Perhap Loves ... บทละครที่ตอนจบไม่บริบูรณ์
ชีวิตของคนหนึ่งคน มันก็เปรียบได้กับละครหนึ่งเรื่อง ... เรื่องราวที่ผ่านมา ผ่านไป เกิดใหม่ จบลง ยังคงซ้ำไปซ้ำมา วนเวียนกันไปในหนึ่งช่วงชีวิต แม้จะบางเรื่องที่เกิดได้แค่ครั้งเดียวในชีวิต แต่ก็มีอีกตั้งหลายเรื่องที่เราต้องพบเจอกันมันเป็นประจำ พลอตหรือแนวทางที่ละครได้ดำเนินไป ล้วนถูกสร้างขึ้นมาจากสีสันบนโลกแห่งความเป็นจริง ในแต่ละตอนมันก็แตกต่างกันไป องค์เรื่องที่ถูกแต่งแต้มขึ้นมานั้น มันมีทั้งช่วงเวลาที่ตัวละครเราๆท่านๆ ประสบพบเจอซึ่งความสุข และช่วงที่ต้องเผชิญหน้ากับความทุกข์ยาก ...มันจะมีบทละครที่บางตอนเราสามารถกำหนดมันขึ้นมาเองได้ แต่ก็ยังมีบางตอนก็ถูกกำหนดมาจากเบื้องบนที่คอยจัดฉากให้เราเล่นต้องตามมันไป ... มันไม่มีสคริปต์ ไม่มีสตอรี่บอร์ดให้เราได้เห็นภาพกันล่วงหน้า มันคือละครที่เราไม่สามารถเดาทางมันได้ ไม่มีทางรู้ได้ว่าตอนจบของมัน จะเป็นเช่นไร ... ต่อให้เอาหมอดูมาพยากรณ์ เรื่องราวในฉากต่อๆไปที่มันจะเกิดขึ้น ก็ไม่มีใครคนไหนเก่งกาจพอขอฟันธง ชีวิตเราได้อยู่แล้ว แล้วละครของคุณล่ะเป็นอย่างไร ... คุณรู้สึกอย่างไรกับเรื่องราวของมัน คุณสนุกกับละครชีวิตของคุณหรือเปล่า เหนื่อยมั้ยกับการที่คุณต้องทำหน้าที่เป็นทั้งผู้กำกับ ผู้สร้าง ผู้เขียนบท และผู้แสดงนำไปพร้อมๆกัน ...คุณอาจจะเคยท้อใจบ้างในบางคราว ที่ละครเรื่องนี้ไม่ยอมเป็นดังใจคุณ ...หรือว่าคุณบางคนก็อาจจะเคยมีความคิดอยากจบละครเรื่องนี้ลงก่อนที่มันจะถึงเวลาเสียอีก ... ก็เพราะบทบาท ที่คุณสวมทับอยู่ บางบทนั้นก็ถูกสั่งให้ต้องเสแสร้งแกล้งทำ แต่บางบทก็จำใจเล่นไปตามความจริง ไม่แปลกอะไรกับในโลกแห่งความจริงนี้ เมื่อคุณกำลังเล่นละครเรื่องนี้อยู่ กับสิ่งที่คุณเป็น มักจะทำให้จิตใจของคุณอินไปตามเรื่องราวที่มันเกิดขึ้นกับคุณในเวลานั้น ...ใจของคนเรามักจะไขว้เขว้ไปตามสถานการณ์ที่ต้องประสบ ถ้าเราได้พบกับความเลวร้ายในชีวิตหนักหนามากแค่ไหน ความรวดร้าว มันจะส่งผลกระทบต่อใจบางๆ ของเรา มากยิ่งไปกว่านั้น "ความรัก" คืออีกบทบาทหนึ่ง ที่ "ความเลวร้าย" มักจะรับเล่นในละครชีวิตจริงของคนเรา ... และเป็นบทบาทที่มันถนัดนัก กับการสร้างความรวดร้าวให้คนอื่นเป็นสิ่งที่มันชื่นชอบเสียเหลือเกิน อาจจะมีบทบาทของความรัก ในละครหลายเรื่อง ที่มันดูช่างสวยงาม แสนสดใส ชื่นฉ่ำหัวใจ ...