"Paris Je T'aime" ... อ่านปากของฉันนะ ว่า 'เฌอแตม'
18 หนังสั้น ...จาก 20 ผู้กำกับมีชื่อ และฝีมือที่คนอินดี้ซูฮก
18 หนังสั้น ...ที่ต่างเรื่องต่างก็มีเวลาการดำเนินเรื่องอย่างจำกัด แค่ประมาณ 5 นาที เท่านั้น
18 หนังสั้น ...ที่ใช้คอนเซปต์การคิด ทำ และสร้าง เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันว่า "ปารีส" และ "ความรัก"
18 หนังสั้น ...รวมเป็น 1 หนังยาว ที่ใช้ชื่อโปรเจกต์ว่า "Paris Je T'aime"
18 หนังสั้น ...ถูกวางเรื่องราวทั้งหมดให้เกิดขึ้นในมหานครที่ได้ขึ้นชื่อว่า "เมืองแห่งความรัก" ...ทุกอย่างจะเริ่มต้นที่นี่ และจบลงที่นี่ ที่ปารีส ที่เดียวเท่านั้น
18 หนังสั้น ...ในแต่ละเรื่อง ต่างจะเลือกใช้สถานที่สำคัญ และแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่น เป็นที่รู้จัก แตกต่างกันออกไป และในแต่ละที่นั้น ก็จะอยู่ในเขตเมืองที่แตกต่างกันอีกด้วย (หมายเหตุ จาก Filmax : ความจริง ปารีส มีอยู่ทั้งหมด 20 เขต... ในหนังจะไม่มีตอนของเขต 12 และ 15)
18 หนังสั้น ...จะว่าด้วยเรื่องของความรักในรูปแบบต่างๆ ที่อาจจะได้รับกลิ่นอายของหนังเมืองผู้ดี "Love Actually" มาอยู่บ้าง แต่การนำเสนอก็ยังแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
18 หนังสั้น ...จะแยกเรื่องราวออกจากกัน จะไม่มีส่วนใดในอีกเรื่องที่มีความผูกพันเป็นพิเศษกับอีกเรื่อง และ เรื่องทุกเรื่องที่เริ่มและจบลงในห้านาทีนั้นจะไม่มีความต่อเนื่องเกี่ยวข้องกันไปในเรื่องถัดๆไป
18 หนังสั้น ...นำเสนอความรักที่มีทั้งแบบสุข เศร้า เหงา ฮา ปะปนกันไป ...ซึ่งมีความรักเป็นคู่ทั้งแบบที่ธรรมดาสามัญถูกครรลอง และรักแอบจิต ผิดธรรมดา ก็อีก หรือจะเป็นความรักในสายใยครอบครัว ก็ด้วย
18 หนังสั้น ...จะมีกลวิธีการเล่าเรื่อง นำเสนอที่ไม่เหมือนกัน ไปตามแต่เทคนิคของผู้กำกับแต่ละคน ที่มีลูกเล่น มีวิธีคิดที่แตกต่างออกมา
18 หนังสั้น ...แต่ละเรื่อง ต่างเป็นงานโชว์ภูมิ น่าอวดอ้างศักยภาพของผู้กำกับทั้ง 20 คน ที่ต่างคนต่างก็มีของ มีสไตล์ในแบบตัวเอง และได้เอาความถนัดในแนวทางของตนมาใช้เป็นความสามารถของการเป็นนักเล่าเรื่องที่ดี ที่ทำให้ 5 นาทีของตัวเอง คุ้มค่าสูงสุดในเวลาที่ถูกจำกัด
18 หนังสั้น ...มีทั้งเรื่องที่ดูแล้ว รู้สึกดี รู้สึกเพลิน รู้สึกอึดอัด รู้สึกงั้นๆ ปนเปกันไป ...ไม่ใช่ทุกเรื่องทั้งหมดที่จะทำออกมาได้ดีเลิศเลอ ในกับบางเรื่องดูจบแล้วอาจจะไม่มีอะไรให้จดจำเป็นพิเศษ หากแต่ทุกเรื่องก็มีจุดบางจุดที่ทำให้ผมรู้สึกชอบในตัวของมัน แม้จะเล็กน้อยก็ตาม
