11 เมนูหัวไช้เท้า หวานอร่อยได้คุณค่า ทำอะไรก็ชวนหิว


11 เมนูหัวไช้เท้า
หวานอร่อยได้คุณค่า
ทำอะไรก็ชวนหิว

 
 












11 เมนูหัวไช้เท้า หวานอร่อยได้คุณค่า ทำอะไรก็ชวนหิว


     ผักหาง่ายที่ใคร ๆ ก็ติดใจ ชวนทำเมนูหัวไช้เท้า มีทั้งเมนูกับข้าวและอาหารว่าง อร่อยเปี่ยมคุณค่า กินตอนไหนก็โดน
เมนูหัวไช้เท้า


        พอเอ่ยถึงหัวไช้เท้าหลายคนจะนึกถึงอาหารไทย โดยเฉพาะต้มจืด หรือจับฉ่าย รู้ไหมว่าหัวไช้เท้าเอามาทำเมนูอาหารอื่น ๆ รวมถึงอาหารว่างได้ด้วยนะคะ แต่ก่อนจะเข้าครัวกัน เรามาทำความรู้จักกับประโยชน์ของหัวไช้เท้ากันหน่อยดีกว่า

หัวไช้เท้า สรรพคุณ



          หัวไช้เท้าหรือหัวผักกาด มีสรรพคุณมากมายทั้งช่วยกระบวนการย่อยอาหารและระบบขับถ่าย อีกทั้งมีแคลอรีต่ำ ไฟเบอร์มากช่วยให้อิ่มไวเหมาะสำหรับคนลดน้ำหนัก นอกจากนี้มีวิตามินซีช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ใครมีฝ้าสามารถใช้หัวไช้เท้ารักษาฝ้าได้โดยใช้น้ำหัวไช้เท้าคั้นสดมาทาจะช่วยให้ฝ้าจางลงได้ (คลิกอ่านเพิ่มเติมได้ที่ หัวไชเท้า สรรพคุณไม่ธรรมดา รักษาฝ้า-บำรุงร่างกาย)

          เห็นไหมคะว่าหัวไช้เท้ามีคุณค่าพอตัวเลย มื้อต่อไปถ้าใครอยากลองทำดู กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำเมนูหัวไช้เท้า ยกตัวอย่างเช่น หัวไช้เท้าต้มซอส ไชโป๊ผัดไข่ ขนมผักกาด เป็นต้น ลองเลือกสูตรที่ชอบกันเลยจ้

                




เมนูหัวไช้เท้า


1. แกงจืดหัวไช้เท้า

     มีข่าวดีสำหรับคนอยู่หอ อยากชวนมาทำแกงจืดหัวไช้เท้าด้วยไมโครเวฟกันค่ะ สูตรจาก อาหารง่าย ๆ สไตล์ Rita สูตรนี้ใส่เนื้อไก่และเห็ดหอม เพิ่มเครื่องโขลกให้มีกลิ่นหอมรัญจวน หน้าตาดีงามน่าลอง

ส่วนผสม แกงจืดหัวไช้เท้า
 
     • หัวไช้เท้าหั่น 100 กรัม
     • สามสหายโขลก 1 ช้อนโต๊ะ (รากผักชี กระเทียม และพริกไทย)
     • ซุปไก่ก้อน 1 ก้อน
     • น้ำเปล่า 3 ถ้วยตวง
     • เนื้อไก่ 100 กรัม
     • เห็ดหอมแห้ง 3-4 ดอก
     • น้ำตาลทราย 1/4 ช้อนชา

วิธีทำแกงจืดหัวไช้เท้า

     1. นำหัวไช้เท้า สามสหาย ซุปไก่ก้อน และน้ำเปล่าใส่ชาม ปิดฝา นำเข้าไมโครเวฟใช้ไฟแรง 600 วัตต์ ประมาณ 10 นาที
     2. ใส่เนื้อไก่ เห็ดหอมแห้ง (ล้างแล้ว) ลงไป ปิดฝา นำเข้าไมโครเวฟต่ออีก 15 นาทีเป็นอันเสร็จ

     หมายเหตุ : ควรปิดฝาขณะนำเข้าไมโครเวฟ ถ้าไม่ปิดฝาน้ำจะแห้ง และหัวไช้เท้าจะนิ่มช้ากว่า ปิดฝาทำให้ความร้อนระอุอยู่ข้างใน

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แกงจืดหัวไช้เท้า เมนูกับข้าวไมโครเวฟทำง่ายต้องลอง

+++++++++++++++++++
เมนูหัวไช้เท้า
2. ขนมผักกาด

     เคยซื้อขนมผักกาดจากปากซอย แต่เนื่องจากเครื่องเคราน้อยไม่จุใจเลยอยากทำเอง สูตรจาก คุณ Rin's Cookbook (#Rinscookbook) ทำเองใส่เครื่องแน่น ๆ ไปเลยค่ะ จะกินแบบนึ่งก็ได้ หรือจะกินแบบทอดก็อร่อย ราดน้ำจิ้มให้ฉ่ำ ๆ ไปเลยค่ะ

