:: กะก๋าแนะนำหนังสือ - wabi-sabi ::
:: wabi-sabi ::เขียน : Leonard Koren แปล : สายพิณ กุลกนกวรรณ ฮัมดานี
Leonard Koren เป็นสถาปนิก นักเขียนด้านการออกแบบและสุนทรียศาสตร์ หนังสือ WABI – SABI for Artists , Designers , Poets and Philosophers คือ หนังสือแนะนำแนวคิดวะบิ ซะบิ ซึ่งได้รับการยอมรับว่า ทรงอิทธิพลต่อแนวคิดด้านศิลปะและปรัชญาแบบญี่ปุ่นเป็นอย่างสูง
สำหรับคนที่ไม่เคยรู้จักแนวคิดแบบ WABI – SABI มาก่อน หนังสือเล่มนี้นับว่าเหมาะมากสำหรับการทำความรู้จัก WABI – SABI ด้วยเพราะ Leonard Koren จัดวางเนื้อหาและเขียนมันอย่างเป็นระบบ เรียงลำดับทั้งประวัติศาสตร์ แนวคิด ข้อเด่น รวมไปถึงตัวอย่างต่าง ๆ มากมาย เพื่ออธิบาย “ภาพที่ฉายชัด” ว่า WABI – SABI นั้นสามารถมองอย่างเป็นรูปธรรมได้อย่างไรบ้าง
แต่เมื่อผมอ่านหนังสือเล่มนี้จบลง กลับรู้สึกว่า WABI – SABI ไม่อาจหาคำจำกัดความได้เลย เหมือนกับการพยายามอธิบายว่า “แนวคิดเต๋า” คืออะไร ? เป็นอย่างไร ?
WABI – SABI จึงไม่ใช่ทั้งความงาม หรือ การมองหาความงาม ไม่ใช่ทั้งความไม่สมบูรณ์ หรือ ความอัปลักษณ์ มันเหมือนสิ่งซึ่งเป็น “สัจจะ” เป็นเนื้อแท้ของสิ่งที่มันเป็นอยู่จริง ๆ ตัวเราเป็นเพียงผู้มอง มองเห็น รับรู้ โดยไม่ตัดสิน ไม่ตีค่าราคา ไม่เทียบวัดคุณค่า ไม่คิดครอบครอง
การมองเห็น “สัจจะ” ตามความเป็นจริง กลับเป็นสิ่งซึ่งทำได้ยากมาก โดยเฉพาะเมื่อเรามีชุดความเชื่อ ยึดติดในตัวตน แบ่งเขาแบ่งเรา แยกสิ่งต่าง ๆ ออกเป็นดี-ชั่ว ต่ำ-สูง งาม-ไม่งาม อันนี้ของฉัน อันนี้ของเธอ ฯลฯ
“เห็นเพียงเห็น” --- จึงเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมาก ตราบใดซึ่งชั่วขณะนั้นเรายังแบ่งแยกตัวเองออกจากผู้อื่น แบ่งแยกตัวเองออกจากโลกและผู้คน ยังตัดสินสิ่งต่าง ๆ รอบตัวด้วยทัศนคติและความเคยชินของตนเอง ดอกไม้ดอกนี้สวยหรือไม่สวย ผู้หญิงคนนี้อ้วนหรือผอม ถ้วยชาใบนี้สูงค่าหรือด้อยราคา ฯลฯ ทั้งหมดถูกตัดสินจากการรับรู้ การปรุงแต่ง การคิด ของตัวเราเองทั้งสิ้น และด้วยวิธีคิดแบบนี้ “ทุกสิ่ง” จึงถูกบดบัง “สัจจะ” ที่มีอยู่ จนเราไม่อาจมองเห็น “ความงาม” และ “ความจริง” ของสิ่งนั้นได้เลย
การสังเกตสิ่งต่าง ๆ รอบตัว พร้อมเปิดใจยอมรับความจริง ว่าทุกสิ่งล้วนเป็นไปของมันเช่นนั้นเอง มีความไม่เที่ยง ไม่ทน ไม่สมบูรณ์แบบ ไม่ได้เต็มเปี่ยมอยู่ตลอดเวลา จะทำให้เรามองเห็นรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งเคยมองข้ามไป จนในที่สุด การมองเห็นของเราจะถูกพัฒนาไปเรื่อย ๆ จนเห็นรายละเอียดต่าง ๆ ค่อย ๆ ปรากฏชัดเจนขึ้น เห็นความงามท่ามกลางความสับสนอลหม่าน ได้ยินเสียงอันไพเราะท่ามกลางเสียงโหวกเหวก เงียบ สงบ เป็นส่วนหนึ่งของสภาวการณ์ในปัจจุบันที่ตนเองมีส่วนร่วม
WABI – SABI จึงแทรกตัวอยู่ในทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว อยู่ในบทกวี เสียงเพลง เสียงร้องของนกกลางสวน เสียงน้ำตกกลางป่า อยู่ในรอยร้าวของถ้วยชา อยู่ในรอยบิ่นของชามข้าว อยู่ในมอสบนก้อนหิน อยู่ในใบไม้แห้งกรอบที่ร่วงหล่นตรงริมข้างทาง ฯลฯ
ที่สุดแล้วผมกลับรู้สึกว่า เราไม่ต้องไปพยายามคิดหรือมองหา WABI – SABI ก็ได้ มันจะมีหรือไม่มีหาใช่สาระสำคัญด้วยซ้ำ
นึกถึงการถ่ายภาพของตนเอง ผมไม่เคยพยายามมองหาสิ่งสะดุดตา หรือ ถ่ายภาพในสิ่งที่ทุกคนมุ่งตรงไปถ่าย แต่ผมจะมองดูสิ่งซึ่งอยู่ใกล้ตัว ปล่อยให้สิ่งนั้นผ่านเข้ามาในการรับรู้ จนผมรู้สึกอะไรบางอย่างกับสิ่งที่มองเห็น มากพอจนมันกลายเป็นส่วนหนึ่งของ “วาบประทับใจ” การกดชัตเตอร์ในวินาทีนั้น ผมไม่ได้คิดถึงความงามหรือภาพที่สมบูรณ์แบบ แต่เป็น “ชั่วขณะหนึ่ง” ซึ่งผมมองเห็นและฉวยมันไว้ในความรู้สึก ก่อนปล่อยให้มันเป็น “ชั่วขณะหนึ่ง” ซึ่งผ่านไป
WABI – SABI ก็เป็นเช่นนั้น เป็นวาบหนึ่งของชั่วขณะ ก่อนวาบวับลับหายไป
Create Date : 11 มกราคม 2563 |
|
19 comments |
Last Update : 16 มกราคม 2564 7:31:36 น. |
Counter : 743 Pageviews. |
|
|
มาเปิดโหวตบ้านนี้ไว้ก่อน
ล้อจะหมุนกลับบ้านป่าแล้วค่ะ
เจอกันใหม่วันจันทร์ค่ะ