เมลาโทนิน ต้านอัลไซเมอร์
เมลาโทนิน ต้านอัลไซเมอร์ ความหวังอันน่าตื่นเต้นสว่างวาบ เมื่อนักวิทยาศาสตร์ชั้นแนวหน้าของไทย ค้นพบ เมลาโทนิน (melatonin) ที่สามารถยับยั้งโปรตีนพิษในสมองผู้ป่วยอัลไซเมอร์ได้ โดยพบว่าสามารถสร้างเซลล์สมองให้ฟื้นคืนได้ พร้อมสรรพคุณรักษาโรคทางระบบประสาท เช่น อัลไซเมอร์ พาร์กินสัน และโรคสมองเสื่อมที่พบในผู้สูงอายุและผู้ติดยาเสพติด นำไปสู่ข้อมูลในการพัฒนายาเพื่อรักษาโรคทางระบบประสาทและสมองในอนาคตอันใกล้ VIDEO เก๋าไม่แก่ Published on Oct 10, 2018 สกว. ตอน5 งานวิจัย เมลาโทนิน และปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อการชราภาพของสมอง และโรคอัลไซเมอร์(งานวิจัยต้านอัลไซเมอร์) ออกอากศวันที่ 31-08-61 https://www.youtube.com/watch?v=4PXQ_uYpniE&feature=youtu.be ตอนที่ 5 เมลาโทนิน ต้านอัลไซเมอร์ ************ ลาโทนิน (Melatonin) คืออะไร? อัปเดตล่าสุดเมื่อวันที่ ส.ค. 26, 2018 ประมาณเวลาการอ่าน: 7 นาที แชร์บทความนี้ Facebook เมลาโทนิน รู้จักในอีกชื่อนึงว่า "ฮอร์โมนแดคคิวล่า" เพราะถูกหลั่งออกมาเฉพาะในเวลากลางคืน เมลโทนิน (Melatonin) เป็นฮอร์โมนที่สร้างมาจากต่อมไพเนียลที่อยู่ในบริเวณส่วนกลางของสมอง ในช่วงเวลากลางวันต่อมไพเนียลจะไม่ได้ทำงาน แต่เมื่อถึงเวลากลางคืน ต่อมไพเนียลจะทำการหลั่งเมลาโทนินออกมาสู่กระแสเลือดทำให้ร่างกายรู้สึกง่วง ตามที่ National sleep foundation กล่าว ระดับของเมลาโทนินจะคงอยู่ในกระแสเลือดของเราเป็นเวลา 12 ชั่วโมงแล้วจะค่อยๆ ลดลงพร้อมกับการกลับมาของแสงอาทิตย์ หากคุณได้รับแสงสว่างในเวลากลางคืนหรือได้รับแสงไม่เพียงพอในเวลากลางวัน จะมีผลให้วัฎจักรของเมลาโทนินไม่สมดุลและอาจจะทำให้การหลั่งเมลาโทนินผิดปกติ ซึ่งระหว่างการทำงานวิจัยเพิ่มเติม มีนักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มเชื่อว่า ระดับเมลาโทนินจะลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้นของเรา ในกรณีนี้ สามารถอธิบายได้ว่าทำไมคนสูงอายุถึงนอนไวและตื่นเช้ากว่าในตอนที่เป็นเด็ก หน้าที่อื่นๆ ของเมลาโทนิน ช่วยในการควบคุมวงจรการสืบพันธุ์ของเพศหญิง เช่น ช่วงเวลาที่มีประจำเดือนและช่วงเริ่มต้นเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งบางข้อมูล กล่าวว่า เมลาโตนินนั้นช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายนั้นแข็งแรงมากขึ้น อาหารเสริมเมลาโทนิน ในประเทศสหรัฐอเมริกา อาหารเสริมเมลาโตนินจากการสังเคราะห์ขึ้นเป็นฮอร์โมนเสริมชนิดเดียวที่สามารถจำหน่ายได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์ แต่เช่นเดียวกับอาหารเสริมชนิดอื่น อาหารเสริมเมลาโทนินนั้นยังไม่ได้รับการยืนยันในด้านความปลอดภัยและในด้านประสิทธิภาพการทำงานจากองค์กรอาหารและยา หากคุณคิดจะใช้เมลาโทนินเสริม ควรจะปรึกษาแพทย์ก่อน ปัจจุบันยังคงมีการทำงานวิจัยถึงผลลัพธ์จากการใช้อาหารเสริมเมลาโตนิน ซึ่งบางงานวิจัยกล่าวถึงโรคดังต่อไปนี้ที่สามารถช่วยในการรักษาได้ ดังนี้ โรคนอนไม่หลับ โรคหัวใจ ภาวะถอนยา Benzodiazepine มะเร็งเต้านม ภาวะหมดประจำเดือน มะเร็งต่อมลูกหมาก โรคสมาธิสั้น โรคออทิสติก อาการปวดกล้ามเนื้อ เอ็น และเนื้อเยื่ออ่อน อาการผิวหนังไหม้จากการโดนแดด โรคลำไส้แปรปรวน Irritable bowel syndrome (IBS) โรคลมชัก โรคซาคอยโดซิส Sarcoidosis ปัญหาการสืบพันธุ์ ปัญหาการย่อยอาหาร อาการปวด ข้อควรรู้ก่อนทานฮอร์โมนเมลาโทนิน หากคุณกำลังคิดอยากจะลองทานฮอร์โมนเมลาโทนินเพื่อช่วยให้หลับง่ายขึ้นล่ะก็ ลองดูข้อมูลดังต่อไปนี้ก่อนว่าฮอร์โมนที่ว่านั้นช่วยให้หลับได้จริงหรือมีผลข้างเคียงหรือไม่ เมลาโทนิน: ฮอร์โมนธรรมชาติ การที่เราสามารถนอนหลับได้เป็นปกติในตอนกลางคือนั้นสำคัญมากต่อสุขภาพ แต่ถ้าหากคุณต้องต่อสู้กับอาการนอนไม่หลับอยู่ทุกๆ คืน คุณอาจกำลังต้องการรับฮอร์โมนเมลาโทนินเพื่อช่วยให้คุณหลับง่ายขึ้น คุณรู้หรือไม่ว่าจริงๆ แล้วร่างกายของเราผลิตฮอร์โมนเมลาโทนินออกมากอยู่แล้ว ซึ่งฮอร์โมนดังกล่าวถือเป็นฮอร์โมนธรรมชาติที่ร่างกายของมนุษย์ผลิตขึ้นมาโดยต่อมไพเนียลที่มีขนาดเล็กเท่าเมล็ดข้าวและมีตำแหน่งอยู่บริเวณกลางสมอง ซึ่งในช่วงระหว่างวันต่อมไพเนียลจะไม่ทำงานและจะตรวจพบฮอร์โมนดังกล่าวได้น้อยมาก แต่เมื่อถึงเวลากลางคืนต่อมไพเนียลจะเปิดสวิตช์ทำงานและเริ่มผลิตฮอร์โมนเมลาโทนิน โดยพบว่าฮอร์โมนเมลาโทนนินจะเริ่มทำงานประมาณสามทุ่ม ส่งผลให้ระดับฮอร์โมนในเลือดเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้เรารู้สึกง่วงนอนนั่นเอง ฮอร์โมนดังกล่าวจะทำงานประมาณ 12 ชั่วโมงในแต่ละวัน และจะหยุดทำงานก่อนที่เช้าวันใหม่จะเริ่มขึ้นและระดับฮอร์โมนจะลดต่ำลง การรับฮอร์โมนเมลาโทนินไม่ได้เป็นการรักษาอาการนอนไม่หลับ ในขณะที่ฮอร์โมนเมลาโทนินอาจถูกนำมาใช้เพื่อช่วยแก้ปัญหาเรื่องการนอนไม่หลับ แต่ทว่าฮอร์โมนดังกล่าวไม่สามารถนำมารักษาโรคนอนไม่หลับได้ มันจะเพียงตัวช่วยกระตุ้นให้คุณสามารถหลับง่ายขึ้นเท่านั้น แต่จะไม่ได้ช่วยให้คุณหลับยาวขึ้นแต่อย่างใด ดังนั้นฮอร์โมนนี้จึงถูกนำมาใช้กับผู้ที่มีอาการอ่อนเพลียจากการเดินทางด้วยเครื่องบินเป็นเวลานาน (Jet Lag), ผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าเฉพาะฤดูกาล (SAD), เพื่อควบคุมเวลาการนอนหลับของผู้ที่ทำงานกะกลางคืน,เพื่อป้องกันหรือลดปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับของผู้ป่วยหลังผ่าตัด และเพื่อช่วยลดอาการปวดศีรษะแบบเรื้อรัง หากร่างกายของคุณตอบสนองอย่างดีต่อฮอร์โมนเมลาโทนิน คุณจึงไม่จำเป็นต้องรับฮอร์โมนดังกล่าวอย่างต่อเนื่องแต่อย่างใดและจะไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงตามมาด้วย เพราะหากคุณใช้ฮอร์โมนนี้มากหรือนานเกินไปอาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ เพราะทำให้ร่างกายดื้อต่อฮอร์โมนและต้องรับในปริมาณที่มากขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อร่างกายดื้อต่อฮอร์โมนมากๆ เข้า จะทำให้คุณนอนหลับยากขึ้นกว่าเดิม