Transformers : Revenge of the Fallen ... ใหญ่กว่า เยอะกว่า (กะจะให้)มันส์กว่า.. ก็เท่านั้น!!?
ก่อนจะว่ากันที่ภาคใหม่ ..ขอชวนย้อนกลับไปอ่านความรู้สึกของผมที่มีต่อภาคแรก ได้ที่นี่..."Transformers" ... การแสดง 'หุ่นเชิด' ครั้งใหญ่โตมโหระทึกใจ ถึงแม้ว่าชื่อของผู้กำกับ ไมเคิล เบย์ อาจจะไม่สามารถรับประกันได้เลยในทันทีว่า เราจะได้ดูหนังดีหรือไม่? ..แต่อย่างหนึ่งที่เราคอหนังจะสามารถ คาดหวังได้จากผู้ชายคนนี้ คือ การได้ดูหนังแอ๊คชั่นทุนสูงที่ดูเอามันส์ได้ ซึ่งถึงสุดท้ายอาจจะต้องออกจากโรงด้วยความผิดหวัง ..แต่ก็ยังพอมั่นใจได้ทุกครั้งว่า หนังของเขา ต้องเกิดขึ้นมาเพื่อสร้างความบันเทิงได้ระทึกถึงขั้วหัวใจเฉพาะเมื่อดูในโรงเท่านั้น ..ไม่ว่าจะด้วยภาพ หรือเสียง อรรถรสที่ได้จากการดูหนังในโรง มักจะให้ผลที่คุ้มค่าโดยตลอด เมื่อมันเป็นหนังของ ไมเคิล เบย์ นี่จัดว่าเป็น ข้อดีอย่างหนึ่ง ที่ไม่อาจหาคำใดมาโต้เถียง เกี่ยวกับเรื่องความสามารถของตัวผู้กำกับคนนี้ได้เลย ..แม้กระทั่งว่าส่วนตัวกับหัวใจจะยังคงมีอคติทุกครั้ง เมื่อคิดถึงหนังเก่าๆแทบทุกเรื่องของเขาก็ตามที หากเพียงแต่ในกรณีนี้ จะคงต้องยกเว้นให้กับ Transformers ไว้เรื่องหนึ่ง ...อันเพราะอย่างที่ได้เคยว่าไป(ในรีวิวนั้น) ผมได้มองว่ามัน เป็นหนังที่สมควรได้รับออสการ์มากที่สุดของ ผู้กำกับที่ชื่อ ไมเคิล เบย์ คนนี้ ไปแล้ว!!! และด้วยเหตุผลนี้นี่เอง มันเลยกลายเป็นส่วนสำคัญเต็มๆที่ทำให้ผมเฝ้ารอคอยจะดูการกลับมาของมหกรรมเชิดหุ่น ...เพราะถึงอย่างน้อยๆ จะคาดหวังไม่ได้ว่าจะดีไปกว่าเก่า แต่ถ้าเอาอย่างมากๆ ก็คงจะดูเอาคุ้มในฐานะหนังซัมเมอร์ฟอร์มยักษ์มหึได้ละมั้ง?? ซึ่งกรณีอย่างมาก ที่ได้รับมาจาก Transformers : Revenge of the Fallen ก็ไม่ผิดไปจากที่คิดซะหรอก ..แต่ส่วนอย่างน้อย ที่ก็หวังว่าจะเป็นไปได้เหมือนภาคแรกเคยเป็นนี่สิ ...มันน่าผิดหวังจริงๆ ที่มันไม่ได้เกิดขึ้นในภาคนี้ ด้วยความที่ภาคสอง ต้องการสร้างให้ทุกสิ่งทุกอย่าง ดูใหญ่กว่า เยอะกว่า และพยายามจะทำให้ ดูมันส์ กว่าเดิม เนื่องมาจากเงื่อนไข(ความโลภ)ที่ต้องเอาชนะภาคแรกที่ก็เคยตั้งมาตรฐานเอาไว้สูงอยู่แล้ว ...