กัญชารักษาโรคตางๆ โดยเฉพาะมะเร็งได้จริงๆ มั้ย


กัญชารักษาโรคตางๆ โดยเฉพาะมะเร็งได้จริงๆ มั้ย
 น.อ. พิเศษ พญ.จินตนา มโนรมย์ภัทรสาร
จาก ร.พ.ภูมิพล
 




*********
กัญชา กับ มะเร็ง

ถือเป็นเรื่อง Talk of the Town ทีเดียวกับ การให้สิทธิอนุญาตการปลูกกัญชาเพื่อการแพทย์ในประเทศไทย สถานะทางกฎหมายในขณะที่เขียนบทความมีดังนี้ ในทางกฎหมายกัญชาจัดเป็น สารเสพติดประเภทที่ 5 สถาบันหรือองค์กรทางสาธารณสุขสามารถจัดจ้างบุคคลปลูกกัญชาเพื่อนำมาใช้ในงานวิจัยและรักษาได้ มีการออกระเบียบนิรโทษกรรมในเบื้องต้นให้ผู้ป่วยที่ความจำเป็นต้องใช้กัญชาเพื่อการรักษา สามารถครอบครองกัญชาเพื่อใช้รักษาเฉพาะตัวเพียงพอใน 90 วัน ถ้ามีครอบครองมากกว่าปริมาณที่ต้องการในช่วงเวลาดังกล่าว ต้องส่งกัญชาส่วนเกินให้ราชการเพื่อทำลายทิ้ง

ซึ่งหลังจากที่ได้เริ่มปลูกกัญชาตามกฎหมายไปแล้วนั้น อีก 90 วันจากนี้ บุคคลทั่วไปที่ใช้กัญชาเพื่อการรักษา จะต้องไปใช้กัญชาที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น ส่วนที่ปลูกๆกันเองเนี่ย…ผิดทางกฎหมายนะครับ ส่วนในรายละเอียดต่างๆต้องมาดูระเบียบที่จะออกตามมาเรื่อยๆครับ แต่แน่นอนครับไม่ใช่การปลดล็อคแบบ ใครใคร่ปลูกปลูก ใครใคร่สูบสูบ ใครใคร่ขายขาย ใครใคร่เก็บครอบครองก็ทำได้โดยอิสระ หรือจะไปผสมอาหารขายตามอำเภอใจ ไม่ได้แน่ๆ

กลับมาที่ประเด็นที่ถูกนำมาเป็นหัวเรื่องคือ กัญชารักษามะเร็ง เรามาทำความรู้กันครับ

กัญชา (Cannabis, Marijuana) เป็นพืชเขตร้อน มนุษย์ใช้ยอดอ่อนและใบกัญชาเพื่อการรักษามานับพันปีแล้ว




สารในกัญชาที่เชื่อว่าเป็นประโยชน์ในการรักษา เรียกว่า cannabinoids ซึ่งมี หลายชนิด แต่สารที่เชื่อว่าเป็นตัวสำคัญ มี 2 ชนิด คือ

สาร THC (delta-9-tetrahydrocannabinol) ซึ่งสารนี้จะช่วยลดอาการปวดจากมะเร็ง อาการคลื่นไส้จากการใช้ยาเคมีบำบัด
Cannabidiol (CBD) จะช่วยลดอาการลมชัก ความเครียด อาการหวาดระแวง
ก่อนจะไปถึงผลการทดลองต่างๆ ผมขออธิบายประเด็นสำคัญมากๆ ให้ทุกท่านเข้าใจก่อน คือ “ในการทดลองศึกษาต่างๆที่ออกมาเกือบทั้งหมดนั้น สารสกัด หรือสังเคราะห์จากกัญชาที่ใช้ คือสาร delta-9-THC” ขอให้ทุกท่านจำประเด็นนี้ให้ขึ้นใจ ที่เป็นเช่นนั้นเพราะ การบริหารกัญชาในปัจจุบันมีดังนี้ครับ

