+-+ OncE UPoN'-'a MaN +-+ รักนะ.. คนอ่าน เข้ามาดู.. โดนใจ ออกไป.. อย่าลืมกัน
Summary for Best of the Year 2012 ..Please CLICK!!
"หลวงพี่เท่ง 2 รุ่นฮาร่ำรวย" ... เรารู้ซึ้งในรสพระธรรม (หากนี่่ก็คือ ตัวอย่างแห่งความไม่เป็นธรรม)



ถึงจะว่าไปแล้ว หนังในภาคแรก ก็ไม่ใช่ความบันเทิงอะไรที่ดีเด่เป็นหนักเป็นหนา และหากจะเอากันจริงๆ ก็ครือ หนังตลกกำกับ เพื่อรวมดาวตลก อีกเรื่องที่ธรรมด๊า ธรรมดา ค่อนไปทางฝืดด้วยซ้ำ

และแม้ว่าเรื่องของความสงสัยที่มีต่อการได้ 140 ล้านของ 'หลวงพี่เท่ง' จะไม่ได้มีสาระสำคัญไปกว่า การที่หนังสักเรื่องจะเข้าถึงชาวบ้านร้านตลาดได้เป็นอย่างดี โดยที่องค์ประกอบหลายๆอย่างมันเอื้อ ไม่ว่าจะเรื่องของพลอต เรื่องของความขายขำ หรือจะเป็นเรื่องหลักๆอย่างการเอาชื่อซูเปอร์สตาร์ตลกมาขายกันตรงๆโต้งๆ ให้รู้กันไปว่านี่หนังของใคร ..และสิ่งหนึ่งที่เถียงไม่ได้ ก็คือ ความเป็นตลกคาเฟ่ ที่โดนใจชาวบ้านกันมาแต่ยุคหลายสิบปีที่แล้ว ..เมื่อมันเข้าสู่โรงหนัง จึงกลายเป็นเรื่องของการทำเงินที่เล่นกันง่ายๆ ขายได้สบายๆ (โดยเฉพาะกับยุคแรกๆ ที่เริ่มต้นมาจาก "ผีหัวขาด" จนมาถึงในช่วงเวลาที่ตลกลองมานั่งกำกับหนังเองเป็นว่าเล่น)

แม้มันจะไม่ใช่ความผิดอะไรนักหรอก ..ที่ หลวงพี่เท่ง จะกินบุญเก่า เอาเดิมพันไปวางไว้ให้กับอีกหนึ่งภาคต่อ ...แต่ที่มันสะกิดต่อมเซ็งได้รุนแรง ก็เห็นจะเป็นตรงเรื่องของการแถแบบถูไถ ..จากตามที่ท่านผู้กำกับเคยบอกไว้ ถ้าไม่ได้เท่ง จะไม่กลับมา ...แต่สุดท้ายก็เลือกจะให้มีคนมาเสียบแทนกันซะงั้นน่ะ

เอาเป็นว่า ถ้าพูดกันในแง่สัจจะ ..ก็ถือว่า "โน้ต เชิญยิ้ม" สอบตก ตั้งแต่เปลี่ยนความยึดมั่นถือมั่น ไปตามลมปากของนายทุน ...แต่ถึงยังไงก็เถอะ มันห้ามตัวห้ามใจกันไม่ได้หรอก ที่ The Show จะต้อง Must Go On ตราบใดที่ยังคง Stay On the Money



"หลวงพี่เท่ง 2 รุ่นฮาร่ำรวย" ..จัดการเคลียร์ทางให้หลวงพี่คนใหม่ ด้วยการนมัสการหลวงพี่เท่งไปตามหารสพระธรรมไกลถึงยัง ทิเบต (เอ๊ะ! แต่ได้ข่าวจากวงในมาว่า หลวงพี่ท่าน ยังหลงทางไปไม่ถึง พักค้างอ้างแรมอยู่ที่ Workpoint นี่หนา ..หุหุ) ..ส่วน "หลวงพี่โจอี้" ผู้มาใหม่ ก็มีความหลังเป็นนักร้องแร๊พโย่! ชื่อเสียงโด่งดังเบอร์ต้นๆของเมืองไทย

ที่คงจะเซ็งกะแผ่นผีจัดๆ เลยได้ลามาบวชพระหวังจะใช้ทางธรรมเป็นที่พึ่งพิงของจิตใจ ...ซึ่งก็คงจะรู้ซึ้งในรสพระธรรมมากเกินไป เลยลืมสึก ล่วงเลยมา 1 ปี 9 เดือน คงจะนึกว่า 9 วัน (ก๊ากกกกกก..)