18 หนังสั้น ...กับความเล็กน้อยไปจนถึงมากมายที่ทำให้ชอบในแต่ละเรื่อง ก็คือ รายละเอียดการนำเสนอในแง่มุมของผู้กำกับแต่ละคน ที่เข้าใจคิด เข้าใจทำ เข้าใจเล่นกับตัวละครและคนดู อย่างในบางตอนก็อาจไม่มีเนื้อเรื่องอะไรเลย เป็นเพียงเหตุการณ์แค่เหตุการณ์หนึ่งที่ดำเนินไปแบบไม่มีเหตุมีผล แต่หนังก็อธิบายทุกอย่างที่เป็นอยู่ในแต่ต้นและจนจบได้ลงตัว (ถึงจะมีค้างคาเรื่องอยู่บ้าง แต่ก็ไม่คาใจอะไรจนพาลให้หงุดหงิด) หรือว่าในตอนหนึ่งของ "คริสโตเฟอร์ ดอยล์" ที่เล่าออกมาซะโคตรงง หลุดโลกสุดๆ จนน่าจะถือเป็นตอนที่ด้อยที่สุดแล้ว ก็ยังมีอะไรที่ทำให้ผมชอบได้ ก็คือ ความบ้า ความกล้า ที่จะแหวก ที่จะแตกต่าง แบบว่าไม่น่าใส่เข้ามาเป็น 1 ใน 18 ของหนังเรื่องนี้เอาซะเลย
18 หนังสั้น ...กับเทคนิคการถ่ายทำที่แตกต่างกันของผู้กำกับแต่ละราย ก็คือ อีกส่วนรายละเอียดที่ทำให้หนังแต่ละเรื่องมีความน่าสนใจในตัวของมัน ...แม้กับบางเรื่อง ที่ไม่ได้ดีเด่อะไรในการเล่าเรื่องเลย ก็จะได้ตรงนี้มาทดแทนทำให้ดึงตาดูดใจ อย่างเช่น ในตอนหนึ่งของ "อัลฟองโซ่ คัวรอน" ก็ใช้การถ่ายลองเทค มาช่วยให้หนังที่ไม่มีเรื่องราวอะไรนอกไปจากการสนทนาบนถนน ดูสนุกขึ้นมาได้ (พอดีกับที่คัวรอน เคยใช้เทคนิคนี้ ใน Children of Men อย่างก็ได้ผลออกมาเป็นฉากมันส์ๆที่สุดยอด ทรงพลังมากๆ) หรือตอนหนึ่งของ "วินเซนโซ่ นาตาลี" ก็ทำเรื่องราวให้เป็นหนังผี(แวมไพร์) โดยใช้การฉายภาพออกมาให้ดูหม่นมืด รับกับเวลาตกดึก ที่ให้บรรยากาศแบบโกธิกชวนสยองวิเวก
18 หนังสั้น ...อุดมไปด้วยดารามีชื่อ เหล่านักแสดงฝีมือชั้นยอดมากมายแห่งฮอลลีวู้ด ที่ยกทัพมาปารีสเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในหนังรักรูปแบบใหม่ ...เราจะได้เห็น "นาตาลี พอร์ตแมน" ตกหลุมรักไอ้หนุ่มอีกคนที่อยู่ในด้านมืด (เพราะตาบอด) หลังจากสะบั้นกับหนุ่มด้านมืดคนก่อนที่กลายเป็น ดาร์ธ เวเดอร์ ไปแล้ว , เราจะได้เห็น "วิลเลม ดาโฟ" เป็นคาวบอยขี่ม้า หลังจากเคยเห็นเป็นไอ้ก๊อบลินขี่บอร์ดมาก่อน , เราจะได้เห็น "แม็กกี้ จิลเลนฮาล" ติดผง , เราจะได้เห็น "อีไลจาห์ วู้ด" ติด(ใจ)ผี เป็นต้น
18 หนังสั้น ...กับดาราที่มีส่วนร่วมมีบทบาท ล้วนทั้งหมดต่างให้การแสดงอินอย่างที่บทมันพาไป ...ใครต้องเล่นซึ้ง ก็พาคนดูเศร้า ใครต้องเล่นมุข ก็พาคนดูฮา ใครที่บทต้องการสร้างความประทับใจ ก็เอาคนดูให้ต้องรู้สึกโดนไปตามๆกัน
18 หนังสั้น ...รวมเป็น 1 หนัง ที่ทำให้ผมรู้สึกตกหลุมรักในเมืองปารีสอย่างรุนแรง ตลอดที่นั่งดูๆไป ก็นั่งวางแผนชีวิตไปด้วยว่า สักวันหนึ่ง ถ้าได้มีโอกาสดีๆ เราจะไปเที่ยวมหานครแห่งความรักแห่งนี้ (ยิ่งหลังจากเรื่องนี้ ได้มาดู Ratatouille อีก ก็ยิ่งรู้สึกว่า "โอ๊ย!!! อยากไปใจจะขาดแล้วคร้าบบบบ...")
18 หนังสั้น ...ใน 1 หนังยาว ที่มีชื่อว่า "Paris Je T'aime" ...ถือเป็นอีก 1 ใน 10 หนังดีในรอบปีนี้ ที่ผมเฌอแตมเป็นที่สุด ...และขอบอกต่อว่า "นี่คือหนังอินดี้ ที่คนเฌอแตมหนัง ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง"
4 ใน 18 หนังสั้น ที่ผมมีความประทับใจ เฌอแตมมากเป็นพิเศษ ...
