“อีโคไล” ( E. coli ) ภัยร้ายที่มากับอาหาร








“อีโคไล” ภัยร้ายที่มากับอาหาร





รศ.ดร.นพ.ภัทรชัย กีรติสิน

ภาควิชาจุลชีววิทยา
Faculty of Medicine Siriraj Hospital

คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล





เชื้ออีโคไล ( E. coli )



เชื้ออีโคไล (E. coli) เป็นแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ปกติพบอาศัยอยู่ในทางเดินอาหารส่วนลำไส้ของคนและสัตว์ โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์เลื้อยคลาน และนก ซึ่งเชื้ออีโคไลนี้มีอยู่หลายสายพันธุ์ สายพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในลำไส้ของคนและสัตว์นั้นมักไม่ก่อให้เกิดโรค สายพันธุ์ที่ก่อโรคในคนได้ มีตั้งแต่ที่ก่อโรคไม่รุนแรง เช่น โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ และอาหารเป็นพิษ ไปจนถึงที่ก่อโรครุนแรง เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบและติดเชื้อในกระแสเลือด สำหรับสายพันธุ์ของเชื้ออีโคไล กลุ่มอีเฮค (EHEC) หรือเอนเตอโรฮีโมราจิคอีโคไล (Enterohemorrhagic E. coli) ที่พบกำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในแถบยุโรปขณะนี้เป็นกลุ่มที่ก่อโรคในทางเดินอาหารที่สามารถก่อให้เกิดอาการที่รุนแรงจนถึงเสียชีวิตได้ ซึ่งก่อนหน้านี้เชื้ออีเฮคเคยระบาดมาแล้วที่ประเทศญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา

โดยปกติแล้วจะพบเชื้ออีโคไลได้ในสิ่งแวดล้อมทั่วไป โดยเฉพาะในมูลสัตว์ และส่วนใหญ่แพร่สู่คนได้ทางการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีเชื้อปนเปื้อนอยู่ พบเชื้อได้ในอาหารที่ได้รับการปรุงไม่ถูกสุขลักษณะ เช่น เนื้อหรือผักดิบ ปรุงไม่สุก รวมถึงนมและน้ำที่ไม่ผ่านกรรมวิธีฆ่าเชื้อด้วยความร้อนอย่างเหมาะสม นอกจากนี้การปนเปื้อนของเชื้อโรคจากอุจจาระสู่อาหารและน้ำ อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างการเตรียมและการปรุงอาหารได้เช่นกัน

ลักษณะอาการของผู้ที่ได้รับเชื้อกลุ่มอีเฮคมีความหลากหลาย ตั้งแต่ท้องร่วงเป็นน้ำที่ไม่รุนแรง หายได้เอง จนทำให้เกิดภาวะลำไส้อักเสบเป็นแผล ถ่ายอุจจาระเหลวปนมูกเลือด ปวดเกร็งท้อง อาเจียน อาจมีไข้ร่วมด้วย เนื่องจากเชื้อสามารถทนความเป็นกรดได้สูง จึงทำให้เชื้อผ่านบริเวณกระเพาะอาหารซึ่งเป็นกรดไปก่อโรคในลำไส้ได้ คุณสมบัติในการก่อโรคที่สำคัญของเชื้อกลุ่มอีเฮค คือสามารถสร้างและปล่อยสารพิษ ชิกา (Shiga toxin) ออกมา สารพิษชิกาจะสามารถเข้าสู่กระแสเลือด และไปทำลายเม็ดเลือดแดงและเกร็ดเลือด ทำให้ผู้ป่วยเกิดภาวะซีดและเลือดออกง่าย รวมถึงทำลายเซลล์ไต ทำให้เกิดภาวะไตวายเฉียบพลันและเสียชีวิตได้อย่างรวดเร็ว

ยิ่งกว่านั้นยังพบว่าปริมาณเชื้อกลุ่มอีเฮคที่ก่อโรคได้นั้นอยู่ในระดับต่ำมากเพียง 10 - 100 เซลล์เท่านั้น ซึ่งหากเปรียบเทียบกับเชื้อก่อโรคในทางเดินอาหารทั่วไป มักต้องมีเชื้อในปริมาณมากกว่า 1 ล้านเซลล์ สำหรับระยะฟักตัวของเชื้อกลุ่มอีเฮคนี้ เฉลี่ยประมาณ 3 - 4 วัน (อาจแตกต่างกันได้ตั้งแต่ 2 วันถึงหลายสัปดาห์) ในผู้ป่วยที่ติดเชื้อ แพทย์จะให้การรักษาตามอาการ เช่น ให้น้ำเกลือทดแทนการสูญเสียน้ำในร่างกาย ร่วมกับการให้ยาฆ่าเชื้อหากมีอาการรุนแรง ผู้ป่วยที่มีอาการท้องร่วงรุนแรง หรือมีอาการปวดเกร็งท้องร่วมกับถ่ายปนมูกเลือด ควรรีบปรึกษาแพทย์