แต่ถึงกระนั้นแล้ว หลวงพี่โจอี้ ก็ยังรู้สึกว่าชีวิตที่เป็นพระของตัวเองคงลำบากไม่มากพอ ถึงได้เกิดความคิดจะออกธุดงค์เพื่อค้นหารสพระธรรมที่ลึกซึ้งยิ่งกว่า ..และเขาก็ได้มาพบสิ่งที่ท่านต้องการในสถานที่ๆมี 'รถพระทำ' รอคอยเขาอยู่ (ก๊ากกกกก..)



แต่แล้วก็เหมือนว่าจะหนีร้อน มาเจอะร้อนกว่าเข้าจนได้ ..เมื่อหมู่บ้านที่ท่านได้มาถึง กำลังมีเรื่องเดือดร้อนจาก เหมืองหินที่เข้ามาทำการระเบิดอยู่ใกล้ๆกับที่พักอาศัย ซึ่งทำให้คนทั้งหมู่บ้านต่างก็เอือมระอาในความเห็นแก่ตัวของเจ้าของ หากก็ยังเลือกจะอดทนอยู่นิ่งกันต่อไป โดยไม่เคยมีใครกล้าพอจะออกโรงมาจัดการจริงๆจังๆสักที ...จนกระทั่ง หลวงพี่โจอี้ ได้รับรู้ความเป็นจริง ก็เกิดความคิดที่จะต่อกร ..แม้ชีวิตจะถึงคราวหวิดดับ ก็จะขอดับเครื่องรถพระทำ ขอมีชนกันสักตั้ง อ้าว! บางแสน เอ๊ยยย..! ชนนนนนนน

การดับเครื่องชน กำกับหนังหนล่าสุดของผู้กำกับตลกที่ชื่นชอบจะสร้างความแหวกแนวให้กับหนังตลกของเขา (ดูัตัวอย่างจาก หนังสองเรื่องหลัง ที่เรื่องหนึ่งได้เห็นกับตา (แบบว่าก็หลวมตัว) อย่าง "อีส้มสมหวัง" ส่วนอีกเรื่องได้ยินมาจากสายลม กับ "ครอบครัวตัวดำ" ที่ต่างก็เลือกจะจบแบบว่า.. คิดได้อย่างไร?(เป็นความหมายในเชิงลบ)) ..คุณลุงโน้ต ก็เหมือนจะรู้ตัวว่า สิ่งที่เขาคิด และอยากให้คนดูรู้่สึกอึ้ง มันไม่ใช่วิถีที่ชาวบ้านร้านตลาดตาดำๆจะยอมรับกันได้ (แม้กระทั่งกับคนที่ดูหนังหักมุมก็อยู่มาก อย่างผม ..ก็ยังทำใจรับไม่ได้เล้ยยยย) งานนี้ก็เลยต้องหวนกลับมาจับงานที่เคยสร้างชื่อ(ในฐานะผู้กำกับ) ด้วยความภาคภูมิใจว่า ถึงมันจะไม่เท่าเก่า แต่อย่างน้อยก็อุ่นใจว่า ทำเงินแน่ละเว้ย