เรื่องราวของมันมักจะจบลงที่ความสุข ความบริบูรณ์ของมันก็ขึ้นอยู่กับการที่พระนางของเรื่องได้ครองคู่กัน แต่งงานกัน และดื่มด่ำชีวิตสมรสร่วมกันไปจนถึงวันสิ้นชีวิต ...แต่แล้วใช่ว่าละครเรื่องนี้นั้น มันจะต้องดูดีไปซะทุกตอน ก่อนหน้าที่มันจะถึงจุดอวสาน ...ความเลวร้าย คือ ตัวละครสำคัญ บทบาทความรักที่มันสวมทับอยู่ ก็คือผู้ร้าย... ที่คอยแต่จัดฉากปั่นป่วนหัวใจคนรวนเร ให้ต้องเรรวนอยู่ในหลุมพรางแห่งความทุกข์ ไม่มีใครที่ไม่เคยทุกข์เพราะการมีรัก และไม่มีใครที่จะหนีความเลวร้ายนี้ไปได้จนพ้น ... บทละครชีวิตคน ได้สอดแทรกเรื่องราวของมันเอาไว้แล้ว ไม่มีใครจะสามารถแก้ไขส่วนสำคัญ หัวใจของละครเรื่องนี้ได้ ... ความรัก ถูกเปรียบเปรยว่าเป็นเสมือนอากาศหายใจ ของคนทุกคน มนุษย์ทุกผู้ต้องใช้มันเพื่อการดำรงชีวิต ...ลองสมมติถ้าโลกนี้ไม่มีความรักให้หายใจล่ะ มันจะเป็นเช่นไร ความรัก ถูกเปรียบเปรยว่าเป็นเสมือนสสารที่ไม่มองเห็น แต่คนทุกคนสัมผัสจับต้องมันได้ ...ถ้าลองสมมติ ให้โลกนี้ปราศจากสสารที่เรียกว่าความรัก แล้วสลารที่เรียกว่า "มนุษย์" จะถือกำเนิดขึ้นมาได้ไหม ความรัก จึงเป็น สิ่งสำคัญที่พวกเรา มนุษย์ทุกคนจำเป็นต้องใช้ และมีมันเอาไว้เป็นเจ้าของ ... ไม่ใช่กับในแค่สิ่งมีชีวิตที่ประเสริฐที่สุดเท่านั้น กับสรรพสัตว์นานาสายพันธุ์ที่ใช้สองเพศเป็นการสืบสาน ล้วนต่างก็มีชีวิตอยู่เพื่อ ความรัก ด้วยกันทั้งนั้น ต่อให้ความรักมันอาจจะทำให้เราต้องเจ็บปวดมากมายสักแค่ไหน แต่ความรักมันก็คือสิ่งของอันล้ำค่า คือของสะสมที่มีราคา และคือคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ Perhaps Love ... เล่าเรื่องราวละครชีวิต ของคนสามคน ที่ต้องมาข้องเกี่ยวกันโดยความจำเป็น ... "หลิน" (ทาเคชิ คาเนชิโร่) ...นักแสดงหนุ่มดาวรุ่งไฟแรง ก่อนหน้าที่เขาจะเดินเข้ามาในวงการภาพยนตร์ เขาก็เคยมีความฝันอยากจะเป็นผู้กำกับหนัง แต่เพราะความที่เขาหัวอ่อนเกินไปในการจะเรียนรู้สายอาชีพนี้ หลินจึงเลิกที่จะฝัน และดรอปความคิดนี้พร้อมกับการหยุดเรียนหนังสือไปด้วย "ซุนนา" (จุน โจว) ...