ส่วนผสม ขนมผักกาด

     • หัวไช้เท้าขูดฝอย ประมาณ 1 กิโลกรัม
     • กุ้งแห้ง 1/4 ถ้วยตวง
     • เห็ดหอม 18 ดอก
     • น้ำมันพืช 1/4 ถ้วยตวง
     • กระเทียมสับ 1 ช้อนชา
     • น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
     • เกลือ 3 ช้อนชา
     • แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง
     • แป้งมันสำปะหลัง 5 ช้อนชา
     • น้ำอุ่น 1 ถ้วยตวง
     • ถั่วลิสงต้ม 1/4 ถ้วยตวง
     • ต้นหอมซอย 2 ต้น

ส่วนผสม น้ำจิ้มขนมผักกาด

     • ซีอิ๊วดำ 2 ช้อนโต๊ะ
     • พริกตำซัมบัล
     • น้ำมันงา
     • น้ำตาลทราย
     • ซีอิ๊วขาว
     • น้ำส้มสายชู

วิธีทำขนมผักกาด

     1. นำหัวไช้เท้ามาปอกเปลือก ล้างให้สะอาด แล้วนำไปขูดฝอยด้วยเครื่องขูดอาหารไฟฟ้า (หรือที่ขูดมะละกอ) หรือสับหยาบ ๆ เตรียมไว้
     2. ล้างกุ้งแห้งให้สะอาด แช่น้ำเปล่าเล็กน้อยเพื่อให้นิ่มตัวลง แบ่งออกมาส่วนหนึ่งเพื่อสับหยาบ ๆ พักไว้
     3. นำเห็ดหอมไปแช่น้ำเปล่า พอนิ่มตัวลงแล้วแบ่งออกมาส่วนหนึ่งเอามาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ อีกส่วนหนึ่งหั่นเป็นเส้น ๆ พักไว้
     4. ตั้งกระทะใช้ไฟปานกลางใส่น้ำมันพืชลงไป ใส่กระเทียมสับลงไปผัดจนมีกลิ่นหอมและเริ่มเปลี่ยนสี ใส่กุ้งแห้งและเห็ดหอมลงไปผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำตาลทรายและเกลือ ผัดจนมีกลิ่นหอม ปิดไฟ พักทิ้งไว้
     5. ใส่หัวไช้เท้าขูดฝอยลงในกระทะใช้ไฟกลางค่อนข้างอ่อน ผัดจนน้ำจากหัวไช้เท้าออกมา น้ำจากหัวไช้เท้าไม่ต้องทิ้งเพราะจะมีรสชาติหวาน ปรุงรสด้วยน้ำตาลทรายและเกลือ ผัดประมาณ 5 นาที หรือจนใสและสุก 
     6. ระหว่างรอหัวไช้เท้าสุกก็มาทำส่วนผสมแป้ง ด้วยการนำแป้งข้าวเจ้าและแป้งมันสำปะหลังใส่ลงในอ่างผสม เทน้ำอุ่นลงไปคนให้เข้ากัน เสร็จแล้วก็เทลงไปในส่วนผสมหัวไช้เท้าในกระทะ คนอย่างรวดเร็วไม่เช่นนั้นจะเป็นก้อน หลังจากนั้นทำการกวนตัวแป้งจนร่อนและแป้งมีลักษณะใส
     7. ใส่กุ้งแห้งกับเห็ดหอมที่ผัดแล้วลงไปคนผสมจนเข้ากัน สุดท้ายแบ่งถั่วลิสงต้มใส่ลงไปส่วนหนึ่ง คนให้เข้ากันอีกครั้ง โรยน้ำมันพืชอีกเล็กน้อยเพื่อให้เนื้อเนียนและใสมากขึ้น ปิดไฟ
     8. ใส่ส่วนผสมขนมผักกาดลงไปในถาดทนความร้อนขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6X7 นิ้ว ที่เตรียมไว้ ถ้าเกลี่ยแล้วหน้าแป้งไม่เรียบใส่น้ำมันพืชลงไปเล็กน้อยและใช้ช้อนปาดหน้าให้เรียบเนียน
     9. โรยหน้าด้วยถั่วลิสง เห็ดหอม และกุ้งแห้งที่เหลือไว้ พยายามกดท็อปปิ้งลงในตัวแป้ง เสร็จแล้วนำไปนึ่งประมาณ 40-45 นาที หรือจนสุก
     10. ถ้าต้องการกินนิ่ม ๆ จัดเสิร์ฟได้เลย ถ้าต้องการนำไปทอดปล่อยทิ้งไว้ให้เย็นสนิทประมาณ 1 ชั่วโมง หรือ 1 ชั่วโมง 30 นาที หรือนำไปแช่ตู้เย็นไว้ข้ามคืนเพื่อนำมาทอดวันรุ่งขึ้น
     11. นำขนมผักกาดหั่นเป็นแผ่นหนาประมาณ 1 นิ้ว ตั้งกระทะเปิดไฟปานกลางใส่น้ำมันพืชลงไป นำขนมผักกาดลงไปทอดประมาณ 5-7 นาทีต่อด้าน หรือจนเป็นสีน้ำตาลทอง
     12. ทำน้ำจิ้มโดยใส่ซีอิ๊วดำ พริกตำ น้ำมันงา น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว และน้ำส้มสายชูคนผสมให้เข้ากัน เสิร์ฟคู่กับขนมผักกาด โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมผักกาด ครบรสเครื่องแน่นอร่อยยามว่าง

