเต็มยิ่งกว่า มันทำให้เรารู้สึกน็อกกับฉากไฮไลท์ของมันได้อยู่หมัดจริงๆ แล้วถ้าหากจะเทียบกับหนังใกล้ๆตัวที่มาจากค่ายเดียวกันที่มาก่อนอย่าง บ้านฉัน ตลกไว้ก่อน พ่อสอนไว้ อีกเรื่องหนึ่งไปด้วย ..ถึงจะเถียงได้ว่า มันคนละแนวกันเลย แต่ก็ไม่อาจเถียงได้ หากจะพูดว่า ช่วงท้ายของบ้านฉัน มันดูซึ้ง ทำให้เรารู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ กับสิ่งที่ต้องเป็นไป ได้มากกว่า แม้ถึงที่สุด กวน มึน โฮ จะบอกกับคนดูให้รู้เลยว่า ความรักอาจไม่ต้องการเวลา ที่มากมายอะไรนัก ในการคบหาดูใจ ..แต่ในมุมกลับกัน เวลาที่หนังให้มากับความรัก มันก็น้อยเกินไปที่จะทำให้เราต้อง โฮ ไปกับมันซะนี่!กวน มา มึน มี แต่ โฮ ไม่ ..นี่คือ นิยามสั้นๆ ที่ผมคิดขึ้นมาสำหรับ กวน มึน โฮ หลังจากดูจบโดยเฉพาะ ...ถึงจะรู้สึกคุ้มค่ากับการได้ดู ได้อรรถรสความฮา เวลาดูในโรงที่เต็มที่ ..แต่ส่วนของโรแมนติก ยังไม่มากพอ ที่จะทำให้เรื่องถนัดของ GTH เรื่องนี้ ดูเป็นรอมคอมที่ลงตัวได้อย่างที่ปีที่แล้ว รถไฟฟ้ามาหานะเธอ สามารถทำได้! ผมรู้สึกว่า คุณโต้ง คงไม่เหมาะกับการทำหนังรักหรอก ..และจะดีแน่ๆ ถ้าได้เห็นผลงานถัดไปของ คุณโต้ง ขอจงกลับมากับหนังผีแนวถนัด อัดความฮา กันด้วยเถิด ..ไม่ว่า จะเป็นภาคต่อของ คนกอง หรือว่าเป็นแนวการล้อ Scary Movie ฉบับหนังไทย ก็ให้บรรจง..จัดมา!!! ขอแนะนำ ...ครับเกรด A- ... { }ขอเชิญทุกท่านเสนอความคิดเห็นกัน... 1 Comment ของคุณ คือ 1 Happy ของเจ้าของบล็อก ขอบคุณมากครับ ผมยินดีเสมอในมิตรภาพของทุกท่าน และบล็อคของผมก็ต้อนรับเสมอในความน่ารักของทุกคน ขอขอบคุณ และสวัสดีครับ
Create Date : 25 สิงหาคม 2553
Last Update : 25 สิงหาคม 2553 0:36:34 น.
8 comments
Counter : 7774 Pageviews.
โดย: ph-su วันที่: 25 สิงหาคม 2553 เวลา:1:39:22 น.
โดย: อันตัน วันที่: 25 สิงหาคม 2553 เวลา:14:56:35 น.
โดย: butbbj วันที่: 31 สิงหาคม 2553 เวลา:13:04:05 น.
โดย: คนอยากรู้ IP: 58.9.64.65 วันที่: 7 กันยายน 2553 เวลา:11:54:02 น.
โดย: คนขับช้า วันที่: 10 เมษายน 2554 เวลา:12:44:03 น.
โดย: คนชอบหนังไท IP: 124.122.183.201 วันที่: 31 กรกฎาคม 2554 เวลา:21:44:15 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [? ]
สวัสดีครับ ...บล็อคแก๊งค์ คิดไม่ออก จะพูดอะไรดี พูดถึงประวัติตัวเอง... ก็ดูไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจ พูดถึงนิสัยตัวเอง... ก็มีทั้งดีทั้งร้ายสับเปลี่ยนหมุนเวียนไป เฉกเช่นคนธรรมดา พูดถึงหน้าตา... ก็บ้านๆแบบพื้นๆ น้องๆ แบรด พิตต์ หลานๆ ทอม ครูซ เท่านั้นเอง (แหวะ!!!) ตอนนี้ อาจยังคิดไม่ออก แต่ถ้าตอนไหน คุณชวนผมคุย ตอนนั้นผมก็พร้อมจะคุยกับคุณ ในทุกเรื่อง ได้ทุกแนว เพียงแต่ขอยกเว้น ...เรื่องส่วนตั้ว ส่วนตัว ขอขอบคุณ ในมิตรภาพของทุกท่าน ความรู้จักที่คุณมีให้ผม ...ผมขอน้อมรับ ในทุกสิ่ง ที่ท่านมีต่อผม ไม่ว่าจะด้วยภาษา หรือว่าความรู้สึก ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ...แต่ถ้านี่ยังน้อยไป ก็อย่าลืม ...เมล์ของผม แอดกันได้นะ once_upon.a.man@hotmail.com My @ http://twitter.com/once_upon_a_man ขอขอบคุณ และสวัสดีครับ ...รักนะ คนอ่านผลงานบทความที่อยู่ใน Blog นี้ สามารถให้คนอื่นนำไปเผยแพร่ในที่อื่นๆได้ แต่ต้องขอให้แจ้งทางเจ้าของ Blog ก่อน ว่าจะนำไปใช้เพื่อประโยชน์ในทางที่ถูก พร้อมทั้งให้เครดิตของเจ้าของผลงานตัวจริงด้วย โดยห้ามทำการดัดแปลงแก้ไข ด้วยภาษาของตัวคุณเอง เพื่อทำให้เจ้าของ Blog เสียหาย ขอความกรุณา อย่าละเมิดสิทธิ์กันเลยครับ เพราะกว่าจะเป็น กว่าจะเกิดผลงานขึ้นมาแต่ละชิ้นได้ อาจคิดขึ้นมาได้ไม่ยาก แต่มันก็ลงมือทำไม่ง่ายเช่นเดียวกัน ถ้าท่านผู้ใดไปพบว่า มีคนนำผลงานของเจ้าของ Blog ไปเผยแพร่ นำเสนอ ในทางที่ไม่ดีไม่ชอบ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อตัวเจ้าของ Blog กับคนอื่นๆ หรือว่าสังคม ..ขอให้แจ้งมาทาง "หลังไมค์" ของเจ้าของ Blog เลยทันที ขอบคุณมากๆครับ
1 2 3 4 5 6 7
8 9 10 11 12 13 14
15 16 17 18 19 20 21
22 23 24 25 26 27 28
29 30 31