มะเขือเทศ มีประโยชน์มากมาย ดื่มน้ำมะเขือเทศไม่มากเกินไป
มะเขือเทศ มีประโยชน์มากมาย ดื่มน้ำมะเขือเทศไม่มากเกินไป มะเขือเทศมีประจำบ้านกันแทบทุกบ้านที่นี่ เพราะปลูกง่ายและใช้ทำกับข้าวหรือ ใส่สลัดก็อร่อย ปกติจะปลูก สองสามต้น มีทั้งพันธ์ลูกใหญ่ และพันธ์ ลูกเล็ก (Grape tomato) และยังมีที่ขี้นเองอีกหลายต้น หน้าร้อนทุกปี ไม่ต้องซื้อมะเขือเทศเลย ดูแลง่ายและมีลูกดกด้วย ต้นนี้ของเพื่อนส่งมาอวดว่าซื้อมาปลูกพร้อมกันเก็บได้ 8 ลูกแล้ว พันธ์นี้ลูกใหญ่ เวลาสุกมากๆ เนื้อแข็ง ไม่งอม รสหวาน อร่อยมากค่ะ ของเราก็ลูกดกเหมือนกัน ต้องหาที่พิง กิ่งจะหัก รับนน.ไม่ไหวมะเขือเทศ 1 มะเขือเทศ 2 มะเขือเทศคือผักหรือผลไม้ ? 3 สรรพคุณของมะเขือเทศ 4 ประโยชน์ของมะเขือเทศ 5 คุณค่าทางโภชนาการของมะเขือเทศสีแดงสด ต่อ 100 กรัม มะเขือเทศ ชื่อสามัญ Tomato มะเขือเทศ ชื่อวิทยาศาสตร์ Lycopersicon esculentum Mill. จัดอยู่ในวงศ์มะเขือ (SOLANACEAE) มะเขือเทศคือผักหรือผลไม้ ? คำตอบ มะเขือเทศคือผลไม้ ซึ่งเป็นไปตามคำนิยามของหลักทางพฤกษศาสตร์ เพราะผลไม้คือส่วนของรังไข่ที่เจริญเติบโตเต็มที่ของพืชดอก ส่วนผักคือพืชที่กินได้ของพืชล้มลุก ไม่ว่าจะเป็นราก ใบ ก้าน หัว หน่อ ดอก ซึ่งโดยปกติแล้วคนส่วนมากมักเข้าใจผิดว่ามะเขือเทศคือผักเพราะนำไปใช้ประกอบอาหารกันเป็นส่วนใหญ่ และมักคิดว่าผลไม้คือสิ่งที่ให้ความหวานนั่นเอง โดยมะเขือเทศที่นิยมรับประทานมากคือ มะเขือเทศสีดา มะเขือเทศราชินี ข้อควรรู้ ! : มะเขือเทศนั้นจัดว่าเป็นผลไม้ที่คนทั่วโลกนิยมรับประทานกันมากที่สุด โดยนิยมรับประทานกันมากกว่าผลไม้ยอดนิยมอันดับ 2 อย่างกล้วย มากถึง 16 ล้านตันต่อปี ส่วนผลไม้อันดับ 3 คือ แอปเปิ้ลและส้ม ตามลำดับ มะเขือเทศ นอกจากจะเป็นผลไม้ที่นิยมรับประทานกันมากที่สุดในโลกแล้ว ประโยชน์ของมะเขือเทศยังมีอยู่มากมาย เพราะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น วิตามินซี วิตามิเอ วิตามินเค วิตามินพี วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส และธาตุเหล็ก โดยมะเขือเทศขนาดปานกลางนั้นจะมีปริมาณของวิตามินซีครึ่งหนึ่งของส้มโอทั้งลูก และมะเขือเทศหนึ่งผลมีปริมาณวิตามินเอที่ร่างกายต้องการจำนวน 1 ใน 3 ของวิตามินเอที่ร่างกายต้องการต่อวันเลยทีเดียว ! และยังมีสารจำพวกไลโคปีน (Lycopene) แคโรทีนอยด์ เบตาแคโรทีน และกรดอะมิโน เป็นต้น และมะเขือเทศยังจัดว่าเป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณเป็นยารักษาโรคได้อีกด้วย เช่น ช่วยป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด ขับปัสสาวะ รักษาความดัน เป็นต้น โดยน้ำมะเขือเทศที่เราคั้นเองสด ๆ จะดีกว่าน้ำมะเขือเทศขวดหรือกล่อง และไม่ควรเลือกรับประทานมะเขือเทศดิบ เพราะอาจจะเป็นผลเสียต่อร่างกายมากกว่าจะได้รับประโยชน์ และการกินมะเขือเทศในปริมาณมากก็ไม่มีผลข้างเคียงแต่อย่างใด มีงานวิจัยมะเขือเทศออกมาว่าการรับประทานมะเขือเทศให้ได้ 10 ครั้งต่อสัปดาห์ถือว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมากเพราะจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้อย่างมาก