"X-Men Origins : Wolverine"
เมื่อกงเล็บที่วาววับ ถูกลูบคม จนหม่นหมอง
หลังจากที่ สองภาคแรก เคยได้สร้างชื่อ สั่งสมความมีคุณค่าเอาไว้มาอย่างมากมาย กับการเป็นหนึ่งในหนังซูเปอร์ฮีโร่ คอมมิคส์ขึ้นจอ ที่ได้รับการการันตีถึงความสนุกเป็นอันดับต้นๆเอาไว้ ในนามของคนพลังเหนือมนุษย์ X-Men ภายใต้การดูแลของ ไบรอัน ซิงเกอร์ (ที่ดูท่าว่าชีวิตนี้จะมีอาถรรพ์ ..สร้างได้ก็แต่หนังซูเปอร์ฮีโร่รวมพลัง มากไปกว่าการลุยถั่วอย่างโดดเดี่ยว ตามสไตล์พี่ซุปฯ) นับเริ่มแต่ การถูกเปลี่ยนมือ ที่ตั้งต้นมาจาก ภาคสาม ..กับการสร้างความพยายามจะให้มันเป็นหนังบันเทิงเต็มที่ในแบบฉบับของ ผู้กำกับ แฟรนไชส์ Rush Hour เบรทท์ แรทเนอร์ ...นับแต่นั้นเป็นต้นมา มนต์ขลังแห่งการต่อสู้ของมิวแทนท์ ที่เคยๆสั่งสม ก็ต้องปะปนไปด้วยความหมองหม่น ที่เกิดมาจากความผิดเพียง เพราะการก้าวพลาดแท้ๆ ไม่ใช่วา เบรทท์ แรทเนอร์ จะเป็นผู้กำกับหนังคนหนึ่งที่ทำอะไรก็ไม่ได้เรื่องไม่ได้ราวหรอกนะ เพราะเอาเข้าจริงหนังที่ผ่านๆมาของเขา ก็ล้วนแต่เป็นงานขายบันเทิง ที่รู้หน้าที่ของตัวเองดี ..แต่ถึงกระนั้นเหตุผลแท้ๆของมัน ก็คงต้องเกี่ยวเนื่องกันกับ ความคิดเข้าข้างเงิน มากไปกว่า เข้าข้างคุณภาพ ของตัวผู้สร้างเอง(โดยเฉพาะค่ายหนัง) อย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็ช่างเหอะ ...แม้ X-Men 3 จะไม่ได้ถึงกับเป็นหนังที่แย้...แย่ ตามนิยามของหนังเรื่องหนึ่ง ดูเอาสนุกก็พอได้บ้าง ..เพียงแต่เมื่อเอามาเทียบกับมาตรฐานที่สองภาคแรกเคยทำมา ...มันเลยอดรู้สึกเสียดายไม่ได้ที่ ไบรอัน ซิงเกอร์ เลือกจะไม่กลับมาสานต่อให้จบเรื่องจบราวอย่างสมบูรณ์แบบ เช่นที่เจ้าตัวเคยคิดๆไว้ โดยนี่ ยังไม่ได้นับรวมกับ แนวความคิด ที่อยากจะให้มี การแยกภาคเป็นเรื่องราวของตัวละครตัวใดตัวหนึ่งเน้นๆ อีกด้วยนะนั่น ...ที่มาถึงตอนนี้ ความพยายามของมันก็สำเร็จไปแล้วอีกหนึ่งขั้น โดยที่ไม่ทันจะรอขอคำปรึกษากับผู้ให้กำเนิดหนังเรื่องนี้ ตัวจริงเสียงจริงแต่อย่างใดเลยกระมังX-Men Origins : Wolverine .. คือ ภาคแยก ภาคแรก ที่ถูกทำขึ้นมา เพื่อเป็นการเอาใจแฟนๆหนัง ผู้ที่ส่วนมากล้วนแต่ชื่นชอบ ถึงคลั่งไคล้ในตัวละคร วูล์ฟเวอรีน เป็นหลักๆ ...