นักแสดงสาวฝีมือดีที่ฮอลลีวู้ดยอมรับ ก่อนหน้าที่เธอจะเดินเข้ามาในวงการภาพยนตร์ เธอเคยทำงานเป็นนักเต้นคาบาเร่ต์ในผับที่แอบหวังสูงจะเป็นดาราดัง ซุนนาใช้เสน่ห์ความสวยที่มีเพื่อไต่เต้าไปสู่หน้าที่การงานอันมั่นคง ความฝันของเธอทะเยอทะยานจนเดินทางมาถึงจุดสูงสุด และ ซุนนา ก็กลายเป็นดาวประดับฟ้าที่มีแต่ผู้คนหมายปอง"หนี่เหวิน" (จางเซี๊ยะโหย่ว) ...ผู้กำกับคุณภาพที่กำลังตกอับ อย่างสิ้นไร้ไม้ตอก เขาจำใจต้องสร้างหนังตามใจผู้สร้าง เพียงเพราะจำเป็นต้องใช้โอกาสอันริบหรี่ ที่มีอยู่นี้ เพื่อกู้ชื่อเสียงที่สูญไปของตัวเขาเองขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง คนสามคน ถูกคำสั่งจากเบื้องบน (ผู้สร้างหนัง รับบทโดย ลูกพี่แซม ...เจิ้งจือเหว่ย แห่ง สองคนสองคม) กำหนดให้ต้องมาข้องเกี่ยวกันในภาพยนตร์เพลงฟอร์มใหญ่ ที่เป็นเรื่องราวรักสามเส้า ในคณะละครสัตว์ ...แต่มันมีความบังเอิญอยู่อย่าง ตรงที่เรื่องราวในหนังมันช่างเหมือนกับชีวิตจริงของคนทั้งสามในทุกฉากทุกตอนหลิน กับ ซุนนา ... เคยรักกัน เคยผูกพัน ในช่วงเวลาที่เขาและเธอยังคงโนเนม ถึงแม้ว่าเขาและเธอจะแสดงออกว่ารักกันมากสักแค่ไหน แต่ดูเหมือนว่าความรักนั้นจะสร้างระยะห่างออกไปมากๆขึ้น เพราะ ซุนนา เอง เธอก็ต้องการที่จะผลักดันความฝันที่เธออยากจะเป็น ถ้าเธอยังคงรักกับหลิน มันก็คือการปิดช่องทางที่จะทำให้เธอก้าวหน้า ...สุดท้ายแล้ว หลิน กับ ซุนนา ต้องเลิกกัน หลินรวดร้าวกับความรักที่เขามีให้ต่อซุนนา เขาทำได้แต่จำจดและเพียงรอคอยการกลับมาของซุนนา ตลอดเวลา 10 ปี ใจเขายังคงคิดถึงเธอเสมอ แม้ว่ายิ่งนานวันอาการของเขาจะดีขึ้นๆ เรื่อยๆ ก็ตามที แต่บาดแผลเก่าก็ยังคงค้างคาไม่มีวันสมานเสร็จซุนนา กับ หนี่เหวิน ... ในโลกแห่งมายา ซุนนาคือนางเอกคู่บุญของหนี่เหวิน แต่ในโลกความจริง หนี่เหวินคือพระเอกคนใหม่ในหัวใจเธอ ...ถ้าซุนนาไม่ได้หนี่เหวินเป็นผู้ปลุกปั้น อาชีพที่เธอใฝ่ฝันคงไม่มีวันเป็นจริงขึ้นมาได้ มันจึงเป็นบุญคุณที่ต้องทดแทน แม้ว่าเธอจะเต็มใจกับเขาหรือไม่ แต่เธอก็ต้องทำหน้าที่ของคนรักที่ดี เคียงควบคู่ไปกับการเป็นดาราชั้นดี ...เพียงถ้าเธอปฏิเสธที่จะไม่รักเขาแล้ว มันก็เท่ากับการฆ่าตัวตายในอาชีพที่เธอรักไปด้วย เรื่องรัก สองเรื่อง ของคนสามคน ที่ถูกผูกกันไว้ ในภาพยนตร์ชีวิตจริง ที่ซ้อนทับกับภาพยนตร์บนจอ ...