Memoirs of a Geisha ... เรื่องราวของการ"ไต่เต้า" ที่ไม่ต้องใช้ "เต้า" เอาไว้ "ไต่"
"เกอิชา" อาจโดนเข้าใจไปได้สองทาง จากผู้คนที่ได้ยินคำๆนี้ ... ในทางหนึ่ง ตามความคิดของคนส่วนใหญ่ ความเข้าใจที่มี มักจะเห็นว่าพวกนางโลมเหล่านี้ ก็ไม่ต่างไปกับโสเภณีดีๆทั่วไป นี่เอง ด้วยภาพพจน์ที่พวกเธอต้องทำงานนันทนาการ ให้ผู้ชายที่ใคร่อยากจะบำรุงบำเรอ ให้ได้มีความสุขตามยถากรรม แล้วแต่เลือก อยากจะขึ้นสวรรค์ หรือลงนรกก็ได้ตามสั่ง ... แต่ในอีกทางหนึ่ง ของคนส่วนน้อย ที่จะมีความเข้าใจ และลึกซึ้งต่ออาชีพนี้จริงๆ ก็มองด้วยมุมต่าง และรู้ดีว่าสิ่งที่คนเหล่านั้น ทำลงไป มันก็แค่ประโยชน์ ความจำเป็น และต้องจำใจ เพื่อแลกเอากับเงินทอง ชื่อเสียง ฐานะ และความดูดีมีค่าในสายตาของผู้อื่น
ดูเหมือนว่า ความคิดในแง่ร้าย ของคน มักจะมองในทางแรกเสียมากกว่า โดยที่เรายังไม่เคยจะได้เข้าใจในข้อเท็จจริงที่มีการก่อกำเนิดอาชีพนี้ขึ้นมา ในดินแดนอาทิตย์อุทัย เลย ... แน่นอน ที่การแลกตัวและ เปลืองตัว ของพวกเธอ มันเป็นงานที่อยู่บนพื้นฐานความอัปยศของการเกิดเป็นมนุษย์ ... แต่มันก็เป็นกิจการของมนุษย์ที่มีมานานหลายล้านปี เป็นความอยากความกระหาย ของการได้ลิ้มลองรสชาติมันสักครั้ง ซึ่งไม่ใช่ความผิดอะไรที่คนเราจะกระทำกัน (เพียงถ้ามันอยู่ในขอบเขตที่สมควร อยู่ในกฎเกณฑ์ที่ต้องสำรวมด้วย) ... อาชีพนี้ถูกคิดค้นขึ้นมา ก็เพื่อเป็นการสร้างความบันเทิงในอีกแนวทางหนึ่ง ซึ่งจะผิดแผกจากด้านอื่นๆไปบ้าง ก็เพียงเพราะ ว่ามัน "เจ็บปวด" ที่ต้องกระทำ
แต่ถ้า "ความเจ็บปวด" ของคนที่เป็น "ผู้กระทำ" จะเป็นสิ่งที่ชวนพึงพอใจแล้ว ในขณะเดียวกัน "ความเจ็บปวด" ของคนที่เป็น "เหยื่อแห่งการกระทำ" อาจจะเป็นในอารมณ์ถวิลหาอยากจะให้แก่ผู้กระทำไม่ขัดขืน หรือ กลับกัน อาจจะเป็นการต้องการที่จะต่อสู้ ต่อต้านทั้งทางกายและจิตใจที่ยังรู้ผิดชอบชั่วดี ... คนเป็น"เกอิชา" ย่อมเลือกความเจ็บปวด อันหลัง ไม่ได้ จำต้องฝืนทน ควบคุมตน ให้ ความเจ็บปวด อันแรก เป็นผู้ชนะอยู่ตลอด
คนที่จะเป็นเกอิชาได้ ย่อมไม่ใช่แค่โชคช่วย บุญกรรมนำพา ซัดเซมาสู่วงจรนี้อย่างเดียว และไม่ใช่แค่ สวย สามารถ และฉลาด ...ความอดทน อดกลั้น และ อดใจ คือ คุณสมบัติ ที่เกอิชาต้องพึงทำให้ได้ ...อดทน ที่จะต้องเจ็บปวด ...อดกลั้น ที่จะต้องฝืนใจไม่ให้เจ็บ และ ...อดใจ ที่จะยอมรับในสิ่งที่มันต้องเป็นใคร อดไม่ได้ อดไม่เป็น ...ย่อมไม่ใช่อาชีพ ที่ผู้หญิงตัวเล็กๆจะพึงกระทำกันตามใจชอบ