แต่ถึงจะกลับมาทำเงินได้ก็จริง (และมันก็คงเป็นเพราะเครดิตเก่าๆ แต่หนนั้นนะแหละ) แต่มีหรือที่หนังจะรอดพ้นคำวิจารณ์ข่มขวัญจากคนดูที่ผ่านตาไป ที่ร้อยทั้งร้อย ไม่เคยมีหนังตลกกำกับเรื่องไหนที่ได้ชื่อว่าเป็นงานขวัญใจนัก(ดูหนังมาแล้ว)วิจารณ์ได้เลย ..และในกรณีของ หลวงพี่เท่ง 2 ก็รอดมิมีทางพ้น แต่ที่หนักไปกว่าจะคาดไว้ ก็คือว่าหนังภาคใหม่ ...ดูเละและเลอะไปกว่าเก่า ชนิดที่ทำให้ภาคก่อนของลุงโน้ต เป็นงานที่ดีของผู้กำกับรายนี้ไปเลย

เพราะแม้หนังภาคก่อน จะไม่ใช่หนังที่ตลกสุดๆ ดูจบแล้วสุขล้น จนได้อะไรกลับบ้านไปเยอะแยะ แต่มันก็ยังมีความน่าติดตามในทางของหนัง ..และแม้เรื่องราวจะเล่าแบบบ้านๆ บทก็ดูทื่อๆ แต่ด้วยเสน่ห์ของดารา โดยเฉพาะ พี่เท่ง ก็นำทางให้หนังไม่ออกนอกลู่นอกทางจนเกินไป เฉกเช่นหนังตลกกำกับอีกหลายเรื่อง ..คือถ้าถามว่าดารานำคนไหนที่ทำหน้าที่ได้น่าจดจำที่สุดในหนังไทยขายขำอย่างนี้ ก็ต้องยก พี่เท่ง ให้เป็นอันดับต้นๆได้ (ก็อย่างว่า 140 ล้านที่ได้มา ..ควรจะยกให้เท่ง สักครึ่งหนึ่งเป็นอย่างน้อยไปเลย)

แต่กระนั้นก็ไม่ได้หมายความว่า การหายไปของหลวงพี่เท่ง ในภาค 2 จะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดซะทีเดียว ..เพราะถึงอย่างไร ถ้าหนังจะไม่มีตัวเอกหน้าเดิมมาทำหน้าที่ ก็ยังมีทางที่จะสามารถสร้างความคืบหน้าใหม่ๆให้หนังมีความน่าสนใจได้ อย่างที่หนังตัวอย่างทำได้



ไม่รู้ว่าจะมีใครคิดอย่างผมบ้างหรือเปล่า แต่จากที่ได้เห็นในตัวอย่างนั้น ...การเลือก "โจอี้ บอย" มาพลิกภาพเป็นพระนักแร็พ ถือเป็นการสร้างเอกลักษณ์ที่น่าสนใจให้กับตัวหนังได้เป็นอย่างดี ..ไม่่ว่าจะมองในแง่ของความถนัดของเจ้าตัว หรือว่าการผูกเรื่องให้มาเจอกับพระนักแหล่ (บทบาทของตลกคนหนึ่ง..ที่หนังกี่เรื่องต่อกี่เรื่องหาคำว่า สำเร็จ ได้ยาก อย่าง "เทพ โพธิ์งาม") ถือเป็นการสร้างนำวัฒนธรรมที่แตกต่าง(แต่คล้ายคลึง ..เหมือนกับเป็นพี่น้อง เช่นที่ใน เดี่ยวไมโครโฟนครั้งล่าสุด ของ พี่โน้ต-อุดม ว่าไว้) มาชนกันได้อย่างน่าสนใจ

อีกเมื่อตัวอย่างยังเก็บมุขตลกที่ดีมาวางเอาไว้ ก็ดูน่าดึงดูด ให้ใครต่อใคร มองในแง่ดี โดยเฉพาะกับเวลานี้ ที่หนังตลกค่อนข้างจะขาดแคลน ขณะที่บ้านเรา(ในเวลานี้)ต้องการความรู้สึกเพลินๆอย่างนี้ ..แม้โดยส่วนตัว จะไม่ได้ติดอกติดใจในมุขตลกเหล่านั้นมากนัก แต่ก็ยอมรับว่า มันสร้างความขบขันได้ประมาณที่เราจะรู้สึกเพลินๆให้กับมันได้ไม่ยาก