มันเลยชะรอยประจวบเหมาะให้ ทุกสิ่งอัน มันมากเกินพอดีซึ่งไอ้ความเกินพอดีนี่แหละ ที่มันทำให้หนังดูล้นๆ ปริๆ ไปหมดทั้งเรื่อง.. ทั้งๆที่จะว่าไป เนื้อเรื่องของตัวหนังเองก็ไม่ได้เล่าความอะไรเสียให้มากมายกว่าเดิมซะด้วยซ้ำ อีกยังจะมาพร้อมสเตปการเดินเรื่อง ที่คนดูทุกคนจับทางได้ และคุ้นเคยมาแต่ไหนแต่ไร ยิ่งพอมาเจอประสบพบปัญหาสำคัญในหนังของ ไมเคิล เบย์ ทุกเรื่อง จะต้องเจอเข้าให้ อย่าง ความไม่น่าเชื่อในตัวบทหนัง อีกหนึ่งสิ่ง... มันก็ยิ่งกระทบให้ Transformers 2 ตลบอบอวลไปด้วยเรื่องที่ดูละเมอ เพ้อเจ้อ ซึ่งแทนที่จะทำให้ความเพ้อเจ้อ กลายเป็นเรื่องของความสนุกแบบการ์ตูนๆได้ เช่นที่ภาคแรกเคยทำ ..ไปๆมาๆ ยิ่งเห็นอะไรที่ไม่น่าเป็นไปได้ ก็ยิ่งดูเพี้ยน ดูประหลาด จนพาลเสียอารมณ์แอ๊บเด็กไปจนหมดซึ่งก็น่าแปลกใจนักที่ ผลงานก่อนหน้าจะมาเป็น Transformers 2 ของทีมคนเขียนบทเดียวกัน อย่าง Star Trek ก็ทำให้สิ่งที่ดูไม่น่าเป็นไปได้ มันน่าตื่นตาตื่นใจจนตะลึงพรึงเพริดได้ ...แต่งานนี้ กลับดูผิดธรรมชาติ จนบางครั้งก็ไม่อยากเชื่อว่าบทหนังจะกล้าให้ทำอะไรที่ไม่สมจริงอย่างนี้ออกมา อีกที่เป็นปัญหาหลักๆของบทใน Transformers ภาคนี้ อันคือ ความพยายามจะใส่อะไรที่เคยถูกใจคนดูในภาคแรกเข้ามาเป็นอีกเท่าตัว ..เหมือนกะว่า อะไรที่มาเป็นสองเท่า จะต้องทำให้ดูสนุกกว่าเดิมอีกแน่ ...แต่นั่นกลับลืมไปเลยว่า ตัวหนังเองก็ยังต้องการความลงตัวของทุกสิ่งทุกอย่างที่ใส่เข้ามาด้วย ซึ่งนั่นคือสิ่งที่คนดูต้องการ เพราะถึงจะคาดหวังว่าหนังต้องหนักฉากแอ๊คชั่น ..หากถ้าได้ความตลกมาแซมๆช่วยผ่อนพอประมาณ ใส่เข้ามาแบบถูกจังหวะเช่นภาคแรก ก็ย่อมแหล่ม ...แต่ Transformers 2 กลับพยายามจะทำทุกอย่างให้ดูเป็นมุขตลกไปเสียหมดซึ่งนั่นก็คงจะดี ถ้าความพยายามเหล่านี้ มาพร้อมกับการหยอดที่เข้าท่าเข้าที ...แต่หลายครั้งที่เห็นในหนัง มันกลับดูมากเกินไป และความมากเกินเหล่านี้ ก็เป็นที่มาให้เกิดทั้งมุขที่ใช้ได้ บางครั้งก็ได้ฮาจริง แต่หลายครั้งก็ไม่น่าใช้ จนกลายเป็นตลกฝืดที่แค่ให้ยิ้ม ก็ยังรู้สึกต้องฝืน ความตลกที่มาจนล้น ไม่ใช่เพียงสิ่งเดียวที่ทำให้หนังไม่ลงตัว ..