จุดจบของมันจะเป็นเช่นไร ใครกันที่จะสมหวัง แล้วใครกันที่ต้องชอกช้ำ ตอนอวสานของหนังเรื่องนี้จะบริบูรณ์ด้วยความสุขหรือไม่ คำตอบยังรอคุณอยู่ที่ ..."ลิโด" เท่านั้น Perhaps Love ... ผลงานของผู้กำกับสายเลือดมังกร ซ่อนไทย "ปีเตอร์ โฮ-ซัน ชาน" ... หลังจากหนังสั้นสยองแสนเศร้าที่เขาฝากเอาไว้ใน "อารมณ์ อาถรรพ์ อาฆาต" เป็นต้นมา นับว่าเป็นเวลาที่นานพอดูสำหรับการมีผลงานใหม่ขึ้นมา จากมือคุณภาพของเขาคนนี้ ... ชื่อเรื่อง Perhaps Love ... อาจจะบ่งบอกกับเราอย่างกลายๆ ว่านี่คือหนังรักแนวถนัดของผกก. คนนี้ แต่ใช่ว่าพลอตตลาดจ๋าน้ำเน่าโชยเรื่องนี้จะต้องขายออกมาแบบเรียบๆเสมอไป ...ผกก.ปีเตอร์ยกระดับความธรรมดา จับแปลงโฉมหน้าหนังโรแมนติกเรื่องนี้เสียหรู ด้วยการแต่งองค์ทรงเครื่องอย่างอลังการ นำเสนอออกมาในแนวทางของหนังเพลง ...แม้ว่าหนังจะรับเอากลิ่นอายของ Moulin Rouge เข้ามาใช้จนจับผิดได้ แต่ Perhaps Love ก็เป็น Perhaps Love ... หนังรักที่ดี มีระดับ และคงไม่เกินเลยไปถ้าจะคิด เทียบวัดรอยเท้ากับรุ่นพี่ฮอลลีวู้ดแล้ว เอเชียเราก็ทำได้สบายๆ หนังอาจจะมีพลอตเรื่องโรแมนติก ที่แสนจะสามัญธรรมดาตามวิถีทางของหนังรักสามเส้าที่เราพบเห็นได้ทั่วไปในทีวีไทย ...แต่ด้วยความประณีต ของ ปีเตอร์ ชาน กับวิชาที่เขาเคยใช้ใน เถียนมีมี่ ที่ยังไม่นานเกินจะขึ้นสนิม การบรรเลงเพลงรัก Perhaps Love ของเขา ได้เข้าไปนั่งในใจคนดูผู้รับฟัง ได้นานตลอด 2 ชั่วโมงที่ม้วนฟิล์มหมุนไป และเมื่อมันจบ ผมก็ยังรู้สึกค้างคา เกิดอารามการอยากฟังเพลงนั้นอีกเรื่อยๆ การกำกับของปีเตอร์ ...ใช้จังหวะจะโคนเป็นตัวสร้างอารมณ์ เล่าหนังผ่านการตัดสลับเหตุการณ์ในอดีตและปัจจุบัน ซึ่งทำออกมาได้ลงตัว ฉากต่อฉากที่เชื่อมกันไปสร้างอารมณ์คนดูได้ต่อเนื่อง บวกกับการใช้ความเป็นหนังเพลงได้อย่างมีประโยชน์ เทคนิค ความอลังการต่างๆกลืนเข้ากันด้วยความพอดี ... ทุกส่วนผสมไม่มากไป ไม่เอียนเกินไป ผกก.ปีเตอร์ จับใจความของหนังเล่าออกมาได้อย่างละมุนละไม ไปพร้อมกับการสร้างความอินจับใจให้กับคนดู ...บทจะรัก ก็ทำได้ซึ้ง ไม่ฟูมฟาย บทจะร้องเพลง ก็ชวนครึกครื้น ชวนเคลิ้มได้โดยละม่อม การคอนโทรลอารมณ์ควบคู่ไปอย่างแนบเนียนนี้ก็ต้องถือเป็นผล จากอานิสงส์ของบทหนังชั้นดีที่ผกก.