เกอิชา มันก็อาจจะคล้ายๆกับ โสเภณี อยู่บ้างในหลายมุม ...แต่ในบางมุม เกอิชา กลับเป็นอาชีพที่ดูงดงาม แฝงเร้นซึ่งความอ่อนโยน มากกว่าการเป็น โสเภณีในทุกวันนี้ ...จึงไม่ต้องแปลกใจเลย ว่าทำไมผู้หญิงญี่ปุ่นสมัยก่อน ถึงได้นิยมชมชอบในอาชีพนี้ กันมากมาย
Memoirs of a Geisha ... ผู้กำกับ "Chicago" ร็อบ มาร์แชลล์ นำเสนอ เรื่องราวจากหนังสือขายดีติดอันดับ ที่ถูกนำมาสร้างเป็นหนังดรามาชั้นดีมีฟอร์ม ที่เป็นการรวมเอา 4 ยอดฝีมือพระกาฬ แห่งดินแดนตะวันตก มาอยู่ในหนังเรื่องเดียวกัน ... จางซื่อยี่ , มิเชลล์ โหยว , กงลี่ และ เคน วาตานาเบ้ ...ด้วยเรื่องราวความเข้มข้นของ การแก่งแย่งชิงดี สู่ความเป็นสุดยอด ในโลกแห่งหญิงงามนามว่าเกอิชา ...และด้วยเรื่องราวความปรารถนา ในรักแรกพบ ที่ต้องการจะเป็นรักแท้ ในโลกแห่งความจริง ... "นางโลม โลกจารึก" ถูกเล่าผ่านตัวละครนางเอก...ซายูริ (จางซื่อยี่) อันเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นขนานทั้งสอง ที่มันต้องมีวันมาบรรจบกันเป็นเส้นตรงอันหนึ่งอันเดียว
ด้วยความที่หนังทำออกมาได้อย่างเรียบเรื่อย ...เดินเรื่องช้าแต่มั่นคง อาจทำให้ใครบางคนหาวหวอดๆ ออกมาได้บ้าง หรือไม่ก็หลับไปเลย (เห็นกระทู้ข้างล่างเขาบอกมาอย่างนั้น) แต่ถ้าคุณชอบการดูหนังดรามาแล้ว ขอบอกได้เลย ว่าเรื่องนี้ อยู่ในขั้นที่คุ้มค่าสำหรับคุณ...
ร็อบ มาร์แชลล์ ใช้การเล่าเรื่องง่ายๆ ตามแนวทางของหนังสู้ชีวิต ...ซึ่งก็ไม่ใช่ความแปลกใหม่ในอารมณ์หนังแนวทางนี้แต่อย่างใด เพราะ นอกจากการเผชิญพบเจอกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เธอต้องสู้แล้ว ไปถึงการพยายาม การทะเยอทะยาน สู่ความเป็นที่สุด อีกทั้งการทำตามใจตัวเองเพื่อให้สมปรารถนาในสิ่งที่เธอต้องการ (หนังเรื่องอื่นๆ อาจเป็นเงินทอง ชื่อเสียง เกียรติยศ แต่ หนังเรื่องนี้ คือ... ความรัก) กลวิธีที่ง่ายๆนี้ ...ถือว่า ช่วยส่งความอินได้ ทำให้เราเชื่อในการกระทำต่างๆของเธอ การดิ้นรนต่อสู้ของเธอ ว่ามันไม่ใช่เรื่องที่โอเวอร์ หรือเกินไป ...