หากยังมีที่หนักไปกว่านั้น ก็คือ การเฉลี่ยบทบาทของตัวละครในเรื่องที่มีมากเกินนับหลายสิบ อันแทบจะไม่ได้ทำให้มีใครสักคน(หรือตัว)โดดเด่นออกมาจากจอ ..หรือกระทั่งจะมีนาทีไฮไลท์มาเพื่อขโมยซีนเป็นของตัวเอง ก็ยังไม่มีโอกาสได้เลย แน่นอนที่เมื่อหนังพยายามจะสร้างตัวละครใหม่ๆขึ้นมาเพิ่มเติม ด้วยยังคงเก็บทีมเดิมไว้เป็นตัวหลักๆ ย่อมจะต้องเผชิญกับปัญหาที่อาจไม่สามารถรักษาน้ำหนักความเท่าเทียมไว้ได้... แต่มันจะไม่หนักหนาอะไรเลย ถ้าเพียงหนังไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ใส่คน(และตัว)มาใหม่เข้ามาเพียบ เพียงเพราะเข้าใจ หากยิ่งมีปริมาณเยอะเข้าว่า จะยิ่งทำให้หนังดูมีอะไรมากขึ้น ...ซึ่งนั่นคือวิธีการคิดใหม่ ทำใหม่ ที่ผิดพลาดเป็นอย่างยิ่งของ Transformers 2 เพราะสิ่งที่หนังควรจะยึดติด และเห็นว่ามันสำคัญกว่าสิ่งใด ก็คือ ควรจะทำให้คนดูรู้สึกเชื่อในพลอตหลักได้ก่อน ..ซึ่งไม่ว่าจะเป็นในตัวประเด็นของการเป็นผู้นำที่น่าเลื่อมใสของ ออฟติมัส ไพร์ม หรือการพยายามจะประพฤติตัวให้เป็นคนปกติเอาไว้ได้ ของ แซม วิทวิคกี้ ที่ดูว่าหนังจะเน้นเอาอย่างมากตลอดเรื่อง ก็ยังไม่เห็นว่าพลอตเหล่านี้ จะสามารถมีผลกระทบหนักๆ ต่อตัวหนังทั้งเรื่องได้เลย ..แถมเอาเข้าจริง กับรู้สึกว่าหนังเน้นขายความใหญ่ของฉากแอ๊คชั่น ที่มาไล่เรียงต่อเนื่องกันแบบฉากต่อฉาก เสียจนแทบไม่สามารถจับต้องเนื้อหาที่เป็นปมประเด็นใดๆได้เลย สรุปได้ เหมือนกับว่า เนื้อเรื่องที่มีอยู่ ก็แค่ออกแบบขึ้นมาเพื่อหาจังหวะยัดความมันส์เข้าไปให้ได้มากเข้าว่า เพียงเท่านั้นจริงๆ ซึ่งเอาเข้าจริง ถ้าอยากจะมันส์มากๆ ก็คงไม่ใช่ปัญหาอะไรหรอก แต่หากมามีปัญหากับการสร้างความน่ากลัวได้ไม่มากพอให้กับบรรดาเหล่าแก๊งค์ตัวร้าย ดิเซปติคอน ..มันก็มีแต่ จะทำให้มันไม่อาจมันส์ถึงขีดสุดได้เอาเสียนี่ ยิ่งในภาคนี้จะนำมาโดยผู้ร้ายตัวใหม่ที่ควรจะใหญ่กว่าที่เคยเป็นมา(สมดังที่ได้รับการดันให้เป็นชื่อตอนของหนัง) ฟอลเลน แถมยังจะมีหุ่นร้ายตัวมหึยักษ์น่ายำเกรงอย่าง ดีเวสเตเตอร์ มารอท่าในฉากไคลแม็กซ์อีกอย่างนี้ ..