Terminator Salvation ... แม้จะมาครบส่วน ไม่เป็นเศษ ..แต่โปรแกรมบางอย่างได้หายไป
ผมยังจดจำได้ดีว่า ครั้งสุดท้ายที่ผมได้เคยร่วมผจญภัยไปกับหนังตระกูล คนเหล็ก ในภาคสาม ...ผมผิดหวังกับมันมากแค่ไหน ผิดหวังในที่นี้ไม่ใช่ เรื่องที่เกี่ยวกับความบันเทิงในตัวหนัง ..เพราะเอาเข้าจริง ถ้าไม่คิดอะไรมากมายถึงตัวตรรกะ ความเป็นไปได้ ก็ยังพบว่า มันคือหนังแอ๊คชั่นฟอร์มยักษ์เรื่องหนึ่ง ที่สนุกดี แบบที่คอหนังบู๊จะพึงใจ แต่ถ้ามองข้ามประเด็นนั้นไปแล้ว ..และมองให้ลึกไปถึง จิตวิญญาณของ คนเหล็ก ...ก็ไม่ผิดอะไรที่หลายคนจะมองว่า ไม่มีภาคสามเสียเลยคงจะดีกว่า ถ้าเพียง งานนี้เกิด เพราะแค่จะเลี้ยงส่ง ต้นแบบคนเหล็ก ไปเป็นผู้ว่าฯ ก็เท่านั้น หากแต่ส่วนตัวผมเอง ที่ผิดหวังอย่างจริงๆจังๆ มันไม่ใช่เรื่องที่หนังไม่ค่อยจะให้อรรถรสได้เต็มที่แบบเดียวกับ คนเหล็ก ของ เจมส์ คาเมรอน เหมือนเช่นคนอื่นๆส่วนมาก ...แต่ดั้นมาเซ็งเอาอย่างแรง กับ ฉากจบที่...มีปลายเปิด!!! และนับจากนั้นเป็นต้นมา ผม กับ Terminator 3 ก็ขาดจากกันอย่างสิ้นเชิง ...ไม่เคยคิดโหยหาอาวรณ์มันอีกเลย มิหนำซ้ำยังพาลจะขอหย่าขาด ไม่ดูภาคต่อของมันด้วย หากมันมีขึ้นมาจริง สมอย่างที่ตอนจบมันตั้งใจ แต่ถึงเวลานี้ ความตั้งใจที่เคยปรารถนาของผม มันก็ทำได้แค่ว่า ผมต้องยอมกลืนน้ำลายตัวเองอีกแล้ว ..และนั่น ก็เท่ากับว่า ผมจำเป็นต้องแพ้ใจให้กับการกลับมาของ คนเหล็ก อีกจนได้ ...เพียงเพราะผมอดจะปฏิเสธ ความน่าสนใจในโลกที่เปลี่ยนไปหลังวันพิพากษา บนแนวทางของ แม๊คจี ..ผู้กำกับที่ผมเคยแอบร้องยี้(ทั้งๆที่ใจตอนนั้น ไม่สนจะดูนะนั่น) เมื่อรู้ว่าเขาคือคนที่จะมาสานต่อ เพราะอะไรนะหรือ ที่ ผู้กำกับชื่อแปลก คนนี้ จึงได้เป็นที่กังขาของใครหลายคน ว่าเขาจะเหมาะสมได้จริงๆ ..นั่นก็คงต้องมองย้อนไปยังผลงานเก่าอันเอกอุ อย่างสองภาคของ นางฟ้าชาร์ลี ..ที่ขึ้นชื่อว่า พยายามจะปลุกผีชะนีซีรี่ส์เก่าให้กลับมาดัง แต่จนแล้วจนรอด เมื่อคิดสร้างภาคต่อ มันก็ต้องถอยกรูดกลับลงหลุมเหมือนเดิม และด้วยเหตุฉะนี้แล้ว ..