"ไชยา" ... หนัง(มวย)ไทยที่คุณต้องดูด้วยตา แล้วจะ(ต่อย)ทะลวงไส้ไปถึงหัวใจ
ถ้า "จา พนม" เป็นเสมือนใบเบิกทางที่ช่วยทำให้กีฬา มวยไทย โด่งดังไปไกลจนแทบจะเป็นสัญลักษณ์ที่คนทั่วโลกได้รู้จัก ประเทศไทย มิเช่นนั้นหนังไทย นาม "ไชยา" ก็ต้องได้วีซ่าโดยทันที ที่คนประเทศอื่นๆ รู้ว่านี่คือ หนังอีกเรื่องที่มีความเกี่ยวข้องกับ มวยไทย ที่เขารู้จัก ถึงแม้ ว่าจะได้ชื่อว่าเป็นหนังเกี่ยวกับหมัดๆมวยๆก็ตามที หากแต่ความเป็นจริงแล้ว ไชยา กลับมีมวยมาเป็นเพียงเปลือกหน้า ที่แฝงเนื้อในไว้ด้วย ความเป็นหนังดรามาที่ว่าด้วยเรื่องของ มิตรภาพ การพนัน อาชญากรรม และความรัก เรื่องราวของ "ไชยา" ...กล่าวถึง เพื่อนรัก 3 คน ที่เติบโตกันมาด้วยกัน "เปี๊ยก" "เผ่า" และ "สะหมอ" ...พวกเขาสนิทสนมกลมเกลียวกันจนถึงขั้นที่ยอมตายแทนกันได้ เหนือไปกว่านั้นที่พวกเขายังยอมตายแทนให้ด้วยเช่นกัน ก็คือ วิชามวยไชยา ที่ได้เรียนรู้มาจาก "ครูทิว" ผู้ที่หวังจะให้ลูกหลานได้ช่วยสืบทอดต่ออายุมวยแขนงนี้อีกต่อไป ... แล้วพวกเขาทั้ง 3 ก็ได้เริ่มเดินทางตามฝันมุ่งหน้าเข้าสู่ บางกอก เพื่อหวังจะให้ชีวิตการเป็นนักมวยของพวกเขาไปจบลงที่ เวทีราชดำเนิน ...หากแต่มันก็มีจุดพลิกผันขึ้นมาที่ทำให้วงต้องแตก ขณะที่หนึ่งแยกเพื่อต้องการได้ดี ส่วนอีกสองกลับเลือกทางด้านมืด เข้าสู่แวดวงการพนัน ที่มีชีวิตของคนที่เข้ามาข้องเกี่ยวกับ เงินและเล่ห์เหลี่ยมของทุกๆคนเป็นเดิมพัน ไชยา เป็นงานกำกับชิ้นที่สองของ "ก้องเกียรติ โขมศิริ" หลังจาก "ลองของ" ที่เขาเคยเป็นหนึ่งในเจ็ดผู้กำกับ ที่มีชื่อทีมว่า โรนิน ...ซึ่งจากเรื่องก่อนหน้านั้น ก็สามารถพิสูจน์ได้ว่า เขาเป็นผู้กำกับควบเขียนบทหนังที่มีฝีมือน่าจับตามองอีกคนหนึ่งในแวดวงหนังไทย (ลองของ ก็ถือเป็นหนังไทยสยองที่มีดีในแง่ของเรื่อง แต่ในความเห็นผม ยังไม่ได้รู้สึกชอบใจอะไรเป็นพิเศษ) ทั้งล่าสุดนี้ก็ได้ช่วยตอกย้ำคุณภาพด้วยการไปเขียนบทหนังสยองขวัญ สร้างความหลอนให้กับ วิศิษฐ์ ศาสนเที่ยง ใน "เปนชู้กับผี" แต่ถึงจะแจ้งเกิดมาจากการข้องเกี่ยวหนังหยองๆแหยะๆ หากผกก.ก้องเกียรติ ก็ไม่ได้คิดหยุดอยู่ในสิ่งที่ถนัดแต่อย่างเดียว ...