และรองๆจากนั้น ก็คงจะเป็นด้วยเหตุผลของหนังแฟรนไชส์เรื่องหนึ่ง ที่สร้าง(เหมือนจะ)ง่าย ขายง่าย และได้ตังค์แบบไม่ต้องลุ้นให้หืดจับ เพราะสิ่งที่เป็นตัวคล้ำประกันอย่างชื่อ X-Men มันมีฐานคนรู้จักหนาแน่นอยู่แล้วทั่วทั้งโลก ในเมื่อเป็นหนังของ พี่วูล์ฟ ก็ย่อมแน่นอน ..ที่มันต้องเปิดประเด็นเรื่องราวทั้งหมดมาจาก ตัวของพี่วูล์ฟ ในชื่อ เจมส์ โลแกน มาแต่ครั้งเยาว์วัย ...กับครั้งแรกที่ได้รู้ว่า เขาเป็นคนเหนือคน แต่ต้องแลกกับการทำผิดมหันต์อย่างหนึ่ง อันทำให้ตั้งแต่นั้น เขาก็กลายเป็นผู้ชายที่ต้องหนีปัญหาตลอดชีวิต แต่ด้วยความที่มันเป็นหนัง ..ก็ย่อมแน่นอนที่ เรื่องของปัญหา จะต้องไม่มีวัน เป็นอันจบอันสิ้น ...หากจะเว้นแต่ว่า พี่วูล์ฟของเรา จะเลิกแสร้งทำหนี พร้อมกลับตัว กลายเป็นคนบ้าที่วิ่งเข้าชนทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อมันจะได้นำพาให้เขาต้องไปพบกับ ฉากแอ๊คชั่น ฉากแล้วฉากเล่า ที่เราๆจะได้เห็นความคม วาววับ พร้อมทั้งได้ยินเสียงใบมีดกระทบสสารต่างๆ แล้วเกิดเป็นความมันส์ในอารมณ์ อีกบางคนอาจจะสะใจที่ได้เห็นพี่วูล์ฟสุดเท่ห์ โดดเด่นเหนือใคร ในหนังทั้งเรื่อง (อ้าว! ก็แหงสิ ..ชื่อพี่ท่านเป็นจุดขาย เลยนะนั่น) ผู้กำกับ เกวิน ฮู้ด ..ผู้ที่เป็นคนๆเดียวกับ คนที่เคยนำพาให้หนังจากแอฟริกาใต้ อย่าง Tsotsi ผงาดเหนือใครในบรรดาหนังต่างประเทศด้วยกันในเวทีออสการ์ ปี 2006 ...ในวันนี้ เขาได้กลายกลับเป็นผู้กำกับหนังฮอลลีวู้ด ฟอร์มยักษ์ ทุนสูงริบ ฉายรับซัมเมอร์ ไปแล้ว ซึ่งมาเปิดตัวพร้อมกับผลงานที่ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างเขาจะได้ทำ.... แต่หากถามว่า ทำได้ไหม??? ...ผมขอพูดอย่างตรงไปตรงมา หลังจากที่ได้ผ่านตาตัวหนังแล้วว่า ได้.. แบบเกือบตก!!! เพราะอะไรหรือ ถึงทำให้เกือบตก ...ก็คงตกยกเอามาตรฐานของ X-Men ภาคก่อนๆหน้า มาเป็นตัวเปรียบเทียบอย่างเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งถึงแม้ว่า ตัวผู้กำกับ ฮู้ด อาจจะเคยได้รับการชื่นชมในการทำหนังฟอร์มเล็กๆ สไตล์ขายตลาดอินดี้ เชิงคุณภาพ ..อย่างแทบจะคล้ายคลึงกับตัวของ ไบรอัน ซิงเกอร์ ที่เคยเริ่มต้นดังมาจาก The Usual Suspect ...แต่เอาเข้าจริง เรื่องของฝีมือ กลับดูว่า ต่างคน ต่างไปคนละทาง เพราะขณะที่ ซิงเกอร์ พยายามถีบตัวจากที่เคยว่ามีคุณภาพในหนังรางวัล มาสร้างคุณภาพประดับเอาไว้กับหนังบันเทิงฟอร์มใหญ่ ...อีกคนหนึ่ง กลับดูจะดรอปลงไป ..