ต่อให้ผมจะไม่ถือว่าเป็น แฟนคนเหล็ก คนหนึ่ง แต่ถึงอย่างไรก็ตาม มันก็ไม่น่าจะทำใจยอมรับได้ในบัดดล หากคิดว่านี่ คือการส่งไม้ต่อ ที่มอบหมายจะให้ขุดซากคนเหล็ก มาเชื่อมต่อกันใหม่อีกสักครั้ง เพื่อตามใจคนสร้าง ...ที่อยากให้คนดูเสียตังค์ เพราะความรัก หรือความรู้จักที่มีต่อหนังอมตะชุดนี้มันล้นใจ แล้วยิ่งพอได้รู้ว่ามันจะมากันต่อเนื่อง เป็นไตรภาคใหม่ไปเสีย ...ความหวาดกลัว ก็ย่อมต้องเกิด ซึ่งมันกลัวว่า จะลามเลียไปถึง ความดีความชอบที่ สองภาคแรก เคยสั่งสมมา จะย่อยยับอัปเปหิ จนแทบไม่เหลือชื่อ Terminator ให้จดจำ ..เฉกเช่นที่กรณีนี้ เคยเกิดมาก่อน กับ Batman ที่เมื่อมันมาอยู่ในเงื้อมมือของ โจเอล ชูมัคเกอร์ ..นับแต่นั้นมาหลายปี ก็แทบไม่มีใครมีใจนึกอยากจะดู วีรกรรมมนุษย์ค้างคาว ในโลกแฟนตาซีจ้ดจ้าน เอาเสียเลย แต่ถึงกระนั้น มันก็คงน่าดีใจอยู่นิดๆหรอก ..ที่ Terminator ของ แม๊คจี ไม่ได้คิดจะออกอ่าว พาเรือล่ม ...หากจะสามารถพาเศษซากที่เคยเกลื่อนกลาด เมื่อครั้งภาคสามทำล่ม มากลับเข้าฝั่งได้ด้วยภาพลักษณ์ที่สมจริงสมจัง ...ซึ่งเอาจากที่ได้เห็นเพียงเศษเสี้ยวของตัวอย่าง ก็จัดว่า ยังพอจะคาดหวัง ของดี จาก นายแม๊คจี ผู้นี้ได้บ้าง ซึ่งพอได้พานพบตัวเต็มของ Terminator Salvation เข้าให้ ..ก็คงต้องถอนความคิดเคยยี้ ออกไปเสียที และดูดีๆ ก็เห็นได้ชัดว่า แม๊คจี มีความตั้งใจจะปลุกวิญญาณคนเหล็ก ให้กลับมา เกิด เกิด เกิด อีกครั้งซึ่งมันก็คงจะเรียกว่า สำเร็จ ได้อยู่หรอก ถ้าไม่ติดว่า... งานนี้ ก็ยังคงขาดหายในจิตวิญญาณของ คนเหล็ก ไปอีกพอสมควร เพียงแต่ ความคิดของผมโดยส่วนตัว ..ถ้าไม่คิดเอาจริงเอาจังกันเต็มที่ ก็หาไม่มีความผิดหวังใดๆในภาคนี้เลย โดยเฉพาะ กับเรื่องของความสนุก ในภาพลักษณ์ของหนังขายบันเทิงฟอร์มใหญ่ยักษ์เรื่องหนึ่ง ..ต้องถือว่า T4 สามารถตอบแทนความมันส์ ได้อย่างคุ้มค่า แต่ต้นจนจบเรื่องเสียจริงๆ แม้ถ้าจะวัดกันในเรื่องของความอึดอัด กดดัน ลุ้นกันจนหอบแฮ่กๆ แล้วยังไม่ถึงขั้นนั้น เมื่อเทียบกับ หนังที่ว่าด้วยเรื่องหุ่นยนต์เด่นๆ เหมือนกันอย่าง Transformers (ยอมรับว่า เห็นแค่ตัวอย่าง ก็อดจะคิดว่าหนัง คนเหล็ก พยายามเจริญรอยตาม เป็นไม่ได้เช่นกัน) ...แต่เอาตามที่มีอยู่ ก็ถือว่า ไม่น่าเบื่อ มีอะไรให้เพลินๆไปกับมันได้ตลอด อีกทั้งในแง่ของความสมจริง ต้องถือว่าสอบผ่าน ไม่ได้ทำให้เกิดความตะขิดตะขวงใจใดๆ บนความเหลือเชื่อบางอย่าง ซึ่งถ้ามาวัดกันที่ความน่าเชื่อถือในตัวหนังแล้ว ..บทหนังในภาคนี้ ก็จัดได้ว่า เขียนออกมา ผ่านความคิดที่ลึกซึ้งในระดับหนึ่งเลยทีเดียว ...ยิ่งถ้าเอามาเทียบกับบทของภาคสาม ที่คลอดออกมาจากน้ำมือคนเขียนชุดเดียวกัน (แต่ก็ได้ข่าวว่า ภาคนี้ มีมือดี ประสงค์ดี แบบลับๆมาช่วยแก้ไขให้เล็กน้อย) ก็ให้ภาพลักษณ์ที่ออกมาแตกต่างได้โดยสิ้นเชิง และเป็นภาพที่ดูดีขึ้น ตลอดจนยังจะทำให้เรามองเห็นความชัดเจนในส่วนที่เป็นโลกหลังวันพิพากษา ที่ภาคแรก ภาคสอง เคยแค่แยบๆ มาก่อนหน้าแต่ถ้าถามว่า ผมชอบอะไรอย่างมาก ในส่วนที่เป็นบทหนัง แล้วละก็ ..ผมคงจะเหมือนกับอีกหลายๆคน ที่รู้สึกสนุกไปกับ การทำความเคารพ หนังไตรภาคแรก ด้วยการใส่มุข แต่งไดอะล็อก เติมความเป็นมาเป็นไปบางอย่าง เพื่อสมานรอยต่อจากภาคนี้ ส่งไปถึงยังภาคก่อนๆ ได้แนบเนียน ...โดยยังไม่ทันรวมกับการแคสติ้งนักแสดง ที่บางคนอาจให้ภาพได้คล้ายคลึง แต่ก็มีบางคนที่ลอกหน้าคนเก่าออกมาได้เหมือนกันกับแกะ (ในกรณีนี้ ..ผมจะไม่ขอพูดถึง คาแรกเตอร์ที่เป็นเซอร์ไพรส์ ...เพราะไม่ใช่แค่เหมือนกันกับแกะ แต่ยังจะกระชากวัยได้เพี้ยวฟ้าวน่าแลชม ) โดยส่วนตัวผมแล้ว ผมชื่นชมกับการเลือกนักแสดง มาสวมรับบทบาทที่คนดูเคยคุ้น ได้อย่างแนบเนียน ..อันจัดว่าเป็นข้อดีอย่างหนึ่งของหนังภาคนี้ ..เฉพาะแค่สามารถหาคนที่หนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยว มาเทียบเคียงกับบท ไคล์ รีส ของ ไมเคิล บีห์น ในภาคแรกได้อย่างเหมาะเจาะ (หนุ่มคนที่ว่า ก็คือ แอนตัน เยลซิน ..ที่ไม่นานนี้ ก็เพิ่งขโมยซีนเด่นจากเพื่อนร่วมยานเอ็นเตอร์ไพรส์ ใน Star Trek มาแหม่บๆ) ...ก็นับว่าความตั้งใจจะเคารพหนังในภาคที่แล้วมา เป็นสิ่งที่คล้ายๆจะทำให้ภาคนี้ ออกมาดูดีกว่ามาตรฐานที่หลายๆคนเคยตั้งเอาไว้ โดยเฉพาะกับคนที่เป็นแฟนตัวยง คงนึกชอบใจไม่น้อยที่ภาคใหม่ ยังคงทำให้พวกเขาได้คิดถึง โหยหา ภาคเก่าๆ ไปในตัว แต่กระนั้น ถ้านึกเรียกร้องเอาอารมณ์แบบที่คุ้นเคยจาก สองภาคแรก มาเป็นตัวช่วยชี้วัด ..