ซึ่งกับ ไชยา เรื่องนี้ก็ได้เป็นการพิสูจน์อีกขั้นหนึ่ง ที่ทำให้เรารู้ว่า เราคิดไม่ผิดเลยที่ได้จับตามองเขา การก้าวหน้ามาสู่งานที่มีฟอร์มสูง สเกลใหญ่ขึ้น สามารถนำเป็นข้ออ้างสรรพคุณอันดีที่ว่าเขามีความกล้าจะพัฒนาตัวเองโดยไม่สนใจว่า สิ่งที่เคยทำมา มันก็ถือว่าดีอยู่แล้ว... ยิ่งมาทำหนังแนวแอ๊คชั่นเช่นนี้ ก็ยิ่งเหมือนเป็นการกล้าท้ากล้าลองของที่นับว่า ซึ่งถ้าเกิดพลาดก็คงจะมีแต่เจ็บ กับ เจ็บ สถานเดียว (ตัวอย่างดีๆ ที่มีให้เห็นจังๆ ก็คงจะเป็น "ต้มยำกุ้ง" ที่ทำเอา ปรัชญา ปิ่นแก้ว แอบเข็ด ยังไม่กล้ามีโปรเจกต์มันส์ๆใหม่ๆมานำเสนอกันเลยทีเดียว) แต่สำหรับ ผกก.ก้องเกียรติ ไม่มีคำว่าเจ็บตัวอยู่ในสารบบความคิดผม เมื่อได้ดู ไชยา แต่ต้นจนจบแล้ว ...หนังเรื่องนี้มีเหตุมีผลดีๆหลากหลายที่ผมกล้าท้ากล้าชวนคนไทยไปลองของด้วยกัน ไปพิสูจน์ว่า นี่ควรจะเป็น อีกหนึ่งหนังไทยดีๆ ที่น่าจดจำในรอบปีนี้ เหตุผลที่ 1... การกำกับควบเขียนบทของ คุณก้องเกียรติ มีพัฒนาการที่ดียิ่งไปกว่าตอนทำ ลองของ ...ไม่ใช่แค่การพัฒนาในด้านการเปลี่ยนแนวเพียงอย่างเดียว สิ่งที่เขาทำใน ไชยา ก็ดูจะมีความลงตัวกลมกล่อมได้มากไปกว่าก่อนอีก ...แม้หน้าหนังจะพยายามทำแอ๊คชั่น (และผู้สร้างก็เน้นโปรโมตในด้านนี้จนเสียมูลค่าไปไม่น้อย) หากแต่ที่อยู่ใต้จากนั้น คือ การเน้นย้ำทางดราม่า ที่คุณก้องเกียรติ ทำเอาไว้ได้ดีมาก ในหลายๆแง่มุมที่หนังสอดใส่เอาเข้ามาโดยไม่โดดไปจากข้างหน้าที่ว่าด้วยเรื่องของมวยเป็นสำคัญ เหตุผลที่ 2... ถ้าลงลึกไปยังแง่มุมต่างๆที่มีในหนัง ก็จะเห็นได้ว่าหนังไม่ได้ทำการแตะต้องเพียงผิวๆ หากแต่ใส่เข้ามาด้วยความมีที่มาที่ไป มีต้นสายปลายเหตุ ซึ่งด้วยความต่อเนื่องของเรื่องราวที่เขียนกำหนดเอาไว้เป็นอย่างดี ก็ช่วยส่งให้แต่ละพลอตมีความแข็งแรง มีพลังที่จะขับเคลื่อนควบคู่ไปกับหนังได้โดยไม่รู้สึกถึงความสะดุดใจ เหตุผลที่ 3... ผมรู้สึกชอบทุกๆแง่มุมที่อยู่ในหนัง ทั้งที่สว่าง และเป็นด้านมืด แต่ก็มีที่ประทับใจเป็นพิเศษ และให้รู้สึกโดนเป็นอย่างยิ่ง ก็คือ ในส่วนของมิตรภาพความเป็นเพื่อนที่ตัวเอกทั้ง 3 มีให้ต่อกัน ...คุณก้องเกียรติ เขียนได้อย่างรู้ซึ้ง และเข้าใจในความรักอันแสนบริสุทธิ์ที่ถูกเจตนาเคลือบแฝงไปด้วยพิษร้ายนานาจากสังคมรอบข้าง ...