ฉะนั้นแล้ว ถ้างานนี้ ที่(กำลังจะ..)กลายมาเป็นมหกรรมตบตาอีกครั้งของแวดวงหนังไทยได้เกิดขึ้น ..คงต้องโทษไปที่ ตัวอย่างหนัง ซึ่งดูดีเกินไป จะทำให้คนที่อยากจะดูอะไรสบายๆ มาท้าเสี่ยงในหนนี้ (รวมทั้งผมก็ด้วย) ...เมื่อบวกกับการประชาสัมพันธ์ตามสื่อของ ลุงโน้ต ที่เคยพูดเอาไว้ว่า "ผมตั้งใจกับหนังเรื่องนี้ เพื่อหวังจะเปลี่ยนตัวผมเองในฐานะผู้กำกับ" ก็ทำให้ผมต้องลองสักตั้ง ว่ามันจะจริงได้หรือเปล่า?

และสุดท้ายก็รู้ว่า หนังที่เคยคุ้นของเขา ไม่ได้มีสิ่งใดๆจะเปลี่ยนแปลงความเป็นตัวของเขาได้เลย ..ไม่ว่าจะมองในมุมของการเป็นผู้กำกับหนัง หรือกระทั่งการนำเสนอความคิดที่ดูท่าน่าจะคม ซึ่งคราวนี้ก็มาพร้อมกับประเด็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในสังคมไทย ..แม้ไม่หวังว่ามันจะคมกริบจนบาดได้ลึก แต่อย่างน้อยถ้าจะจริงจัง มันก็ย่อมทำได้ และน่าจะพอสร้างอารมณ์ร่วมได้อยู่ ...ยิ่งกับการที่หนังมีหน้าขายตลาดกันเสียอย่างนี้ กลับดูจะน่าหวังว่ามันคงเข้าถึงคนได้มาก จนกลายเป็นเรื่องดีเสียอีก

เพียงแต่สุดท้ายที่เป็นอยู่ เมื่อหนังทั้งเรื่องมันออกมาสู่สายตา ..ก็ยังเป็นเพียงแค่ความหวังที่พัดมาตามลม แล้วก็ปลิวไปกับพายุ หาทางจะยากกลับมาสู่คนดูได้ หากตราบใด หนังคิดจะขายแต่ความบันเทิง ขณะที่เรื่องของการสร้างอารมณ์ร่วม ก็แค่มีมาแบบบางๆ เพื่อให้หนังดูจะมีอะไรอยู่บ้าง(สักเล็กน้อย)กันอย่างนี้



แล้วถ้าลืมเรื่องที่ไม่ควรคาดหวังแต่ต้นเหล่านั้นไปเสีย มาโฟกัสกันในเรื่องของความบันเทิงเป็นสำคัญ.. ก็พูดกันไปเลยว่า หนังตลก รุ่นฮาร่ำรวยเรื่องนี้ ไม่ได้ร่ำรวยเสียงฮา และออกจะฝืดมากกว่า ถ้าตัดพวกมุขตลกในหนังตัวอย่าง และบรรยากาศภายในโรง(แถวๆย่านชานเมือง ซึ่งเจาะกลุ่มชาวบ้านแถบนั้นได้เป็นอย่างมาก) ที่คึกครื้น พอจะกลบความฝืดไปบ้างบางที


ซึ่งหากเอาความฮาที่ภาคนี้มี ไปเปรียบกับคราวก่อนด้วยละก็ ..ขอบอกว่า ถ้าดูภาคแรกจากวีซีดี ก็ยังคง พอจะฮากว่าบ้าง และดีกว่ามาสัมผัสบรรยากาศในโรง ด้วยความทื่อมะลื่อที่รุ่้นฮาร่ำรวยมีให้เรา