และดีต่อสุขภาพผิวอย่างเห็นได้ชัดเจน สรรพคุณของมะเขือเทศ ประโยชน์ของมะเขือเทศช่วยให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับโรคหอบหืดได้มากถึง 45% ช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อมหรืออัลไซเมอร์ ช่วยรักษาโรคลักปิดลักเปิด เลือดออกตามไรฟัน ช่วยป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด มะเขือเทศมีฤทธิ์ในการช่วยขับปัสสาวะ ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดภาวะเส้นเลือดตีบ การเกิดโรคหัวใจวาย สำหรับผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด ช่วยในระบบย่อยในกระเพาะอาหารและช่วยในการขับถ่ายอุจจาระได้สะดวก ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราหรือเชื้อราที่ปาก ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็งต่อมลูกหมากในเพศชายได้ถึง 45% หากรับประทานมะเขือเทศเป็นประจำ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งรังไข่ในเพศหญิง ซอสมะเขือเทศช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดหลังจากการหกล้มหรือถูกมีดบาดได้ ประโยชน์ของมะเขือเทศ ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื่นสดใส ไม่แห้งกร้าน มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดและชะลอการเกิดริ้วรัยแห่งวัย น้ำมะเขือเทศช่วยเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกาย ช่วยเสริมคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง มีวิตามินเอซึ่งมีส่วนชวยบำรุงสายตา มะเขือเทศมีเบตาแคโรทีนและฟอสฟอรัสในปริมาณมาก มะเขือเทศช่วยในการรักษาสิว ด้วยการนำน้ำมะเขือเทศมาพอกผิวหน้าหรือฝานบาง ๆ แล้วนำมาแปะหน้าก็ได้ ช่วยทำให้ผิวหน้าเต่งตึงสดใส ด้วยการนำน้ำมะเขือเทศมาพอกผิวหน้าหรือฝานบาง ๆ แล้วนำมาแปะหน้าก็ได้ มะเขือเทศใช้นำมาทำเป็นน้ำผลไม้ โดยน้ำผลไม้ที่ขึ้นชื่อก็คือน้ํามะเขือเทศดอยคํา เป็นที่นิยมนำมาทำเป็นอาหารได้หลายเมนู เช่น ข้าวผัด ซุป ยำต่าง ๆ เป็นต้น ซอสมะเขือเทศหมักผม ด้วยการใช้มะเขือเทศหมักผมจะช่วยป้องกันการเปลี่ยนไปของสีผม อันเนื่องมาจากการว่ายน้ำในสระที่มีคลอรีน ซอสมะเขือเทศนำมาใช้ขัดเครื่องประดับเงินชิ้นโปรดของคุณให้เงางามเหมือนเดิมได้ ด้วยนำซอสมะเขือเทศมาถูแล้วล้างน้ำออก ซอสมะเขือเทศช่วยในการดับกลิ่นคาว เศษอาหาร กลิ่นปลาสลิดได้เหมือนกันนะ เพียงแค่เปิดฝาซอสทิ้งไว้ 1 คืนเท่านั้น คุณค่าทางโภชนาการของมะเขือเทศสีแดงสด ต่อ 100 กรัม มะเขือเทศพลังงาน 18 กิโลแคลอรี คาร์โบไฮเดรต 3.9 กรัม น้ำตาล 2.6 กรัม เส้นใย 1.2 กรัม ไขมัน 0.2 กรัม โปรตีน 0.9 กรัม น้ำ 94.5 กรัม วิตามินเอ 42 ไมโครกรัม 5% เบตาแคโรทีน 449 ไมโครกรัม 4% ลูทีนและซีแซนทีน 123 ไมโครกรัม วิตามินบี 1 0.037 มิลลิกรัม 3% วิตามินบี 3 0.594 มิลลิกรัม 4% วิตามินบี 6 0.08 มิลลิกรัม 6% วิตามินซี 14 มิลลิกรัม 17% วิตามินอี 0.54 มิลลิกรัม 4% วิตามินเค 7.9 ไมโครกรัม 8% ธาตุแมกนีเซียม 