ปีเตอร์ มีในมือด้วย ประกอบกับการได้นักแสดงคุณภาพ มาร่วมงานสานต่อความละมุนก็ด้วยอีก ที่เสริมส่งความสวยทั้งรูป จูบก็หอม ของ Perhaps Love จนเปล่งปลั่ง ...บทบาทของนักแสดงนำทั้งสาม ไม่มีใครกลืนใครลง ฝีมือสูสีจนชี้ชัดไม่ได้ว่าบทบาทของใครที่ชนะเลิศ ...สาวๆหลายต่อหลายคนอาจจะตื่นตาในใบหน้าแสนงาม แต่ความหล่อของเขาไม่ใช่อุปสรรคต่อการแสดงลีลา "ทาเคชิ คาเนชิโร่" ในบทบาทแสนอินชวนขยี้ใจที่ทำเอาผมหน้าตาปริ่มๆ แม้ใบหน้าจะเหมือนไม่มีความรู้สึก แต่การแสดงออกทางแววตาของหลิน ก็ทำเอาคนดูผู้เป็นบุคคลที่สาม เข้าใจในตัวละครนี้อย่างทะลุปรุโปร่ง เหมือนกับรู้จักมักคุ้นตัวตนจริงๆ ... นางเอก "จุน โจว" ได้ใจผมมากกว่าใครอื่น ไม่ใช่แค่หน้าตาที่ทรงเสน่ห์ช่วยเสริมบารมีความเด่นตระงานเท่านั้น การแสดงออกด้วยภาพลักษณ์สองมิติของเธอ (บทแก่นแก้วก็ทำตัวได้น่ารัก ให้นิ่งเฉยก็ดูหยิ่งอย่างมีมาด) ...ทำให้เจ้าลิงจ๋อ "ซุนนา" ได้ทีขโมยใจชายหนุ่มไปโดยสิโรราบ ... "จางเซี๊ยะโหย่ว" แม้จะมีบทบาทน้อยกว่าใครเพื่อน แต่ทุกครั้งที่เขาออกมาก็สร้างความโดดเด่นได้ทุกชั่วขณะ เสียงเพลงเศร้าๆที่เขาตะโกน กู่ร้องออกไป จับใจสร้างความสะเทือน เพียงแค่ฉากเดียวก็ส่งผลให้คนดูชักไม่แน่ใจแล้ว ว่าจะเข้าข้างพระเอก หรือพระรองดี(หว่า) และที่ลืมไม่ได้กับการขโมยซีนเล็กๆ ของนักแสดงประกอบผู้ยิ่งใหญ่ ในสมัยแดจังกึม ... "จีจินฮี" เล่นเป็น "มอนตี้" เทวดาหน้าหล่อนักตัดต่อละครชีวิต ...แม้บทบาทจะเหมือนแค่รับคำเชิญเขามาแสดงให้ก็ตามที แต่ฉากเปิดเรื่อง-ฉากปิดเรื่อง และคำพูดไดอะล็อกดีๆผ่านน้ำคำของจินฮี ก็ทำให้ตัวละครเล็กๆนี้ของเขา เป็นเสมือนฟันเฟืองชิ้นดีที่ไม่มีเป็นไม่ได้เลย ...{ย่อหน้านี้ SPOILER} แม้ว่าหนังเรื่องนี้ จะเล่าเรื่องราวความรักออกมาได้เรียบง่าย แต่โดนคนดูอย่างผมแล้วก็ตาม ...แต่มันยังไม่ใช่กับตอบจบของหนัง ที่พยายามปูเรื่องปูพรมมาจนถึงปลายทางเป็นอย่างดี จุดสูงสุดที่มันควรจะเป็นกลับกลายเป็นการลดระดับความอิ่มลงไปถนัดการลงเอยของคนทั้งสาม ไม่สามารถกระตุ้นต่อมซึ้ง (ซึ่งตัวผม แค่โดนนิดเดียว น้ำตาก็พร้อมพรั่งพรูแล้ว) หนังเรื่องนี้จบลงได้ไม่ทันลงตัว คนทั้งสามก็แยกย้ายกันไปง่ายๆ สร้างบทสรุปให้ไม่มีใครสมหวังแล้วทั้งทีก็ควรจะทำให้สุดๆ แต่หนังกลับกั้กๆ เสนอแบบผ่านๆ อยากให้จบๆไปเร็วๆ จุดนี้แค่จุดเดียวเลย ที่ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นได้แค่นักวิ่งผู้ที่แตะปลายเชือกเส้นชัยสำเร็จแล้ว แต่ไม่ขอเดินผ่านเพื่อเป็นผู้ชนะ ยอมง่ายๆให้คนอื่นได้รางวัลแทน... แค่นิดเดียวเท่านั้น หาก ปีเตอร์ ชาน จะสร้าง Perhaps Love เพื่อขายแต่เรื่องรักๆใคร่ๆ อย่างเดียว...