มันก็น่าให้คาดหวังว่าต้องมีลุ้นกันจนหืดขึ้นคอแต่ที่ไหนได้ เมื่อถึงเวลาออกโรงจริงๆ ..ดิเชปติคอน ภาคนี้ ไม่ได้ฉายแววความน่ากลัวให้เกิดขึ้นเลย ..มิหนำซ้ำ เจ้าตัวฟอลเลน ก็ดัน Fall เร็ว ไม่ได้สมศักดิ์ศรี ที่อุตส่าห์แค้นจัด แค้นแรง อย่างที่ชื่อตอนพยายามเบ่งบารมีให้เอาเสียเลย ซึ่งโดยข้อตำหนิเหล่านั้น นั่นก็ทำให้ Transformers ภาคนี้ ได้เวียนกลับไปสู่วังวนเดิมๆที่ ไมเคิล เบย์ มักจะเป็นเมื่อครั้งยังคงเป็นซี้ปึ้กกับอีกหนึ่งผู้สร้างตัวใหญ่อีกคนอย่าง เจอร์รี่ บรั้คไฮเมอร์ มาแล้ว ..ซึ่งนั่นคือ ประเด็นที่ทำให้ พี่เบย์ ไม่เคยจะหลุดไปจากกลุ่มผู้กำกับหนังทุนสูง แต่ไม่ใส่ใจในคุณภาพได้สักที ...ทั้งๆที่จะว่าไปแล้ว พี่เบย์ ก็เป็นคนหนึ่งที่คอหนังมักจะมองว่า เขาเป็นคนมีของ มาตลอด เอาตั้งแต่หนังเรื่องแรกของเขาอย่าง The Rock ก็โชว์ ออกมาได้ชัดเจนด้วยซ้ำโดยใน Transformers 2 ..พี่เบย์ ก็ยังคงจัดว่า แน่ ที่สามารถโชว์ศักยภาพการทำหนังแอ๊คชั่นขนาดมหึมาออกมาได้ดูบันเทิง สามารถควบคุมงานเทคนิคทุกด้านให้ออกมาเกื้อหนุนเสริมส่งตัวหนังได้น่าติดตาม และถ่ายทอดมันออกมาเป็นความสนุกโลดโผนน่าตื่นเต้น แบบที่เราๆคนดูไม่มีทางได้ทำในชีวิตจริง ..ซึ่งนี่ถือเป็นเรื่องที่สมควรจะเป็นในหนังทุนสูงฟอร์มใหญ่สักเรื่อง และมันก็เป็นสิ่งดี ที่ผมได้รับ จากการคาดหวังว่ามันต้องคือหนังซัมเมอร์เรื่องสำคัญแห่งปี แต่ความสนุกระดับบิ๊กที่ว่า ก็ไม่ได้หมายความว่า หนังเรื่องนี้จะไม่จำเป็นต้องพึ่งเสน่ห์ใดๆเลย ...ยิ่งโดยเฉพาะกับคนที่เคยชอบภาคแรก ที่เคยรู้สึกว่า Transformers เป็นหนังแอ๊คชั่นที่มีเสน่ห์อย่างแรง ไม่ว่าจะในฐานะเป็นหนังที่ทำให้ฝันแบบเด็กๆได้เป็นจริง หรือว่าในฐานะที่ทำให้ได้เห็นภาพในจินตนาการออกมาบนเป็นภาพที่สมจริงบนโลกจริงๆ ..เมื่อมีภาคสองออกมา ก็ย่อมต้องการให้มันเป็นได้อย่างที่เคยมีครบถ้วน แต่พอเอาเข้าจริง เมื่อมันกลับมีให้ดูมากขึ้น มากขึ้น มากขึ้นกว่าเคยเข้าว่าแล้ว ก็กลับกลายเป็นว่า มันมาก ซ้ำและช้ำเกินไป จนให้แลดูไร้เสน่ห์ไปเสียหมดเลย.. โดยที่ยังไม่ต้องรวมกับปัญหาเรื่องความสด ที่ต้องลดน้อยถอยลงเอาแน่ หากไม่สามารถแต่งเสริมเติมความใหม่ของสิ่งใดๆ เข้าไปได้ ...