การบริหารกัญชาโดยการกิน จะเป็นใบสด ใบแห้ง หรือต้มน้ำ การบริหารวิธีนี้ พบว่า สาร delta-9-THC จากกัญชาจะถูกดูดซึมต่ำ (6-20%) ระดับสารในเลือดจะสูงราวๆ 1-6 ชม.หลังกิน และคงอยู่ในร่างกายนาน เพราะค่าครึ่งชีวิตประมาณ 20-30 ชม.แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือ สาร delta-9-THC ที่รับจากการกิน จะถูกตับแปลงสภาพ(Metabolite) เป็นสารอีกชนิดคือ 11-OH-THC ซึ่งมีฤทธิ์ต่อสมอง ทำให้อารมณ์และการรู้สึกตัวเปลี่ยนแปลงเช่นกันคราวนี้หลายท่านอาจสงสัย แล้วไงล่ะ? มันก็ THC เหมือนๆกันนั่นแหละ ต่างแค่อะไรไม่รู้ที่หมอเขียนด้านหน้าน่ะ ที่มันสำคัญคือในการทำการศึกษาวิจัยยาต่างๆ ผู้วิจัยต้องรู้ว่าตัวเองกำลังศึกษาสารเคมีใดปริมาณเท่าใดครับดังนั้นการกินกัญชาที่ไม่สามารถคาดคะเนระดับสาร delta-9-THC ได้ และยังเกิดสารตัวที่สองอีก ย่อมทำให้ผลการวิจัยไม่สามารถสรุปผลได้เหมาะสม มีการวิจัยเพียงหนึ่งงานที่ทดลองการกินชากัญชา ในช่วงได้รับยาเคมีบำบัด พบว่าไม่เกิดประโยชน์ในทางคลินิก
การบริหารกัญชาด้วยการสูบ วิธีนี้จะทำให้ร่างกายได้รับสาร delta-9-THC ที่รวดเร็วกว่า ระดับยาในเลือดสูงขึ้นไว (2-10นาที) และลดลงจากร่างกายรวดเร็วกว่า (ประมาณ 30นาที) และที่สำคัญร่างกายจะแปลงเป็นสาร 11-OH-THC ในระดับต่ำดังนั้นงานวิจัยศึกษาที่ใช้กัญชาสดหรือแห้ง จะใช้วิธีบริหารโดยการสูบกัญชาเป็นหลัก
การบริหารกัญชาสกัด การสกัดสมุนไพรสามารถทำได้หลายวิธีขึ้นกับสารที่ใช้สกัด เช่นน้ำเปล่า แอลกอฮอล์ น้ำมัน เป็นต้น แต่ที่นิยมทำกันคือสกัดกัญชาด้วยน้ำมัน เป็นน้ำมันกัญชา ซึ่งการสกัดแบบนี้สารสกัดจะมีสารสำคัญ ทั้ง 2 ชนิดคือ delta-9-THC และ Cannabidiol (CBD) ในสัดส่วนที่แตกต่างกัน ขึ้นกับสายพันธุ์กัญชา สารสกัด และวิธีสกัดสารสกัดจากใบกัญชาที่ได้มาตรฐานในท้องตลาด คือ Nabiximols (Sativex) มีสัดส่วน THC:CBD ที่ 1:1 มีใช้ที่ประเทศแคนาดา นิวซีแลนด์และบางประเทศในยุโรป กล่าวว่าสามารถลดอาการปวดจากมะเร็งและโรค Multiple sclerosis ได้สารสกัด Nabiximols นี้ บริหารโดยการพ่นเข้าปากครับ เพราะอะไร? เพราะสารเคมีที่ดูดซึมจากเยื่อบุในช่องปากจะเข้าสู่กระแสเลือดได้รวดเร็ว และไปทำงานตามหน้าที่ ก่อนที่จะหลุดลอยไปที่ตับทำให้เกิดการแปลงสภาพสารนั่นเองส่วนน้ำมันกัญชาสกัดนั้น ยังไม่มีงานศึกษาวิจัยใดที่ออกมารับรองผลการรักษาในแง่ใดๆทั้งสิ้นนอกจากนั้นยังมีหนึ่งเรื่องที่ผู้ใช้สารสกัดกัญชา และแพทย์ที่มีคนไข้แอบใช้เอง “ต้องรู้” นั่นคือ สาร Cannabidiol เป็นตัวยับยั้งการทำงาน เอ็นไซม์ cytochrome P450 ที่แรงมาก ดังนั้นถ้าผู้ใช้กัญชาสกัดกินยาแผนปัจจุบันที่มีการแปลงสภาพ (metabolite) ยาด้วย cytochrome P450 ที่ตับ จะส่งผลให้การแปลงสภาพยาลดลง ซึ่งมีผลทั้งในแง่ยานั้นๆอาจมีฤทธิ์มากขึ้นจนเกินขนาดหรือลดฤทธิ์ลงได้
การบริหารสารสกัดจากกัญชาแบบเข้มข้น คือ สาร delta-9-THC ซึ่งวิธีนี้คือวิธีที่ใช้ในการทดลองทางห้องปฏิบัติการ ในสัตว์ และในมนุษย์ยาที่ผลิตออกมามี 2 ชนิดในอเมริกาคือ Dronabinol (Marinol) และ Nabilone (Cesamet) ซึ่งข้อบ่งชี้ในการใช้คือลดอาการคลื่นไส้จากการใช้ยาเคมีบำบัด และเพิ่มความอยากอาหารในผู้ป่วยมะเร็งเอาละครับมาถึงอีกประเด็นที่คลุมเครือกันมาก “กัญชารักษามะเร็งจริงหรือ” ผมจะขอเรียบเรียงทีละขั้น ในลำดับแรกต้องแยกเป็น 2 คำถามครับคือ “การสูบกัญชารักษามะเร็งได้หรือไม่” และ “สาร delta-9-THC หรือ Cannabidiol จากกัญชารักษามะเร็งได้หรือไม่”
คำถามแรก การสูบกัญชารักษามะเร็งได้หรือไม่ ?
จะเห็นว่าผมข้าม การกินกัญชา การใช้น้ำมันสกัดกัญชา สารสกัดกัญชา ไปเลย เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่มีข้อมูลทางศึกษาที่สนับสนุน และการศึกษาหลังๆจะใช้วิธีสูบ ตามเหตุผลที่กล่าวมา