11 มิลลิกรัม 3% ธาตุแมงกานีส 0.114 มิลลิกรัม 5% ธาตุฟอสฟอรัส 24 มิลลิกรัม 3% ธาตุโพแทสเซียม 237 มิลลิกรัม 5% ไลโคปีน 2,573 ไมโครกรัม % ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ (ข้อมูลจาก : USDA Nutrient database) แหล่งอ้างอิง : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี (EN) เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (MedThai) ************** มะเขือเทศ กิน/ดื่มอย่างไร ให้ได้ประโยชน์สูงสุด น้ำมะเขือเทศ เป็นเครื่องดื่มที่มีสรรพคุณหลากหลาย และมีสารอาหารสำคัญมากมาย โดยเฉพาะในเรื่องของผิวสวย น้ำมะเขือเทศจึงเป็นเครื่องดื่มที่คุณผู้หญิงทั้งหลายนิยมดื่มกันมาก นอกจากการบำรุงผิวแล้วน้ำมะเขือเทศยังมีประโยชน์อย่างอื่นอีกมากมาย โดยสารหลักที่เป็นประโยชน์ของ มะเขือเทศ ก็คือ "ไลโคปีน" มีมากใน มะเขือเทศ และแตงโม เป็นสารชนิดหนึ่งที่ช่อยต่อต้านอนุมูลอิสระ และจำเป็นในทุกช่วงอายุของคนเรา ช่วงนี้กระแสการดื่มน้ำ มะเขือเทศ กำลังมาแรง ด้วยคุณสมบัติที่ว่า ดื่มแล้วขาว ดื่มแล้วสวย ดื่มแล้วผิวพรรณดี แบบนี้คุณผู้หญิงทั้งหลายก็หูผึ่ง ตามหาน้ำมะเขือเทศมาดื่มตามกันเป็นแถวๆ หากแต่บางคนก็ยังสงสัยว่าสรรพคุณที่หลายคนเอ่ยอ้างนี้จะเป็นความจริงหรือเปล่า ก็เลยขอนำข้อมูลดีๆเกี่ยวกับมะเขือเทศมาฝากกัน วิธีทานมะเขือเทศให้ได้ประโยชน์มากที่สุด ส่วนใหญ่ในการรับประทานผัก หากต้องการให้ได้แร่ธาตุและวิตามินครบถ้วนก็มักจะต้องทานแบบดิบๆ แต่มะเขือเทศไม่เป็นเช่นนั้น การทานมะเขือเทศเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด ต้องทำให้มะเขือเทศสุกเสียก่อน เนื่องจากมะเขือเทศที่ผ่านความร้อนแล้ว จะทำให้ไลโคปีนกับเนื้อเยื่อของมะเขือเทศหลุดออกจากกันได้ง่าย ร่างกายจึงสามารถนำไปใช้ได้ดีกว่ากินแบบไม่ผ่านความร้อน อีกทั้งไลโคปีนนั้นสามารถละลายได้ดีในน้ำมัน ดังนั้นหากเราใช้น้ำมันในการปรุงมะเขือเทศ จะยิ่งทำให้ร่างกายดูดซึมไลโคปีนดียิ่งขึ้น แต่ก็ใช่ว่าทานมะเขือเทศแบบสดจะไม่ดี เพราะในมะเขือเทศก็มีวิตามินซีสูงเช่นกัน ดังนั้นหากต้องการวิตามินซีสูง มีใยอาหาร ทำให้ผิวพรรณดี ก็รับประทานสด แต่ถ้าต้องการให้ร่างกายได้รับสารไลโคปีนมากๆก็รับประทานที่ผ่านความร้อนมาแล้วได้เช่นกัน สรุปแล้วมะเขือเทศมีคุณค่าน่ารับประทานยิ่งนักส่วนใครที่ชอบดื่มเป็นน้ำมะเขือเทศก็อย่าดื่มมากเกินวันละ 2 แก้ว เพราะเดี๋ยวโรคนิ่วจะถามหาเอาได้ นอกจากเรื่องการทานมะเขือเทศที่ปรุงสุกแล้วจะได้ประโยชน์สูงสุด เรื่องเพศที่ทานมะเขือเทศก็สำคัญโดยผู้หญิงควรทานมะเขือเทศสดเพราะจะทำให้ร่างกายได้รับวิตามินซี และใยอาหารมากทำให้ผิวสวย ส่วนผู้ชายควรทานมะเขือเทศสุกเพื่อให้ร่างกายได้รับสารไลโคปีนมากๆ เพื่อช่วยป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก ประโยชน์ของไลโคปีนในมะเขือเทศ "ไลโคปีน" (lycopene) ที่อยู่ในมะเขือเทศ เป็นสารอีกตัวในกลุ่มแคโรทีนอยด์ พบมากในผักผลไม้ที่มีสีส้มสีแดง อย่างเช่น แครอท แตงโม มะละกอ ฟักข้าว เกรปฟรุต