+-+ OncE UPoN'-'a MaN +-+ รักนะ.. คนอ่าน เข้ามาดู.. โดนใจ ออกไป.. อย่าลืมกัน
Summary for Best of the Year 2012 ..Please CLICK!!

"American Gangster" ... อีกครั้งที่เส้นแบ่ง'กฎหมาย' นำ 'เจ้าพ่อ' กับ 'ตำรวจ' มาพบกันที่ปลายทาง



เมื่อ เส้นทางของ'คนนอกกฎหมาย'คนหนึ่ง ที่ต่อสู้ควบคู่ไปกับการไต่ระดับเติบโตทางอำนาจบารมีอันพอกพูน ต้องมาเกี่ยวเนื่องทับเส้นบน เส้นทางของ'คนในกฎหมาย'อีกคนที่ใช้ชีวิตที่มีทั้งหมดทุ่มเทเพื่อตามล้างตามจับคนที่ใช้อำนาจในทางที่ผิดแล้ว ...เรื่องราวของ "American Gangster" จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องถูกมองว่าเป็นการพยายามผสมพลอตเดิมๆที่เคยชินตาให้เหมือนมีอะไร แต่ที่มีที่ว่าก็ล้วนแต่เป็นของคุ้นๆอยู่แล้ว ...หากความคุ้นที่ว่านี้ไม่มีคำว่า 'เจ้าพ่อ' เข้ามาแทนที่คำว่า 'โจร' ซึ่งเป็นเรื่องที่หนังทำให้รู้สึกแตกต่างออกไปเล็กๆน้อยๆ

American Gangster ...นำเสนอเรื่องราวอันเคยคุ้นของสองคนสองคม ที่ต่างก็อยู่กันคนละฝากฟั่งของบทกฎหมาย ...คนแรก คือ เจ้าพ่อ ผู้เคยมีชีวิตอยู่อย่างลำบากแต่หนหลัง และใช้ประสบการณ์ที่เคยมีเพื่อไต่เต้าขึ้นมาเป็นที่หนึ่งในหมู่มวลเจ้าพ่อด้วยกัน ...ส่วนอีกคน คือ นายตำรวจ ที่ยอมจะมีชีวิตที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย เพื่อเอาชนะทุกเรื่องที่ถือเป็นความผิดในสายตาของเขา



"แฟรงค์ ลูคัส" ...คือ คนหนึ่งผู้โชคดี ที่ได้รับการชุบเลี้ยงและไว้ใจจากเจ้าพ่อที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งย่านฮาเล็ม (ในนิวยอร์ค) ...เขาถือเป็นมือขวาผู้ที่คอยปรนนิบัติรับใช้อยู่เคียงข้างกับคนที่เขานับถือเป็น พ่อ อีกคน จนถึงวันสุดท้ายของชีวิต แฟรงค์ก็คือคนๆเดียวที่ได้อยู่เห็นในนาทีที่จากไป ...เมื่ออำนาจอันยิ่งใหญ่ กลับไร้ซึ่งคนจะรับช่วงต่อ คนๆนั้นที่โชคดีควรจะได้รับมันไป ก็ย่อมต้องเป็น แฟรงค์ แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น ...และวิธีการที่แฟรงค์จะสามารถรักษาดุลอำนาจในถิ่นฮาเล็มได้อยู่ต่อไปอย่างที่ดีที่สุด ก็คือ การใช้บรรทัดฐานของการเป็นเจ้าพ่อ เข้าไปมีเอี่ยว ทำการแบ่งผลประโยชน์กับการค้ายาเสพติดจากตลาดมืด