การสูบกัญชากับการรักษามะเร็งนั้น ยังไม่มีการศึกษาครับ เท่าที่มีคือ การสูบกัญชาอาจช่วยลดอาการปวด (neuropathic pain) จากมะเร็งโดยเฉพาะผู้ป่วยที่ได้ยาเคมีบำบัดบางกลุ่ม (platinum-based chemotherapy และ taxanes) ได้

แต่ไม่มีข้อมูลสนับสนุนว่า การสูบกัญชาช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียนจากยาเคมีบำบัด หรือเพิ่มความอยากอาหารในผู้ป่วยมะเร็ง

ในเรื่องการลดความเครียด หรือการควบคุมอารมณ์นั้น การสูบกัญชามักทำให้อารมณ์ถูกกระตุ้นมากกว่า จะทำให้สงบ

คำถามที่สอง สาร delta-9-THC หรือ Cannabidiol จากกัญชารักษามะเร็งได้หรือไม่?
การศึกษาเกือบทั้งหมดยังอยู่ในระดับห้องทดลองและสัตว์ โดยภาพรวมออกมาในเชิงบวกคือ สารทั้งสองชนิดสามารถทำลายเซลล์มะเร็งหลายชนิดในห้องปฏิบัติการได้ โดยไม่กระทบต่อเซลล์ปกติ

ในการทดลองในสัตว์ พบว่า สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ลดการแพร่กระจาย รวมทั้งลดอุบัติการณ์การเกิดมะเร็งตับในหนู และอาจลดอุบัติการณ์การเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ในหนู รวมทั้งอาจใช้ในการรักษามะเร็งชนิดดังกล่าวได้ ซึ่งข้อมูลศึกษาวิจัยด้านมะเร็งลำไส้ใหญ่ระดับสัตว์ทดลองยังต้องพัฒนาต่อไป

แต่อย่างไรก็ตาม มีหนึ่งการศึกษาที่เกิดผลตรงกันข้ามคือ ผู้วิจัยฝังเซลล์มะเร็งในหนูชนิดไม่มีภูมิต้านทาน (immunodeficient mice) พบว่าหนูที่ได้รับสาร THC จะลดขนาดมะเร็งได้ถึง60% เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ใช้ แต่เมื่อทดลองในหนูที่มีภูมิต้านทานปกติ (immunocompetent murine) กลับเกิดผลตรงกันข้ามคือ ก้อนมะเร็งกลับมีขนาดโตขึ้น

มีหนึ่งการศึกษา ที่ทดลองใช้ delta-9-THC ฉีดเข้ากล้าม ในผู้ป่วยมะเร็งกลับซ้ำชนิด glioblastoma multiforme พบว่าไม่เกิดประโยชน์ทางคลินิก

ในด้านการศึกษาแง่อื่นๆ พบว่าสาร delta-9-THC ให้ผลการรักษาที่ดีเช่น ลดอาการคลื่นไส้อาเจียนจากการให้ยาเคมีบำบัด ซึ่งอาจเป็นการเสริมฤทธิ์ยาแก้อาเจียนที่ใช้อยู่ได้ ในด้านการเพิ่มความอยากอาหารได้ พบว่าได้ผลดี แต่ยังได้ผลต่ำกว่ายา megestrol ที่แพทย์ด้านมะเร็งให้แก่ผู้ป่วยในปัจจุบัน

นอกจากนั้นยังลดอาการปวดจากมะเร็งทำให้สามารถลดขนาดยาแก้ปวดกลุ่มฝิ่นลงได้ รวมทั้งลดความเครียดวิตกกังวลใจ และช่วยให้นอนหลับดีขึ้น

ผลข้างเคียงของกัญชาและสารสกัดกัญชา?
ในส่วนผลข้างเคียงของกัญชานั้น ที่พบบ่อยคือใจสั่น ความดันเลือดตก เวียนศีรษะ ตาแดง กล้ามเนื้อล้า อารมณ์เปลี่ยนแปลง รวมทั้งในทางกลับกันผู้รับกัญชาบางรายกลับมีอาการซึมเศร้า หวาดระแวง หรือประสาทหลอนมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งแพทย์ต้องระวังอย่างมาก เนื่องจากผู้ป่วยมะเร็ง