ซึ่งถือว่าเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ที่สามารถป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งมะเขือเทศสด 100 กรัม จะมีปริมาณไลโคปีนอยู่ประมาณ 0.9 9.30 มิลลิกรัม ซึ่งมีส่วนช่วยบำรุงสุขภาพแทบจะทุกสัดส่วนของร่างกาย อาทิ ป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ เพราะในมะเขือเทศจะมีไฟเบอร์และน้ำอยู่มาก จึงช่วยในเรื่องระบบขับถ่ายให้เป็นไปอย่างปกติ อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งปอด มะเร็งรังไข่ มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมากและมะเร็งตับอ่อนได้อีกด้วย ชะลอความแก่ ลดริ้วรอยแห่งวัย บำรุงผิวพรรณให้สดใส ชุ่มชื้น เนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยบำรุงสายตา เพราะมีวิตามินเอสูง รักษาโรคลักปิดลักเปิด และเลือดออกตามไรฟัน ช่วยกำจัดคอเลสเตอรอลไม่ดีที่อยู่ตามผนังหลอดเลือด ทำให้ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด ช่วยควบคุมและลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดอาการบวมน้ำในร่างกาย ช่วยควบคุมสมดุลของเหลวในเซลล์และเนื้อเยื่อ ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง เพราะมะเขือเทศมีวิตามินเคสูง บำรุงผมให้แข็งแรงเงางามมีสุขภาพดี ช่วยลดความเครียดได้ ดื่มน้ำมะเขือเทศอย่างไรให้ถูกต้อง และมีประโยชน์ อย่างที่ได้ทราบกันไปแล้วว่ามะเขือเทศต้องทานแบบปรุงสุกก่อน(ผ่านความร้อน) จึงจะได้โลโคปีนมากสุด แต่ถ้าอยากดื่มเป็นน้ำมะเขือเทศเพื่อให้ได้ประโยชน์มากสุดนั้น เราจำเป็นต้องกำหนดช่วงเวลาดื่มน้ำมะเขือเทศ เพื่อให้ร่างกายนำสารอาหารจากน้ำมะเขือเทศไปใช้งานได้ดีที่สุด โดยสามารถแบ่งออกได้ 2 ช่วงเวลาคือ ดื่มก่อนทานอาหารในช่วงท้องว่าง อาจจะหยดน้ำมันเล็กน้อยลงไปในน้ำมะเขือเทศ จะทำให้ร่างกายดูดซึมได้ดีขึ้น ดื่มหลังอาหารในทันที เพราะไขมันในอาหารจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมไลโคปีนได้ดีมากขึ้น ผู้ที่ห้ามดื่มน้ำมะเขือเทศ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะกินมะเขือเทศได้ประโยชน์ทั้งหมด เพราะว่ามะเขือเทศเป็นผักผลไม้ ที่มีธาตุโพแทสเซียมสูงมาก ดังนั้นผู้ที่ไม่ควรทานมะเขือเทศเลย ไม่ว่าจะแบบสด หรือปรุงสุก ก็คือผู้ที่กำลังป่วยเป็นโรคไต หรือผู้มีโพแทสเซียมในเลือดสูง เพราะร่างกายจะมีปัญหาได้หากขับโพแทสเซียมออกไม่ได้หมด นอกจากนี้คนที่มีภาวะกรดไหลย้อนก็ไม่ควรทานมะเขือเทศมากเกินไป เพราะมะเขือเทศมีคุณสมบัติเป็นกรดอ่อนๆ จะยิ่งทำให้อาการหนักขึ้นได้ ดื่มน้ำมะเขือเทศแค่ไหนจึงจะพอดี อาหารทุกชนิดถ้าทานมากไปย่อมเกิดอันตรายได้ทั้งหมด #น้ำมะเขือเทศก็เช่นกัน ถ้าดื่มมากไปร่างกายจะได้รับวิตามินซีสูงเกินไป จนเกิดโรคนิ่วได้ นอกจากนี้ยังมีโพแทสเซียมสูงดังนั้น ปริมาณการดื่มน้ำมะเขือเทศที่แนะนำต่อวันคือไม่ควรเกิน 2 แก้วหรือ 2 กล่อง(เล็ก)ต่อวัน เพราะนี่คือปริมาณที่ร่างกายสามารถขับโพแทสเซียมออกไปได้หมด แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามการดื่มน้ำมะเขือเทศแบบกล่อง