"ริชชี่ โรเบิร์ตส" ...คือ นายตำรวจตงฉินหนึ่งในน้อยคนของนิวยอร์ค ที่นับถือตัวบทกฎหมายเสียยิ่งกว่าเงินทองของมีค่าอันล่อตาล่อใจ ...เขาพยายามจะทำทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางโลก เพียงจะจัดการสร้างระเบียบแบบแผนอันดีต่อสังคม อันเป็นจรรยาบรรณของตำรวจที่เหลือคนยึดมั่นมันน้อยลงเรื่อยๆ ...หากแม้ชีวิตการเป็นตำรวจที่ดีของโรเบิร์ตส จะทำให้เขาเป็นที่ชื่นชมของคนรอบข้างก็ตามที ในขณะเดียวกัน ก็ยังมีเรื่องที่โชคร้ายบัดซบเกิดขึ้นกับชีวิตของผู้ชายหนึ่งคน ที่กำลังจะสูญเสียภรรยาและลูกไป ด้วยกฎหมายที่ต้องการจากพรากให้หย่าร้าง ก็พยายามเล่นงานให้เขาต้องเสียการทรงตัวอย่างรุนแรง

แฟรงค์ ...พยายามประคับประคองสถานภาพของตัวเอง ให้เข้าใกล้คำว่า ยิ่งใหญ่ เข้าไปเรื่อยๆทุกขณะ...ด้วยสุดยอดแห่งยาเสพติดที่เรียกขานกันนามว่า "บลูเมจิค" (ผงขาวที่มีความบริสุทธิ์ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ราคาถูกจนน่าใจหาย ...ซึ่งใช้ช่องโหว่ในสถานการณ์สงครามเวียตนามอันรุนแรง ลอบนำเข้ามาด้วยการคอรัปชั่นในวงการการเมือง)



โรเบิร์ต ...พยายามจะหาหนทางเพื่อเข้าใกล้ ตัวการที่กำลังบั่นทอนสังคมอเมริกันให้ต่ำทรามลงไปทุกเมื่อ...ด้วยจรรยาบรรณอันแรงกล้า ที่ไม่สามารถงัดอะไรกับเขาได้ แม้แต่เงินร้อนๆ ที่พร้อมจะประเคนให้ได้ทุกเวลา

แต่จนสุดท้ายแล้วสถานการณ์ก็ได้เปลี่ยนแปลงไป เมื่อสองคนสองคม ผู้ที่แตกต่างกันในคนละขั้ว ต้องมาเกี่ยวเนื่องบรรจบพบกันบนเส้นทางของการต่อสู้ เส้นเดียวกัน... พร้อมกับการเปิดเผยความจริงอันดำมืดต่ำทราม ที่ถูกเก็บซ่อนไว้ใต้ตราตำรวจ และก็ได้กลายมาเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวสุดฉาวในประวัติศาสตร์ของอเมริกาที่ผู้คนโจษจัน



American Gangster ...ใช้ประโยชน์จากบริบทของเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง มาทำเป็นหนังทริลเลอร์อาชญากรรมมีฟอร์ม ที่มี "ริดลีย์ สก๊อตต์" ผู้กำกับฝีมือเฉียบคมน่ายกย่องอีกคน มารับหน้าเสื่อดูแล ...พร้อมทั้งยังเลือกใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่าเป็นที่สุด ด้วยการแสดงระดับรางวัลเป็นประกัน ของสองคุณภาพต่างสี(ผิว) "เดนเซล วอชิงตัน" และ "รัสเซลล์ โครว์"

จากสามชื่อที่ได้เอ่ยมานั้น ...เอาเพียงแค่นี้ก็พอจะการันตีความเข้มข้นของตัวหนังทั้งเรื่องได้อย่างมั่นใจ แถมก็ยังมีโอกาสไปได้ไกลในระดับออสการ์ ถ้าหนังเรื่องนี้มีดีมากกว่าความเข้มข้น



ซึ่งก็ดูเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ที่อย่างหลังมันยังไม่เข้าข่ายนั้น ...(ออสการ์ที่ไปได้ถึงก็มีเพียงแต่สาขา นักแสดงประกอบหญิง เท่านั้น ที่มีโอกาส)

แล้วเมื่อรวมกับการเป็นหนังหนึ่งเรื่องที่ได้ชื่อว่า 'ยอดเยี่ยม' ในใจผู้ชม อีกหนึ่งเรื่อง ...สำหรับผมแล้ว American Gangster ก็ยังไม่ใช่เรื่องนั้นที่ผมจะรู้สึกว่ามันใช่