จะมีอาการซึมเศร้าท้อแท้อยู่แล้ว แม้ว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่จะได้ผลดีในการลดความเครียด อาการซึมเศร้า แต่ถ้าผู้ป่วยเกิดผลข้างเคียงที่ตรงกันข้ามคือ ยิ่งซึมเศร้ามากกว่าเดิม หรือมีประสาทหลอน อาจนำไปสู่เหตุการณ์อันไม่พึงประสงค์ของแพทย์ผู้รักษาและญาติๆได้

ข้อดีหนึ่งของกัญชา เมื่อเทียบกับยากลุ่มฝิ่นที่แพทย์ใช้กันในปัจจุบัน คือ กัญชาไม่กดระบบการหายใจ เพราะหน่วยรับ(receptor)ของกัญชาในสมอง ไม่มีที่บริเวณก้านสมองเหมือนยากลุ่มฝิ่น ซึ่งผู้ป่วยที่มีอาการสารประกอบฝิ่นเกินขนาด อาจกดการหายใจของผู้ป่วยจนเสียชีวิตได้

นอกจากนั้นอาการถอนพิษกัญชา (withdrawal syndrome) นั้น มีเพียงกระสับกระส่าย นอนไม่หลับ ร้อนวูบวาบตามตัว ไม่ค่อยมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ซึ่งรุนแรงน้อยกว่าสารเสพติดประเภทฝิ่น เฮโรอิน หรือยานอนหลับกลุ่ม Benzodiazepines และอาการดังกล่าวจะหายภายในไม่กี่วัน

ที่เป็นเช่นนั้นเนื่องจากสารออกฤทธิ์จากกัญชาจะสะสมในไขมันในร่างกาย และขับออกมาช้าๆ เมื่อผู้เสพกัญชาหยุดเสพทันที ร่างกายจะยังมีการขับสารดังกล่าวออกมาจากไขมันในร่างกายสักระยะ ส่งผลให้ระดับสารกัญชาในเลือดไม่ลดลงทันที ทำให้อาการถอนพิษไม่รุนแรง และเลิกกัญชาได้ง่ายกว่าสารเสพติดประเภทอื่น

สุดท้ายนี้ผมใคร่ฝากข้อคิดแก่ทุกๆท่านที่มีความเพียรอ่านจนถึงบรรทัดสุดท้าย ในการรักษาโรคนั้น ไม่มียาใด ให้ผลได้ดีเลิศ ทุกอย่างมีข้อดีข้อเสีย การทำความรู้ความเข้าใจโดยปราศจากนำอารมณ์หรืออคติมานำทาง จะทำให้เราสามารถใช้ยาหรือสมุนไพรนั้นได้อย่างเหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุด

นพ.กิตติไกร ไกรแก้ว
ผู้อำนวยการศูนย์มะเร็งตรงเป้า
รพ.จุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต
อ้างอิง
1. https://www.cancer.org
2. https://www.ncbi.nlm.nih.gov






ขอขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.chularatcancercenter.com/?p=1095&lang=th

***********

Sent from my iPhoneข่าวดี มาแล้ว !!!!
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร (ร.10) ทรงพระปรมาภิไธย ในราชราชกิจจานุเบกษา เรื่องกัญชา แล้ว
📎เกษตรกรสามารถรวมกลุ่มเป็นรัฐวิสาหกิจชุมชน เข้าระบบรัฐ ก็สามารถขออนุญาติ ปลูกได้เหมือนกัน
🧷ส่วนคนป่วยไม่ต้องหลบๆซ่อนๆรักษาตัวเองแล้ว ดีใจกับคนไทยด้วยครับ
#ทรงพระเจริญ
อ่านเพิ่มเติม https://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/A/019/T_0001.PDF

#กัญชาทางการแพทย์ #กัญชารักษามะเร็ง
#กัญชา #มะเร็ง #Cancer #Cannabis
น้ำปั่น...กัญชาสด เทรนด์ฮิตมาแรง
https://www.thairath.co.th/content/1518943

16 ตำรับยากัญชาไทย แก้โรคอะไรบ้าง
https://mgronline.com/qol/detail/9620000023197

การปลูกกัญชาไว้เสพ ขาย ใช้รักษา ตาม พรบ.ฉบับใหม่ 2562
https://youtu.be/VfqHkhYI9zA

อัศจรรย์ยากัญชา ชุบชีวิตใหม่ได้รวดเร็วมาก อยากให้สังคมยอมรับกัญชาคือยาวิเศษจริงๆ https://youtu.be/b4IyJfJA5XA

แม่มดกัญชาร่วมประชุม สนช.ปลดล็อกกัญชา
https://youtu.be/EOJoJGBPRco

10 อันดับเรื่องราวข้อดี ข้อเสีย กัญชาที่ควรรู้
https://youtu.be/_fKh_2S4JYk

กัญชากู้ชาติ :; ดร.แก้มหอม ณ ล้านช้าง แม่มดกัญชา
https://youtu.be/F--BXDLLLow

เปิดสุดยอดตัวช่วย “สเปรย์กัญชา” ฉีดพ่นในช่องปาก บรรเทาปวดผู้ป่วยมะเร็ง
คลิก >> https://mgronline.com/daily/detail/9620000025759