ก็ยังต้องเลือกดื่มอย่างระมัดระวัง เพราะอาจจะมีการเติมโพแทสเซียมลงไป ดังนั้นควรดูตารางโภชนาการของกล่องน้ำมะเขือเทศด้วย โดยควรเลือกน้ำมะเขือเทศที่มีโซเดียมต่ำ ไม่เช่นนั้นแล้วร่างกายอาจจะได้รับโซเดียมมากไป ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคอื่นๆ ได้ คำถามจากผู้อ่านเกี่ยวกับมะเขือเทศ อยากมีระบบขับถ่ายที่ดี ควรจะเสริมอะไรเข้าไปอีกคะ นอกจากการทานน้ำมะเขือเทศเป็นประจำและการดื่มน้ำสะอาดบ่อยๆ เพราะส่วนตัวเป็นคนไม่ชอบทานผักแต่เลือกที่จะดื่มน้ำมะเขือเทศเป็นประจำแทนค่ะ การกินเพื่อสุขภาพ มะเขือเทศ กิน/ดื่มอย่างไร ให้ได้ประโยชน์สูงสุด การกินเพื่อสุขภาพ มะเขือเทศ กิน/ดื่มอย่างไร ให้ได้ประโยชน์สูงสุด น้ำมะเขือเทศ เป็นเครื่องดื่มที่มีสรรพคุณหลากหลาย และมีสารอาหารสำคัญมากมาย โดยเฉพาะในเรื่องของผิวสวย น้ำมะเขือเทศจึงเป็นเครื่องดื่มที่คุณผู้หญิงทั้งหลายนิยมดื่มกันมาก นอกจากการบำรุงผิวแล้วน้ำมะเขือเทศยังมีประโยชน์อย่างอื่นอีกมากมาย โดยสารหลักที่เป็นประโยชน์ของ มะเขือเทศ ก็คือ "ไลโคปีน" มีมากใน มะเขือเทศ และแตงโม เป็นสารชนิดหนึ่งที่ช่อยต่อต้านอนุมูลอิสระ และจำเป็นในทุกช่วงอายุของคนเรา ช่วงนี้กระแสการดื่มน้ำ มะเขือเทศ กำลังมาแรง ด้วยคุณสมบัติที่ว่า ดื่มแล้วขาว ดื่มแล้วสวย ดื่มแล้วผิวพรรณดี แบบนี้คุณผู้หญิงทั้งหลายก็หูผึ่ง ตามหาน้ำมะเขือเทศมาดื่มตามกันเป็นแถวๆ หากแต่บางคนก็ยังสงสัยว่าสรรพคุณที่หลายคนเอ่ยอ้างนี้จะเป็นความจริงหรือเปล่า ก็เลยขอนำข้อมูลดีๆเกี่ยวกับมะเขือเทศมาฝากกัน วิธีทานมะเขือเทศให้ได้ประโยชน์มากที่สุด ส่วนใหญ่ในการรับประทานผัก หากต้องการให้ได้แร่ธาตุและวิตามินครบถ้วนก็มักจะต้องทานแบบดิบๆ แต่มะเขือเทศไม่เป็นเช่นนั้น การทานมะเขือเทศเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด ต้องทำให้มะเขือเทศสุกเสียก่อน เนื่องจากมะเขือเทศที่ผ่านความร้อนแล้ว จะทำให้ไลโคปีนกับเนื้อเยื่อของมะเขือเทศหลุดออกจากกันได้ง่าย ร่างกายจึงสามารถนำไปใช้ได้ดีกว่ากินแบบไม่ผ่านความร้อน อีกทั้งไลโคปีนนั้นสามารถละลายได้ดีในน้ำมัน ดังนั้นหากเราใช้น้ำมันในการปรุงมะเขือเทศ จะยิ่งทำให้ร่างกายดูดซึมไลโคปีนดียิ่งขึ้น แต่ก็ใช่ว่าทานมะเขือเทศแบบสดจะไม่ดี เพราะในมะเขือเทศก็มีวิตามินซีสูงเช่นกัน ดังนั้นหากต้องการวิตามินซีสูง มีใยอาหาร ทำให้ผิวพรรณดี ก็รับประทานสด แต่ถ้าต้องการให้ร่างกายได้รับสารไลโคปีนมากๆก็รับประทานที่ผ่านความร้อนมาแล้วได้เช่นกัน สรุปแล้วมะเขือเทศมีคุณค่าน่ารับประทานยิ่งนักส่วนใครที่ชอบดื่มเป็นน้ำมะเขือเทศก็อย่าดื่มมากเกินวันละ 2 แก้ว เพราะเดี๋ยวโรคนิ่วจะถามหาเอาได้ นอกจากเรื่องการทานมะเขือเทศที่ปรุงสุกแล้วจะได้ประโยชน์สูงสุด เรื่องเพศที่ทานมะเขือเทศก็สำคัญโดยผู้หญิงควรทานมะเขือเทศสดเพราะจะทำให้ร่างกายได้รับวิตามินซี และใยอาหารมากทำให้ผิวสวย ส่วนผู้ชายควรทานมะเขือเทศสุกเพื่อให้ร่างกายได้รับสารไลโคปีนมากๆ เพื่อช่วยป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก ประโยชน์ของไลโคปีนในมะเขือเทศ "ไลโคปีน" (lycopene) ที่อยู่ในมะเขือเทศ เป็นสารอีกตัวในกลุ่มแคโรทีนอยด์ พบมากในผักผลไม้ที่มีสีส้มสีแดง อย่างเช่น แครอท แตงโม มะละกอ ฟักข้าว เกรปฟรุต ซึ่งถือว่าเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ที่สามารถป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งมะเขือเทศสด 100 กรัม จะมีปริมาณไลโคปีนอยู่ประมาณ 0.9 9.30 มิลลิกรัม ซึ่งมีส่วนช่วยบำรุงสุขภาพแทบจะทุกสัดส่วนของร่างกาย อาทิ ป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ เพราะในมะเขือเทศจะมีไฟเบอร์และน้ำอยู่มาก จึงช่วยในเรื่องระบบขับถ่ายให้เป็นไปอย่างปกติ อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งปอด มะเร็งรังไข่ มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมากและมะเร็งตับอ่อนได้อีกด้วย ชะลอความแก่ ลดริ้วรอยแห่งวัย บำรุงผิวพรรณให้สดใส ชุ่มชื้น เนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยบำรุงสายตา เพราะมีวิตามินเอสูง รักษาโรคลักปิดลักเปิด และเลือดออกตามไรฟัน ช่วยกำจัดคอเลสเตอรอลไม่ดีที่อยู่ตามผนังหลอดเลือด ทำให้ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด ช่วยควบคุมและลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดอาการบวมน้ำในร่างกาย ช่วยควบคุมสมดุลของเหลวในเซลล์และเนื้อเยื่อ ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง เพราะมะเขือเทศมีวิตามินเคสูง บำรุงผมให้แข็งแรงเงางามมีสุขภาพดี ช่วยลดความเครียดได้ ดื่มน้ำมะเขือเทศอย่างไรให้ถูกต้อง และมีประโยชน์ อย่างที่ได้ทราบกันไปแล้วว่ามะเขือเทศต้องทานแบบปรุงสุกก่อน(ผ่านความร้อน) จึงจะได้โลโคปีนมากสุด แต่ถ้าอยากดื่มเป็นน้ำมะเขือเทศเพื่อให้ได้ประโยชน์มากสุดนั้น เราจำเป็นต้องกำหนดช่วงเวลาดื่มน้ำมะเขือเทศ เพื่อให้ร่างกายนำสารอาหารจากน้ำมะเขือเทศไปใช้งานได้ดีที่สุด โดยสามารถแบ่งออกได้ 2 ช่วงเวลาคือ ดื่มก่อนทานอาหารในช่วงท้องว่าง อาจจะหยดน้ำมันเล็กน้อยลงไปในน้ำมะเขือเทศ จะทำให้ร่างกายดูดซึมได้ดีขึ้น ดื่มหลังอาหารในทันที เพราะไขมันในอาหารจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมไลโคปีนได้ดีมากขึ้น ผู้ที่ห้ามดื่มน้ำมะเขือเทศ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะกินมะเขือเทศได้ประโยชน์ทั้งหมด เพราะว่ามะเขือเทศเป็นผักผลไม้ ที่มีธาตุโพแทสเซียมสูงมาก ดังนั้นผู้ที่ไม่ควรทานมะเขือเทศเลย ไม่ว่าจะแบบสด หรือปรุงสุก ก็คือผู้ที่กำลังป่วยเป็นโรคไต หรือผู้มีโพแทสเซียมในเลือดสูง เพราะร่างกายจะมีปัญหาได้หากขับโพแทสเซียมออกไม่ได้หมด นอกจากนี้คนที่มีภาวะกรดไหลย้อนก็ไม่ควรทานมะเขือเทศมากเกินไป เพราะมะเขือเทศมีคุณสมบัติเป็นกรดอ่อนๆ จะยิ่งทำให้อาการหนักขึ้นได้ ดื่มน้ำมะเขือเทศแค่ไหนจึงจะพอดี อาหารทุกชนิดถ้าทานมากไปย่อมเกิดอันตรายได้ทั้งหมด #น้ำมะเขือเทศก็เช่นกัน ถ้าดื่มมากไปร่างกายจะได้รับวิตามินซีสูงเกินไป จนเกิดโรคนิ่วได้ นอกจากนี้ยังมีโพแทสเซียมสูงดังนั้น ปริมาณการดื่มน้ำมะเขือเทศที่แนะนำต่อวันคือไม่ควรเกิน 