+++++++++++++++++++
เมนูหัวไช้เท้า
3. ขนมผักกาด (สูตรใช้กระทะเทฟลอน)

     ถ้าอยากทำขนมผักกาดกินเองแบบง่าย ๆ ไม่ต้องเอาไปนึ่งให้เสียเวลา สูตรจาก คุณ Swin สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จุดเด่นคือ ใส่เครื่องเคราแน่นมาก ผัดจนสีสวยตามชอบ จะกินแทนข้าวก็ยังได้เลยจ้า

ส่วนผสม ขนมผักกาด

     • หัวไช้เท้า 1 หัว
     • เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
     • แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
     • แป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ
     • น้ำ 1+1/3 ถ้วย
     • เกลือป่น 1 ช้อนชา
     • น้ำมันพืช
     • กุนเชียง
     • ไข่เป็ด
     • ซีอิ๊วดำ เล็กน้อย
     • ซีอิ๊วขาว เล็กน้อย
     • ถั่วงอก
     • ใบกุยช่าย

วิธีทำขนมผักกาด

     1. นำหัวไช้เท้าไปขูดให้เป็นเส้น ๆ ด้วยเครื่องผสมอาหาร ใส่เกลือลงไป คลุกผสมให้เข้ากัน พักทิ้งไว้ 10 นาทีหรือจนหัวไช้เท้าคายน้ำออกมา จากนั้นใช้มือบีบน้ำออกจนหมด จะได้เนื้อหัวไช้เท้าประมาณ 1 ถ้วย
     2. ใส่แป้งข้าวเจ้า แป้งมัน น้ำ และเกลือป่นลงในเครื่องผสมอาหาร (วิธีนี้จะทำให้เนื้อแป้งซับน้ำได้เต็มที่ และไม่ต้องเสียเวลาแบบใช้มือผสม) ปั่นผสมจนเข้ากัน จากนั้นเทใส่อ่างผสม เตรียมไว้
     3. ใส่หัวไช้เท้าที่บีบน้ำออกแล้ว 1 ถ้วยลงในส่วนผสมแป้ง คนผสมให้เข้ากัน จะได้แป้งขนมผักกาดสด เตรียมไว้
     4. นำกระทะเทฟลอนขึ้นตั้งไฟกลาง-อ่อน ทาน้ำมันเคลือบผิวกระทะบาง ๆ พอกระทะร้อนตักส่วนผสมแป้งใส่ลงไป เกลี่ยให้ทั่วกระทะ โดยกะให้แป้งบางประมาณ 5 มิลลิเมตร (ถ้าหนาเกินไป แป้งด้านในจะไม่สุก) ทอดนานประมาณ 5 นาทีจนผิวด้านล่างสุก
     5. กลับด้านแป้งแล้วทอดต่ออีก 2 นาที จากนั้นเติมน้ำลงไป 3/4 ถ้วย น้ำจะเดือดเป็นไอขึ้นมาแล้วปิดฝา อบไว้ประมาณ 2 นาที จนน้ำแห้ง (วิธีนี้จะทำให้ขนมผักกาดสุก และเนื้อนิ่มเพราะอบด้วยไอน้ำ)
     6. ตักขนมขึ้นจากกระทะ หั่นเป็นชิ้น ๆ ขนาดพอดีคำตามชอบ เตรียมไว้
     7. นำกุนเชียงไปทอดให้สุก ตักขึ้น เตรียมไว้
     8. ใส่น้ำมันลงในกระทะ พอร้อนใส่ไข่เป็ดลงไป เกลี่ยให้ไข่กระจายทั่ว ๆ พอไข่เริ่มสุก ประมาณ 50% ใส่แป้งลงไปผัดกับไข่ให้เข้ากัน ใส่ซีอิ๊วดำลงไปเล็กน้อย ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ใส่กุนเชียงทอด ถั่วงอก และใบกุยช่ายลงไปผัดให้เข้ากัน ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมผักกาด สูตรทำง่ายได้ด้วยกระทะเทฟลอน