ก็ยังได้อยู่ แต่ในเมื่อใส่ทุน เสริมโปรดักชั่นงามๆ แบบละครเวทีเข้าไปอีก ก็นับว่าเป็นความคุ้มค่าของเราโดยตรง เสมือนเป็นกำนัลพิเศษแด่คนดูที่ผู้กำกับมีให้ในโปรโมชั่น ซื้อแค่ตั๋วหนังรัก แต่ได้หนังเพลงเป็นของแถม ... มองในด้านงานเทคนิคต่างๆก็ถือว่าล้ำเลิศ แม้ว่ามันจะมีสไตล์แบบ Moulin Rouge แฝงอยู่ แต่การย้ำรอยเดิมของ Perhaps Love ก็ไม่ได้ด้อยค่า นี่ถือเป็นการประยุกต์ใช้ที่ให้อารมณ์ของหนังเอเชียอย่างถ้วนๆ ...ส่วนของเพลงประกอบ อาจจะยังไม่ถึงขั้นกินใจคนฟังในขณะกำลังชม แต่พอออกจากโรงมาแล้ว เพลงเหล่านั้นทำนองของมันก็ลอยติดหัว แอบเคลิ้มแอบฮัมออกมาด้วย ... ใครใคร่ดูหนังรัก ก็จักซึ้งใจ ...ใครใคร่ดูหนังเพลง ก็จักเคลิบเคลิ้ม ... Perhaps Love จักใคร่ให้สองอย่างในหนังเรื่องเดียวกัน และแถมท้าย ความประทับใจ เป็นโบนัสแสนคุ้มสำหรับคนดู มิเช่นนั้น ใครจักอยากดู ต้องจักรีบกันโดยด่วน ของดีอย่างนี้ พลาดไปมีเสียดายแน่... ขอแนะนำครับ ดู{ดี} วิธ มายเซลฟ์ : 1. บทหนังที่แม้จะน้ำเน่า แต่ก็ละเมียดได้ใจคนดู 2. การกำกับแสนละมุน ของ "ปีเตอร์ ชาน" 3. การแสดงของสามตัวนำ และอีกหนึ่งตัวประกอบ 4. งานเทคนิคด้านภาพที่ไม่ธรรมดา ฮอลลีวู้ดเห็นที อาจมีตะลึง 5. งานโปรดักชั่นแสนสวย และเพลงประกอบแสนเพราะ ดู{ด้อย} วิธ มายเซลฟ์ : ตอนจบ ในความรู้สึกผม ยังไม่อิน ยังไม่ซึ้งพอ อย่างที่ควรจะเป็น เกรด A- แถมพิเศษ : อัลบั้มรูปถ่ายงานเปิดตัวหนัง ฝีมือการถ่ายของผมครับ ทาเคชิ จีจีนฮี and Me --> สองหล่อ หนึ่งรอ ... การยืนคอยสุดวิบาก การตรากตรำกดชัตเตอร์ {Perhaps Love} //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=onceupon&group=8&month=04-2006&date=25&blog=1ขอเชิญทุกท่านเสนอความคิดเห็นกัน... 1 Comment ของคุณ คือ 1 Happy ของเจ้าของบล็อก ขอบคุณมากครับ
Create Date : 10 พฤษภาคม 2549
5 comments
Last Update : 10 พฤษภาคม 2549 11:30:58 น.