2 แก้วหรือ 2 กล่อง(เล็ก)ต่อวัน เพราะนี่คือปริมาณที่ร่างกายสามารถขับโพแทสเซียมออกไปได้หมด แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามการดื่มน้ำมะเขือเทศแบบกล่อง ก็ยังต้องเลือกดื่มอย่างระมัดระวัง เพราะอาจจะมีการเติมโพแทสเซียมลงไป ดังนั้นควรดูตารางโภชนาการของกล่องน้ำมะเขือเทศด้วย โดยควรเลือกน้ำมะเขือเทศที่มีโซเดียมต่ำ ไม่เช่นนั้นแล้วร่างกายอาจจะได้รับโซเดียมมากไป ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคอื่นๆ ได้ คำถามจากผู้อ่านเกี่ยวกับมะเขือเทศ อยากมีระบบขับถ่ายที่ดี ควรจะเสริมอะไรเข้าไปอีกคะ นอกจากการทานน้ำมะเขือเทศเป็นประจำและการดื่มน้ำสะอาดบ่อยๆ เพราะส่วนตัวเป็นคนไม่ชอบทานผักแต่เลือกที่จะดื่มน้ำมะเขือเทศเป็นประจำแทนค่ะ คำตอบ: การรับประทานผักผลไม้ให้มีกากใยอาหารเพียงพอควรรับประทานมากกว่าหรือเท่ากับ 400 กรัมต่อวันค่ะ คือประมาณ ผัก 3 ทัพพีต่อวัน บวกกับผลไม้ 2 ส่วนต่อวัน (ผลไม้หนึ่งส่วน เท่ากับ กล้วย ส้ม ชมพู่ ประมาณ 1-2 ผล นอกนั้นก็ลองเทียบตามขนาดผลเอาค่ะ) และควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 1.5 - 2 ลิตรต่อวัน ที่สำคัญคือออกกำลังกายเป็นประจำสัปดาห์ละอย่างน้อย 3 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที เพื่อให้ลำไส้ มีการเคลื่อนไหวมากขึ้นทำให้การขับถ่ายง่ายขึ้นค่ะ หากปฏิบัติอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอแต่ยังมีอาการท้องผูกอยู่ อาจต้องสังเกตอาการอื่นด้วย เช่น ถ่ายปนมูกเลือด ท้องผูกสลับท้องเสียประจำ อุจจาระลำเล็กลง น้ำหนักลดลงผิดปกติ รับประทานแคลเซียมเสริมมากเกินไป อาจต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายเพิ่มเติมนะคะ - ตอบโดย Thitipon (MD) ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://www.honestdocs.co/tomato-how-to-drink-and-eat ขอขอยคุณข้อมูลจากอินเตอร์เนต สาขา Health Blog newyorknurse
Create Date : 03 สิงหาคม 2560
Last Update : 13 สิงหาคม 2560 9:08:34 น.
38 comments
Counter : 3880 Pageviews.
ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณSai Eeuu , คุณเนินน้ำ , คุณพันคม , คุณที่เห็นและเป็นมา , คุณวลีลักษณา , คุณกะว่าก๋า , คุณSweet_pills , คุณtuk-tuk@korat , คุณภาวิดา คนบ้านป่า , คุณClose To Heaven , คุณเกศสุริยง , คุณก้นกะลา , คุณปรัซซี่ , คุณสองแผ่นดิน , คุณกาปอมซ่า , คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน , คุณหอมกร , คุณ**mp5** , คุณRinsa Yoyolive , คุณชีริว , คุณInsignia_Museum , คุณPear_Plean , คุณอาจารย์สุวิมล , คุณmariabamboo , คุณสายหมอกและก้อนเมฆ
โดย: Sai Eeuu วันที่: 13 สิงหาคม 2560 เวลา:9:44:05 น.
โดย: เนินน้ำ วันที่: 13 สิงหาคม 2560 เวลา:10:14:54 น.
โดย: พันคม วันที่: 13 สิงหาคม 2560 เวลา:10:57:57 น.
โดย: วลีลักษณา วันที่: 13 สิงหาคม 2560 เวลา:16:12:26 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 สิงหาคม 2560 เวลา:19:23:31 น.