ความดีของ T4 ก็มีได้เพียงแค่ เป็นหนังดูเอาสนุกเรื่องหนึ่ง ...ที่หลายคน คงจะจบแล้วก็เป็นจบกัน ..หรือแม้บางคนยังจะมีอะไรให้ชอบบ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับประทับใจในภาพรวมเสียทีเดียว ซึ่งตัวผม ก็จัดตัวเองว่าอยู่ในกรณีหลัง ..ที่ยอมรับได้แต่ว่า หนังภาคนี้ ดูดีกว่าที่คิดไว้พอสมควร โดยส่วนหนึ่งที่ทำให้มัน ไปได้ไกลแค่คำว่า พอสมควร ..คงต้องยกเอากรณี การแสดงเหมือนว่าเป็น แต่ไม่เด่น(อีกแล้ว)ของ คริสเตียน เบล มาเป็นตัวพาดพิง ความคิดห้วงแรกที่ผมมีต่อ T4 ..ความดูน่าสนใจของมันในอันดับต้นๆ คงไม่พ้นเรื่องที่ตัวหนัง น่าจะมีอะไรดีๆ เป็นพิเศษ ที่เข้าตา เบล อย่างจัง ...เขาถึงได้เลือกจะกระโจนเข้าใส่ มาร่วมวงด้วย ทั้งๆที่เอาแค่ตัวเองเป็น แบทแมน ก็ยังจะใช้ชีวิตอยู่ในแวดวงหนังได้อีกนาน ยิ่งเมื่อมองย้อนไปยังความสำเร็จ ที่เคยมีส่วนช่วยชุบชีวิตแบทแมน ให้เกิด เกิด เกิด อีกสักที ก็ย่อมมีคุณณูปการ และบารมีไม่น้อยๆ ที่ทำให้ใครๆก็อยากดึงเข้ามาช่วยชุบชีวิตตำนานหนังที่เคยดับไปหลายต่อหลายเรื่อง ..จนเมื่อความโชคดี ได้มาบังเกิดกับ คนเหล็ก ก็กลายเป็นเรื่องที่น่ายินดีเล็กๆ แต่บนความยินดีที่ว่านั้น มันก็กลายเป็นเรื่องที่น่าเสียดายยิ่งๆ ในบัดดล ...เมื่อ T4 ที่น่าจะหวังกับการก่อกำเนิด จอห์น คอนเนอร์ ผู้กู้โลกที่ยิ่งใหญ่ในภาคนี้ไปเลยเสีย ..กลับเลือกจะส่งความเด่นแทบทั้งหมด ไปสิงสู่ในร่างของคาแรกเตอร์ไซบอร์ก(ครึ่งคนครึ่งหุ่น)ผู้มาใหม่ นาม มาร์คัส ไรท์ แทน ซึ่งไม่เพียงแต่จะแย่งความเด่นในบทบาทผู้กู้โลกของภาคนี้ไปเสียหมด ..มิหนำซ้ำ มันยังจะเป็นแต้มต่อสำคัญให้หนุ่มนักบู๊ดาวรุ่งพุ่งใหญ่ไฟแรงมากอย่าง แซม เวิร์ทธิงตัน ได้ เกิด เกิด เกิด อย่างเต็มตัว จนแทบจะหามีที่ยืนของพี่แบทเบล ในหนังเรื่องนี้แทบไม่เจอ ซึ่ง ณ จุดนี้ ผมจะไม่โทษยังตัวบทหนัง เพราะนั่นคงคล้ายจะเป็นจุดประสงค์ ให้ต้องก่อเกิดภาคต่อๆมาเป็นแน่ๆ ..แต่มันเป็นความผิดพลาดของ พี่แบทเบล เพียงผู้เดียว ที่ไม่สามารถข่มรัศมีความเกิดของ หนุ่มแซม ได้เลย ...