+++++++++++++++++++
เมนูหัวไช้เท้า
4. หัวไช้เท้าต้มยำ

     ใครที่เบื่อเมนูต้มจืดหัวไช้เท้าก็เปลี่ยนมาทำหัวไช้เท้าต้มยำ สูตรจาก นิตยสารแม่บ้าน ใส่เครื่องเคราจัดเต็ม ทั้งหมูสับ ตับหมู ลูกชิ้นปลา และเกี๊ยวปลา จะใส่เส้นก๋วยเตี๋ยวลงไปก็เหมาะ หรือจะกินกับข้าวสวยก็ได้นะคะ

ส่วนผสม หัวไช้เท้าต้มยำ

     • หัวไช้เท้า 1 ถ้วยตวง
     • หมูสับ 50 กรัม
     • ตับหมูลวก 3 ชิ้น
     • ลูกชิ้นปลาลวก 3 ลูก
     • เกี๊ยวปลาลวก 2 ชิ้น
     • กุ้งแห้งตัวเล็ก 2 ช้อนชา
     • พริกดองพร้อมน้ำส้ม 1 ช้อนโต๊ะ
     • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
     • พริกป่น 2 ช้อนชา
     • น้ำปลา 2 ช้อนชา
     • ถั่วลิสงคั่วบุบหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
     • ผักชีกับต้นหอมซอยหยาบ 2 ช้อนชา
     • น้ำซุปหมู 1+1/2 ถ้วยตวง
     • กระเทียมเจียว 1 ช้อนชา

วิธีทำหัวไช้เท้าต้มยำ

     1. ปอกเปลือกหัวไช้เท้า หั่นตามยาวหนาประมาณ 1/2 เซนติเมตร ใช้ที่ปอกเปลือกผลไม้สไลซ์เป็นเส้นให้ได้ 1 ถ้วยตวง
     2. ต้มน้ำซุปหมูพอเดือด เบาไฟ ใส่หัวไช้เท้าต้มไฟอ่อนพอสุก ตักขึ้นใส่ชาม เตรียมไว้ ใส่ตับหมูลวก ลูกชิ้นปลาลวก เกี๊ยวปลาลวก
     3. ผสมพริกดองพร้อมน้ำส้ม น้ำตาลทราย พริกป่น น้ำปลา ถั่วลิสงคั่วบุบ และกุ้งแห้งใส่ชาม
     4. ต้มน้ำซุปให้เดือดอีกครั้ง ปิดไฟ ใส่หมูสับ ตักน้ำซุปประมาณ 1 ถ้วยตวง พร้อมหมูสับใส่ลงในส่วนผสมข้อที่ 3 คนให้เข้ากัน เทราดลงในชามหัวไช้เท้า โรยกระเทียมเจียว ผักชี และต้นหอมซอย จัดเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 4 เมนูจากหัวไชเท้า ผักที่มากไปด้วยคุณค่า

+++++++++++++++++++
5. หัวไช้เท้านึ่ง

     เห็นชื่อเมนูหัวไช้เท้านึ่งแล้วอาจคิดว่าจับหัวไช้เท้ามานึ่งใช่ไหมคะ ลองมองภาพก่อนค่ะมีเครื่องเคราแน่นเว่อร์ ใครสนใจมาทำเองกันเลย สูตรจาก นิตยสารแม่บ้าน ใส่กุ้งสดนึ่งกับหัวไช้เท้า เพิ่มเห็ดหอมกับเห็ดเข็มทอง โรยกระเทียมกับขิงซอยเพิ่มกลิ่น

ส่วนผสม หัวไช้เท้านึ่ง

     • หัวไช้เท้า 1 หัว (ปอกเปลือกหั่นชิ้นหรือกดด้วยพิมพ์)
     • กุ้งสด 4-5 ตัว (ปอกเปลือกผ่าหลังเหลือหาง)
     • เห็ดหอมแห้ง 4 ดอก (แช่น้ำพอนุ่ม ต้มสุก และหั่นเป็นเส้น)
     • เห็ดเข็มทอง (แบ่งเป็นช่อ) 4-5 ช่อ
     • ซอสปรุงรสอาหาร  1 ช้อนโต๊ะ
     • ซอสเห็ดหอม 2 ช้อนโต๊ะ
     • พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา
     • ขิงซอย 1 ช้อนโต๊ะ
     • กระเทียมซอย 3-4 กลีบ
     • ขึ้นฉ่ายหั่นท่อน
     • พริกชี้ฟ้าสีแดงซอยเป็นเส้นๆ

วิธีทำหัวไช้เท้านึ่ง

     1. เรียงเห็ดหอมและเห็ดเข็มทองลงในภาชนะสำหรับนึ่ง วางชิ้นหัวไช้เท้าบนเห็ด
     2. ผสมซอสปรุงรสอาหาร ซอสเห็ดหอม และพริกไทยป่น คนให้เข้ากันดีราดลงบนหัวไช้เท้า โรยขิงซอย ยกขึ้นนึ่งบนน้ำเดือดประมาณ 20-25 นาที หรือจนสุก
     3. เรียงกุ้งสดบนหัวไช้เท้านึ่งต่อ 5 นาที เปิดฝา โรยกระเทียมซอย ขึ้นฉ่าย และพริกชี้ฟ้า ยกลงเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 4 เมนูจากหัวไชเท้า ผักที่มากไปด้วยคุณค่า