แต่ก็ยังมีส่วนที่สร้างความขัดแย้งในใจคนดูอยู่ ... ในระหว่างการดำเนินเรื่องสองแนวทาง คู่ขนานกันไป หนังกลับเน้นในส่วนของการต่อสู้ เพื่อความเป็นที่สุดแห่งเกอิชา ...แต่ในอีกส่วน ที่เป็นการต่อสู้ เพื่อความรัก หนังกลับปล่อยไว้อย่างห่างๆเหินๆ ไม่ได้จับมาเล่าเค้าไปด้วยกัน ให้เห็นถึงความคืบหน้าในหัวใจของทั้งท่านประธาน (เคน วาตานาเบ้) และซายูริ ...เหมือนกับหนังจะพยายามโฟกัสให้เห็นในความรู้สึกที่ทั้งสองมีต่อกันอย่างแอบๆ โดยไม่บอกออกมา ผ่านจอให้ชัดเจนทำให้ในที่สุด แล้วอารมณ์โรแมนติก ของหนังสู้ชีวิตเรื่องนี้ สอบตก เพราะถึงคนดูจะเชื่อว่าเขาและเธอมีใจให้กันอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกอินตามไปด้วยเลย
ส่วนของการแสดง คือ อีกส่วนที่สามารถ "เลือกใช้ของ มีคุณภาพ ได้อย่างคุ้มมูลค่า" ... ทีมนักแสดงทั้ง 4 ทำหน้าที่ได้อย่างสมบทบาท แต่ที่เรียกได้ว่าเต็มปาก ว่า "เยี่ยม" คงต้องมอบให้กับ "ซายูริ" และ "ฮัตสึโมโมะ" (กง ลี่) ที่วาดลวดลายได้อย่างโดดเด่นเทียบเคียงรัศมีกัน ข่มไม่ลงทั้งคู่ ทุกฉากที่เธอๆฉะกัน ทำให้เกิดความมันส์ในอารมณ์ (ประมาณ แดจังกึม กับ คนตระกูล แช ก็ไม่ปาน) ..."มาเมฮา" มิเชลล โหยว อาจดูไม่ค่อยมีน้ำมีเนื้อต่อหนังเท่าไรแต่การสวมบทเทรนเนอร์ของ โหยว ก็พอสร้างรสชาติได้ไม่น้อย ..."ท่านประธาน" เคน วาตานาเบ้ สามารถสร้างภาพของผู้ชายนักธุรกิจใหญ่มาดนุ่ม ที่แฝงความอบอุ่นไว้ในแววตา อย่างมีเสน่ห์ ที่ชวนให้ผู้ชายอย่างผมแอบเคลิ้มตามได้(เปล่า ม่วงนะตัวเอง!!!) และ อีกบทบาทที่ขโมยซีน และขโมยใจชายโลลิค่อน หลายๆ กับซายูริ วัยเด็ก...โฟกัส จ๋าหลบไปนิด ขอน้อง ซูซูกิ โอโกะ ชิดในหน่อยน้า
นอกจาก นักแสดงทั้ง 4 แล้ว อีกส่วน ที่สามารถตรึงผู้ชมให้อยู่กับหนังได้ดี ... คงต้องยกให้งานโปรดักชั่น เชื่อเลยว่าที่ได้เข้าชิงออสการ์ถึง 6 รางวัล เป็นสิ่งที่สมควร ...ถ้าไม่มีงานส่วนนี้แล้ว หนังเรื่องนี้คงจะทะยานไกลได้ยากเย็น ไม่อาจไปถึงการเข้าชิงรางวัลเกียรติยศนี้ได้ ...งานทุกส่วนออกมาดูดี ตั้งแต่ด้านภาพ "พริ้วไหว งดงาม" ฉากหลัง "สมจริง ดูเป็นญี่ปุ่นแท้ๆ" เครื่องแต่งกาย-การแต่งหน้า "เสริมสร้างภาพแดนปลาดิบ ได้เด่นชัดกระจ่างตา" อีกทั้ง เพลงประกอบก็ "อลังการ เร้าระทึก บิวต์อารมณ์ได้ดี" ...พอดูจบก็รู้สึกว่ารางวัลทั้ง 6 ที่หนังมีสิทธิ์ได้รับนั้น พร้อมจะมอบให้ได้โดย มิบังอาจจะคัดค้านสายตากรรมการเลย
Memoirs of a Geisha ... คือ งานดรามาที่พร้อมถึงซึ่งคุณภาพในด้านการแสดง และโปรดักชั่น ...แม้อาจจะมีขัดใจในเรื่องของบท และการเล่าเรื่องที่ขาดๆเกินๆในหลายที แต่ผมก็รู้สึกคุ้มค่า ไม่มีหาว ไม่มีหลับ ...ยังเปิดตาขับสู้ กับความสนุกของหนัง ไปแต่ต้นจนจบ ...อาจไม่ใช่ความประทับใจ แต่ก็รู้สึกพอใจมากกว่าที่คิดเอาไว้ไม่น้อยเลยทีเดียว
เกรด B+...
Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2549 |
|
4 comments |
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2549 18:45:55 น. |
Counter : 5790 Pageviews. |
|
|
|
ส่วนเนื้อเรื่องนั้น ยังรู้สึกไม่peakเท่าไหร่อ่ะครับ