ถ้าแยกมองกันไปเป็นส่วนๆ หาส่วนที่ดีที่ทำให้หนังเรื่องนี้มีคุณภาพ ...ส่วนแรกที่เห็นและรู้สึกได้ ก็คือ ความสนุก ...ถึงอาจไม่ใช่ความสนุกชนิดที่ต้องคอยลุ้นอย่างใจจดใจจ่อทุกๆวินาที แต่หนังเรื่องนี้ ก็ดูสนุกได้ด้วยความเข้มข้นของตัวเรื่อง และการเดินหน้าของคนสองคนที่ต่างทางจะก้าว แต่ก็ได้มาบรรจบอยู่บนเส้นเดียวกันในท้ายที่สุด

ความเข้มข้นที่หนังมี เกิดมาจากการเขียนบทเล่าเรื่องที่ดูไม่มีอะไรแปลกใหม่ ให้กลายเป็นมีอะไรที่น่าสนใจ ต้องจับตามอง คอยประคับประคองให้คนดูรู้สึกเชื่อตามไปกับเหตุการณ์ที่ได้เห็นอยู่ตรงหน้า ...แล้วยังรวมไปถึงงานกำกับของ ริดลี่ย์ สก๊อตต์ ที่ทั้งคอยกำหนดในสิ่งที่ต้องการเสนอของหนังได้อยู่ และสามารถควบคุมอารมณ์คนดู ให้จับจดอยู่กับเวลาอันยาวนานของหนัง โดยไม่รู้สึกว่ามันน่าเบื่อ น่าหลับ อย่างที่หนังเดินเรื่องเนิบๆอีกหลายเรื่อง มักจะทำให้ผมต้องเป็น



อีกอย่างที่ต้องบวกเข้าไปในส่วนของความสนุก ...ก็คือ การแสดงของ 'วอชิงตัน' และ 'โครว์' ที่เอากับบทของตัวเองได้อยู่ แสดงออกถึงความเป็นดาราเกรดเอ ที่จับจิตวิญญาณความรู้สึกตัวละครมาใส่เอาไว้ในร่างรูปลักษณ์ที่เราคุ้นเคยของพวกเขา โดยไม่มีอะไรให้ขัดข้องติดความในใจเลยแม้แต่น้อย ...โดยเฉพาะ 'แฟรงค์ ลูคัส' ของ วอชิงตัน ที่สุดจะแสนเสียดาย อดได้เข้าชิงออสการ์อีกสักครั้ง จากบทที่ทำให้ผมเชื่อในความร้ายจนหมดใจ เฉกเช่นเดียวกับ เมื่อครั้งที่เป็นตำรวจชั่วสุดโฉดใน Training Day



ส่วนที่สอง ที่ทำให้หนังเรื่องนี้ ได้ชื่อว่ามีคุณภาพ ก็คือ ความพิถีพิถัน... ในการเก็บอารมณ์แฝงความรู้สึกจากภาพและฉากต่างๆ ให้คนดูรู้สึกเสมือนเป็นคนที่อยู่ในโลกเดียวกันกับเหล่าตัวละคร ...แง่มุมของความเป็นดรามา ถูกนำเสนออย่างมีความประณีตในรายละเอียด ที่จับเอาสถานการณ์ต่างๆของตัวละครสองตัวหลัก มาเดินควบคู่ขนานกันไปโดยให้น้ำหนักอย่างเท่าเทียม ...นอกไปจากการแข่งขันระหว่างสองตัวละครหลักที่ต่างฝ่ายต่างต้องพยายามอยู่เหนืออีกฝ่ายให้จงได้ การที่หนังยังใส่ใจมาลงเรื่องอีกค่อนครึ่งหมดไปกับการแข่งขันภายในตัวตนและจิตใจของตัวละครทั้งสองเองก็ยังหนุนนำให้คนดูรู้สึกอินจับติดกับสิ่งที่หนังเสนอได้มาก ยิ่งไปกว่าความสนุก