ซึ่งไม่แน่ใจว่ามันเกี่ยวกับว่า ความเป็นฮอลลีวู้ด กับการทำหนังเน้นบันเทิง จะกลืนกินตัวตนจริงๆของผู้กำกับคนนี้ไปด้วยหรือไม่ หากเรามองจากสิ่งที่เขาทำเอาไว้ใน Wolverine ...มันก็คงยากที่จะปฏิเสธ ไม่เชื่อว่า เกวิน ฮู้ด จะตกเป็นทาสเงินตราของนายทุนสตูดิโอใหญ่ ไปเรียบร้อยแล้ว แม้ว่าการกำกับอาจจะเป็นเพียงเสี้ยวใหญ่ๆ เสี้ยวหนึ่ง ที่ช่วยกำหนดลมหายใจให้กับหนัง โดยยังจะต้องมีการสอดคล้องกันของ บทหนัง การแสดง รวมไปถึงงานเบื้องหลังอีกเยอะแยะจิปาถะ ...แต่ถ้าผู้กำกับของหนังเรื่องใดเรื่องหนึ่ง จะเกิดมีฝืมือ ทำไม่ถึง ขึ้นมาเสียดื้อๆ ก็อาจจะพาลทำให้หนังทั้งเรื่อง ไปไม่ถึงฝั่ง ก็เป็นไปได้ ซึ่งในกรณีของ เกวิน ฮู้ด ..ไม่ได้เกี่ยวกับ ความน่าผิดหวังที่ครั้งหนึ่งเคยมีชื่อเคยทำหนังคุณภาพระดับออสการ์เป็นประกันมาแล้ว แต่เลือกจะเปลี่ยนตัวเองมาทำหนังใหญ่ ฟอร์มเยอะ ...หากมันต้องพ้องกันกับ การที่เขาทำ Wolverine ออกมาไม่ถึงพร้อมเอง แม้ว่าหลักๆ ของหนังซัมเมอร์เรื่องหนึ่ง คนดูล้วนมักจะต้องการความบันเทิงเป็นหลักกิโลสำคัญ ...แต่เมื่อขณะที่ความบันเทิง ยังให้ได้ไม่เต็มอิ่ม ..หรือจะมองหาลึกๆ ไปถึงคุณภาพ ก็ดูจะอ่อนจนไร้ความชัดเจนเช่นนี้แล้ว ...จึงไม่แปลกอะไรที่ การเปิดฤดูกาลซัมเมอร์ปีนี้ ของพี่วูล์ฟ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ไม่ค่อยสวยงามเท่าไหร่ของคอหนังเราๆ ซึ่งแม้ว่าเอากันแบบไม่คิดมาก คิดเยอะอะไรแล้ว ..Wolverine ก็พอจะมีส่วนดีๆ ให้น่าคิดถึง เช่น กล้าม และซิกแพ็คอันบึกบึนของพี่ใหญ่ (Hugh) กับความเท่ห์ทุกอิริยาบถในภาพพจน์ของ พี่วูล์ฟ (อันนี้พูดแทนบรรดาสาวน้อย สาวใหญ่ และเก้งกวาง ..ไม่ได้รวมตัวผมเอง ที่เป็นหนึ่งในชายผู้นิยมเพศแม่เน้อ กั่กๆๆๆ) ...หรือจะเป็นที่ตัวหนังเอง ที่ยังดูมีเหตุมีผลเกี่ยวพัน และไม่ทำบทให้เลอะเทอะ แบบที่ภาคสาม เคยเป็นมา และที่ยังรู้สึกว่ามันเนียน เมื่อเอาไปเทียบกับเรื่องในภาคแรก และภาคสอง แล้ว อันคือ... ความต่อเนื่องในชะตากรรมของ พี่วูล์ฟ และเหตุการณ์บางอย่างที่เคยเป็นแฟลชแบ๊ค หรือสัญลักษณ์ที่แทนถึง ในภาคที่แล้วๆมา ...ซึ่งถือเป็นจุดหนึ่งที่น่าพอใจ เมื่อหาได้จากบทหนังแต่กระนั้น ก็ยังยากจะมองข้ามความมีตำหนิของหลายสิ่งหลายอย่างที่มีอยู่ ทั้งที่มันทำให้เอะใจหน่อยๆ ไปจนถึงแอบสะดุดจนแทบหงาย ..ไม่ว่าจะเป็นที่ตัวบท ซึ่งบางเรื่องก็เล่น และพาสรุปกันง่ายๆ อีกจะมีการสร้างจุดหักมุม ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าเราต้องอึ้งตามๆไปเลย ...