ไม่ว่าจะเป็นมุขที่พูดออกมาจากปาก หรือการแสดงท่าทางใดๆ ..แทบจะไม่มีดาราตลกคนไหน ทำให้มันรู้สึกว่าจะก๊ากกกกก ได้เต็มที่เลย ...ยิ่งถ้าจะมองหาคนที่เรียกว่า เป็นตัวขโมยซีน ด้วยแล้ว หนังเรื่องนี้ไม่มีให้เห็นแม้แต่เงา ..เพราะบทแทบจะไม่ได้เอื้อโอกาส ให้แต่ละคนมีช่วงเวลาเป็นของตัวเอง ทั้งนี้ทั้งนั้น การเจาะจงไปยังตัวเอกของหนัง ก็ทำได้แบบตื้นเขิน การปูพึ้นก็มีมา เพียงแค่จะให้มี แต่คนดูก็ไม่อาจเข้าใจตัวตนของคาแรกเตอร์ใดๆได้เป็นพิเศษ ..ต่อให้แม้กระทั่งจะมีประสบการณ์ในเหตุการณ์ที่ใกล้เคียง แต่หนังก็ไม่ลึกซึ้งได้เคียงใกล้เลย



การเข้ามาของ พี่โจอี้ ก็ไม่ได้ถูกเรียกใช้ประสิทธิภาพทางด้านแร๊พเอาไว้อย่างที่ตัวอย่างปูทาง (มีแค่ฉากนั้นฉากเดียวเองแหละ) แล้วบทก็ไม่ได้ส่งมาให้เขาได้เกิดกับการเล่นหนัง ("เก๋า..เก๋า" ยังดูจะมีแววกว่าอีก..แต่หนังก็ดันแป้ก) ...แม้การแสดงของเขา จะไม่ได้เรียกว่า ดี อย่างเต็มปากเต็มคำ แต่ถ้าเอาเท่าที่ได้เห็น ก็ถือว่ายอมรับได้ในมาดของพระหนุ่มหัวก้าวหน้า ที่เลื่อมใสทางธรรม(แต่ก็ดันมักทางโลกด้วยความอ่อนประสบการณ์อยู่ในที) ซึ่งถึงจะไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร เพียงแต่การมาแทนที่ หลวงพี่เท่ง ก็ยังห่างไกลจากความน่าจดจำได้เท่าเทียม



ตัวบทที่ภาคแรกก็ดูว่าอ่อนแล้ว มาภาคนี้ก็ยังอ่อนได้อีก ..และมันก็อ่อนด้วยความเป็นหนัง ที่เนื้อเรื่องแทบจะไม่มีได้ความต่อเนื่องอะไรก็แล้ว เป็นหนังมุขต่อมุขที่ทอดทิ้งเหตุและผลก็แล้ว ..หากยังจะหนักข้อกว่าด้วยความเละและเลอะของทั้งหมดทั้งมวล ที่ดูไป ก็ออกจะรำคาญไป ว่าอะไรๆ ทำไมมันถึงไม่ได้ใส่ใจความเป็นไปเสียซะอย่างนี้ ..ถ้าจะให้แซวแบบไม่ใช่ก็ใกล้เคียง อาจจะเรียกว่ามันเป็น "Disaster Movie" แบบฉบับไทยทำ ไทยเล่น ให้ไทยดูกันเองเสียทีเดียวเชียว

คือ ที่บอกว่ามันเป็นหนังหายนะ ..ความหมายของมันก็อาจจะไม่รุนแรงถึงขั้นแย่ไปจนหมดสิ้น อันส่วนที่เรียกว่าดี มีให้เห็นอยู่บ้างบางๆ (เช่น การถ่ายภาพที่ดูดีมีคลาส กว่าหนังตลกกำกับทั่วๆไป..ซึ่งอันนี้อาจจะเป็นความดีของตากล้องมากกว่า) ...แต่มันก็กลบได้เพียงบางๆครือกัน หากกระนั้นก็ถือว่า การเดินตามสูตรสำเร็จ (ที่ไม่คิดแหวกแบบงานก่อนๆ) ก็คงจะพอทำให้คนที่ไม่คิดอะไรเลย ทำใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ได้ ดูเอาเพลินๆกันไป ตามประสาหนังบ้านๆอีกเรื่องก็ย่อมได้ ..เพียงแต่ผม ไม่อาจจะพอใจได้ หากไม่ควรจะคาดหวังกับหนังที่มีหน้าไม่น่าหวังอยู่อย่างนี้ มาแต่ต้น