สิ่งที่คุณเห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่คุณจะได้เสมอไป หลายคนที่มีปัญหาในการนอนหลับมีการใช้ฮอร์โมนเมลาโทนินที่หาซื้อได้ตามร้านขายยาโดยที่ไม่ต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์ เนื่องจากฮอร์โมนดังกล่าวเป็นฮอร์โมนธรรมชาติที่ไม่ได้มีอันตรายร้ายแรง ดังนั้นคุณสามารถหาซื้อในปริมาณที่มากได้ แต่ฮอร์โมนที่ซื้อมาคุณไม่มีทางทราบได้เลยว่ามีส่วนประกอบของสารอื่นๆ ด้วยหรือไม่ ซึ่งอาจเป็นสารที่ทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ นอกจากนี้ การใช้ฮอร์โมนในปริมาณ 0.3 หรือ 0.5 มก. ในเวลากลางคืนจะช่วยกระตุ้นการนอนหลับ แต่ถ้าใช้ในปริมาณที่สูงขึ้นจะทำให้คุณรู้สึกง่วงนอนในเวลากลางวัน มีอาการมึนงง สมรรถภาพทางด้านร่างกายลดลง และเป็นสาเหตุให้อุณหภูมิของร่างกายลดลง เนื่องจากฮอร์โมนเมลาโทนินไม่ได้ถูกวางข้อกำหนดของการใช้ไว้อย่างชัดเจน ปริมาณที่วางขายในท้องตลาดจึงมีอยู่หลากหลาย จากผลการศึกษาพบว่า ฮอร์โมนเมลาโทนินที่มาในรูปแบบของอาหารเสริมมักมีปริมาณที่แตกต่างกันออกไป อย่างไรก็ตาม การทานอาหารเสริมเหล่านี้อาจเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดอาการแพ้ได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับส่วนประกอบในตัวอาหารเสริมนั้นๆ ด้วย ปริมาณการใช้ฮอร์โมนเมลาโทนินที่ถูกละเลย เนื่องจากฮอร์โมนเมลาโทนินเป็นยาที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาโดยไม่ต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์ การจำหน่ายจึงมีหลากหลายปริมาณ ดังนั้นคุณจึงไม่สามารถทราบได้ว่าปริมาณเท่าไดจึงจะเหมาะกับการใช้ในผู้ป่วยที่เป็นโรคนอนไม่หลับหรือมีปัญหาการนอนหลับ ดังนั้นผู้ป่วยจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อรับคำแนะนำเกี่ยวกับปริมาณฮอร์โมนที่เหมาะสม แล้วจึงหามาใช้เองได้ โดยควรเลือกยาที่ผลิตจากแล็ปที่น่าเชื่อถือและผลิตจากฮอร์โมนมนุษย์ ไม่ใช่ฮอร์โมนจากสัตว์เพราะอาจมีสิ่งเจือปนและเป็นอันตรายได้ และหากคุณทานยาดังกล่าวแล้วเกิดอาการแพ้ ควรหยุดยานั้นทันทีและรีบพบแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้อง ยังไม่มีใครทราบได้ถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น หากเราใช้ฮอร์โมนเมลาโทนินในระยะสั้นๆ อาจไม่มีผลข้างเคียงใดๆ และถือว่าปลอดภัย แต่บางคนเกิดผลข้างเคียงจากการใช้ฮอร์โมน คือ ปวดหัว มีภาวะฝันร้าย มีอาการมึนงงจากการใช้ยาเมื่อตื่นนอน อย่างไรก็ตาม ยังไม่พบการศึกษาที่ชัดเจนว่าผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากการใช้ฮอร์โมนในระยะยาวเป็นอย่างไร เนื่องจากการศึกษาวิจัยส่วนใหญ่เกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ และผลข้างเคียงที่ศึกษาพบคือ อาการตัวเย็น ปวดตามข้อ ท้องร่วง การติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน และปวดศีรษะ เป็นต้น การใช้ฮอร์โมนเมลาโทนินอาจเป็นอันตรายได้กับวัยแรกรุ่น เนื่องจากฮอร์โมนเมลาโทนินจะทำงานในหลายส่วนของร่างกายและสมอง