อีกที่ยังขัดใจอยู่พอสมควร ก็คือ การไม่ได้ทำให้ตัวละครสมทบอื่นๆในหนังได้เกิดอย่างที่ควรจะเป็น (ซึ่งมันก็อาจต้องทำใจอยู่บ้างแล้ว เพราะชื่อหนังก็บอกว่าขายเพียงคนเดียวเท่านั้น) แถมบางคน ยังจะจากลาจอไปกับแบบมักง่าย ...เพียงแต่ความขัดใจอันหลังที่ว่า ก็ยังดูดีกว่าอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับภาคสาม ที่ยัดตัวเล็กตัวน้อยมาจนทะลัก กลายเป็นความอึดอัดของเราๆซะนี่แต่ที่เซ็งขาดเป็นที่สุด เหนือสิ่งอื่นใด ...โดยไม่ใช่แค่เทียบกับ X-Men ด้วยกัน หากต้องรวมกับหนังซัมเมอร์เรื่องๆอื่นอีกมากมายแล้ว ....CG ของหนังเรื่องนี้ หาความเนียนได้น้อยถึงน้อยมาก ..จนไม่น่าเชื่อว่านี่เราเสียตังค์มาดูหนังฟอร์มยักษ์เรื่องหนึ่งจริงๆนะเนี้ย นี่ขนาดที่ว่า มีมือบอนแสนชั่ว ทำหนังตัว(เกือบ)เต็มหลุดออกมาเกลื่อนโลกอินเทอร์เน็ตไปแล้ว ..ชวนให้แอบสงสารคนสร้าง ที่ต้องพยายามทำให้หนังขายในโรงได้อีกครั้ง ...แต่พอเจอตัวเต็มเป็นแบบนี้เข้าไป ก็ทำให้ความรู้สึกเคยสงสาร กลายเป็นความเฉยเมยไปเสียเลย ไม่ใช่ว่าผมอยากให้คอหนัง เกิดการเปลี่ยนใจ อยากให้ไปดูหนังแบบเถื่อนๆหรอกนะ ยังไงก็สนับสนุนว่าดูโรง ให้อรรถรสมากสุดอยู่แล้ว ...แต่เมื่อ หนังตัวสมบูรณ์แบบเอง ก็ยังให้กับคนดูได้ไม่อิ่มอะไรสักอย่าง กันเช่นนี้ ก็เลยไม่ขอฟันธงว่า การดูในโรง จะคุ้มค่า อย่างที่คุณหวังเอาไว้หรอกนะหากแต่ ถ้าเป็นแฟน X-Men กันมาแต่ไหนแต่ไร ...ก็ไม่น่าเกลียดอะไรหรอก เพราะ X-Men Origins : Wolverine ก็ถือว่าใช้ได้ในระดับหนึ่ง ..แต่ขอให้ดูเพลินๆ กันเน้นๆเป็นพอ เกรด B ... { } ส่วนที่เป็นฟอนท์สี เขียว -แดง เพิ่มเข้ามา... ซึ่งที่เน้นนั้นจะเป็นที่ผมพูดถึง ส่วน ดูดี(เขียว) -ดูด้อย(แดง) ของหนังแต่ละเรื่องครับ ...สำหรับบางคนที่ยังไม่ได้ดูหนัง แล้วอยากจะรู้ว่าหนังมีอะไรดีอะไรด้อยบ้าง ก็อ่านเอาจากที่ผมทำไฮไลท์ไว้ก็ได้เลยครับ ตามแต่สะดวกละกันขอเชิญทุกท่านเสนอความคิดเห็นกัน... 1 Comment ของคุณ คือ 1 Happy ของเจ้าของบล็อก ขอบคุณมากครับ ผมยินดีเสมอในมิตรภาพของทุกท่าน และบล็อคของผมก็ต้อนรับเสมอในความน่ารักของทุกคน ขอขอบคุณ และสวัสดีครับ
Create Date : 04 พฤษภาคม 2552
Last Update : 4 พฤษภาคม 2552 0:08:18 น.
8 comments
Counter : 4769 Pageviews.