แต่มันก็น่าเสียดาย ที่ท้ายที่สุด ความสนุก และ พิถีพิถัน อาจจะยังไม่ช่วยให้หนังทั้งเรื่องกลายเป็นความยอดเยี่ยมได้ ...เพราะความรู้สึกโดยส่วนตัว ยังมองว่า บทหนังมันเล่าได้ดี แต่ก็ธรรมดาเกินไป ไม่มีลูกเล่น หรือจะลูกล่อลูกชนที่จะทำให้คนดูรู้สึกมันส์หยดไปกับการตามล่าตามหลบของทั้ง 2 ฝ่าย หรือพูดง่ายๆ หนังเนิบ แต่ไม่มีแรงกระตุ้นที่แรงพอจะให้ฮีกเหิมไปกับหนัง (แม้ฉากแอ๊คชั่นบู๊ตะลุยเพียงฉากเดียวในช่วงท้าย จะเรียกอะดรีนาลีนได้พอสมควร แต่มันก็มาช้าเกินไปแล้วที่จะทำให้รู้สึกคึกได้) ...



และอีกอย่างที่รู้สึกว่าน้อยเกินไป ก็คือ บทบาทของดาราเพียงผู้เดียวที่ได้เข้าชิงออสการ์อย่าง "รูบี้ ดี" ...แค่ 3 ฉาก กับเวลาไม่กี่นาที ยังไม่เห็นว่าจะเข้มข้นสมบทบาทมากมายเพราะหนังเทน้ำหนักเปิดทางให้ตัวละคร แม่ของแฟรงค์ เอาไว้เพียงน้อยมากๆ จนไม่สามารถจับติดอะไรกับตัวละครของเธอมาได้เท่าไหร่ ...ช่วงเวลาเดียวที่ผมอินกับการแสดงของเธอ ก็คือ ฉากตบหน้าลูกชายที่กระชากอารมณ์ได้อยู่หมัด แต่มันก็สายเกินไปที่เพิ่งมารู้สึกเชื่อในความสำคัญของเธอเอาตอนนี้แล้ว

ส่วนฉากที่หนังโดนเซ็นเซอร์ ที่มีอยู่ประปราย (ไม่มากและโคตรน่ารำคาญเท่า Sweeney Todd) ...ก็นับว่าทำได้เนียนอยู่ (คือ ถ้าไม่จงใจจ้องมอง ก็ไม่รู้สึกติดขัดอะไรมาก) แต่ปัญหาคือ ถ้าไม่มีจะดีกว่ามั้ย ...? และ ประเทศไทยที่กลายมาเป็นส่วนประกอบในฉากของหนัง ก็ยังได้ชื่อว่าเป็นประเทศอันป่าเถื่อนในสายตาน้ำข้าวของพี่ฝรั่งเขาอยู่ดี ติดแต่ว่า มันก็คือความจริงที่ต้องยอมรับล่ะนะ ...ช่วยไม่ได้จริงๆ ที่ต้องพูดแบบนี้



"American Gangster" ...สำหรับผม เป็นหนังที่ดีมีคุณภาพอีกเรื่องที่ไม่น่าผิดหวัง แต่กลับมีอะไรให้เสียดายมากกว่า กับเวลาสองชั่วโมงครึ่งที่เหมือนว่ามากแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถเก็บอารมณ์ของผมได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยอย่างที่รู้สึกคาดหวัง ...สำหรับใครคนอื่น ที่ชอบเรื่องราวทริลเลอร์เข้มข้น ที่มีความเป็นดรามาเป็นตัวประสานความอิน หนังเรื่องนี้น่าจะให้ความสนุกกับคุณได้ หรืออย่างน้อยๆก็ไม่อาจหลับคาเบาะได้ลง

เกรด B+ ... {}

คุยแหกโค้ง..สุดท้าย Oscar 2008 : หนังได้รับการเสนอชื่อ 2 สาขา ...จากประกอบหญิง "รูบี้ ดี" หนึ่ง และ กำกับศิลป์ อีกหนึ่ง ...ในสาขาแรก ผมไม่เชียร์ให้ได้สักเท่าไหร่ (เหตุผลก็อย่างที่ว่าไป...) ส่วนอีกสาขา ก็นับว่าน่าให้ลุ้นใช้ได้ แต่คู่แข่งอีก 4 เรื่องก็ให้รู้สึกน่ากลัวยิ่งๆเช่นกัน