ถ้าคุณดูจบแล้วจะรู้สึกรักเพื่อนมากขึ้น ก็ไม่ต้องแปลกใจไป เพราะสิ่งที่หนังใส่เข้ามาโดยเจตนา มันทำได้ชวนอินมากๆ (ยิ่งถ้าใครมีบ่อน้ำตาที่ตื้นด้วยแล้ว รับรองว่าได้ทำเขื่อนแตกในตอนจบ เช่นผม อย่างแน่นอน) เหตุผลที่ 4... ฉากแอ๊คชั่นใน ไชยา อาจจะดูเป็นสัดส่วนที่เล็กน้อยจนน่าจะเรียกได้ว่า ตัวประกอบ ...หากแต่ตัวประกอบผู้นี้ ก็ทำหน้าที่ขโมยซีน สร้างความตื่นเต้นเร้าใจ ชวนให้เราอยากจะขยับเนื้อขยับตัว ลุ้นไปตามการหลบหลีก ป้องปัด แล้วซัดกลับที่รุนแรง และแข็งกร้าวของ วิชามวยภาคใต้ อันน่าเกรงขาม ...คิวบู๊ที่ได้เห็นทั้งหมดออกแบบมาได้อย่างสวยงามงด แต่แอบแฝงคมความเถื่อนอันน่ากลัวด้วยอย่างอัศจรรย์ เหตุผลที่ 5... งานโปรดักชั่นทำออกมาได้ดูดีในทุกๆด้าน ด้วยทุนสร้างไม่กี่สิบล้าน ...ไชยา มีความแพรวพราวไปด้วยมุมกล้อง และการตัดต่อที่ตรึงอารมณ์คนดูให้ยอมศิโรราบจ้องมองแต่จอหนัง ...ในขณะเดียวกัน งานฉาก การแต่งกาย ก็เลียนยุคเก่าก่อนได้เนียนจนให้รู้สึกว่า ผมกำลังดูหนังที่มีการสร้างมาตั้งแต่ 20-30 ปีก่อน แต่เพิ่งได้มาฉายเอาในพ.ศ. 2550 กันซะอย่างงั้น (อารมณ์ตอนดู ประมาณ "แฟนฉัน" ...เกิดไม่ทันยุค แต่ก็รู้สึกทันสมัยล่ะวะ) เหตุผลที่ 6... ทีมนักแสดงชาย ตัวเอกทั้ง 3 เล่นเป็นเพื่อนกันได้อย่างเยี่ยมยอด เสมือนจริงชวนให้เราต้องอินเป็นที่สุด ...ถึงบทเด่นจะตกเป็นของ "กอล์ฟ-อัครา" ซะมาก แต่ "สน The Star" และ "บอย-ธวัชชัย" ก็แย่งซีน แสดงการดึงดูดสายตาคนดู ได้เก่งไม่ได้ยอมแพ้พระเอกไปเลย (ยิ่งคนหลังได้รู้มาว่า เคยเป็นผู้ชายของ พี่ลูกเกด Thailand Next Top Model ก็แอบอึ้ง) แต่ถึง ไชยา จะมีดีด้วยเหตุผลเช่นนี้ที่พูดไป หากถ้าจะบอกว่าหนังยังมีขัดใจตรงไหนบ้าง ผมก็สามารถแย้งมาได้หนึ่งเหตุที่ส่งผลให้หนังยังไม่เต็มที่ และให้ความประทับใจได้ไม่เต็มอิ่ม เหตุผลเดียว... หนังเดินเรื่องเร็วและเร่งจนเกินไป ถึงจะดูแล้วรู้เรื่องอย่างทะลุปรุโปร่ง หากแต่มันก็รู้แบบที่ต้องออกจากโรงมานึกย้อนหาความดูอีกทีหนึ่ง ...ซึ่งถ้าหนังจะผ่อนจังหวะลงมา และใส่รายละเอียดสร้างน้ำหนักของฉากบางฉากที่ยังสะดุดใจ เข้าไปอีกสักนิด ...