ถามคุณหมอสันต์ - หมอเด็กที่รักษาลูกบอกว่าห้ามกินผลไม้มาก เพราะมีฟรุคโต้สซึ่งเป็นพิษ ?
ถามคุณหมอสันต์ หมอเด็กที่รักษาลูกบอกว่าห้ามกินผลไม้มาก เพราะมีฟรุคโต้สซึ่งเป็นพิษ ?
1
 cr: ภาพจากอินเตอร์เนต
 cr: ภาพจากอินเตอร์เนต
 cr: ภาพจากอินเตอร์เนต
Cr: นายแพทย์สันต์ ใจยอดศิลป์
เรียนคุณหมอที่เคารพ
กำลังสอนให้ลูกกินผลไม้มากๆแต่หมอเด็กที่รักษาลูกบอกว่าห้ามกินผลไม้มาก เพราะมีฟรุคโต้สซึ่งเป็นพิษ จะทำให้ป่วย หนูสงสัยว่าน้ำตาลเป็นของเลว กับเด็กจริงหรือ แล้วฟรุคโต้สเป็นพิษจริงหรือ แล้วถ้าเป็นพิษจริงก็ให้ เด็กกินผลไม้มากไม่ได้ใช่ไหมเพราะผลไม้ก็คือฟรุคโต้ส
ขอบพระคุณคะ
ตอบครับ
1.. ถามว่าน้ำตาลเลวต่อเด็กจริงหรือ ตอบว่าเลวจริงครับ งานวิจัยให้ผลชัดว่าน้ำตาลทำให้เด็กอ้วน อันนี้พิสูจน์แล้วแน่นอน และมีข้อมูลบ่งชี้ไปทางว่าเด็กกินน้ำตาลมากจะโตขึ้นเป็นโรคเรื้อรัง เช่นเบาหวาน และกลุ่มโรคที่เรียกว่าเมตาโบลิกซินโดรม
2.. ถามว่าน้ำตาลฟรุคโต้สเป็นพิษ น้ำตาลกลูโคสไม่เป็นพิษ จริงหรือ ตอบว่าจริงครับ เพราะน้ำตาลกลูโค้สนั้นเซลร่างกายทุกเซล ใช้ประโยชน์ได้หมด ขณะที่ฟรุ้คโต้สต้องใช้โดยตับเท่านั้น วิธีการใช้ของตับจะเปลี่ยนประมาณ 30% ของฟรุคโต้ส ไปเป็นไขมันผ่านกลไกที่เรียกว่า de novo lipogenesis ทำให้มีไขมันแทรกอยู่ในเนื้อตับ ทำให้เซลล์ตับดื้อต่ออินสุลิน กลายเป็นโรคเรื้อรังต่างๆ
3.. ถามว่าฟรุ้คโตสเป็นพิษ ผลไม่ก็มีฟรุ้คโตสจึงเป็นพิษด้วยใช่ไหม ตอบว่าไม่ใช่ครับ ตรงนี้สำคัญนะ ให้คุณตั้งใจอ่านให้ดี เพราะคำแนะนำ ของแพทย์บางครั้งก็ไปผิดทางเพราะแพทย์เองมีข้อจำกัดในเรื่อง ความรู้ความเข้าใจภาพใหญ่ของกลไกของร่างกาย เอาเป็นว่า คนอื่นใครเขาจะว่าอย่างไรคุณเก็บเอาไว้ก่อน ให้คุณตั้งใจอ่านตรงนี้ให้ดี 🍁🍁🍁🍁🍁
น้ำตาลมีโทษหรือประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร มันมีสี่ประเด็น คือ 💐💐💐💐💐
ประเด็นที่ 1. ปริมาณที่กิน ของทุกอย่างเช่นน้ำเป็นของมีคุณอนันต์ แต่ถ้ากินเข้าไปมากก็จะตายจากน้ำเป็นพิษ น้ำตาลก็เป็นของ ที่มีคุณอนันต์เพราะกลูโค้สเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกเซลล์ต้องใช้สร้างพลังงาน แต่ถ้ากินเข้าไปมากก็เกิดพิษให้ตายได้เช่นกัน
สมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่สองคนกินน้ำตาลเฉลี่ยคนละ 4 ปอนด์ต่อปี ทุกวันนี้กินเฉลี่ย 100 ปอนด์ต่อปี เพิ่มขึ้นมา 25 เท่า
น้ำตาลทรายประกอบด้วยกลูโค้สกับฟรุ้คโต้สอย่างละครึ่ง หากนับเฉพาะฟรุ้คโต้สซึ่งถือว่าเป็นส่วนที่เป็นพิษที่สุดของน้ำตาลทราย สมัยก่อนสงครามโลกคนกินฟรุคโต้สเฉลี่ย 12-15 กรัมต่อคนต่อวัน (ส่วนใหญ่ผ่านทางผลไม้) แต่ทุกวันนี้คนกินฟรุ้คโต้ส เฉลี่ย 78 กรัมต่อคนต่อวัน (ส่วนใหญ่ผ่านเครื่องดื่มและอาหารใส่น้ำตาล) คือการกินมากเกินไปเป็นปัญหา