+++++++++++++++++++
เมนูหัวไช้เท้า
6. หัวไช้เท้าม้วน

     จัดปาร์ตี้กับผองเพื่อนก็อยากทำเมนูหัวไช้เท้าเก๋ ๆ สักจานกันใช่ไหม ขอนำเสนอหัวไช้เท้าม้วน สูตรจาก นิตยสารแม่บ้าน จับหัวไช้เท้าห่อแครอท เห็ดหอม กุ้ง เนื้อหมู และวุ้นเส้น ราดน้ำราดสูตรเด็ด ดูหน้าตาฟรุ้งฟริ้งน่าลอง

ส่วนผสม หัวไช้เท้าม้วน

     • หัวไช้เท้า 1 หัว (ปอกเปลือกสไลซ์เป็นแผ่นยาว)
     • แครอท 1 ถ้วยตวง (หั่นแท่ง)
     • กุ้งสด 5 ตัว (ปอกเปลือกผ่าครึ่งตัว)
     • เนื้อหมูหั่นเส้น 50 กรัม
     • เห็ดหอมแห้ง 2 ดอก (แช่น้ำพอนุ่มหั่นเป็นเส้น)
     • วุ้นเส้นแช่น้ำพอนุ่ม 1/2 ถ้วยตวง
     • น้ำเปล่า
     • ผักชี

ส่วนผสม น้ำราด

     • กระเทียมสับ 2 ช้อนชา
     • ผงปรุงรส 1 ช้อนชา
     • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
     • ซอสเห็ดหอม 1 ช้อนโต๊ะ
     • น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
     • น้ำซุป 2 ช้อนโต๊ะ
     • น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำน้ำราด

     1. ใส่น้ำมันพืชในกระทะตั้งไฟพอร้อน ใส่กระเทียมลงเจียวพอหอม
     2. เติมน้ำซุปลงไป ต้มพอเดือด ปรุงรสด้วยผงปรุงรส ซีอิ๊วขาว ซอสเห็ดหอม และน้ำตาลทราย พอเดือดอีกครั้งยกลง

วิธีทำหัวไช้เท้าม้วน

     1. ต้มน้ำเปล่าพอเดือด ใส่หัวไช้เท้าลงลวก พอสลดเล็กน้อยนำขึ้นแช่น้ำเย็น
     2. วางหัวไช้เท้าบนภาชนะเรียบ เรียงแครอท เห็ดหอม กุ้ง เนื้อหมู และวุ้นเส้น ค่อย ๆ ม้วนให้แน่นเรียงใส่จาน ราดด้วยน้ำราด
     3. นำขึ้นนึ่งในชุดนึ่งน้ำเดือดประมาณ 20 นาที หรือจนหัวไช้เท้าสุก ตกแต่งด้วยผักชี จัดเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 4 เมนูจากหัวไชเท้า ผักที่มากไปด้วยคุณค่า

+++++++++++++++++++


เมนูหัวไช้เท้า
7. หัวไช้เท้าต้มซอส

     ถ้าไม่ชอบซดน้ำซุปร้อน ๆ จากแกงจืดหัวไช้เท้าก็มาต้มกับซอสน้ำขลุกขลิกกันเถอะ ขอนำเสนอหัวไช้เท้าต้มซอส สูตรจาก นิตยสารแม่บ้าน หัวไช้เท้าต้มจนนุ่มผสมผสานกับซอสโชยุ ลองเลยอร่อยแน่

ส่วนผสม หัวไช้เท้าต้มซอส

     • หัวไช้เท้า 1 หัว
     • น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง
     • โชยุ (ซีอิ๊วญี่ปุ่น) 1/4 ถ้วยตวง
     • น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วยตวง
     • ปลาโอแห้ง 10 กรัม
     • เกลือป่นเล็กน้อย
     • พริกไทยป่นเล็กน้อย

วิธีทำหัวไช้เท้าต้มซอส

     1. ปอกเปลือกหัวไช้เท้าหั่นชิ้นให้มีความหนาพอประมาณ เพราะต้องต้มเป็นเวลานาน เตรียมไว้
     2. ต้มน้ำเปล่าพอเดือด ใส่ปลาโอแห้งต้มประมาณ 5 นาที ยกลงกรอง ใส่น้ำซุปที่กรองแล้วลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งไฟอีกครั้ง
     3. ใส่โชยุ น้ำตาลทราย เกลือป่น และพริกไทยป่นลงในน้ำซุป ใส่หัวไช้เท้าต้มพอเดือด เบาไฟ เคี่ยวจนหัวไช้เท้าสุกนุ่มและน้ำซอสเคลือบชิ้นหัวไช้เท้า