เนวิน ชิดชอบ เปิดใจ 'งานพันธุ์บุรีรัมย์'ครั้งแรกในไทย
https://youtu.be/1uUGinmaHZA

คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ผลิตสเปรย์กัญชา บรรเทาอาการมะเร็ง
https://www.youtube.com/watch?v=eTQ3WL_NuBE

บุรีรัมย์แถลงความพร้อมจัดงาน "พันธุ์บุรีรัมย์" มหกรรมกัญชา เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์
https://www.carrushome.com/%E0%B8%9A%E0%B8%
B8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%
B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%A2%E0%B9%8C%
E0%B9%81%E0%B8%96%E0%B8%A5%E0%B8%
87%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%
B8%A1%E0%B8%9E
%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%
E0%B8%A1/

สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญด้านกัญชา
https://m.youtube.com/watch?feature=youtu.be&v=qyxQDbzD054

สัมภาษณ์เนวิน เรื่องจัดงาน 'พันธุ์บุรีรัมย์'
https://m.youtube.com/watch?v=nWkSdOHKni8&feature=youtu.be

งานกัญชา พันธุ์บุรีรัมย์
https://m.youtube.com/watch?v=r3GFNPxIgYA&feature=youtu.be

สุดอึ้ง งานกัญชาที่ใหญ่ที่สุดในโลกตื่นเต้นมาก ที่ลาสเวกัส USA
https://youtu.be/dYv9f8CB1i4

สรรพคุณกัญชาทางการแพทย์
https://youtu.be/w5xXBjeoU4s

ฟังไว้ได้ประโยชน์ เรื่องกัญชา ไม่ใช่ยาเสพติด
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2083558521763931&id=1406206496165807

เปิดใจยอมรับสมุนไพร^^กัญชา^^รักษามะเร็ง
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2074738122819069&id=1683658098593742

4 วิธี การใช้น้ำมันกัญชาเพื่อรักษาโรค
https://youtu.be/fk2GaVMBBkU

ปลูกกัญชา ที่แรกในไทย !!!
สกลนคร นำร่องเตรียมพื้นที่ 5 พันไร่ทำยารักษาโรค
https://youtu.be/EwPevaol0Gs

สภาเกษตร ฯ ตั้งองค์กรดันกัญชาถึงมือเกษตรกรเกิดแล้ว
https://www.youtube.com/watch?v=z2YBZBRzQJo

เนวิน ดันเกษตรกรในบุรีรัมย์ ปลูกกัญชาสร้างรายได้
https://youtu.be/q4x2O-_62OM

ตรึม!ผู้ป่วยแห่รับน้ำมันกัญชาแน่นวัดป่าวชิรโพธิญาณ หลังกลุ่ม “อ.เดชา”นัดแจกทุกวันอาทิตย์
คลิก >> https://mgronline.com/local/detail/9620000032326

********

อ่านๆกันนะครับ จะได้รู้ว่า กลุ่มแพทย์รู้อะไร คิดอะไรบ้าง
.... รวบรวมมาจากการประชุมราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย วันที่ 26 เมษายน 2562 ผู้นำเสนอคือ
รศ.พญ.สุดา วรรณประสาท มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ผศ.นพ.วรพันธ์ เกรียงสุนทร ศิริราชพยาบาล
ผศ.นพ.สหภูมิ ศรีสุมะ โรงพยาบาลรามาธิบดี

ข้อดี ข้อเสียข้อเสียของกัญชา.....

ประวัติศาสตร์ของการใช้กัญชาเริ่มตั้งแต่ศตวรรษที่19 ในอังกฤษและอเมริกาเพื่อรักษาอาการปวดและอาการคลื่นไส้

ปี 1851 กัญชาได้รับบรรจุอยู่ในตำรายาของอเมริกา

แต่ต่อมาในปี 1942 ได้ถูกถอดถอนออกไป

ปี 1970 เป็นยุคฮิปปีที่คนหนุ่มสาวอเมริกาหันมาใช้กัญชาเพื่อการผ่อนคลายอย่างกว้างขวาง

ปี 1990 ทางการแพทย์มีการค้นพบ Canabinoid system(ระบบสารสกัดกัญชา)ในสมอง และเป็นที่มาของการสนใจนำกัญชามาใช้ในทางการแพทย์

ปี 2010 มี 11 รัฐในอเมริกามีการออกกฎหมายควบคุมการใช้กัญชาในทางการแพทย์ แต่ไม่รับรองการใช้กัญชาเพื่อความเพลิดเพลิน(recreational use)

ปี 2014 มี 23 รัฐออกกฎหมายควบคุมการใช้กัญชาในทางการแพทย์ และมี 5 รัฐอนุญาตให้ใช้กัญชาเพื่อความเพลิดเพลิน ได้แก่รัฐ Alaska, Colorado,Oregon,Washington และ
District of Columbia.