ประเด็นที่สอง 💥การมีสารแก้พิษควบคู่มาด้วย อาหารธรรมชาติทุกอย่าง เมื่อธรรมชาติให้สารพิษมาก็จะให้สารแก้พิษมาด้วย เช่นน้ำตาลฟรุคโต้ส ในอาหารธรรมชาติก็คือผลไม้ 💥สารแก้พิษที่ธรรมชาติให้ควบคู่มาด้วยคือกาก (fiber) 💥 ดังนั้นถ้ากินผลไม้โดยไม่ทิ้งกากไม่ทิ้งเปลือก (ยกเว้นทุเรียนไม่ต้องกิน เปลือกก็ได้ หิ หิ) จะกินมากเท่าใดก็กินได้ไม่มีปัญหาเพราะกากเป็น ตัวดูดซับพิษฟรุคโต้สในปริมาณที่ธรรมชาติให้มาสมดุลกันดีแล้ว ยังไม่นับว่าผลไม้ให้วิตามินแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย แต่น้ำตาลทรายกับน้ำเชื่อม HFCS (high fructose corn syrup) มีแต่ฟรุ้ตโต้สบวกกลูโค้ส ลุ่นๆ โดยไม่มีกากเลย เท่ากับว่าให้สารพิษมาเต็มๆโดยไม่มีสารแก้พิษควบคู่มา แล้วให้มาคราวละมากกว่าปกติถึง 25 เท่า ก็ต้องเสร็จสิครับ ใช่ไหม
ประเด็นที่สาม การทำลายจุลินทรีย์ในลำไส้ น้ำตาลในขนาดเข้มข้น มีธรรมชาติเป็นยาฆ่าเชื้อ คือเป็นตัวทำลายจุลินทรีย์ในลำไส้ซึ่งจุลินทรีย์นี้เป็นของดีมีประโยชน์ การไปทำลายจุลินทรีย์นี้มีผลเสียต่อระบบของร่างกายอย่างมาก การจะป้องกันผลเสียนี้มีทางเดียวคือต้องมีกากจำนวนมาก มาดูดซับน้ำตาล แต่คนกินอาหารที่มีน้ำตาลมาก เช่นอาหารฟาสต์ฟู้ดนั้นไม่ได้กินกากเลย หรือกินน้อยมาก เพราะนิยามของอาหารฟาสตฟู้ดในสำนวนของนักโภชนาการคือ “Fiberless food” หรืออาหารปลอดกาก ฟาสต์ฟูดมีกากไม่ได้ เพราะมันจะเก็บไว้บนหิ้งได้ไม่นาน ดังนั้นน้ำตาลในฟาสต์ฟูด ก็คือยาฆ่าเชื้อดีๆนั่นเอง
ประเด็นที่สี่ 🔻ฟรุ้คโต้สกับกลูโค้ส พื้นฐานของโมเลกุล คาร์โบไฮเดรตในอาหารพืชทุกชนิดมีสองอย่าง 🔻คือ กลูโค้ส กับฟรุคโต้ส อาหารแป้งมีแต่กลูโค้สอย่างเดียวไม่มีฟรุคโต้ส แต่น้ำตาลมีทั้งกลูโค้สและฟรุคโต้ส 🔸ในระหว่างสองตัวนี้หลักฐานแน่ชัด แล้วว่าฟรุ้คโต้สนั้นหากมีมากจะเป็นพิษ 🔸ขณะที่กลูโค้สถึงมีมากก็ไม่เป็นพิษ กลไกการเป็นพิษของฟรุ้คโต้สนั้นออกจะซับซ้อนซึ่งผมคง ไม่มีเวลานั่งอธิบายให้คุณเข้าใจละเอียด 🔴 ขออธิบายแบบลวกๆว่ากลูโค้สเข้าไปแล้วทุกเซลล์เอาไปใช้ได้ (หากไม่มีภาวะดื้อต่ออินสุลิน) 🔴 ส่วนฟรุคโต้สคนใช้มีอวัยวะเดียวคือตับ ในการใช้ฟรุคโต้สของตับ ถ้ามีวัตถุดิบมากเกินไปฟรุ้คโต้สประมาณ 30% จะถูกตับเปลี่ยนเป็นไขมัน กลไกนี้เรียกว่า de novo lipogenesis ซึ่งเป็นช่องทาง บายพาสกลไกการเผาผลาญน้ำตาลปกติเอาฟรุคโต้สเหลือใช้ ไปเปลี่ยนเป็นไขมันซึ่งจะกลายต่อไปเป็นไตรกลีเซอไรด์ ที่ตรวจได้ในเลือด เอาไปเก็บไว้ตามเซลล์ไขมันทำให้อ้วน