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 4 เมนูจากหัวไชเท้า ผักที่มากไปด้วยคุณค่า

+++++++++++++++++++
เมนูหัวไช้เท้า
8. กิมจิหัวไช้เท้า

     สำหรับติ่งเกาหลีที่อยากทำกิมจิกินเองก็ไม่ยากนะคะ ขอนำเสนอกิมจิหัวไช้เท้า สูตรจาก คุณ Giftzy สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สูตรนี้ใส่โคชูจังแทนพริกเกาหลี ทำเสร็จก็แช่เย็นไว้กินได้นานเลยจ้า

ส่วนผสม กิมจิหัวไช้เท้า

     • ผักกาดขาว 2 หัว
     • น้ำส้มสายชู
     • หัวไช้เท้า 1 หัว (หั่นเป็นแว่น)
     • เกลือ
     • แครอท
     • ต้นหอม (หั่นเป็นท่อน) 3 ต้น
     • กระเทียมโขลกละเอียด
     • พริกชี้ฟ้าปั่นละเอียด
     • ขิงบดละเอียด
     • น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
     • โคชูจัง 2 ช้อนโต๊ะพูน ๆ
     • น้ำปลา

วิธีทำกิมจิหัวไช้เท้า

     1. นำผักกาดขาวไปแช่น้ำ ใส่น้ำส้มสายชูลงไปเล็กน้อย แช่ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที พอครบเวลานำผักกาดขาวใส่ลงในกะละมังใบใหญ่ ตามด้วยหัวไช้เท้า จากนั้นใส่เกลือลงไปประมาน 3 กำมือ ตามด้วยน้ำ กะปริมาณให้พอดีกับผัก พักทิ้งไว้ประมาณ 4 ชั่วโมง
     2. นำขิงบด กระเทียมบด และพริกชี้ฟ้าไปปั่นเข้าด้วยกันจนละเอียด
     3. พอครบ 4 ชั่วโมง นำผักมาล้างน้ำ 3 ครั้ง ให้หายเค็ม บีบน้ำออกจากผักให้หมด ใส่แครอท ต้นหอม และส่วนผสมพริกปั่นลงไป ตามด้วยน้ำตาลทราย โคชูจัง และน้ำปลา คลุกเคล้าให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ
     4. จัดเก็บใส่กล่องหรือภาชนะที่มีฝาปิด วางทิ้งไว้โดยไม่ต้องแช่เย็นประมาณ 14-18 ชั่วโมง หรือจนเปรี้ยวตามชอบ เอาเข้าตู้เย็นจนกว่าจะเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ วิธีทำกิมจิ สูตรใส่โคชูจังแทนพริกเกาหลี

+++++++++++++++++++
เมนูหัวไช้เท้า
9. ต้มจับฉ่าย

     เย็นนี้มาทำเมนูต้มจับฉ่ายกินกับข้าวต้มร้อน ๆ สักมื้อดีไหม สูตรจาก คุณสมาชิกหมายเลข 1039263 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ก่อนอื่นนำผักไปผัดเพื่อลดความเหม็นเขียว พอผัดจนสลดแล้วก็จับไปต้มในหม้อจนเปื่อยตามชอบ แค่เห็นภาพน้ำลายก็สอแล้วจ้า

ส่วนผสม ต้มจับฉ่าย

     • หมูสามชั้น 1 กก. (แล่มันหมูแยกออกมาจากหมูสามชั้น)
     • กระเทียม
     • หอมแดงซอย
     • มันแกวสไลซ์
     • ผักรวมซอย (แครอท, ผักกาดแก้ว, กะหล่ำเขียว, กะหล่ำม่วง)
     • ขึ้นฉ่าย
     • ซีอิ๊วขาว
     • เกลือนิดหน่อย

     หมายเหตุ : ถ้าเต็มสูตรของอาม่าของคุณสมาชิกหมายเลข 1039263 ต้องใส่ผักพวกนี้ด้วย ได้แก่ หัวไช้เท้า ผักกาดดอง ถั่วลันเตา ถั่วแขก หน่อไม้สด กากหมูชิ้นใหญ่ ๆ (ไม่ใช่แคบหมูเป็นเส้น ๆ) ปริมาณวัตถุดิบและรสชาติปรุงชอบ