นี่แหละหนาความดีของตัวอย่าง ..ที่ทำดูดีออกมา ก็ชวนให้หลงเชื่อได้ง่าย หากถ้าจะทำไม่ดีไปเลย มันก็น่าคิดหนักว่าจะหลงหรือไม่หลงดี (ตัวอย่างล่าสุดของหนังไทย ก็เช่น "บุญชู ไอ-เลิฟ-สระ-อู"..ที่ส่วนหนึ่งทำเงินไม่ถึงเป้า 50 ล้าน ก็เพราะตัวอย่างที่ค่อนข้างฝืด... ก็น่าเสียดายที่ปากต่อปาก ความดีไม่รุนแรงในวงกว้างซะเท่าไหร่)

ประโยคที่ว่า "ไม่ใช่ทุกครั้ง ที่ตัวอย่างหนังจะตัดสินหนังเต็มๆทั้งหมดได้" ยังคงจริงเสมอ.. และหนังเรื่องนี้ก็ได้พิสูจน์เช่นนั้นกับผม ตรงตามทฤษฎีความหลวมตัวกันอีกแล้ว



"หลวงพี่เท่ง 2 รุ่นฮาร่ำรวย" ...สุดท้ายนี้ ไม่อยากจะบอกว่า อย่าไปดูเลย (เพราะส่วนชาวบ้านร้านตลาด ที่ไม่คิดมาก..มักห้ามได้ยาก) ..แต่หากหลีกเลี่ยงได้ก็ควรจะเลี่ยงซะ ดีกว่าเยอะ!!!

เกรด C ... {}

"สามารถติดตามบทสรุป การให้คะแนน และบทวิจารณ์ของภาพยนตร์เรื่องนี้เพิ่มเติม หรือบทวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ พร้อมความเห็นของเพื่อนร่วมบล็อคที่รักการดูหนังได้ที่ //vreview.yarisme.com พร้อมลุ้นรับบัตร Major M Cash มูลค่า 500 บาท จำนวน 8 ใบ ทุกเดือน"




ส่วนที่เป็นฟอนท์สี เขียว-แดง เพิ่มเข้ามา... ซึ่งที่เน้นนั้นจะเป็นที่ผมพูดถึง ส่วน ดูดี(เขียว)-ดูด้อย(แดง) ของหนังแต่ละเรื่องครับ ...สำหรับบางคนที่ยังไม่ได้ดูหนัง แล้วอยากจะรู้ว่าหนังมีอะไรดีอะไรด้อยบ้าง ก็อ่านเอาจากที่ผมทำไฮไลท์ไว้ก็ได้เลยครับ ตามแต่สะดวกละกัน

ขอเชิญทุกท่านเสนอความคิดเห็นกัน...
1 Comment ของคุณ คือ 1 Happy ของเจ้าของบล็อก ขอบคุณมากครับ



Create Date : 06 ตุลาคม 2551
Last Update : 6 ตุลาคม 2551 1:08:10 น. 9 comments
Counter : 5758 Pageviews.

 
วิจารย์แรงไปหรือเปล่าคะ ไม่ให้กำลังใจกันเลยเหรอ


โดย: pawina IP: 99.224.239.245 วันที่: 6 ตุลาคม 2551 เวลา:5:56:53 น.  

 
เอาน่า นานาจิตตํ...


โดย: อัสติสะ วันที่: 6 ตุลาคม 2551 เวลา:7:30:22 น.  

 
แหม นี่แรงแล้วเหรอ..

แวะมาเยี่ยม จขบ จ้า


โดย: จูริง วันที่: 6 ตุลาคม 2551 เวลา:8:32:18 น.  

 
น้อง Once รู้มั๊ย ถ้าเคยโดนเขาหลอกแล้ว ก็ไม่จำเป็นไปโดนหลอกอีกรอบ เพื่อมาวิจารณ์ก็ได้ เอาเป็นว่าเอาเงินไปซื้อแผ่นหนังดีๆหรือเอาเงินไปทำอะไรอย่างอื่น ยังดีกว่าเอาตังไปเสียให้กับคนที่เคยมาหลอกแล้วดีกว่า

ปล. สอบเป็นไงบ้าง ?