แต่ส่วนใหญ่จะถูกจับแทรกไว้ในตับนั่นแหละ กลายเป็นโรคไขมัน แทรกตับ ตับอักเสบจากไขมันแทรกตัว และทำให้เซลล์ตับดื้อต่ออินสุลิน ผลพลอยเสียจากการนี้คือได้กรดยูริกซึ่งมีฤทธิ์ระงับการผลิดก้าซ ไนตริกออกไซด์ (NO) ของเยื่อบุด้านในหลอดเลือดทำให้หลอดเลือด ทั่วร่างกายขยายตัวได้ยาก กลายเป็นความดันเลือดสูง ซึ่งเป็นกลไก การเกิดความดันเลือดสูงในผู้ป่วยที่เป็นโรคเมตาโบลิกซินโดรม
สรุปทั้งสี่ประเด็นว่า 🔶 ผลไม้ถ้าไม่ทิ้งกากนั้น กินมากเท่าไหร่ก็ได้ไม่มีปัญหา เพราะฟรุคโตสที่ได้มีปริมาณน้อยและถูกดูดซับพิษโดยกาก ในตัวผลไม้เองอย่างได้สัดส่วนกัน 🔻แต่น้ำตาลทรายก็ดี หรือน้ำเชื่อม HFCS ก็ดี มันคือยาพิษที่ไม่มีสารแก้พิษดีๆนี่เอง 🔻
4.. ข้อนี้คุณไม่ได้ถามแต่ผมแถมให้นะ คือประเด็นน้ำตาลทราย กับน้ำเชื่อม HFCS ว่าทั้งคู่มีดีมีเลวต่างกันอย่างไร ตอบว่ามันมีความเลว เหมือนกันในสองประเด็นคือ (1) มันต่างก็มาในปริมาณมากจึงทำให้ ร่างกายได้รับฟรุคโต้สแยะ แถม (2) มันไม่มีกากมาช่วยดูดซับเลย
เฉพาะตัวน้ำเชื่อม HFCS นั้นมันยังเลวกว่าน้ำตาลทรายอีก ในสามประเด็น คือ (1) มันหวานมากกว่า คือ 120 ต่อ 100 ความหวาน ทำให้กินแล้วติด (2) มันมีฟรุ้คโต้สเป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูงกว่าด้วยลูกเล่นทางอุตสาหกรรม ทำให้ได้พิษมากขึ้น (3) มันมีราคาถูกกว่า คือแค่ 50% ของราคาน้ำตาลทราย ทำให้คนเอา มาใส่อาหารแทนน้ำตาลทรายอย่างกว้างขวางเพราะผลิตอาหารสำเร็จรูป ได้ราคาถูกจนซื้อง่ายขายคล่องและกินกันระเบิดเถิดเทิง
5. แถมอีกข้อหนึ่ง 🔶แล้วถ้าเปรียบเทียบระหว่างน้ำตาลกับแป้งละ อย่างไหนเลวกว่ากัน 🔶 ตอบว่าน้ำตาลเลวกว่าอย่างเทียบกันไม่ได้ แป้งนั้นให้แต่กลูโค้สซึ่งไม่มีพิษอะไร แต่ถ้ามากเกินไปก็มีผลเสียตรงที่ (1) ทำให้อ้วน และ (2) เป็นตัวฆ่าจุลินทรีย์ในลำไส้เช่นกัน
แต่แป้งกลับจะกลายเป็นแหล่งอาหารให้พลังงานที่ดีที่สุดหาก เป็นแป้งชนิดไม่ขัดสี เพราะมีกากมาด้วยซึ่งมีประโยชน์ในแง่ที่ (1) ใช้เป็นอาหารของจุลินทรีย์และ (2) ใช้ดูดซับไม่ให้น้ำตาลในความเข้มข้นสูงไปทำลายจุลินทรีย์ในลำไส้ได้ (3) ลดการดูดซึมไขมันโคเลสเตอรอลจากอาหารอื่นที่กินเข้าไปพร้อมกันด้วย
ดังนั้นหากผอมแห้งแรงน้อยขาดอาหารให้พลังงาน ผมแนะนำให้กินแป้ง ชนิดไม่ขัดสีเช่นข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต พวกหัวใต้ดินต่างๆแยะๆ กินจนน้ำหนักขึ้นมาปกติและแข็งแรงพอเริ่มออกกำลังกายได้ รับประกัน มีแต่ได้ ไม่มีเสีย เป็นคนผอมแห้งเป็นปลาเค็มอยู่แล้วอย่าไปทำตัว เป็นคน low carb โน่นก็กินไม่ได้นี่ก็กินไม่ได้ คนอ้วนเขาทำตัวแบบนั้นได้เพราะเขามีพลังงานสำรองแยะ นั่นเรื่องของเขา แต่เราเป็นคนผอมสิ่งแรกที่ต้องทำคือ ต้องกินอาหารให้พลังงานจนร่างกายได้พลังงานมากพอใช้ก่อน การสร้างมวลกล้ามเนื้อให้หายผอมจึงจะเกิดขึ้นได้