วิธีทำต้มจับฉ่าย

     1. ใส่มันหมูที่แล่พักไว้ลงในกระทะ เจียวเอาน้ำมันหมูออกมา ใช้ไฟอ่อน ๆ พอประมาณ เจียวไปเรื่อย ๆ จนกว่ามันหมูเริ่มสุกเหลือง และน้ำมันจะไหลออกมาพอสมควร ตักขึ้นพักไว้
     2. ใส่น้ำมันหมูลงไปพอประมาณ ถ้าใส่เยอะจับฉ่ายจะมัน (เพราะมันหมูที่เราเจียว จะได้น้ำมันหมูพอสมควร) ใส่หอมแดงกับกระเทียมลงไปเจียวให้เหลือง ใส่หมูสามชั้นลงไปผัดกับกระเทียม พอหมูเริ่มสุก ใส่มันแกว ใส่ผักรวมซอยลงไป ตามด้วยขึ้นฉ่าย พอผักเริ่มสุกก็ใส่มันหมูเจียวลงไปผัดรวมกับผัก ตักใส่หม้อ เตรียมเอาไปต้ม
     3. เติมน้ำพอท่วมลงในหม้อ ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวกับเกลือนิดหน่อย ต้มต่อจนเปื่อย (หม้อนี้ใช้เวลาต้มประมาณ 2 ชั่วโมง) อย่าลืมคนเป็นพัก ๆ นะ เดี๋ยวไหม้ ตักใส่ถ้วยเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ต้มจับฉ่าย เมนูสารพัดผักง่าย ๆ มีอะไรก็ใส่ให้หมด

+++++++++++++++++++
เมนูหัวไช้เท้า
10. ไช้เท้าทอด

     ไม่ต้องรอหน้าเทศกาลเจก็ทำไช้เท้าทอดกินเองได้นะคะ สูตรนี้เพิ่มกลิ่นหอมจากผงพะโล้ นำหัวไช้เท้าไปห่อกับฟองเต้าหู้ ใครจะเพิ่มถั่วลิสงต้มสุกลงไปก็ได้นะคะ ทอดกรอบ ๆ กินกับน้ำจิ้มถั่วลิสง

ส่วนผสม ไช้เท้าทอด

     • หัวไช้เท้า 2 กิโลกรัม
     • แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
     • แป้งสาลี 1/2 ถ้วย
     • ผงพะโล้ 2 ช้อนชา
     • เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
     • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
     • พริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ
     • ขึ้นฉ่าย 50 กรัม
     • ฟองเต้าหู้

ส่วนผสม น้ำจิ้ม

     • น้ำส้มสายชู  3/4 ถ้วย
     • น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย
     • เกลือ 1 ช้อนชา
     • น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย
     • น้ำตาลปี๊บ 1/4 ถ้วย
     • แบะแซ 50 กรัม
     • พริกชี้ฟ้าโขลก 3 เม็ด
     • ถั่วลิสงคั่วบุบ ปริมาณตามชอบ
     • ผักชี 1 ต้น

วิธีทำไช้เท้าทอด

     1. ปอกเปลือกหัวไช้เท้าขูดเป็นเส้น บีบน้ำออกพอแห้ง ใส่อ่างผสม
     2. ใส่แป้งข้าวเจ้า แป้งสาลี ผงพะโล้ เกลือ น้ำตาลทราย และพริกไทย คนผสมพอเข้ากัน เติมขึ้นฉ่ายเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง
     3. วางส่วนผสมไส้บนแผ่นฟองเต้าหู้ ห่อเป็นท่อนกลมให้แน่น นำไปนึ่งบนน้ำเดือดประมาณ 20 นาที พอสุกพักไว้ให้เย็น หั่นเป็นชิ้น เอาไปทอดพอเหลืองกรอบ ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จาน
     4. ทำน้ำจิ้ม โดยนำส่วนผสมทุกอย่าง ยกเว้นถั่วกับผักชี ใส่ลงในหม้อ นำไปเคี่ยวจนเดือด พักไว้ให้เย็น ตักใส่ถ้วย โรยถั่วกับผักชี เสิร์ฟพร้อมไช้เท้าทอด

+++++++++++++++++++
เมนูหัวไช้เท้า
11. ไชโป๊ผัดไข่

     เคยสั่งไชโป๊ผัดไข่กินตามร้านได้ปริมาณน้อยไม่สมราคา วันนี้ว่างเลยจะทำเองกินกับข้าวต้มสักถ้วย สูตรนี้ใส่หอมแดงเพิ่มความหอม หรือใครจะใส่กระเทียมแทนก็ได้ค่ะ รับรองทั้งง่ายและอร่อยค่ะ

ส่วนผสม ไชโป๊ผัดไข่

     • ไชโป๊เส้น 100 กรัม
     • หอมแดงสับ 4 หัว
     • ไข่ไก่ 2 ฟอง
     • น้ำปลา
     • น้ำตาลทราย
     • น้ำมันพืช

วิธีทำไชโป๊ผัดไข่
 
     1. ล้างไชโป๊เส้นแล้วบีบน้ำออกจนแห้ง
     2. ตั้งกระทะใช้ไฟกลาง ใส่น้ำมันพืชรอน้ำมันอุ่น ใส่หอมแดงลงไปเจียวให้จนหอม ใส่ไชโป๊เส้นลงไป ผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลากับน้ำตาลทราย
      3. ตอกไข่ลงไป ใช้ตะหลิวยีไข่แดงให้แตกเล็กน้อย ผัดจนไข่สุก ตักใส่จาน