แม้ขณะนี้จะยังไม่พบเชื้ออีโคไลกลุ่มอีเฮคระบาดในประเทศไทย และพบก่อโรคในคนไทยได้น้อยมาก แต่ควรระมัดระวังและเตรียมพร้อม การป้องกันที่ดีที่สุด คือ รับประทานอาหารที่ปรุงสุกถูกสุขลักษณะ เนื่องจากเชื้อจะถูกทำลาย ด้วยความร้อนที่อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียส ขึ้นไป และล้างมือให้สะอาดเป็นประจำ หากสงสัยว่าจะติดเชื้อควรรีบพบแพทย์ ไม่ควรซื้อยารับประทานเอง รวมทั้งรักษาสุขอนามัยเรื่องอาหาร เช่น ผัก ผลไม้ และน้ำดื่ม ตลอดจนความสะอาดของภาชนะที่ใช้ เพื่อลดการติดเชื้อหรือการแพร่กระจายสู่ผู้อื่น


ข้อมูลจากเวป

//www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=885



newyorknurse



Create Date : 24 พฤษภาคม 2560
Last Update : 24 พฤษภาคม 2560 7:40:00 น. 19 comments
Counter : 2717 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณmambymam, คุณzungzaa, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณโอพีย์, คุณmoresaw, คุณกะว่าก๋า, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณAdrenalineRush, คุณtoor36, คุณก้นกะลา, คุณชีริว, คุณสองแผ่นดิน, คุณกิ่งฟ้า, คุณClose To Heaven, คุณhaiku, คุณหอมกร


 
น่ากลัวจังค่ะเชื้อโรคตัวนี้
ต่อไปนี้ต้องระวังเรื่องอาหารและการรับประทานให้มากค่ะ

newyorknurse Health Blog ดู Blog







โดย: mambymam วันที่: 24 พฤษภาคม 2560 เวลา:7:53:30 น.  

 
น่ากลัวจัง เดี๋ยวนี้อาหารการกินต้องระวังมากๆเลยนะคะโดยเฉพาะผักกับผลไม้เนี่ยค่ะ


โดย: zungzaa วันที่: 24 พฤษภาคม 2560 เวลา:8:39:08 น.  

 
เชื้อโรคสมัยนี้ก็พัฒนาขึ้นด้วยเหมือนกัน
ภัยใกล้ตัวจริง ๆ เลยนะคะ


โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 24 พฤษภาคม 2560 เวลา:10:04:27 น.  

 
ช่วงนี้กำลังยุ่งยากหลายเรื่อง
คงได้แต่มากดโหวตให้สักพักนึงนะคะ


โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 24 พฤษภาคม 2560 เวลา:15:46:12 น.  

 
น่ากลัวจัง ยุคนี้อะไรๆก้อมีเชื้อโรคด้วยเยอะไปหมดเลย


โดย: Opey วันที่: 24 พฤษภาคม 2560 เวลา:20:04:21 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับพี่น้อย

ตอนนี้มีโรคภัยที่น่ากลัวเยอะจริงๆครับ
โหวตครับพี่




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 พฤษภาคม 2560 เวลา:6:37:25 น.  

 
เชื้อโรคตัวนี้ได้ยินบ่อย ๆ ในรง.ที่ทำอุตสาหกรรมเกี่ยวกับอาหารค่า ดีที่ไม่แพร่ระบาดในไทยมากนัก


โดย: บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน วันที่: 25 พฤษภาคม 2560 เวลา:8:11:38 น.  

 
ขอบคุณค่ะพี่น้อยสำหรับโหวต


โดย: zungzaa วันที่: 25 พฤษภาคม 2560 เวลา:8:18:59 น.  

 
บ้านเราอุณหภูมิเหมาะให้เชื้อเติบโตเลยค่ะ แต่ดีที่เชือตายง่ายเมื่อความร้อนสูงพอ ทานอาหารปรุงสุก ปรุงเสร็จใหม่ๆ ช่วยได้เยอะจริงๆค่ะ

ขอบคุณที่แวะไปโหวตให้นะคะ


โดย: AdrenalineRush วันที่: 25 พฤษภาคม 2560 เวลา:11:03:22 น.  

 
ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ


โดย: kae+aoe วันที่: 25 พฤษภาคม 2560 เวลา:13:15:31 น.  

 
ต้องระวังจริงๆ ครับ เดี๋ยวนี้โรคภัยเยอะจริงๆ ต้องระวังกันให้ดีๆ แม้ยาจะมีมากขึ้น แต่โรคก็เหมือนจะร้ายแรงขึ้นเช่นกัน


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 25 พฤษภาคม 2560 เวลา:18:15:18 น.  