ผมเชื่อว่า ไชยา จะต้องเป็นอีกหนึ่งหนังไทยที่น่าประทับใจเอาอย่างมาก และพอจะมีความแรงในการอยากเป็นหน้าม้ามากไปกว่านี้ อย่างที่เคยรู้สึกกับ "โหมโรง" หนังดีที่เคยมีคนมองข้ามไปเยอะแยะ แต่สุดท้ายก็ประสบความสำเร็จได้ด้วยแรงใจของคนเล็กๆกลุ่มหนึ่งแถวๆนี้"ไชยา" ... ถึงจะไม่แรงเท่า โหมโรง แต่ผมก็ขอร่วมเป็นม้าในกลไกการเชียร์อีกตัว ที่ขอบอกว่า หนังเรื่องนี้มีดีให้คุณคนไทยทุกๆคนได้ดู ...ถ้าไม่ติดว่าหนังเร็วเกินไป อาจพลาดเรื่องโดยง่ายๆ มีสิทธิ์จะทำรมณ์เสียนิดๆ ก็ต้องขอรับประกันได้อยู่ว่า คุณจะรู้สึกสนุกและอยากจดจำ หนังดีๆเรื่องนี้ไว้ในหน่วยความจำของคุณเป็นแน่ ...และเมื่อได้จดจำ คุณต้องรู้สึกอยากชวนให้คนอื่นอยากจดจำไปพร้อมกับคุณอีกแน่แท้ ขอแนะนำ ...ครับเกรด A- ... { } ส่วนที่เป็นฟอนท์สี เขียว -แดง เพิ่มเข้ามา... ซึ่งที่เน้นนั้นจะเป็นที่ผมพูดถึง ส่วน ดูดี(เขียว) -ดูด้อย(แดง) ของหนังแต่ละเรื่องครับ ...สำหรับบางคนที่ยังไม่ได้ดูหนัง แล้วอยากจะรู้ว่าหนังมีอะไรดีอะไรด้อยบ้าง ก็อ่านเอาจากที่ผมทำไฮไลท์ไว้ก็ได้เลยครับ ตามแต่สะดวกละกันขอเชิญทุกท่านเสนอความคิดเห็นกัน... 1 Comment ของคุณ คือ 1 Happy ของเจ้าของบล็อก ขอบคุณมากครับ
Create Date : 03 กันยายน 2550
Last Update : 3 กันยายน 2550 0:18:57 น.
21 comments
Counter : 6285 Pageviews.
โดย: บางนรา วันที่: 3 กันยายน 2550 เวลา:4:05:49 น.
โดย: Pebbles วันที่: 3 กันยายน 2550 เวลา:9:02:47 น.
โดย: L-Nets IP: 128.174.161.203 วันที่: 3 กันยายน 2550 เวลา:14:31:24 น.
โดย: cuckoo (JarnPom ) วันที่: 3 กันยายน 2550 เวลา:20:37:56 น.
โดย: cuckoo (JarnPom ) วันที่: 3 กันยายน 2550 เวลา:20:38:04 น.
โดย: cuckoo (JarnPom ) วันที่: 3 กันยายน 2550 เวลา:20:39:56 น.
โดย: บลูยอชท์ วันที่: 3 กันยายน 2550 เวลา:21:22:25 น.
โดย: http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A5775702/A5775702.html IP: 124.120.147.202 วันที่: 5 กันยายน 2550 เวลา:20:22:09 น.
โดย: ษา IP: 124.120.80.66 วันที่: 6 กันยายน 2550 เวลา:10:11:43 น.
โดย: 12 IP: 124.121.6.47 วันที่: 9 กันยายน 2550 เวลา:2:13:40 น.
โดย: บลูยอชท์ วันที่: 12 กันยายน 2550 เวลา:14:07:25 น.
โดย: Oakyman วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:14:29:56 น.
