:: กะก๋าแนะนำหนังสือ : ชีวิตสอนอะไรเราบ้าง [1] ::
:: ชีวิตสอนอะไรเราบ้าง [1] ::
เขียน : Elisabeth Kubler-Ross & David Kessler แปล : นุชจรีย์ ชลคุป
ในรอบหลายปีมีหนังสือเพียงไม่กี่เล่ม ที่ทำให้ผมอ่านและรู้สึกว่า วางไม่ลง หนังสือเล่มนี้ทำให้ผมรู้สึกเช่นนั้น
ระหว่างที่อ่าน ผมคอยจดเลขหน้าที่มีคำคมหรือประโยคที่ผมชอบ เมื่ออ่านจนจบเล่ม ผมนับจำนวนข้อความที่ผมชอบได้ทั้งหมด 37 ประโยค ใช้เวลาค่อย ๆ นั่งเขียนจดลงไปในสมุดบันทึกของตัวเองเกือบชั่วโมงครึ่ง ก่อนจะนำมาพิมพ์เป็นต้นฉบับบล็อกอีกหนึ่งชั่วโมง....
---------------------------------------
ชีวิตสอนอะไรเราบ้าง --- เป็นหนังสือเกี่ยวกับความตาย เขียนและเรียบเรียงโดยสองนักเขียน และหนึ่งในนั้น Elisabeth Kubler-Ross ผู้เขียนและผู้เชี่ยวชาญ ในการให้คำปรึกษากับผู้ที่อยู่ในภาวะใกล้ตาย เธอเป็นที่ยอมรับในแวดวงแพทย์และพยาบาล ในการพูดคุยและเยียวยาจิตใจผู้ป่วยหนักระยะสุดท้าย ที่สำคัญในขณะที่เขียนหนังสือเล่มนี้เธออัมพาตซีกซ้าย จากอาการหลอดเลือดตีบในสมองอีกด้วย
เธอเขียนหนังสือเล่มนี้ร่วมกับ David Kessler โดยพูดคุยกับผู้ป่วยระยะสุดท้ายจำนวนมาก พูดคุยกับผู้ที่ต้องสูญเสียคนที่ตนเองรักจากอุบัติเหตุต่าง ๆ พูดคุยกับผู้ที่มีบาดแผลจากความเจ็บปวดในอดีต (และบางคนก็ยังก้าวข้ามผ่านมันไปไม่ได้) ข้อมูลเหล่านั้นถูกนำมาเล่าและร้อยเรียงจนกลายเป็นเรื่องราวในหนังสือ
หนังสือที่ดูเหมือนจะบอกเล่าถึงความตายและสภาวะใกล้ตาย แต่เมื่ออ่านจนจบเล่ม ผมกลับพบว่า นี่เป็นหนังสือที่พูดถึง ชีวิตและการใช้ชีวิต ต่างหาก
----------------------------------------
เมื่อพูดถึง ชีวิต เรานึกถึงอะไร ? ตัวตนที่แท้จริง ความรัก ความสัมพันธ์ การสูญเสียคนที่เรารัก ความรู้สึกผิด ความหวัง ความฝัน ความกลัว ความโกรธ ความอยุติธรรม โชคชะตา การยอมรับความจริง การให้อภัย ความทุกข์ ความสุข ฯลฯ
ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม คนเราทุกคนต้องการ คำตอบ เพื่อจะตอบตัวเองว่า ฉันเกิดมาทำไม ? เพื่อทำอะไร ? และจะจากไปไหน ?
คำถามเหล่านี้ไม่เพียงแต่ตอบยาก บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมต้องตอบคำถามเหล่านี้ คำถามซึ่งไม่ง่ายเลยที่จะหาคำตอบที่ดีที่สุดเพื่อให้ตนเองพึงพอใจ
บางคนใช้ชีวิตอย่างหนักหน่วง เคร่งเครียด จริงจัง จนทำให้ทุกอย่างในชีวิตเต็มไปด้วยกฏเกณฑ์ กฎระเบียบ แบบแผน ข้อบังคับ ความคาดหวังมากมาย ทุกอย่างต้องสมบูรณ์แบบและดีที่สุดเสมอ
ทุกคนหวังว่าตัวเองจะเติบโตในครอบครัวที่ดี เรียนเก่ง ทำงานดี มีเงินมากมาย มีครอบครัวที่อบอุ่น มีคู่รักที่สมบูรณ์แบบ และอยากตายอย่างสุขสบายไม่เจ็บปวด
แต่ในชีวิตจริง ไม่มีชีวิตสำเร็จรูปแบบนี้ให้เลือกเป็น เราจึงต้องเผชิญกับปัญหามากมายในทุกช่วงวัย ตั้งแต่ปัญหาทางกายภาพ ไปจนถึงปัญหาด้านสภาพจิตใจ
ความมั่นคงในชีวิตที่เราฝันถึงไม่เคยมีอยู่จริง เราพร้อมจะหงุดหงิดกับทุกสิ่ง พร้อมจะเกลียดทุกคนบนโลกนี้ที่ไม่เป็นไปอย่างใจต้องการ พร้อมจะปกป้องตนเองโดยการทำร้ายคนอื่น พร้อมจะฉกฉวยและเห็นแก่ตัวเมื่อเห็นว่าเป็นโอกาสที่ดีของตน