แม้กระทั่งกับฉากที่ต้องเผชิญหน้า ตาต่อตา ฟันต่อฟัน กับคู่ศัตรู (ที่เคยทำได้ดีมากๆใน แบทแมน) ...แค่ฉากนี้ ฉากเดียว ก็พอจะได้เห็นภาพลางๆ ว่าหมดหนทาง จะแย่งความเด่น คืนมาได้จนจบเรื่องเป็นแน่ ถ้าจะบอกว่า นี่เป็นการแสดงที่น่าผิดหวังครั้งหนึ่งของ คริสเตียน เบล ก็คงจะได้ ...แต่ถ้าคิดในแง่ว่าหนังภาคนี้ กำลังเคารพ ต้นฉบับภาคก่อนๆ ไปในตัวด้วย ..จัดว่า นี่เป็นเรื่องหนึ่งที่สามารถมองข้ามความผิดพลาดได้อย่างฉิวเฉียด ก็คิดเสียว่า จอห์น คอนเนอร์ มันไม่เคยเด่นกว่า คนเหล็ก มาแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่หว่า!!!Terminator Salvaion ...ถ้าเอาแค่จะดูหนังมันส์ๆ ในช่วงเวลาของซัมเมอร์คลั่งความสนุกเช่นนี้ การกลับมาของคนเหล็กครั้งนี้ ก็จัดว่า อยู่ในกลุ่มป้อนความบันเทิง ให้คำใหญ่ได้พอดี เช่นเดียวกับ Star Trek หรือ Angels & Demons แต่ถ้ายกเอาคนเหล็กภาคก่อนๆมาเทียบกัน (ในกรณีนี้..ขอละภาคสามเอาไว้ในฐานที่เข้าใจ) ...ก็ถือว่า งานนี้ มาแบบประกอบพร้อมครบส่วน ไม่เป็นเพียงเศษไว้ตั้งโชว์เล่นๆ (เช่นในภาคที่ละเอาไว้เป็น) แต่เมื่อเปิดใช้งานแล้ว ก็ยังคงขาดหายไปซึ่งโปรแกรมบางอย่าง ที่สามารถจะทำให้ คนเหล็ก ตัวนี้ ออกมาสมบูรณ์แบบได้ ซึ่งก็คงเหลือแต่ว่า สองภาคที่จะดำเนินต่อจากนี้ ..มันจะมาครบถ้วน สมบูรณ์แบบได้หรือไม่ ? โดยต้องวงเล็บไว้ด้วยว่า ...(ถ้าไม่ใช่ เจมส์ คาเมรอน ..ก็คงจะเป็นโจทย์ที่ยากเย็นมากมาย!) เกรด B+ ... { } ส่วนที่เป็นฟอนท์สี เขียว -แดง เพิ่มเข้ามา... ซึ่งที่เน้นนั้นจะเป็นที่ผมพูดถึง ส่วน ดูดี(เขียว) -ดูด้อย(แดง) ของหนังแต่ละเรื่องครับ ...สำหรับบางคนที่ยังไม่ได้ดูหนัง แล้วอยากจะรู้ว่าหนังมีอะไรดีอะไรด้อยบ้าง ก็อ่านเอาจากที่ผมทำไฮไลท์ไว้ก็ได้เลยครับ ตามแต่สะดวกละกันขอเชิญทุกท่านเสนอความคิดเห็นกัน... 1 Comment ของคุณ คือ 1 Happy ของเจ้าของบล็อก ขอบคุณมากครับ ผมยินดีเสมอในมิตรภาพของทุกท่าน และบล็อคของผมก็ต้อนรับเสมอในความน่ารักของทุกคน ขอขอบคุณ และสวัสดีครับ
Create Date : 09 มิถุนายน 2552
Last Update : 9 มิถุนายน 2552 0:01:57 น.
