แต่มีเงื่อนไขว่าวัตถุดิบในเมนูนั้นต้องมีสีเหลืองอย่างน้อย 1 อย่าง
ได้โจทย์ปุ๊บรีบไปรื้อค้นคลังแสงล้วงไหทองคำในทันใด
มีอยู่หลายเมนูที่ตรงกับโจทย์ที่ได้มา แต่สุดท้ายเราเลือกทำเมนูใหม่ ทั้งคาวและหวาน
"ข้าวอบสับปะรด" และ "ขนมทองเอก"
ข้าวอบสับปะรดวันนี้เราปรับเปลี่ยนวัตถุดิบที่ใส่ในข้าวอบตามที่มีอยู่แต่ก็ยังอร่อยเหมือนเดิม
และเลือกใช้สับปะรดศรีราชาเพราะมีรสหวานอมเปรี้ยว เส้นใยไม่เยอะ เคี้ยวง่าย
อบแล้วได้กลิ่นหอมของสับปะรดกับเนยชวนให้รับประทานยิ่งขึ้นค่ะ
"ข้าวอบสับปะรด"
สับปะรดศรีราชา 1 ลูก
ข้าวสวย 2 ถ้วย
กุนเชียงหมูหรือไก่ ปริมาณตามชอบ
แฮมไก่หรือเนื้อไก่ ปริมาณตามชอบ
หอมใหญ่ 1/4 หัว
เนยสดจืด 2 ช้อนโต๊ะ
ลูกเกด แต่เราใช้แครนเบอรี่ 2 ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
พริกไทย 1 ช้อนชา
หมูหยอง สำหรับโรยหน้า
ผักชี สำหรับโรยหน้า
** สำหรับ 2 ที่ **
1. ผ่าสับปะรดตามยาวลูกเป็นสองส่วนเท่า ๆ กัน คว้านเนื้อออกทั้งสองซีก
นำเนื้อมาหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า ตวงให้ได้ 1 ถ้วย
เนื้อส่วนที่เหลือคั้นเอาแต่น้ำประมาณ 1/2 ถ้วย เตรียมไว้
กุนเชียงหั่นชิ้น ไก่และหอมใหญ่หั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า แครนเบอรี่แช่น้ำให้นิ่มบีบน้ำออก เตรียมไว้
2. ตั้งกระทะใส่เนย พอร้อนใส่หอมหัวใหญ่ลงไปผัดพอสุกมีกลิ่นหอม
จากนั้นใส่กุนเชียงและไก่ลงไปผัดพอสุก
3. ใส่สับปะรดลงไปผัด พอส่วนผสมแห้งใส่ข้าวลงไป ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส น้ำตาล และพริกไทย
ผัดให้เข้ากัน เติมน้ำสับปะรดที่คั้นไว้ลงไป ผัดต่อจนส่วนผสมเริ่มแห้ง
ใส่แครนเบอรี่ลงไป ผัดพอเข้ากัน
4. ตักข้าวผัดใส่ลงในสับปะรดที่เตรียมไว้ นำไปอบด้วยไฟบน ล่างที่อุณหภูมิ
180 องศาเซลเซียส ประมาณ 15 นาที จนกระทั่งมีกลิ่นหอมและข้าวแห้งขึ้น
5. นำออกมาโรยหน้าด้วยหมูหยองและผักชี
พร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ
ส่วนขนมทองเอกนอกจากขนมที่ออกมาจะสีเหลืองทองแล้ว ยังมีแปะทองด้วยนะ 
เป็นขนมที่ความหมายแสดงความเป็นหนึ่งและเป็นที่สุด มักให้เพื่อเป็นการแสดงความยินดีแก่ผู้รับ
เพื่ออวยพรให้เป็นที่หนึ่งในด้านต่าง ๆ ค่ะ
"ขนมทองเอก"
แป้งสาลี 100 กรัม
แป้งเท้ายายม่อม 10 กรัม
หัวกะทิ 230 กรัม
น้ำตาลทราย 160 กรัม
ไข่ไก่ เฉพาะไข่แดง 6 ฟอง
สีผสมอาหารสีเหลือง เล็กน้อย
ทองคำเปลว 100%
1. ร่อนแป้งทั้งสองชนิดลงในภาชนะ ใส่น้ำตาลทราย ไข่แดง สีผสมอาหาร ผสมให้เข้ากัน
2. ใส่หัวกะทิ ผสมให้เข้ากัน แล้วกรองด้วยกระชอน ใส่ในกระทะยกขึ้นตั้งไฟอ่อน
3. กวนจนแป้งรวมตัวเป็นก้อนและเนียนใส ยกลงคลุมด้วยผ้าขาวบางจนส่วนผสมอุ่นพอปั้นได้
4. ปั้นแป้งเป็นก้อนกลมอัดใส่พิมพ์ให้แน่น แล้วเคาะออก แล้วติดทองคำเปลว 100%
ย้ำว่าต้องเป็นทองคำเปลวแท้ 100% เท่านั้นนะคะ ทองคำเปลวที่ใช้ปิดทองพระรับประทานไม่ได้นะคะ
สามารถติดทองคำเปลวลงบนขนมก่อนอัดใส่พิมพ์เพื่อให้ทองคำติดแน่นกับชิ้นขนมก็ได้ค่ะ
จากนั้นนำไปอบควันเทียนให้หอม (เราใช้กะทิอบควันเทียนค่ะเลยข้ามขั้นตอนนี้ไป)
พร้อมจัดเสิร์ฟแล้วค่ะ
ขอบคุณที่แวะมาทักทายกันนะคะ แล้วพบกันใหม่เมนูต่อไปค่ะ
เห็นแล้วหิวแต่เช้าเลยคะ..
โหวตให้ก่อนใคร