"Tuileries" ของ "สองพี่น้อง โคเอน" ...ผมเฌอแตม ในความตลกแบบสุดโต่ง ตามสไตล์โคเอน ...ซึ่งหนังไม่มีเนื้อเรื่องอะไรเลย ก็แค่เหตุการณ์ๆหนึ่ง ที่ "สตีฟ บุสเซมี" บังเอิญ(ซวย)ไปสบตากับผู้ชายที่หึงหวงแฟน แล้วหนังก็ดำเนินไปแบบมุขต่อมุข ที่ทำให้ พี่สตีฟ ต้องเจ็บตัวเจ็บใจ แต่ผมกลับทำได้แต่หัวเราะอย่างเจ็บปวดฟันกรามซะเหลือเกิน
"Tour Eiffel" ของ "ซิลแวง โคเมต์" ...ผมเฌอแตม ในความขบขันน่ารักน่าเลิฟ ที่นำเสนอออกมาเป็นละครใบ้ ...เรื่องราวของชายโสดเปล่าเปลี่ยว ที่เที่ยวออกตามหาความรักไปทั่วละแวกแถวหอไอเฟล หากสุดท้ายก็ไปจบลงที่ ต้องติดคุก และได้พบรักในที่แห่งนั้นซะอย่างงั้น ...นักแสดงเล่นได้น่ารักหนึ่ง ผกก.ซิลแวง ทำออกมาได้ละเมียดอารมณ์เหงาแต่เอาฮาได้ดีอีกหนึ่ง และการเล่าเป็นละครใบ้ก็อีกหนึ่ง ที่ทำให้ตอนนี้เป็นตอนหนึ่งที่มีแต่คนชอบ
"Faubourg Saint-Denis" ของ "ทอม ทิกแวร์" ...ผมเฌอแตม กับการเริ่มต้นและจบลงในเวลาอันน้อยนิด ได้บริบูรณ์ ...เรารู้จักและอินกับความรักของคู่นี้ได้อย่างรวดเร็ว ไปพร้อมกับการตัดต่อที่ฉับไวและเร่งเร้าอารมณ์คนดูให้คล้อยตาม ...ในขณะที่หนังรักบางเรื่องอาจต้องใช้เวลาสัก 90 นาทีในการทำให้คนดูเข้าใจและเห็นใจในความรักของพระนาง แต่เรื่องนี้ใช้เวลาทำให้เราโดนใจได้เพียงแค่ใน 5 นาที เท่านั้นเอง ...อีกอย่างที่ผมชอบก็คือ การจบหักมุม
"14e arrondissement" ของ "อเล็กซานเดอร์ เพย์น" ...ผมเฌอแตม กับหนังสั้นเรื่องสุดท้าย ที่ได้เล่านิยามความรักเมืองปารีส ได้ตรงตัวกับคอนเซปต์มากที่สุดแล้ว ...ว่าด้วย หญิงสาวคนหนึ่งที่ได้ทำฝันตัวเองให้เป็นจริง ด้วยการมาเที่ยวปารีส ...และด้วยความรักอย่างแรงกล้าที่เธอมีต่อมหานครปารีส นี่เอง ที่ทำให้ความน่ารักของตอนนี้ได้เข้าไปครองใจของคนดูทุกคน ซึ่งเหล่านักวิจารณ์ทั้งหลายก็ยังได้ยกให้ นี่เป็นตอนที่ดีที่สุดของ "Paris Je T'aime"
ขอแนะนำเป็นอย่างยิ่ง...วันนี้ ที่ สกาลา ที่เดียว ครับ
เกรด A ... {}
ส่วนที่เป็นฟอนท์สี เขียว-แดง เพิ่มเข้ามา... ซึ่งที่เน้นนั้นจะเป็นที่ผมพูดถึง ส่วน ดูดี(เขียว)-ดูด้อย(แดง) ของหนังแต่ละเรื่องครับ ...สำหรับบางคนที่ยังไม่ได้ดูหนัง แล้วอยากจะรู้ว่าหนังมีอะไรดีอะไรด้อยบ้าง ก็อ่านเอาจากที่ผมทำไฮไลท์ไว้ก็ได้เลยครับ ตามแต่สะดวกละกัน
ขอเชิญทุกท่านเสนอความคิดเห็นกัน... 1 Comment ของคุณ คือ 1 Happy ของเจ้าของบล็อก ขอบคุณมากครับ
Create Date : 06 สิงหาคม 2550 |
Last Update : 6 สิงหาคม 2550 0:00:16 น. |
|
10 comments
|
Counter : 3256 Pageviews. |
|
|
|
จำชื่อตอนภาษาฝรั่งเศสไม่ได้ + ขี้เกียจคุ้ย (55)
1. สาวมุสลิม
2. คนดำกินกาแฟ
3. นาตาลี
4. Bitch
5. อเล็กซานเดอร์ เพย์น
อาจจะไม่รักถึงขั้นซื้อเก็บ แต่ก็ดูดีจริงๆ...