ส่วนที่เป็นฟอนท์สี เขียว-แดง เพิ่มเข้ามา... ซึ่งที่เน้นนั้นจะเป็นที่ผมพูดถึง ส่วน ดูดี(เขียว)-ดูด้อย(แดง) ของหนังแต่ละเรื่องครับ ...สำหรับบางคนที่ยังไม่ได้ดูหนัง แล้วอยากจะรู้ว่าหนังมีอะไรดีอะไรด้อยบ้าง ก็อ่านเอาจากที่ผมทำไฮไลท์ไว้ก็ได้เลยครับ ตามแต่สะดวกละกัน

ขอเชิญทุกท่านเสนอความคิดเห็นกัน...
1 Comment ของคุณ คือ 1 Happy ของเจ้าของบล็อก ขอบคุณมากครับ




 

Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2551
2 comments
Last Update : 9 กุมภาพันธ์ 2551 0:00:45 น.
Counter : 2763 Pageviews.

 

+ ก็โอเชนะครับพี่สำหรับเรื่องนี้ ... ถึงแม้ไม่ใช่หนังแนวพี่เท่าไหร่ (ก็เลยทำให้ไม่ได้ชอบแบบสุดๆ) แต่หนังก็อะไรที่จับต้องได้พอสมควร โดยเฉพาะการเล่นกับอารมณ์ดราม่าคู่ขนาน ของชีวิตการงานกับชีวิตส่วนตัวของทั้งตำรวจ กับเจ้าพ่อ ที่ดูจะผกผันตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิง

+ เห็นด้วยเรื่องป้ารูบี้ ดี ดูมีบทบาทน้อยไปหน่อย จนไม่น่าถึงกับได้เข้าชิงออสการ์ ซะงั้น

 

โดย: บลูยอชท์ 20 กุมภาพันธ์ 2551 15:05:27 น.  

 

ตั้งแต่ปี 2007 มาถึงวันที่ได้ดูเรื่องนี้ ส่วนตัวผมชอบมากที่สุด (ไม่นับ The Live Of Other) หนังยาวก็จริง แต่รู้สึกว่าหนังคอ่ยๆเพิ่มความสนุกไปเรื่อยๆ จนถึงตอนท้ายที่สุดยอดจริงๆ

 

โดย: YoiChi_KunG 27 มีนาคม 2551 16:55:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


OncE UPoN'-'a MaN
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




สวัสดีครับ ...บล็อคแก๊งค์

คิดไม่ออก จะพูดอะไรดี
พูดถึงประวัติตัวเอง... ก็ดูไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจ
พูดถึงนิสัยตัวเอง... ก็มีทั้งดีทั้งร้ายสับเปลี่ยนหมุนเวียนไป เฉกเช่นคนธรรมดา
พูดถึงหน้าตา... ก็บ้านๆแบบพื้นๆ น้องๆ แบรด พิตต์ หลานๆ ทอม ครูซ เท่านั้นเอง (แหวะ!!!)

ตอนนี้ อาจยังคิดไม่ออก แต่ถ้าตอนไหน คุณชวนผมคุย ตอนนั้นผมก็พร้อมจะคุยกับคุณ ในทุกเรื่อง ได้ทุกแนว เพียงแต่ขอยกเว้น ...เรื่องส่วนตั้ว ส่วนตัว

ขอขอบคุณ ในมิตรภาพของทุกท่าน ความรู้จักที่คุณมีให้ผม ...ผมขอน้อมรับ ในทุกสิ่ง ที่ท่านมีต่อผม ไม่ว่าจะด้วยภาษา หรือว่าความรู้สึก

ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ...แต่ถ้านี่ยังน้อยไป ก็อย่าลืม ...เมล์ของผม แอดกันได้นะ

once_upon.a.man@hotmail.com


My @ http://twitter.com/once_upon_a_man

ขอขอบคุณ และสวัสดีครับ ...รักนะ คนอ่าน

ผลงานบทความที่อยู่ใน Blog นี้ สามารถให้คนอื่นนำไปเผยแพร่ในที่อื่นๆได้ แต่ต้องขอให้แจ้งทางเจ้าของ Blog ก่อน ว่าจะนำไปใช้เพื่อประโยชน์ในทางที่ถูก พร้อมทั้งให้เครดิตของเจ้าของผลงานตัวจริงด้วย โดยห้ามทำการดัดแปลงแก้ไข ด้วยภาษาของตัวคุณเอง เพื่อทำให้เจ้าของ Blog เสียหาย

ขอความกรุณา อย่าละเมิดสิทธิ์กันเลยครับ เพราะกว่าจะเป็น กว่าจะเกิดผลงานขึ้นมาแต่ละชิ้นได้ อาจคิดขึ้นมาได้ไม่ยาก แต่มันก็ลงมือทำไม่ง่ายเช่นเดียวกัน

ถ้าท่านผู้ใดไปพบว่า มีคนนำผลงานของเจ้าของ Blog ไปเผยแพร่ นำเสนอ ในทางที่ไม่ดีไม่ชอบ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อตัวเจ้าของ Blog กับคนอื่นๆ หรือว่าสังคม ..ขอให้แจ้งมาทาง "หลังไมค์" ของเจ้าของ Blog เลยทันที ขอบคุณมากๆครับ

OncE UPoN'-'a MaN on Facebook
Blog ใหม่ล่าสด..สด
"VieTrio & Friends" ... เพื่อนร้อง พี่น้องเล่น เป็นเพลงเพราะเสนาะหู
"Lady Antebellum : Need You Now" ... ลูกทุ่งแบบมะกัน แต่สีสันระดับโลก
"The Social Network" ... วันนี้ คุณรู้จัก Facebook ดีพอแล้วหรือยัง?
"Harry Potter and the Deathly Hallows : Part I" ... ฉันต้องเปิด เพื่อจะปิด!
"Scrubb : Kid" ... คำตอบของเพลงอินดี้ที่ฟังง่าย อยู่ในอัลบั้มนี้แล้ว
"Due Date" ... รวมกันเราต้องอยู่ (กรุณา)อย่าทิ้งตูเป็นอันขาด!!?
"B.o.B. Presents: The Adventures of Bobby Ray" ... อาจเป็นฮิปฮอปหน้าใหม่ แต่ไม่ขอยึดติดความฮิป
"RED" ... โตอย่างสมวัย แก่อย่างมีคุณภาพ และจงระห่ำอย่างไม่เหลืออะไรจะเสีย!
"ห้องตรงข้าม หัวใจตรงกัน" ... (หนังสั้น)แบบตัวเต็ม ที่ไม่มีอะไรมากมาย แต่ก็ยังมีความจริงใจ!
"ห้องตรงข้าม หัวใจตรงกัน" ... กับตัวอย่างน้ำจิ้ม ของหนังสั้นที่คงจะมีอะไรๆอยู่ในนั้น
"อินทรีแดง" ... สมศักดิ์ศรีที่ได้กลับมา ..วีรบุรุษที่หนังไทยต้องการ!
"ชั่วฟ้าดินสลาย" ... เมื่อคำ “รัก” มีค่าเท่าคำว่า “ร้าย” คงทำลายคนทั้งหลายให้วายวอด
"Resident Evil : Afterlife" ... สงครามยังไม่จบ ยังต้องนับศพซอมบี้จนเบื่อกันไปข้าง!!
"Lula : Twist" ... เพลงฟังชวนเพลิน จากคนเพลินๆ ที่ชื่อ 'ลุลา'
"Piranha 3D" ... กัดกระจุย เลือดกระจาย สามมิติกระเจิง!!!
"CHARICE" ... เพชรน้ำงามเม็ดเล็กแห่ง ‘เอเชีย’ ที่คู่ควรกับการเจียระไนโดย ‘อเมริกา’
"กวน มึน โฮ" ... ความรัก อาจแพ้บ้างอะไรบ้าง แต่ ความ ‘เห็นแก่ตัว’ เอาชนะได้ทุกสิ่ง!
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
242526272829 
 
9 กุมภาพันธ์ 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add OncE UPoN'-'a MaN's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.