โดย: Sweet_pills วันที่: 14 สิงหาคม 2560 เวลา:0:02:46 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 สิงหาคม 2560 เวลา:6:22:52 น.
โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 14 สิงหาคม 2560 เวลา:12:07:16 น.
โดย: เกศสุริยง วันที่: 14 สิงหาคม 2560 เวลา:14:54:52 น.
โดย: ก้นกะลา วันที่: 14 สิงหาคม 2560 เวลา:16:01:29 น.
โดย: ปรัซซี่ วันที่: 14 สิงหาคม 2560 เวลา:19:14:56 น.
โดย: กาปอมซ่า วันที่: 15 สิงหาคม 2560 เวลา:20:25:10 น.
โดย: Sweet_pills วันที่: 15 สิงหาคม 2560 เวลา:21:57:56 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 สิงหาคม 2560 เวลา:6:16:46 น.
โดย: ON THE WAY with (MyEos50 ) วันที่: 16 สิงหาคม 2560 เวลา:11:16:33 น.
โดย: rachelangie วันที่: 17 สิงหาคม 2560 เวลา:15:31:45 น.
โดย: หอมกร วันที่: 17 สิงหาคม 2560 เวลา:16:21:07 น.
โดย: ก้นกะลา วันที่: 17 สิงหาคม 2560 เวลา:19:24:42 น.
โดย: ชีริว วันที่: 17 สิงหาคม 2560 เวลา:22:53:40 น.
โดย: Pear_Plean วันที่: 19 สิงหาคม 2560 เวลา:13:38:26 น.
โดย: sawkitty วันที่: 19 สิงหาคม 2560 เวลา:17:11:17 น.
โดย: ปรัซซี่ วันที่: 19 สิงหาคม 2560 เวลา:23:51:34 น.
โดย: mariabamboo วันที่: 20 สิงหาคม 2560 เวลา:6:30:31 น.
Location :
ราชบุรี .. New York ... United States
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [? ]
เริ่มเขียนBlog เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2553 ยินดีต้อนรับค่ะ จขบ.บันทึกประสบการณ์ต่างๆ ระยะเวลาทำงานและระยะเกษียณ เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำ ้ จขบ.พยายามใช้ชีวิตเกษียณให้มีคุณค่า รักษาสุขภาพใจและกาย ท่องเที่ยวกับเพื่อนๆ ทำสวนดอกไม้ ออกกำลังกาย สมัครเป็นสมาชิก 24 Hrs Fitness เพื่อให้ชีวิตที่เหลืออยู่มีคุณภาพ จะได้ไม่เป็นภาระกับคนที่รักและห่วงใย จขบ.เพิ่มบล็อกสุขภาพ เพื่อจะได้นำสาระที่มีประโยชน์ เกี่ยวกับสุขภาพทั่วๆไป จขบ.หวังว่าข้อมูลต่างๆช่วยให้ ทุกท่านที่มาอ่าน รักษาสุขภาพ ไปตรวจเพื่อเป็นการป้องกัน และได้รับการรักษาเนิ่นๆ เพื่อ ชีวิตที่แข็งแรงและมีคุณภาพ "A time to enjoy, a time to spend time with your family and a time to be with your friends all comes with retirement" ***** "Live The Moment" อยู่กับปัจจุบันขณะ หยุดเสียใจกับสิ่งที่เกิดขี้น ในอดีตและกลัวหรือกังวล สิ่งทีเกิดขี้นในอนาคต "วันนี้" และ "ขณะนี้" คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของคุณ !! ใช้มันให้ดีที่สุดให้เป็นช่วงเวลาทีมีคุณค่า น่าจดจำเพราะว่าเวลาเป็นสิ่งที่ผ่านมา และผ่านเลยไป เอาคืนไม่ได้และ หาเพิ่มก็ไม่ได้เช่นกัน ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ ********* ขอบคุณ Bloggang ทำให้เราได้เขียนบล็อกต่างๆ ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวด ทุกๆคะแนนค่ะ BG Popular Award # 18 BG Popular Award # 17 BG Popular Award # 16 BG Popular Award # 15 BG Popular Award # 14 BG Popular Award # 13 BG Popular Award # 12 BG Popular Award # 11 BG Popular Award # 10 BG Popular Award # 9 BG Popular Award # 8 ********** ขอบคุณทุกหัวใจวาเลนไทน์ 2561 ที่เพื่อนๆมอบให้ค่ะ ขอบคุณทุกหัวใจวาเลนไทน์ 2560 ที่เพื่อนๆมอบให้ค่ะ