และหลายคนค้นพบความหมายของชีวิต เมื่อชีวิตของตนเองไปยืนจ่ออยู่ริมขอบเหวของความตาย
เมื่อรู้ว่าตัวเองป่วยหนัก มีเวลาเหลืออยู่บนโลกนี้ไม่นาน บางคนกลัว โกรธ ด่าทอโชคชะตา ในขณะที่อีกคนอาจยอมรับ ทำใจ เข้าใจในสภาวะที่เกิดขึ้น ท่าทีที่มีต่อความตาย คือท่าทีที่เรามีต่อชีวิตของตนเอง
คุณค่าและความหมายในชีวิตตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จะถูกนำมาวางและมองเห็นได้ชัดขึ้น ผ่านแว่นสายตาที่เรียกว่าความตาย
บางคนไม่เคยเห็นคุณค่าของความรักและคนที่รัก จวบจนวันที่เขาจากไปอย่างไม่มีวันกลับ
บางคนได้รู้ว่าตัวเองทอดทิ้งความฝันไปมากมายแค่ไหน ในวันที่ร่างกายขยับเขยื้อนไม่ได้
บางคนยังกอด ยังบอกรักกันอยู่เลย ถัดมาไม่กี่ชั่วโมงกลับต้องรับสายโทรศัพท์ที่แจ้งว่าคนรักเสียชีวิต
---------------------------------------------
เคยสงสัยหรืออยากลองตั้งคำถามดูไหมครับ ว่า เราคือใคร ? และ อะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เรามีอยู่ ?
หลายครั้งเราคิดว่า ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของชีวิต คือ ความร่ำรวย การยืนเฉิดฉายท่ามกลางงานเลี้ยงใหญ่โต การมีบ้านหลังใหญ่ รถคันหรู เงินเดือนหลักล้าน เที่ยวต่างประเทศทุกเดือน มีแต่ลูกน้องห้อมล้อมเอาใจ ฯลฯ
ในขณะที่เราแสวงหาสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เข้ามาในชีวิตมากเท่าไหร่ ทำไมในใจกลับยิ่งว่างโหวง เหมือนถ้วยน้ำที่เติมไม่เต็ม ทำไมยิ่งมีมาก ยิ่งไม่พอ ยิ่งอยากได้มากขึ้นไปอีกเรื่อย ๆ เหนื่อยหนักเพื่อหาสิ่งต่าง ๆ มาครอบครองให้ได้ แต่สิ่งเหล่านั้น กลับไม่เคยทำให้เรามีความสุขที่แท้จริงได้เลย
บางที.....ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของชีวิต อาจไม่ได้เป็นนิยามความหมายเดียวกันกับ ความสำเร็จที่แท้จริงของชีวิต
--------------------------------------
คำตอบของชีวิตไม่ค่อยเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เรามีความสุข ไม่ค่อยพบในวันที่เรา มี ทุกสิ่งทุกอย่าง ในวันที่เรา ไม่มี และกำลังจะ สูญเสีย สิ่งที่มีทั้งหมดไปต่างหาก ที่จะทำให้เราซึมซับรับรู้ความจริงของชีวิตอย่างหมดจด
ความกลัวที่จะต้องสูญเสีย ความกลัวที่จะต้องตาย ความกลัวที่ยังมีอะไรติดค้างในใจและยังไม่ได้ทำ ความกลัวสภาวะที่ไม่เคยเตรียมใจรับมือมาก่อน
เหล่านี้ต่างหากคือข้อสอบที่ไม่มีการเฉลยคำตอบ และการตรวจสอบความถูกต้องจะเกิดขึ้นในวินาทีสุดท้ายของชีวิต ซึ่งเราแทบไม่เหลือเวลาให้ครุ่นคิดใคร่ครวญ ลงมือทำหรือเปลี่ยนแปลงอะไรอีกแล้ว
ชีวิตสอนอะไรเราบ้าง
บางทีครูที่ดีที่สุดในการสอนวิชานี้ อาจมีชื่อว่า ความตาย
Create Date : 23 กรกฎาคม 2561 |
|
22 comments |
Last Update : 1 มีนาคม 2562 9:54:50 น. |
Counter : 1175 Pageviews. |
|
|
สวัสดีค่ะ น้องก๋า
ตอนพี่ทำงาน จะมีสัมมาสำหรับคนที่ใกล้ตาย
(เป็นมะเร็งขั้นสุดท้าย) พยาบาลจะต้องเรียนวิชา
Death and Dying หนังสือของ Elisabeth Kubler-Ross
เป็นหนังสือที่เราเอามาเรียนเผื่อแนะนำเป็นกำลังใจให้คนไข้ด้วยค่ะ
เล่มนี้ยังไม่เคยอ่าน น่าสนใจมากค่ะ