 
สวัสดีจ้า..
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆจ้า..


โดย: ก้นกะลา วันที่: 25 พฤษภาคม 2560 เวลา:19:43:06 น.  

 
มีช่วงนึงได้ยินชื่อเจ้าเชื้อนี้บ่อยมาก ต้องขัดที่ล้างจานกันจ้าละหวั่น


โดย: ชีริว วันที่: 25 พฤษภาคม 2560 เวลา:21:54:20 น.  

 
ข้อมูลมีประโยชน์มากครับ พี่น้อย
สุขบัญญัติ 10 ประการ ต้องปฏิบัติให้ได้ครับ


โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 25 พฤษภาคม 2560 เวลา:22:22:51 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Opey Travel Blog ดู Blog
newyorknurse Health Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

สวัสดีค่ะพี่น้อย ขอบคุณมากค่ะสำหรับกำลังใจ ตามมาอ่านเชื้ออีโคไลน่ากลัวมากๆนะคะ ขอบคุณที่นำเรื่องราวดีๆมาให้อ่านค่ะ

หลับฝันดีค่ะ



โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 25 พฤษภาคม 2560 เวลา:22:34:48 น.  

 
newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog


โดย: Close To Heaven วันที่: 25 พฤษภาคม 2560 เวลา:23:34:44 น.  

 
น่ากลัวน่ะค่ะ


โดย: jewelmoda วันที่: 26 พฤษภาคม 2560 เวลา:3:21:29 น.  

 
บล็อกนี้เพิ่งเห็นแปะโป้งไว้ก่อนค่ะ



โดย: หอมกร วันที่: 30 พฤษภาคม 2560 เวลา:9:51:55 น.  

 
newyorknurse Health Blog ดู Blog
คนชอบทานอาหารอีสานต้องระวังเป็นพิเศษค่ะ



โดย: หอมกร วันที่: 31 พฤษภาคม 2560 เวลา:8:17:34 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

BlogGang Popular Award#20


 
newyorknurse
Location :
ราชบุรี .. New York ... United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 165 คน [?]






เริ่มเขียนBlog
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2553

ยินดีต้อนรับค่ะ

จขบ.บันทึกประสบการณ์ต่างๆ
ระยะเวลาทำงานและระยะเกษียณ
เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำ

จขบ.พยายามใช้ชีวิตเกษียณให้มีคุณค่า
รักษาสุขภาพใจและกาย ท่องเที่ยวกับเพื่อนๆ
ทำสวนดอกไม้ ออกกำลังกาย
สมัครเป็นสมาชิก 24 Hrs Fitness
เพื่อให้ชีวิตที่เหลืออยู่มีคุณภาพ
จะได้ไม่เป็นภาระกับคนที่รักและห่วงใย

จขบ.เพิ่มบล็อกสุขภาพ
เพื่อจะได้นำสาระที่มีประโยชน์
เกี่ยวกับสุขภาพทั่วๆไป

จขบ.หวังว่าข้อมูลต่างๆช่วยให้
ทุกท่านที่มาอ่าน รักษาสุขภาพ
ไปตรวจเพื่อเป็นการป้องกัน
และได้รับการรักษาเนิ่นๆ เพื่อ
ชีวิตที่แข็งแรงและมีคุณภาพ

"A time to enjoy,
a time to spend time with your family
and a time to be with your friends
all comes with retirement"


*****


"Live The Moment"

อยู่กับปัจจุบันขณะ หยุดเสียใจกับสิ่งที่เกิดขี้น
ในอดีตและกลัวหรือกังวล
สิ่งทีเกิดขี้นในอนาคต "วันนี้" และ "ขณะนี้"
คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของคุณ !!
ใช้มันให้ดีที่สุดให้เป็นช่วงเวลาทีมีคุณค่า
น่าจดจำเพราะว่าเวลาเป็นสิ่งที่ผ่านมา
และผ่านเลยไป เอาคืนไม่ได้และ
หาเพิ่มก็ไม่ได้เช่นกัน

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ


*********


ขอบคุณ Bloggang ทำให้เราได้เขียนบล็อกต่างๆ
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวด
ทุกๆคะแนน นะคะ

BG Popular Award # 19


BG Popular Award # 18


BG Popular Award # 17


BG Popular Award # 16


BG Popular Award # 15


BG Popular Award # 14


BG Popular Award # 13


BG Popular Award # 12


BG Popular Award # 11


BG Popular Award # 10


BG Popular Award # 9


BG Popular Award # 8

**********



ขอบคุณทุกหัวใจวาเลนไทน์ 2561
ที่เพื่อนๆมอบให้ค่ะ


ขอบคุณทุกหัวใจวาเลนไทน์ 2560
ที่เพื่อนๆมอบให้ค่ะ
Flag Counter
New Comments
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2560
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
24 พฤษภาคม 2560
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add newyorknurse's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.