โดย: ิbambam IP: 58.8.121.175 วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:13:50:16 น.
โดย: emy IP: 69.22.254.138 วันที่: 8 มกราคม 2551 เวลา:8:29:46 น.
โดย: ♫ปอนด์♫ IP: 125.24.134.176 วันที่: 21 มกราคม 2551 เวลา:10:07:51 น.
โดย: วัยอลวน 4 ตั้ม & โอ๋ รีเทิร์น IP: 210.246.186.9 วันที่: 7 มีนาคม 2551 เวลา:22:24:37 น.
โดย: อ้อม IP: 117.47.0.173 วันที่: 9 ตุลาคม 2553 เวลา:22:15:16 น.
โดย: ทอม IP: 118.172.104.208 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2553 เวลา:2:54:59 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [? ]
สวัสดีครับ ...บล็อคแก๊งค์ คิดไม่ออก จะพูดอะไรดี พูดถึงประวัติตัวเอง... ก็ดูไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจ พูดถึงนิสัยตัวเอง... ก็มีทั้งดีทั้งร้ายสับเปลี่ยนหมุนเวียนไป เฉกเช่นคนธรรมดา พูดถึงหน้าตา... ก็บ้านๆแบบพื้นๆ น้องๆ แบรด พิตต์ หลานๆ ทอม ครูซ เท่านั้นเอง (แหวะ!!!) ตอนนี้ อาจยังคิดไม่ออก แต่ถ้าตอนไหน คุณชวนผมคุย ตอนนั้นผมก็พร้อมจะคุยกับคุณ ในทุกเรื่อง ได้ทุกแนว เพียงแต่ขอยกเว้น ...เรื่องส่วนตั้ว ส่วนตัว ขอขอบคุณ ในมิตรภาพของทุกท่าน ความรู้จักที่คุณมีให้ผม ...ผมขอน้อมรับ ในทุกสิ่ง ที่ท่านมีต่อผม ไม่ว่าจะด้วยภาษา หรือว่าความรู้สึก ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ...แต่ถ้านี่ยังน้อยไป ก็อย่าลืม ...เมล์ของผม แอดกันได้นะ once_upon.a.man@hotmail.com My @ http://twitter.com/once_upon_a_man ขอขอบคุณ และสวัสดีครับ ...รักนะ คนอ่านผลงานบทความที่อยู่ใน Blog นี้ สามารถให้คนอื่นนำไปเผยแพร่ในที่อื่นๆได้ แต่ต้องขอให้แจ้งทางเจ้าของ Blog ก่อน ว่าจะนำไปใช้เพื่อประโยชน์ในทางที่ถูก พร้อมทั้งให้เครดิตของเจ้าของผลงานตัวจริงด้วย โดยห้ามทำการดัดแปลงแก้ไข ด้วยภาษาของตัวคุณเอง เพื่อทำให้เจ้าของ Blog เสียหาย ขอความกรุณา อย่าละเมิดสิทธิ์กันเลยครับ เพราะกว่าจะเป็น กว่าจะเกิดผลงานขึ้นมาแต่ละชิ้นได้ อาจคิดขึ้นมาได้ไม่ยาก แต่มันก็ลงมือทำไม่ง่ายเช่นเดียวกัน ถ้าท่านผู้ใดไปพบว่า มีคนนำผลงานของเจ้าของ Blog ไปเผยแพร่ นำเสนอ ในทางที่ไม่ดีไม่ชอบ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อตัวเจ้าของ Blog กับคนอื่นๆ หรือว่าสังคม ..ขอให้แจ้งมาทาง "หลังไมค์" ของเจ้าของ Blog เลยทันที ขอบคุณมากๆครับ
1
2 3 4 5 6 7 8
9 10 11 12 13 14 15
16 17 18 19 20 21 22
23 24 25 26 27 28 29
30
(สงสัยมีแต่บล็อกเกอร์ไปดูมั๊ง อิอิ)
ยังไงก็เชียร์ให้ไปดูเหมือนกันจ้า....
อย่ารอลงแผ่นเลย
เพราะน่าจะโดนเซนเซอร์แน่ๆ