โดย: passonvichan IP: 114.128.244.213 วันที่: 4 พฤษภาคม 2552 เวลา:3:05:40 น.
โดย: Branelay วันที่: 4 พฤษภาคม 2552 เวลา:14:37:17 น.
โดย: บลูยอชท์ วันที่: 5 พฤษภาคม 2552 เวลา:23:39:42 น.
โดย: Buffy IP: 58.8.250.183 วันที่: 17 พฤษภาคม 2552 เวลา:0:26:18 น.
โดย: ฟ้าดิน วันที่: 17 พฤษภาคม 2552 เวลา:16:01:33 น.
โดย: คงตั้งเป้าหมายไว้ขายให้สุภาพสตรี IP: 114.128.183.179 วันที่: 22 มิถุนายน 2552 เวลา:22:30:03 น.
โดย: คงตั้งเป้าหมายไว้ขายให้สุภาพสตรี IP: 114.128.183.179 วันที่: 22 มิถุนายน 2552 เวลา:22:34:07 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [? ]
สวัสดีครับ ...บล็อคแก๊งค์ คิดไม่ออก จะพูดอะไรดี พูดถึงประวัติตัวเอง... ก็ดูไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจ พูดถึงนิสัยตัวเอง... ก็มีทั้งดีทั้งร้ายสับเปลี่ยนหมุนเวียนไป เฉกเช่นคนธรรมดา พูดถึงหน้าตา... ก็บ้านๆแบบพื้นๆ น้องๆ แบรด พิตต์ หลานๆ ทอม ครูซ เท่านั้นเอง (แหวะ!!!) ตอนนี้ อาจยังคิดไม่ออก แต่ถ้าตอนไหน คุณชวนผมคุย ตอนนั้นผมก็พร้อมจะคุยกับคุณ ในทุกเรื่อง ได้ทุกแนว เพียงแต่ขอยกเว้น ...เรื่องส่วนตั้ว ส่วนตัว ขอขอบคุณ ในมิตรภาพของทุกท่าน ความรู้จักที่คุณมีให้ผม ...ผมขอน้อมรับ ในทุกสิ่ง ที่ท่านมีต่อผม ไม่ว่าจะด้วยภาษา หรือว่าความรู้สึก ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ...แต่ถ้านี่ยังน้อยไป ก็อย่าลืม ...เมล์ของผม แอดกันได้นะ once_upon.a.man@hotmail.com My @ http://twitter.com/once_upon_a_man ขอขอบคุณ และสวัสดีครับ ...รักนะ คนอ่านผลงานบทความที่อยู่ใน Blog นี้ สามารถให้คนอื่นนำไปเผยแพร่ในที่อื่นๆได้ แต่ต้องขอให้แจ้งทางเจ้าของ Blog ก่อน ว่าจะนำไปใช้เพื่อประโยชน์ในทางที่ถูก พร้อมทั้งให้เครดิตของเจ้าของผลงานตัวจริงด้วย โดยห้ามทำการดัดแปลงแก้ไข ด้วยภาษาของตัวคุณเอง เพื่อทำให้เจ้าของ Blog เสียหาย ขอความกรุณา อย่าละเมิดสิทธิ์กันเลยครับ เพราะกว่าจะเป็น กว่าจะเกิดผลงานขึ้นมาแต่ละชิ้นได้ อาจคิดขึ้นมาได้ไม่ยาก แต่มันก็ลงมือทำไม่ง่ายเช่นเดียวกัน ถ้าท่านผู้ใดไปพบว่า มีคนนำผลงานของเจ้าของ Blog ไปเผยแพร่ นำเสนอ ในทางที่ไม่ดีไม่ชอบ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อตัวเจ้าของ Blog กับคนอื่นๆ หรือว่าสังคม ..ขอให้แจ้งมาทาง "หลังไมค์" ของเจ้าของ Blog เลยทันที ขอบคุณมากๆครับ
1 2
3 4 5 6 7 8 9
10 11 12 13 14 15 16
17 18 19 20 21 22 23
24 25 26 27 28 29 30
31
นึกว่าจะไม่ได้อ่านซะแล้ว
ว่าแต่... ดูห้าวเป้งยังนะ สนุกนะ
ถ้าดูแล้ว ก็เขียนมาด้วยล่ะ