ซึ่งกับอะไรที่ว่าดูใหม่ ในภาคใหม่ ก็ยังหามีไม่อีกต่างหาก พอเมื่อเสน่ห์ไม่มี ความใหม่ไม่มา แล้วการรักษาระดับความดีให้มีเท่าเดิม ก็ยังทำไม่ได้ ..นั่นก็เลยเป็นผลลัพธ์ที่ทำให้เราได้เห็นอย่างชัดเจนว่า ...เมื่อ ผู้สร้างคุณภาพตัวพ่อระดับ สตีเว่น สปีลเบิร์ก ปล่อยให้พี่เบย์ได้เป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มที่อย่างเช่นที่ Transformers 2 ให้ได้เป็น มันก็จะให้หนังที่ดูสนุก เพลินเพลิด แต่ไร้ซึ่งสิ่งใดให้น่าจดจำในทันที แม้ถึงจะคุ้มค่าตั๋วในฐานะที่เป็นหนังดูเอาบันเทิงในโรงได้อยู่ ..แต่เมื่อถามหาความประทับใจติดตรึง ยามออกจากโรง มันกลับเป็นสิ่งที่พูดไม่ออกจริงๆ ว่ามี สำหรับการได้เข้าร่วม มหกรรมหุ่นเชิด ในครั้งนี้ สรุปได้ว่า ..ภาคนี้ เป็นได้ถึงหนังแอ๊คชั่นทุนสูงที่ทำออกมาดีเรื่องหนึ่ง ...แต่ยังไม่ใช่ หนังดีในความหมายโดยทั่วไป ก็เท่านั้น!!? เกรด B+ ... { } ส่วนที่เป็นฟอนท์สี เขียว -แดง เพิ่มเข้ามา... ซึ่งที่เน้นนั้นจะเป็นที่ผมพูดถึง ส่วน ดูดี(เขียว) -ดูด้อย(แดง) ของหนังแต่ละเรื่องครับ ...สำหรับบางคนที่ยังไม่ได้ดูหนัง แล้วอยากจะรู้ว่าหนังมีอะไรดีอะไรด้อยบ้าง ก็อ่านเอาจากที่ผมทำไฮไลท์ไว้ก็ได้เลยครับ ตามแต่สะดวกละกันขอเชิญทุกท่านเสนอความคิดเห็นกัน... 1 Comment ของคุณ คือ 1 Happy ของเจ้าของบล็อก ขอบคุณมากครับ ผมยินดีเสมอในมิตรภาพของทุกท่าน และบล็อคของผมก็ต้อนรับเสมอในความน่ารักของทุกคน ขอขอบคุณ และสวัสดีครับ
Create Date : 30 มิถุนายน 2552
Last Update : 30 มิถุนายน 2552 0:59:51 น.
9 comments
Counter : 2446 Pageviews.
โดย: Kross_ISC วันที่: 30 มิถุนายน 2552 เวลา:3:34:02 น.
โดย: หอมกร วันที่: 30 มิถุนายน 2552 เวลา:8:51:00 น.
โดย: งง IP: 222.123.14.188 วันที่: 30 มิถุนายน 2552 เวลา:14:35:52 น.
โดย: navagan วันที่: 1 กรกฎาคม 2552 เวลา:2:38:37 น.
โดย: *0* IP: 125.25.34.255 วันที่: 1 กรกฎาคม 2552 เวลา:8:13:43 น.