     จบไปแล้วสำหรับเมนูหัวไช้เท้า จะทำเป็นกับข้าวอย่างไชโป๊ผัดไข่หรือแกงจืดก็ได้ หรือจะทำเป็นอาหารว่างอย่างขนมผักกาดก็ดี วันหยุดนี้กินกันให้พุงปลิ้นไปเลยเนอะ

ข้อมูลจาก
https://cooking.kapook.com/view163323.html

 


 
Health Blog
 
newyorknurse



Create Date : 08 กันยายน 2565
Last Update : 27 กันยายน 2565 4:34:14 น. 5 comments
Counter : 1024 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณhaiku, คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณเริงฤดีนะ, คุณหอมกร, คุณเนินน้ำ, คุณSleepless Sea, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ


 
สวัสดีค่ะคุณพี่น้อย..

วาว..เมนูน่าทานทุกเมนูเลย..

มีประโยชน์ดีคะ..



โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 27 กันยายน 2565 เวลา:9:46:47 น.  

 
ว่วนมากจะรู้จักแค่เอามาต้มน้ำซุป
ทำจัยฉ่าย
ทำขนมผักกาดด้วย
ดีจัง..


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 27 กันยายน 2565 เวลา:10:14:23 น.  

 
หัวไชโป๊วนี่มันคือหัวไชเท้าดองเหรอคะพี่น้อย
เพิ่งจะรู้วันนี้นี่เอง ไปลองเสิร์ชดูค่ะ



โดย: หอมกร วันที่: 27 กันยายน 2565 เวลา:11:17:49 น.  

 
น่าทานทุกเมนู เห็นแล้วหิวเลยค่ะ


โดย: เนินน้ำ วันที่: 27 กันยายน 2565 เวลา:15:43:50 น.  

 
สวัสดีครับ

มีประโยชน์แล้วทำเมนูได้หลายอย่างด้วยครับ


โดย: Sleepless Sea วันที่: 27 กันยายน 2565 เวลา:17:14:41 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

BlogGang Popular Award#20


 
newyorknurse
Location :
ราชบุรี .. New York ... United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 165 คน [?]






เริ่มเขียนBlog
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2553

ยินดีต้อนรับค่ะ

จขบ.บันทึกประสบการณ์ต่างๆ
ระยะเวลาทำงานและระยะเกษียณ
เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำ

จขบ.พยายามใช้ชีวิตเกษียณให้มีคุณค่า
รักษาสุขภาพใจและกาย ท่องเที่ยวกับเพื่อนๆ
ทำสวนดอกไม้ ออกกำลังกาย
สมัครเป็นสมาชิก 24 Hrs Fitness
เพื่อให้ชีวิตที่เหลืออยู่มีคุณภาพ
จะได้ไม่เป็นภาระกับคนที่รักและห่วงใย

จขบ.เพิ่มบล็อกสุขภาพ
เพื่อจะได้นำสาระที่มีประโยชน์
เกี่ยวกับสุขภาพทั่วๆไป

จขบ.หวังว่าข้อมูลต่างๆช่วยให้
ทุกท่านที่มาอ่าน รักษาสุขภาพ
ไปตรวจเพื่อเป็นการป้องกัน
และได้รับการรักษาเนิ่นๆ เพื่อ
ชีวิตที่แข็งแรงและมีคุณภาพ

"A time to enjoy,
a time to spend time with your family
and a time to be with your friends
all comes with retirement"


*****


"Live The Moment"

อยู่กับปัจจุบันขณะ หยุดเสียใจกับสิ่งที่เกิดขี้น
ในอดีตและกลัวหรือกังวล
สิ่งทีเกิดขี้นในอนาคต "วันนี้" และ "ขณะนี้"
คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของคุณ !!
ใช้มันให้ดีที่สุดให้เป็นช่วงเวลาทีมีคุณค่า
น่าจดจำเพราะว่าเวลาเป็นสิ่งที่ผ่านมา
และผ่านเลยไป เอาคืนไม่ได้และ
หาเพิ่มก็ไม่ได้เช่นกัน

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ


*********


ขอบคุณ Bloggang ทำให้เราได้เขียนบล็อกต่างๆ
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวด
ทุกๆคะแนน นะคะ

BG Popular Award # 19


BG Popular Award # 18


BG Popular Award # 17


BG Popular Award # 16


BG Popular Award # 15


BG Popular Award # 14


BG Popular Award # 13


BG Popular Award # 12


BG Popular Award # 11


BG Popular Award # 10


BG Popular Award # 9


BG Popular Award # 8

**********



ขอบคุณทุกหัวใจวาเลนไทน์ 2561
ที่เพื่อนๆมอบให้ค่ะ


ขอบคุณทุกหัวใจวาเลนไทน์ 2560
ที่เพื่อนๆมอบให้ค่ะ
Flag Counter
New Comments
Group Blog
 
<<
กันยายน 2565
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
8 กันยายน 2565
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add newyorknurse's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.