รวมไปถึงกับต่อมใต้สมองซึ่งเกี่ยวเนื่องโดยตรงกับพัฒนาการในวัยแรกรุ่น ผู้เชี่ยวชาญเตือนผู้ปกครองให้ปรึกษากุมารแพทย์เกี่ยวกับปัญหาการนอนก่อนให้บุตรหลานรับฮอร์โมนดังกล่าว เนื่องจาก โดยปกติแล้วฮอร์โมนเมลาโทนินจะมีปริมาณลดลงตามธรรมชาติในช่วงวัยแรกรุ่นและการใช้ฮอร์โมนกับเด็กวัยนี้โดยไม่ควบคุมดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอาจทำให้เกิดอันตรายได้ ดังนั้นผู้ปกครองควรหันมาให้ความสำคัญกับสาเหตุของอาการนอนไม่หลับของเด็กและพยายามขจัดปัจจัยที่อาจเป็นสาเหตุนั้นๆ มากกว่า โดยฮอร์โมนเมลาโทนินถือว่าปลอดภัยและมักถูกใช้กับเด็กที่มีความผิดปกติทางด้านการสื่อสารและอารมณ์ (Autism) มากกว่าอย่างไรก็ตาม จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้กครองต้องปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะให้บุตรหลานรับฮอร์โมนใดๆ เข้าสู่ร่างกาย การใช้ฮอร์โมนไม่ใช่ทางออกเพียงทางเดียวในการแก้ปัญหาการนอนหลับ ก่อนที่จะเริ่มใช้ฮอร์โมนหรืออาหารเสริมใดๆ เพื่อแก้ปัญหาการนอนหลับ คุณควรพิจารณาก่อนว่าอาจมีวิธีการแก้ปัญหาอื่นๆ ด้วยเช่นกัน มีการรักษาต่างๆ เพื่อช่วยให้คุณนอนหลับได้อย่างปกติ โดยผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้เข้านอนในเวลาเดียวกันทุกคืน งดใช้อุปกรณ์ที่ให้กำเนิดแสงสีฟ้าก่อนเข้านอน เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็ปเลต โทรทัศน์ เป็นต้น และหลีกเลี่ยงการนอนงีบช่วงบ่ายหรือตอนเย็น นอกจากนี้ คุณอาจลองรักษาด้วยวิธีการธรรมชาติ ด้วยการจิบชาคาโมมายล์ หรือทานสมุนไพรจากรากของต้นวาเลอเรียน เป็นต้น อ้างอิงข้อมูลจาก https://www.rd.com/health/cond... เมลาโทนินฮอร์โมน อ่านข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับเมลาโทนิน ฮอร์โมนที่มีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระนี้คืออะไร ทำหน้าที่อะไรในร่างกาย คำแนะนำสำหรับการรับประทานเป็นอาหารและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เคล็ดลับและข้อควรระวังน่ารู้ สามารถอ่านต่อได้ที่นี่ ฮอร์โมนที่มีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระนี้ ผลิตโดยต่อมไพเนียล ในสมองขณะที่เรานอนหลับพักผ่อนมีหน้าที่ช่วยในการรักษาจังหวะเวลาชีวิตให้สอดคล้องกับธรรมชาติ ด้วยหน้าที่หลักของมันคือการควบคุมนาฬิกาชีวิตภายในร่างกายของเรา (วงจรการนอนหลับและการตื่น) ผมจึงพบว่า มันได้ผลมากในการรักษาอาการเจ็ตแล็ก (อาการนอนไม่หลับเมื่อต้องเดินทางเปลี่ยนสถานที่ซึ่งอยู่ต่างเขตเวลากัน) และอาการนอนไม่หลับ เมื่อเราอายุมากขึ้น ระดับของเมลาโทนินจะลดลง การรับประทานเมลาโทนินเสริมอาจช่วยชะลอกระบวนการชรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการป้องกันเซลล์สมองจากการทำลายโดยปฏิกิริยาออกซิเดชัน ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคต่างๆ รวมถึงโรคอัลไซเมอร์ เมลาโทนินยังช่วยลดอาการปวดศีรษะคลัสเตอร์ และช่วยเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน โดยการกระตุ้นเซลล์ที่ทำหน้าที่ต้านเซลล์มะเร็ง จึงช่วยหยุดการแพร่กระจายของมะเร็งได้ คำแนะนำสำหรับการรับประทานเป็นอาหารและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร: เมลาโทนินพบในอาหารเช่นมะเขือเทศ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงได้รับการวางจำหน่ายเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ไม่ใช่ยา แม้ว่าแท้จริงแล้วมันจะเป็นฮอร์โมนก็ตาม คำแนะนำของผมสำหรับการรับประทานเพื่อป้องกันอาการเจ็ตแล็กคือ 1-3 มก. (ในรูปที่ใช้อมใต้ลิ้น) ปล่อยให้ละลายใต้ลิ้นครึ่งชั่วโมง ก่อนเวลาที่คุณต้องการจะนอนในสถานที่ที่คุณเดินทางไป หากคุณรับประทานในรูปอัดเม็ดหรือแคปซูล ซึ่งทำงานได้ไม่เร็วนัก ผมแนะนำให้รับประทาน 1-3 มก. หนึ่งชั่วโมงครึ่งก่อนเวลาที่คุณต้องการจะนอน สำหรับอาการนอนไม่หลับ แนะนำขนาด 1-5 มก. ก่อนเข้านอน (เริ่มที่ 1 มก. และค่อยๆ เพิ่มหากจำเป็น ไม่ควรเกินกว่า 5 มก.) ในการรับประทานเพื่อชะลอความชรา ผมแนะนำ 0.5-1 มก. (ในรูปที่ใช้อมใต้ลิ้น) ก่อนเข้านอน เคล็ดลับ: หากคุณติดนิสัยชอบหาอะไรรองท้องก่อนนอน กล้วยก็เป็นทางเลือกที่ดี เพราะมันช่วยเพิ่มการสร้างเมลาโทนินในร่างกายได้ ยาบางตัว รวมถึงยาแก้ปวดในกลุ่ม NSAIDS ซึ่งมีขายทั่วไป มีผลลดการสร้างเมลาโทนินของสมอง แอสไพรินขนาดมาตรฐานเพียงหนึ่งเม็ด สามารถลดการสร้างเมลาโทนินลงได้มากถึงร้อยละ 75 หากคุณรับประทานยาเหล่านี้ พยายามรับประทานยามื้อสุดท้ายหลังอาหารมื้อเย็น ยาอื่นที่มีผลยับยั้งการสร้างเมลาโทนินของสมอง เช่น ยานอนหลับพวกแวเลียมและซาแนกซ์ กาเฟอีน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาแก้หวัด ยาขับปัสสาวะ ยาลดความดัน กลุ่มบีตาบล็อกเกอร์ หรือแคลเซียมแชนแนลบล็อกเกอร์ ยาลดความอ้วนและสเตียรอยด์ เช่น เพรดนิโซน ข้อควรระวัง: เมลาโทนินอาจทำให้คุณรู้สึกง่วงมาก และควรรับประทานก่อนจะเข้านอน ไม่ควรขับรถหรือทำงานกับเครื่องจักรหลังจากรับประทานเข้าไป หากคุณรับประทานยาอื่นเป็นประจำ มีโรคประจำตัว กำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร เป็นเบาหวาน มีปัญหาฮอร์โมนไม่สมดุลจากโรคอื่น หรืออยู่ในวัยหมดประจำเดือนและกำลังรับฮอร์โมนทดแทน คุณไม่ควรรับประทานเมลาโทนินก่อนปรึกษาแพทย์ประจำตัว และเนื่องจากเมลาโทนินอาจกระตุ้นภูมิคุ้มกันของคุณมากเกินไปได้ ผู้ที่ป่วยเป็นโรคภูมิคุ้มกันต่อต้านร่างกายตัวเอง หรือรับประทานยากดภูมิคุ้มกันอยู่ ไม่ควรรับประทานเมลาโทนินเด็ดขาด! หากคุณเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์และอยากอ่านเกี่ยวกับหัวข้อนี้เพิ่มเติม สามารถสนับสนุน ดร.เอิร์ล มินเดลล์ (ผู้แต่ง) พญ. ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล (แปล) ได้โดยการซื้อหนังสือวิตามินไบเบิล ข้อมูลจาก https://www.honestdocs.co/melatonin สาขา Health BLog newyorknurse
Create Date : 21 ตุลาคม 2561
Last Update : 25 ตุลาคม 2561 8:23:17 น.
