โจทย์เดือนแห่งความรักนี้ คุณแหม่ม mambymam ให้ทำเมนู Just For You เพื่อคนที่คุณรัก
โดยบอกว่าอยากให้ทำของหวาน ได้ค่ะ...จัดให้ทั้งคาวหวานเลย
"ข้าวผัดปู & ขนมเปียกอ่อน"
เพื่อคุณแม่ที่เรารักนะคะ เพราะช่วงนี้คุณแม่สุขภาพไม่ค่อยดี
ไม่ค่อยเจริญอาหาร ตอนที่แอดมิทแม่เปรยอยากกินก๋วยเตี๋ยวผัดไทย คงเบื่ออาหารของโรงพยาบาล
โชคดีมี S&P อยู่ที่ชั้น 1 ของโรงพยาบาลให้เราได้พึ่งพาอาศัยเพราะรสชาติผัดไทย
และขนมไทยพอจะถูกปากแม่ ออกจากโรงพยาบาลแม่ยังอร่อยกับผัดไทยอีกหลายครั้ง
แต่เราก็อัพบล้อกผัดไทยไปหลายสูตรแล้ว เลยไม่นำมาส่งการบ้านเดือนนี้
ช่วงนี้เราก็ทำอาหารที่แม่ชอบเป็นส่วนใหญ่ แม่ชอบทานปลากับปู
วันนี้เราก็เลยทำข้าวผัดปู หวังว่าแม่จะชอบและทานได้เยอะ ๆ สุขภาพแข็งแรง
เราลงวิธีทำข้าวผัดปูคร่าว ๆ แบบที่แม่ชอบทาน เพราะคนป่วยมีเงื่อนไขเยอะ ไม่เอานั่นโน่นนี่
ดังนั้นก็จะไปลงรายละเอียดวิธีทำที่ขนมหวานแทนค่ะ
เริ่มจากการเตรียมเนื้อปูค่ะ เราแกะเตรียมไว้ล่วงหน้า
ดังนั้นหลังจากแกะแล้วควรนำไปนึ่งอีกรอบ พักไว้ให้เย็นสนิทแล้วเก็บเข้าตู้เย็นค่ะ
ส่วนข้าวสวย ไม่จำเป็นต้องเป็นข้าวค้างคืนหรือแช่ตู้เย็น เพียงนำออกมาผึ่งให้เย็นก่อนผัดก็ใช้ได้
โจทย์ข้าวผัดของคุณแม่ มีเงื่อนไขว่าต้องไม่เลี่ยน ไม่มัน ไม่แฉะ
เคล็ดลับการผัดข้าวต้องใช้ไฟแรงค่ะ จะปรุงรสด้วยซอส ซีอิ๊วขาวหรือเกลือก็ไม่มีปัญหาเรื่องแฉะ
วิธีทำคือต้องผัดไข่ให้สุกก่อนจะใส่ข้าวสวยลงไปผัด ตามด้วยเนื้อปูที่เตรียมไว้
หากต้องการแบบให้ไข่เคลือบข้าว ก็ไม่ต้องผัดไข่ให้สุกแค่ยีไข่แดงพอแตกก็ใส่ข้าวลงไปผัดได้เลย
แต่ย้ำว่าต้องผัดด้วยไฟแรงค่ะ ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว พริกไทย น้ำตาลเล็กน้อย
ผัดให้เข้ากัน สังเกตว่าเม็ดข้าวดีดตัวจากกระทะ ใส่ต้นหอมซอย ผัดพอเข้ากันก็ปิดไฟได้
เสร็จเรียบร้อยค่ะ ตักใส่จานพร้อมรับประทาน
ถ้าจะให้ครบควรแนมด้วยแตงกวา ต้นหอมและมะนาว เสิร์ฟพร้อมน้ำปลาพริกค่ะ
แต่คุณแม่จะทานแบบนี้ ไม่ได้สร้างภาพก็เลยดูหน้าตาโล้นไปหน่อย ^__^
รอบต่อมามีผักชีโรยหน้าและมีน้ำปลาพริกมะนาวด้วยนะเออ ^__^
แต่แม่ไม่เอาแตงกวาเหมือนเดิม รอบนี้ปรุงรสด้วยเกลือค่ะสีของข้าวผัดจึงขาวกว่ารอบแรก
แม่ไม่ชอบทานเบเกอรี่ ชอบทานขนมไทยมากกว่า