Counter : 1127 Pageviews.
โดย: Conch IP: 210.203.176.41 10 พฤษภาคม 2549 14:37:29 น.
โดย: Xiaoling 10 พฤษภาคม 2549 23:52:09 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [? ]
สวัสดีครับ ...บล็อคแก๊งค์ คิดไม่ออก จะพูดอะไรดี พูดถึงประวัติตัวเอง... ก็ดูไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจ พูดถึงนิสัยตัวเอง... ก็มีทั้งดีทั้งร้ายสับเปลี่ยนหมุนเวียนไป เฉกเช่นคนธรรมดา พูดถึงหน้าตา... ก็บ้านๆแบบพื้นๆ น้องๆ แบรด พิตต์ หลานๆ ทอม ครูซ เท่านั้นเอง (แหวะ!!!) ตอนนี้ อาจยังคิดไม่ออก แต่ถ้าตอนไหน คุณชวนผมคุย ตอนนั้นผมก็พร้อมจะคุยกับคุณ ในทุกเรื่อง ได้ทุกแนว เพียงแต่ขอยกเว้น ...เรื่องส่วนตั้ว ส่วนตัว ขอขอบคุณ ในมิตรภาพของทุกท่าน ความรู้จักที่คุณมีให้ผม ...ผมขอน้อมรับ ในทุกสิ่ง ที่ท่านมีต่อผม ไม่ว่าจะด้วยภาษา หรือว่าความรู้สึก ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ...แต่ถ้านี่ยังน้อยไป ก็อย่าลืม ...เมล์ของผม แอดกันได้นะ once_upon.a.man@hotmail.com My @ http://twitter.com/once_upon_a_man ขอขอบคุณ และสวัสดีครับ ...รักนะ คนอ่านผลงานบทความที่อยู่ใน Blog นี้ สามารถให้คนอื่นนำไปเผยแพร่ในที่อื่นๆได้ แต่ต้องขอให้แจ้งทางเจ้าของ Blog ก่อน ว่าจะนำไปใช้เพื่อประโยชน์ในทางที่ถูก พร้อมทั้งให้เครดิตของเจ้าของผลงานตัวจริงด้วย โดยห้ามทำการดัดแปลงแก้ไข ด้วยภาษาของตัวคุณเอง เพื่อทำให้เจ้าของ Blog เสียหาย ขอความกรุณา อย่าละเมิดสิทธิ์กันเลยครับ เพราะกว่าจะเป็น กว่าจะเกิดผลงานขึ้นมาแต่ละชิ้นได้ อาจคิดขึ้นมาได้ไม่ยาก แต่มันก็ลงมือทำไม่ง่ายเช่นเดียวกัน ถ้าท่านผู้ใดไปพบว่า มีคนนำผลงานของเจ้าของ Blog ไปเผยแพร่ นำเสนอ ในทางที่ไม่ดีไม่ชอบ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อตัวเจ้าของ Blog กับคนอื่นๆ หรือว่าสังคม ..ขอให้แจ้งมาทาง "หลังไมค์" ของเจ้าของ Blog เลยทันที ขอบคุณมากๆครับ
1 2 3 4 5 6
7 8 9 10 11 12 13
14 15 16 17 18 19 20
21 22 23 24 25 26 27
28 29 30 31
เพิ่งรู้ว่าแกเคยกำกับอารมณ์ อาถรรพณ์ อาฆาตด้วยเหรอคะ?
รู้จักแต่เถียนมีมี่น่ะค่ะ
รีวิวไว้ที่บล็อกเหมือนกัน ว่างๆ เรียนเชิญนะคะ