13 comments
Counter : 2433 Pageviews.
ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณเนินน้ำ , คุณโอน่าจอมซ่าส์ , คุณวลีลักษณา , คุณภาวิดา คนบ้านป่า , คุณSweet_pills , คุณเริงฤดีนะ , คุณหอมกร , คุณฟ้าใสวันใหม่ , คุณInsignia_Museum , คุณก้นกะลา , คุณสองแผ่นดิน , คุณhaiku , คุณอาจารย์สุวิมล , คุณRananrin , คุณคนผ่านทางมาเจอ , คุณALDI , คุณJinnyTent
โดย: เนินน้ำ วันที่: 25 ตุลาคม 2561 เวลา:17:25:17 น.
โดย: วลีลักษณา วันที่: 25 ตุลาคม 2561 เวลา:19:16:38 น.
โดย: Sweet_pills วันที่: 26 ตุลาคม 2561 เวลา:0:44:40 น.
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 26 ตุลาคม 2561 เวลา:6:50:42 น.
โดย: หอมกร วันที่: 26 ตุลาคม 2561 เวลา:9:10:09 น.
โดย: ก้นกะลา วันที่: 26 ตุลาคม 2561 เวลา:22:05:56 น.
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 27 ตุลาคม 2561 เวลา:0:09:42 น.
โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 27 ตุลาคม 2561 เวลา:14:30:34 น.
โดย: ALDI วันที่: 27 ตุลาคม 2561 เวลา:15:37:46 น.
โดย: JinnyTent วันที่: 27 ตุลาคม 2561 เวลา:19:11:03 น.
Location :
ราชบุรี .. New York ... United States
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 165 คน [? ]
เริ่มเขียนBlog เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2553 ยินดีต้อนรับค่ะ จขบ.บันทึกประสบการณ์ต่างๆ ระยะเวลาทำงานและระยะเกษียณ เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำ ้ จขบ.พยายามใช้ชีวิตเกษียณให้มีคุณค่า รักษาสุขภาพใจและกาย ท่องเที่ยวกับเพื่อนๆ ทำสวนดอกไม้ ออกกำลังกาย สมัครเป็นสมาชิก 24 Hrs Fitness เพื่อให้ชีวิตที่เหลืออยู่มีคุณภาพ จะได้ไม่เป็นภาระกับคนที่รักและห่วงใย จขบ.เพิ่มบล็อกสุขภาพ เพื่อจะได้นำสาระที่มีประโยชน์ เกี่ยวกับสุขภาพทั่วๆไป จขบ.หวังว่าข้อมูลต่างๆช่วยให้ ทุกท่านที่มาอ่าน รักษาสุขภาพ ไปตรวจเพื่อเป็นการป้องกัน และได้รับการรักษาเนิ่นๆ เพื่อ ชีวิตที่แข็งแรงและมีคุณภาพ "A time to enjoy, a time to spend time with your family and a time to be with your friends all comes with retirement" ***** "Live The Moment" อยู่กับปัจจุบันขณะ หยุดเสียใจกับสิ่งที่เกิดขี้น ในอดีตและกลัวหรือกังวล สิ่งทีเกิดขี้นในอนาคต "วันนี้" และ "ขณะนี้" คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของคุณ !! ใช้มันให้ดีที่สุดให้เป็นช่วงเวลาทีมีคุณค่า น่าจดจำเพราะว่าเวลาเป็นสิ่งที่ผ่านมา และผ่านเลยไป เอาคืนไม่ได้และ หาเพิ่มก็ไม่ได้เช่นกัน ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ ********* ขอบคุณ Bloggang ทำให้เราได้เขียนบล็อกต่างๆ ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวด ทุกๆคะแนน นะคะ BG Popular Award # 19 BG Popular Award # 18 BG Popular Award # 17 BG Popular Award # 16 BG Popular Award # 15 BG Popular Award # 14 BG Popular Award # 13 BG Popular Award # 12 BG Popular Award # 11 BG Popular Award # 10 BG Popular Award # 9 BG Popular Award # 8 ********** ขอบคุณทุกหัวใจวาเลนไทน์ 2561 ที่เพื่อนๆมอบให้ค่ะ ขอบคุณทุกหัวใจวาเลนไทน์ 2560 ที่เพื่อนๆมอบให้ค่ะ