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์ Health Blog newyorknurse
Create Date : 28 ตุลาคม 2565 |
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2565 21:52:10 น. |
|
0 comments
|
Counter : 573 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
|
|
Location :
ราชบุรี .. New York ... United States
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 165 คน [?]

|
เริ่มเขียนBlog เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2553
ยินดีต้อนรับค่ะ
จขบ.บันทึกประสบการณ์ต่างๆ ระยะเวลาทำงานและระยะเกษียณ เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำ ้ จขบ.พยายามใช้ชีวิตเกษียณให้มีคุณค่า รักษาสุขภาพใจและกาย ท่องเที่ยวกับเพื่อนๆ ทำสวนดอกไม้ ออกกำลังกาย สมัครเป็นสมาชิก 24 Hrs Fitness เพื่อให้ชีวิตที่เหลืออยู่มีคุณภาพ จะได้ไม่เป็นภาระกับคนที่รักและห่วงใย
จขบ.เพิ่มบล็อกสุขภาพ เพื่อจะได้นำสาระที่มีประโยชน์ เกี่ยวกับสุขภาพทั่วๆไป
จขบ.หวังว่าข้อมูลต่างๆช่วยให้ ทุกท่านที่มาอ่าน รักษาสุขภาพ ไปตรวจเพื่อเป็นการป้องกัน และได้รับการรักษาเนิ่นๆ เพื่อ ชีวิตที่แข็งแรงและมีคุณภาพ
"A time to enjoy, a time to spend time with your family and a time to be with your friends all comes with retirement"
*****
"Live The Moment"
อยู่กับปัจจุบันขณะ หยุดเสียใจกับสิ่งที่เกิดขี้น ในอดีตและกลัวหรือกังวล สิ่งทีเกิดขี้นในอนาคต "วันนี้" และ "ขณะนี้" คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของคุณ !! ใช้มันให้ดีที่สุดให้เป็นช่วงเวลาทีมีคุณค่า น่าจดจำเพราะว่าเวลาเป็นสิ่งที่ผ่านมา และผ่านเลยไป เอาคืนไม่ได้และ หาเพิ่มก็ไม่ได้เช่นกัน
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ
*********
ขอบคุณ Bloggang ทำให้เราได้เขียนบล็อกต่างๆ ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวด ทุกๆคะแนน นะคะ
BG Popular Award # 20
BG Popular Award # 19
BG Popular Award # 18
BG Popular Award # 17
BG Popular Award # 16
BG Popular Award # 15
BG Popular Award # 14
BG Popular Award # 13
BG Popular Award # 12
BG Popular Award # 11
BG Popular Award # 10
BG Popular Award # 9
BG Popular Award # 8
**********
 ขอบคุณทุกหัวใจวาเลนไทน์ 2561 ที่เพื่อนๆมอบให้ค่ะ
 ขอบคุณทุกหัวใจวาเลนไทน์ 2560 ที่เพื่อนๆมอบให้ค่ะ
|
|
| |