ขนมไทยบางอย่างเริ่มจะสูญหายไป หาซื้อทานไม่ง่าย บางครั้งหาซื้อได้แต่ไม่อร่อยดังใจ
ดังนั้นรักแม่ อยากให้แม่ทานของอร่อย ก็ต้องลงแรงและใส่ใจลงไปในอาหารที่เราทำค่ะ
เชื่อว่าหลาย ๆ คนเมื่อได้ยินชื่อขนมเปียกอ่อน คงหน้าตาเหรอหราแล้วก็อาจจะมีคำถามว่า
คล้าย ๆ กับขนมเปียกปูนหรือเปล่า วันนี้ก็เลยนำมาให้ชมค่ะ
ปรกติแล้วขนมชนิดนี้ถ้าเป็นแบบดั้งเดิมเมื่อกวนเสร็จได้ที่แล้วจะเทใส่ถาดเกลี่ยให้เรียบ
เมื่อขนมเย็นก็จะตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม ห่อด้วยใบตองที่เราเรียกกันว่าขนมถาดนั่นเอง
แต่วันนี้เราเอามาใส่พิมพ์ ทำให้ดูหน้าตาแปลกไปจากเดิมนิดนึง
ส่วนผสมและวิธีทำ
แป้งข้าวเจ้า 100 กรัม
แป้งมัน 25 กรัม
แป้งเท้ายายม่อม 20 กรัม
กะทิ 700 กรัม
น้ำตาลมะพร้าว 200 กรัม (น้ำตาลโตนดหรือน้ำตาลปี๊บ)
น้ำตาลทราย 40 กรัม
ถั่วเขียวเราะเปลือกทอดสำหรับโรยหน้า
1. ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน และแป้งเท้ายายม่อมให้เข้ากัน
2. ใส่กะทิให้พอนวดแป้งได้ นวดประมาณ 10 นาที
3. ใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย และกะทิที่เหลือ
4. นวดให้ละลายแล้วกรองด้วยกระชอน แล้วเทใส่กระทะ
(ใครไม่มีกระทะทองเหลืองก็ใช้กระทะเทปล่อนได้ค่ะ)
ยกขึ้นตั้งไฟกลาง กวนจนแป้งเริ่มข้น แล้วให้ลดเป็นไฟอ่อนกวนจนแป้งข้น
ให้สังเกตว่าแป้งจะรวมตัวกันไม่ติดกระทะ และเมื่อตักขึ้นขนมจะไม่ไหลหยดจากไม้พาย
5. ตักใส่พิมพ์ ปาดให้เรียบ พออยู่ตัวแล้วแกะออกจากพิมพ์โรยถั่วเขียวเราะเปลือกทอด
(หลังกวนเสร็จยังไม่ได้ตักใส่พิมพ์เรามีธุระด่วนกระทันหัน กว่าจะได้ตักใส่พิมพ์
ช้าไปหน่อยขนมเริ่มเซ็ทตัวแล้ว ก็เลยออกมาไม่สวยเท่าที่ควร
แต่อร่อยเหมือนเดิม
) เสร็จเรียบร้อยค่ะ
ประกาศรายชื่อผู้โชคดีได้รับอั้งเปาเป็น gift voucher ห้องอาหาร Atelier
จากบล็อก Seafood Sensation @ Pullman Bangkok Grande Sukhumvit ค่ะ
เนื่องจากไม่มีผู้ใดคอมเม้นท์เวลาตรงกับเลขท้ายสองตัวตามกติกาที่กำหนดไว้
ก็เลยขอมอบโชคให้กับผู้ที่คอมเม้นท์เวลาใกล้เคียงที่สุด
ผู้โชคดีได้แก่
"คุณสองแผ่นดิน"
กรุณาส่งชื่อ - ที่อยู่เพื่อจัดส่งรางวัลทางหลังไมค์นะคะ
ขอบคุณที่แวะมาทักทายกันนะคะ แล้วพบกันใหม่เมนูต่อไปค่ะ
เนื้อปูเยอะดี..น่าทานคะ
โหวตให้เลยคะ