4 comments
Counter : 3160 Pageviews.
โดย: อาเฉินน้อย IP: 124.120.149.31 วันที่: 9 มิถุนายน 2552 เวลา:10:25:18 น.
โดย: KROSS_ISC IP: 193.61.104.7 วันที่: 9 มิถุนายน 2552 เวลา:12:49:55 น.
โดย: บลูยอชท์ วันที่: 11 มิถุนายน 2552 เวลา:9:57:33 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [? ]
สวัสดีครับ ...บล็อคแก๊งค์ คิดไม่ออก จะพูดอะไรดี พูดถึงประวัติตัวเอง... ก็ดูไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจ พูดถึงนิสัยตัวเอง... ก็มีทั้งดีทั้งร้ายสับเปลี่ยนหมุนเวียนไป เฉกเช่นคนธรรมดา พูดถึงหน้าตา... ก็บ้านๆแบบพื้นๆ น้องๆ แบรด พิตต์ หลานๆ ทอม ครูซ เท่านั้นเอง (แหวะ!!!) ตอนนี้ อาจยังคิดไม่ออก แต่ถ้าตอนไหน คุณชวนผมคุย ตอนนั้นผมก็พร้อมจะคุยกับคุณ ในทุกเรื่อง ได้ทุกแนว เพียงแต่ขอยกเว้น ...เรื่องส่วนตั้ว ส่วนตัว ขอขอบคุณ ในมิตรภาพของทุกท่าน ความรู้จักที่คุณมีให้ผม ...ผมขอน้อมรับ ในทุกสิ่ง ที่ท่านมีต่อผม ไม่ว่าจะด้วยภาษา หรือว่าความรู้สึก ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ...แต่ถ้านี่ยังน้อยไป ก็อย่าลืม ...เมล์ของผม แอดกันได้นะ once_upon.a.man@hotmail.com My @ http://twitter.com/once_upon_a_man ขอขอบคุณ และสวัสดีครับ ...รักนะ คนอ่านผลงานบทความที่อยู่ใน Blog นี้ สามารถให้คนอื่นนำไปเผยแพร่ในที่อื่นๆได้ แต่ต้องขอให้แจ้งทางเจ้าของ Blog ก่อน ว่าจะนำไปใช้เพื่อประโยชน์ในทางที่ถูก พร้อมทั้งให้เครดิตของเจ้าของผลงานตัวจริงด้วย โดยห้ามทำการดัดแปลงแก้ไข ด้วยภาษาของตัวคุณเอง เพื่อทำให้เจ้าของ Blog เสียหาย ขอความกรุณา อย่าละเมิดสิทธิ์กันเลยครับ เพราะกว่าจะเป็น กว่าจะเกิดผลงานขึ้นมาแต่ละชิ้นได้ อาจคิดขึ้นมาได้ไม่ยาก แต่มันก็ลงมือทำไม่ง่ายเช่นเดียวกัน ถ้าท่านผู้ใดไปพบว่า มีคนนำผลงานของเจ้าของ Blog ไปเผยแพร่ นำเสนอ ในทางที่ไม่ดีไม่ชอบ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อตัวเจ้าของ Blog กับคนอื่นๆ หรือว่าสังคม ..ขอให้แจ้งมาทาง "หลังไมค์" ของเจ้าของ Blog เลยทันที ขอบคุณมากๆครับ
1 2 3 4 5 6
7 8 9 10 11 12 13
14 15 16 17 18 19 20
21 22 23 24 25 26 27
28 29 30
ทั้ง 3 ภาคที่ผ่านมา ก้อคือ คนเหล็ก มาช่วย จอห์น ตลอด นะครับ จะโทดพี่ เบล ก้อไม่ได้ เพราะว่า แต่ละภาคผมก็ไม่เห็นว่า จอห์น จะเด่น กว่า คนเหล็กซักภาคเลย
ไม่งั้นเขาก็ตั้งชื่อเรื่องใหม่แล้ว TerminaJorN CornoR