...... ในกัญชานั้นมีสารเคมีมากกว่า 104 ชนิด(สารเคมีเหล่านี้เรียกรวมกันว่าสาร Cannabinoids แต่ที่สำคัญที่สุดมีอยู่ 2 ชนิดคือ THC กับ CBD

สาร 2 ชนิดนี้มีฤทธิ์แตกต่างกันชัดเจน กล่าวคือ

-THC ออกฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาท(Psychoactive) ทำให้เมาเคลิ้ม ประสาทหลอน และเกิดโรคจิต(Psychosis)

- ในขณะที่สาร CBD มีฤทธิ์ทำให้สงบ ลดอาการวุ่นวาย และต้านฤทธิ์เมาประสาทหลอน

.... ดังนั้นในการนำกัญชามาใช้นั้นจะต้องทราบจุดประสงค์ที่แน่นอน และควรทราบปริมาณที่แน่นอนของสารทั้งสองชนิดในสารสกัดกัญชานั้น
ควรทราบว่าสารทั้งสองชนิดนี้นอกจากจะมีอยู่ในกัญชาแล้ว ยังสามารถสังเคราะห์ขึ้นมาได้ด้วย

... การสังเคราะห์ขึ้นมาสามารถทำให้ทราบปริมาณของสารทั้งสองชนิดอย่างแม่นยำแน่นอน

... ส่วนในใบกัญชานั้น แต่ละสายพันธ์ให้ปริมาณของ THC กับ CBD แตกต่างกันไป มีการศึกษากัญชาในภาคเหนือของประเทศไทย พบว่ามีปริมาณสารทั้งสองอย่างแตกต่างกันมากแม้จะอยู่ในแหล่งเดียวกัน

.... และ อย่างที่เรียนให้ทราบแล้วว่าการใช้กัญชานั้นมี วัตถุประสงค์ 2 ประการคือ

1.ใช้ในทางการแพทย์ หรือว่า

2.ใช้เพื่อความเพลิดเพลิน

...กัญชาที่ได้รับอนุญาตให้ใช้เพื่อความเพลิดเพลินนั้น ในต่างประเทศมักจะกำหนดให้มีปริมาณของสาร THC ต่ำมากๆและแม้กระนั้นก็ยังมีการควบคุมการใช้อย่างเคร่งครัด ทั้งปริมาณ สถานที่ที่จะใช้

... สารทั้งสองชนิดที่มีอยู่ในกัญชานั้น จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อได้รับความร้อน ดังนั้นจึงต้องนำมาสูบให้เข้าทางลมหายใจ หรือหากมีการสังเคราะห์เป็นของเหลวแบบเข้มข้นก็นำมาหยดไต้ลิ้นซึ่งจะมีการดูดซึมได้เร็วพอๆกับการสูบ แต่การกินเข้าไปจะไม่ได้ผลเพราะจะถูกทำลายโดยกรดในกระเพาะอาหารเกือบหมด

...สำหรับการ ใช้ในทางการแพทย์นั้นมีการรับรองการใช้(ในต่างประเทศ)ดังต่อไปนี้

1.รักษาภาวะเกร็งในโรคทางระบบประสาท Multiple Sclerosis

2.รักษาโรคลมชัก(Epilepsy)ชนิดรุนแรงบางชนิด

3.รักษาโรค Parkinson(บางอาการ)

4.รักษาโรค Alzheimer(ยังต้องศึกษาเพิ่มเติม)

5.แก้อาเจียนในผู้ป่วยที่ได้รับเคมีบำบัด(ที่ให้ยาชนิดอื่นแล้วไม่ได้ผล)

6.แก้ปวดจากมะเร็ง ปวดปลายประสาท ปวดเรื่อรัง

7.ใช้รักษามะเร็งสมอง มะเร็งต่อมลูกหมาก(ยัง
ต้องการการศึกษาเพิ่มเติม)

8.ใช้เพิ่มน้ำหนักในผู้ป่วยโรคเอดส์(ช่วยให้ความอยากอาหารเพิ่มมากขึ้น)

9.ใช้รักษาต้อหิน(ยังไม่ยืนยันผล)

10.ใช้รักษาโรค Post traumatic stress syndrome

11.ใช้รักษาโรควิตกกังวล

.....แต่ข้อบ่งชี้ทั้งหมดทั้งมวลนี้ยังต้องการการศึกษายืนยันอีกมาก และในแต่ละโรคนี้บางโรคเป็นผลของ THC บางโรคเป็นผลของ CBD จึงไม่สามารถนำกัญชามาใช้อย่างสุ่มสี่สุ่มห้าโดยไม่ทราบสัดส่วนและปริมาณของสารทั้งสองชนิดอย่างชัดเจน