โดย: บลูยอชท์ วันที่: 2 กรกฎาคม 2552 เวลา:9:58:40 น.
โดย: Ghoeby วันที่: 7 กรกฎาคม 2552 เวลา:9:17:03 น.
โดย: สุดลึก IP: 125.26.9.66 วันที่: 20 กรกฎาคม 2552 เวลา:10:16:36 น.
โดย: FALLEN IP: 119.42.84.165 วันที่: 25 ตุลาคม 2552 เวลา:17:20:44 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [? ]
สวัสดีครับ ...บล็อคแก๊งค์ คิดไม่ออก จะพูดอะไรดี พูดถึงประวัติตัวเอง... ก็ดูไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจ พูดถึงนิสัยตัวเอง... ก็มีทั้งดีทั้งร้ายสับเปลี่ยนหมุนเวียนไป เฉกเช่นคนธรรมดา พูดถึงหน้าตา... ก็บ้านๆแบบพื้นๆ น้องๆ แบรด พิตต์ หลานๆ ทอม ครูซ เท่านั้นเอง (แหวะ!!!) ตอนนี้ อาจยังคิดไม่ออก แต่ถ้าตอนไหน คุณชวนผมคุย ตอนนั้นผมก็พร้อมจะคุยกับคุณ ในทุกเรื่อง ได้ทุกแนว เพียงแต่ขอยกเว้น ...เรื่องส่วนตั้ว ส่วนตัว ขอขอบคุณ ในมิตรภาพของทุกท่าน ความรู้จักที่คุณมีให้ผม ...ผมขอน้อมรับ ในทุกสิ่ง ที่ท่านมีต่อผม ไม่ว่าจะด้วยภาษา หรือว่าความรู้สึก ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ...แต่ถ้านี่ยังน้อยไป ก็อย่าลืม ...เมล์ของผม แอดกันได้นะ once_upon.a.man@hotmail.com My @ http://twitter.com/once_upon_a_man ขอขอบคุณ และสวัสดีครับ ...รักนะ คนอ่านผลงานบทความที่อยู่ใน Blog นี้ สามารถให้คนอื่นนำไปเผยแพร่ในที่อื่นๆได้ แต่ต้องขอให้แจ้งทางเจ้าของ Blog ก่อน ว่าจะนำไปใช้เพื่อประโยชน์ในทางที่ถูก พร้อมทั้งให้เครดิตของเจ้าของผลงานตัวจริงด้วย โดยห้ามทำการดัดแปลงแก้ไข ด้วยภาษาของตัวคุณเอง เพื่อทำให้เจ้าของ Blog เสียหาย ขอความกรุณา อย่าละเมิดสิทธิ์กันเลยครับ เพราะกว่าจะเป็น กว่าจะเกิดผลงานขึ้นมาแต่ละชิ้นได้ อาจคิดขึ้นมาได้ไม่ยาก แต่มันก็ลงมือทำไม่ง่ายเช่นเดียวกัน ถ้าท่านผู้ใดไปพบว่า มีคนนำผลงานของเจ้าของ Blog ไปเผยแพร่ นำเสนอ ในทางที่ไม่ดีไม่ชอบ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อตัวเจ้าของ Blog กับคนอื่นๆ หรือว่าสังคม ..ขอให้แจ้งมาทาง "หลังไมค์" ของเจ้าของ Blog เลยทันที ขอบคุณมากๆครับ
1 2 3 4 5 6
7 8 9 10 11 12 13
14 15 16 17 18 19 20
21 22 23 24 25 26 27
28 29 30
เท่าที่ฟังๆกันมา หนังตอบโจทย์เรื่องความมันส์ได้สะใจ บทก็ไม่ได้แย่ เพียงแต่ตัวละครเยอะเกินทำให้ฉุดบทบาททั้งหลายลงไปเยอะในเวลาจำกัดเนี่ยแหละครับ
แต่ขายได้ก็พอแล้วนิ หนังทำเงิน