โดย: Billy Bob IP: 124.121.115.130 วันที่: 6 ตุลาคม 2551 เวลา:11:22:43 น.  

 
ภาคแรกก็โขมยมุขของพระพยอมมาเล่าใหม่ในหนัง
คนที่เคยฟังพระพยอมเทศน์บ่อยๆ มาเจอในหนังอีกรอบ
แทนที่จะขำ กลายเป็นเซ็งไปซะงั้น

คราวนี้คงรอให้เป็น CD ก่อนแล้วค่อยเช่ามาดูที่บ้านอ่ะนะ


โดย: NATSKI13 วันที่: 6 ตุลาคม 2551 เวลา:11:51:05 น.  

 
ดูแล้ว แล้วก็ออกจากโรงด้วยความงงๆ บวกกับเสียดายตังค์

ภาคแรกยังมีกร๊าก ภาคนี้มาได้แค่ หุหุ อยู่ สอง-สามครั้งเอง

มีดีอย่างเดียวคือถ่ายภาพสวยค่ะ ได้ตากล้องดีแต่สวยเกินกว่าหนังตลกค่ะ



โดย: บินไปในฟ้ากว้าง วันที่: 6 ตุลาคม 2551 เวลา:14:23:18 น.  

 
+ แหะๆ ของพี่กะจะไม่ดูตั้งแต่แรกอยู่แล้วครับ ไม่เข้าทางอ่าเรื่องนี้


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 9 ตุลาคม 2551 เวลา:19:29:54 น.  

 
ทำไงดี หนังตัวอย่างตัดออกมาดูดีกว่าหนังเต็ม...


โดย: แม่หนูดีจ้ะ (หนูดี-น่านน้ำ ) วันที่: 10 ตุลาคม 2551 เวลา:18:12:36 น.  

 
หนังเน้นแต่จะปล่อยมุข พอตัดมาฉากใหม่ ก็เตียมที่จะปล่อยมุขใหม่ แถมมุขที่ปล่อยก็เป็นการรวบรวม มาจาก
ตลกคาเฟ่ หนังไม่มีความต่อเนื่องกันเลย เสียดายเงิน


โดย: 0...0 IP: 124.121.75.249 วันที่: 15 ธันวาคม 2551 เวลา:15:32:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

OncE UPoN'-'a MaN
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




สวัสดีครับ ...บล็อคแก๊งค์

คิดไม่ออก จะพูดอะไรดี
พูดถึงประวัติตัวเอง... ก็ดูไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจ
พูดถึงนิสัยตัวเอง... ก็มีทั้งดีทั้งร้ายสับเปลี่ยนหมุนเวียนไป เฉกเช่นคนธรรมดา
พูดถึงหน้าตา... ก็บ้านๆแบบพื้นๆ น้องๆ แบรด พิตต์ หลานๆ ทอม ครูซ เท่านั้นเอง (แหวะ!!!)

ตอนนี้ อาจยังคิดไม่ออก แต่ถ้าตอนไหน คุณชวนผมคุย ตอนนั้นผมก็พร้อมจะคุยกับคุณ ในทุกเรื่อง ได้ทุกแนว เพียงแต่ขอยกเว้น ...เรื่องส่วนตั้ว ส่วนตัว

ขอขอบคุณ ในมิตรภาพของทุกท่าน ความรู้จักที่คุณมีให้ผม ...ผมขอน้อมรับ ในทุกสิ่ง ที่ท่านมีต่อผม ไม่ว่าจะด้วยภาษา หรือว่าความรู้สึก

ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ...แต่ถ้านี่ยังน้อยไป ก็อย่าลืม ...เมล์ของผม แอดกันได้นะ

once_upon.a.man@hotmail.com


My @ http://twitter.com/once_upon_a_man

ขอขอบคุณ และสวัสดีครับ ...รักนะ คนอ่าน

ผลงานบทความที่อยู่ใน Blog นี้ สามารถให้คนอื่นนำไปเผยแพร่ในที่อื่นๆได้ แต่ต้องขอให้แจ้งทางเจ้าของ Blog ก่อน ว่าจะนำไปใช้เพื่อประโยชน์ในทางที่ถูก พร้อมทั้งให้เครดิตของเจ้าของผลงานตัวจริงด้วย โดยห้ามทำการดัดแปลงแก้ไข ด้วยภาษาของตัวคุณเอง เพื่อทำให้เจ้าของ Blog เสียหาย

ขอความกรุณา อย่าละเมิดสิทธิ์กันเลยครับ เพราะกว่าจะเป็น กว่าจะเกิดผลงานขึ้นมาแต่ละชิ้นได้ อาจคิดขึ้นมาได้ไม่ยาก แต่มันก็ลงมือทำไม่ง่ายเช่นเดียวกัน

ถ้าท่านผู้ใดไปพบว่า มีคนนำผลงานของเจ้าของ Blog ไปเผยแพร่ นำเสนอ ในทางที่ไม่ดีไม่ชอบ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อตัวเจ้าของ Blog กับคนอื่นๆ หรือว่าสังคม ..ขอให้แจ้งมาทาง "หลังไมค์" ของเจ้าของ Blog เลยทันที ขอบคุณมากๆครับ

OncE UPoN'-'a MaN on Facebook
Blog ใหม่ล่าสด..สด
"VieTrio & Friends" ... เพื่อนร้อง พี่น้องเล่น เป็นเพลงเพราะเสนาะหู
"Lady Antebellum : Need You Now" ... ลูกทุ่งแบบมะกัน แต่สีสันระดับโลก
"The Social Network" ... วันนี้ คุณรู้จัก Facebook ดีพอแล้วหรือยัง?
"Harry Potter and the Deathly Hallows : Part I" ... ฉันต้องเปิด เพื่อจะปิด!
"Scrubb : Kid" ... คำตอบของเพลงอินดี้ที่ฟังง่าย อยู่ในอัลบั้มนี้แล้ว
"Due Date" ... รวมกันเราต้องอยู่ (กรุณา)อย่าทิ้งตูเป็นอันขาด!!?
"B.o.B. Presents: The Adventures of Bobby Ray" ... อาจเป็นฮิปฮอปหน้าใหม่ แต่ไม่ขอยึดติดความฮิป
"RED" ... โตอย่างสมวัย แก่อย่างมีคุณภาพ และจงระห่ำอย่างไม่เหลืออะไรจะเสีย!
"ห้องตรงข้าม หัวใจตรงกัน" ... (หนังสั้น)แบบตัวเต็ม ที่ไม่มีอะไรมากมาย แต่ก็ยังมีความจริงใจ!
"ห้องตรงข้าม หัวใจตรงกัน" ... กับตัวอย่างน้ำจิ้ม ของหนังสั้นที่คงจะมีอะไรๆอยู่ในนั้น
"อินทรีแดง" ... สมศักดิ์ศรีที่ได้กลับมา ..วีรบุรุษที่หนังไทยต้องการ!
"ชั่วฟ้าดินสลาย" ... เมื่อคำ “รัก” มีค่าเท่าคำว่า “ร้าย” คงทำลายคนทั้งหลายให้วายวอด
"Resident Evil : Afterlife" ... สงครามยังไม่จบ ยังต้องนับศพซอมบี้จนเบื่อกันไปข้าง!!
"Lula : Twist" ... เพลงฟังชวนเพลิน จากคนเพลินๆ ที่ชื่อ 'ลุลา'
"Piranha 3D" ... กัดกระจุย เลือดกระจาย สามมิติกระเจิง!!!
"CHARICE" ... เพชรน้ำงามเม็ดเล็กแห่ง ‘เอเชีย’ ที่คู่ควรกับการเจียระไนโดย ‘อเมริกา’
"กวน มึน โฮ" ... ความรัก อาจแพ้บ้างอะไรบ้าง แต่ ความ ‘เห็นแก่ตัว’ เอาชนะได้ทุกสิ่ง!
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
6 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add OncE UPoN'-'a MaN's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.