....การนำสารสกัดกัญชามาใช้นั้นมีหลายรูปแบบทั้งสูด ทั้งหยดไต้ลิ้น และปัจจุบันมีชนิดกินโดยผสมในขนมต่างๆเช่นในคุ๊กกี้ บราวนี เค๊ก Oeo Keef Kat ทำเป็นเนยกัญชา ขี้ผึ้งกัญชา น้ำมันกัญชา

....อย่างไรก็ตามการใช้กัญชาหรือสารสกัดจากกัญชาใช่ว่าจะมีแต่ข้อดีก็หาไม่ จากการศึกษาพบว่ามีผลเสียดังต่อไปนี้

1.เพิ่มการเกิดโรคทางจิต 3.9 เท่า
2.พบการฆ่าตัวตายเพิ่มชึ้น 2.5 เท่า
3.ทำให้ติดกัญชา 10%(ต้องเพิ่มปริมาณการใช้ชึ้นเรื่อยๆ)(อยู่ในวัยเรียน 17%)
4.ทำให้สมองฝ่อ
5.มีปัญหาการเรียนรู้ สมาธิ และความจำ
6.สัมพันธ์กับการเกิดภาวะถุงลมโป่งพอง
7.สัมพันธ์กับภาวะเส้นเลือดสมองตีบ
8.สัมพันธ์กับภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ
9.สัมพันธ์กับมะเร็งอัณฑะ
10.เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจขาดเลือด
11.พบอุบัติการณ์การเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนที่สัมพันธ์กับการใช้กัญชาสูงขึ้น

....ผลอย่างเฉียบพลันของกัญชานั้น อาจทำให้อารมณ์ครื้นเครงขึ้นแต่จะตามด้วยอาการง่วงซึม
หากใช้ปริมาณมากจะทำให้ความจำลดลง และเพิ่มความวิตกกังวล ประสาทหลอนทางตา
หวาดระแวง(paranoid) และเกิด panic attack

....หากใช้ในคนตั้งครรภ์ก็จะทำให้เสี่ยงต่อการพัฒนาการของเด็กในครรภ์ ทำให้การสร้างน้ำนมแม่ลดลง และสารกัญชาจะเข้าไปในน้ำนมด้วย ดังนั้นจึงไม่ควรใช้ในคนท้องและให้นมบุตร

....การใช้ในเด็กจะนำไปสู่การติดสารเสพติดชนิดอื่นมากขึ้นเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่

- ดูเหมือนว่าประเทศสหรัฐอเมริกาจะมีการใช้สารจากกัญชามากที่สุดในโลกโดยพบว่ามีการใช้ในทางการแพทย์ 30 รัฐ ใช้เพื่อการผ่อนคลาย 9 รัฐ แต่รัฐบาลกลางของสหรัฐอเมริกายังถือเป็นสารต้องห้าม แต่ในรัฐที่อนุญาตให้ใช้นั้นก็มีระบุไว้ชัดเจนว่าจะต้องมีปริมาณสาร THC ไม่เกิน 0.5-5% แล้วแต่รัฐ และมีปริมาณสาร CBD มากกว่า 5% ขึ้นไป

... ส่วนในประเทศอื่นๆพบแตกต่างกันดังนี้

- ประเทศCanada สามารถใช้ทางการแพทย์ได้ไม่ผิดกฎหมายหากมีข้อบ่งชี้ชัดเจน

- ประเทศ Australia และ England ถือว่าการเสพกัญชาผิดกฎหมาย ส่วนการใช้ทางการแพทย์ต้องผลิตโดยบริษัทที่ขึ้นทะเบียนเท่านั้น แพทย์ที่จะใช้ก็ต้องขึ้นทะเบียน

- ผู้ป่วยที่ใช้ก็ต้องลงทะเบียน ติดตามได้ ผู้ปลูกก็ต้องขึ้นทะเบียน

- ในประทศ Netherland นั้นคล้ายๆ Australia แต่เพิ่มสามารถปลูกใช้ในครัวเรือนได้ไม่เกิน5 ต้น และสามารถสูบกัญชาได้ในสถานที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น

- ประเทศที่ถือว่ากัญชาเป็นสิ่งผิดกฎหมายทุกกรณีได้แก่ จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น สิงคโปร์

.... จากข้อมูลที่ประมวลมานี้ พอจะสรุปว่าการจะปล่อยให้มีการใช้กัญชาโดยเสรีน่าจะส่งผลเสียโดยรวมมากกว่าผลดีอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะไม่มีใครทราบได้เลยว่ากัญชาที่ใช้อยู่มีปริมาณสาร THC และสาร CBD อยู่กี่เปอร์เซ็นต์ และแม้หากจะควบคุมการใช้ให้ถูกกฎหมายก็ยังเสี่ยงต่อการใช้เกินขนาดได้โดยง่าย และราคาที่เหมาะสมจะเป็นเท่าใด
(นี้เป็นความเห็นของผู้รวบรวมเองครับ)

.... รวบรวมมาจากการประชุมราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย วันที่ 26 เมษายน 2562 ผู้นำเสนอคือ
รศ.พญ.สุดา วรรณประสาท มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ผศ.นพ.วรพันธ์ เกรียงสุนทร ศิริราชพยาบาล
ผศ.นพ.สหภูมิ ศรีสุมะ โรงพยาบาลรามาธิบดี

************************************************

ขอบพระคุณบรรดาอาจารย์แพทย์และผู้รวบรวมข้อมูลอย่างสูงมา ณ ที่นี้ด้วยครับ.

Sent from my iPhone

ขอขอบคุณยูทูปจากอินเตอร์เนต

 
สาขา Health blog
 
newyorknurse



Create Date : 20 พฤษภาคม 2562
Last Update : 14 มิถุนายน 2562 19:51:00 น. 3 comments
Counter : 3039 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณสันตะวาใบข้าว, คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณสองแผ่นดิน


 
หนูยังไม่มีประสบการณ์ตรงกับคนใกล้ตัว แต่เพื่อน ๆ สนใจใช้กันบ้างก็มีค่ะ เค้าก็ว่าดีนะคะ


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 14 มิถุนายน 2562 เวลา:20:23:29 น.  

 
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆที่นำมาฝากค่ะพี่^^


โดย: สันตะวาใบข้าว วันที่: 15 มิถุนายน 2562 เวลา:9:24:58 น.  

 
อ่านแล้วก็มีทั้งข้อดี ข้อเสีย ข้อควรระวังนะคะพี่น้อย

พี่น้อยชอบกินขนมหวานเหรอคะ? เหมือนแม่หนูเลยค่ะ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Parenting Blog ดู Blog
newyorknurse Health Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 15 มิถุนายน 2562 เวลา:20:23:18 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

newyorknurse
Location :
ราชบุรี .. New York ... United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 164 คน [?]






เริ่มเขียนBlog
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2553

ยินดีต้อนรับค่ะ

จขบ.บันทึกประสบการณ์ต่างๆ
ระยะเวลาทำงานและระยะเกษียณ
เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำ

จขบ.พยายามใช้ชีวิตเกษียณให้มีคุณค่า
รักษาสุขภาพใจและกาย ท่องเที่ยวกับเพื่อนๆ
ทำสวนดอกไม้ ออกกำลังกาย
สมัครเป็นสมาชิก 24 Hrs Fitness
เพื่อให้ชีวิตที่เหลืออยู่มีคุณภาพ
จะได้ไม่เป็นภาระกับคนที่รักและห่วงใย

จขบ.เพิ่มบล็อกสุขภาพ
เพื่อจะได้นำสาระที่มีประโยชน์
เกี่ยวกับสุขภาพทั่วๆไป

จขบ.หวังว่าข้อมูลต่างๆช่วยให้
ทุกท่านที่มาอ่าน รักษาสุขภาพ
ไปตรวจเพื่อเป็นการป้องกัน
และได้รับการรักษาเนิ่นๆ เพื่อ
ชีวิตที่แข็งแรงและมีคุณภาพ

"A time to enjoy,
a time to spend time with your family
and a time to be with your friends
all comes with retirement"


*****


"Live The Moment"

อยู่กับปัจจุบันขณะ หยุดเสียใจกับสิ่งที่เกิดขี้น
ในอดีตและกลัวหรือกังวล
สิ่งทีเกิดขี้นในอนาคต "วันนี้" และ "ขณะนี้"
คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของคุณ !!
ใช้มันให้ดีที่สุดให้เป็นช่วงเวลาทีมีคุณค่า
น่าจดจำเพราะว่าเวลาเป็นสิ่งที่ผ่านมา
และผ่านเลยไป เอาคืนไม่ได้และ
หาเพิ่มก็ไม่ได้เช่นกัน

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ


*********


ขอบคุณ Bloggang ทำให้เราได้เขียนบล็อกต่างๆ
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวด
ทุกๆคะแนน นะคะ

BG Popular Award # 19


BG Popular Award # 18


BG Popular Award # 17


BG Popular Award # 16


BG Popular Award # 15


BG Popular Award # 14


BG Popular Award # 13


BG Popular Award # 12


BG Popular Award # 11


BG Popular Award # 10


BG Popular Award # 9


BG Popular Award # 8

**********



ขอบคุณทุกหัวใจวาเลนไทน์ 2561
ที่เพื่อนๆมอบให้ค่ะ


ขอบคุณทุกหัวใจวาเลนไทน์ 2560
ที่เพื่อนๆมอบให้ค่ะ
Flag Counter
New Comments
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2562
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
20 พฤษภาคม 2562
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add newyorknurse's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.