:: กะก๋าแนะนำหนังสือ - วัยรุ่น 4.0 ::
:: วัยรุ่น 4.0 ::เขียน : นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์
ใช่หรือไม่ ลูกของคุณตื่นนอนขึ้นมาพร้อมกับ “ข้อห้าม” มากมาย
อย่าโทรศัพท์นาน การบ้านทำเสร็จแล้วหรือยัง อย่าเล่มเกมมากเกินไปนะ ผมยาวมาก ๆ ไปตัดได้แล้ว ดูเพื่อนคบเพื่อนให้ดีดีล่ะไอ้คนนี้มันเกเรสุด ๆ ช่วงนี้ใกล้สอบแล้วอ่านหนังสือด้วย นอนให้ตรงเวลา อาบน้ำให้สะอาด ค่าเรียนพิเศษมันแพงนะลูกตั้งใจหน่อย ฯลฯ
พ่อแม่รักลูกนั้นไม่แปลก แต่ที่ทำให้ความสัมพันธ์แตกแยก เพราะพ่อแม่เริ่มรุกล้ำ “พื้นที่ส่วนตัวของลูก” เขาชอบสิ่งนี้ ก็ไม่ให้ทำ จะให้ทำแต่สิ่งที่พ่อแม่ชอบ จะเรียนอะไร จะเลือกอะไร แต่งตัวแบบไหน คบใคร พ่อแม่ “จัดการ” ให้หมด โดยไม่ถามลูกสักคำว่าเขาต้องการหรือเปล่า
พ่อแม่หลายคนมัดมือชก ด้วยคำว่า รัก ห่วงใย อยากให้ลูกได้ดี จนลืมนึกไปว่า ลูกก็เติบโตขึ้นทุกวัน มีความคิด มีความรู้สึก มีจิตใจของเขาเอง เหมือนผีเสื้อ ตอนเป็นเด็ก เป็นหนอนตัวน้อย ยังต้องพึ่งพิงพ่อแม่ ลูกย่อมดูน่ารัก เชื่อฟัง สั่งให้ทำอะไรก็ทำ แต่เมื่อถึงวันหนึ่งเขาเริ่มเติบโตขึ้น เริ่มกลายร่าง ลอกคราบ เพื่อบินจากเราไป พ่อแม่เตรียมใจไว้บ้างหรือเปล่า วันหนึ่งที่ลูกจะเป็นตัวของตัวเอง อยากใช้ชีวิตในแบบที่เขาอยากเป็น
วันที่ลูกเริ่มเถียง เริ่มชักสีหน้า เริ่มปิดประตูใส่หน้า เริ่มไม่ฟัง สั่งซ้ายไปขวา บอกขวาไปซ้าย สั่งให้นอนก็แอบตื่นมาตอนดึก ๆ สั่งให้ทำการบ้านหยิบหูฟังมาใส่แล้วนั่งเล่นเกม ฯลฯ
ลูกส่วนใหญ่ในประเทศนี้ โตมากับกฎ ข้อห้าม ข้อบังคับ ข้อเรียกร้องมากมาย แบกความหวังในเรื่องการศึกษาจนหลังแอ่นไหล่ทรุด พ่อแม่พูดเสมอว่าไม่คาดหวังอะไรจากผลการเรียนของลูก แต่ถ้าได้เกรดต่ำกว่า 3.5 นั่นจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ขนาดบ้านแทบแตก
ไม่เรียนพิเศษแล้วจะสู้เขาได้ยังไง จะเข้าโรงเรียนดังโรงเรียนดีได้ยังไง เกรดแค่นี้จะไปสู้ใครได้ ดูลูกบ้านโน้นสิเขาเก่งมากเลยนะ ฯลฯ
ชีวิตของเด็กยึดโยงอยู่แต่กับการเรียน การแข่งขัน เกรดและการสอบ น้อยครั้งที่จะได้คำปลอบ มีแต่คำบอก คำสั่งซึ่งต้องการให้ลูกทำให้ได้ดั่งใจ
พ่อแม่เคยรู้บ้างไหม ว่าความห่วงใยของพ่อแม่ หากพูดซ้ำเกิน 2 รอบในเรื่องเดิม มันคือ คำบ่นอันแสนน่าเบื่อหน่าย
เคยรู้บ้างไหมว่าเมื่อลูกเริ่มเติบโตขึ้น เขาอยากมีพื้นที่ส่วนตัว อยากอยู่คนเดียวบ้างบางเวลา อยากคุยกับเพื่อนโดยไม่มีพ่อแม่แอบฟัง อยากแชทโดยไม่มีใครแอบอ่านข้อความ อยากพูดคำหยาบ อยากเล่นเกมโหด ๆ อยากฟังเพลงดัง ๆ อยากดูคลิปที่เขาสนใจ
ยิ่งห้าม เหมือนยิ่งผลักลูกออกไปจากตัว ยิ่งกลัว ลูกยิ่งต่อต้านทุกคำสั่งที่พ่อแม่บอกกล่าวให้เขาทำ ยิ่งบังคับ พ่อแม่ยิ่งเครียด ลูกยิ่งไม่มีความสุข
เวลาเรารักใคร เราอยากให้เขามีความสุขมิใช่หรือ ? แต่น่าแปลกใจที่เรากลับเลี้ยงลูกให้เป็นทุกข์ ใส่ความคิดด้านลบเข้าไปในหัวลูก พูดย้ำ ๆ ซ้ำ ๆ ชีวิตจริงมันไม่ง่ายหรอก ชีวิตจริงไม่ได้มีแต่เรื่องของความสุข ไม่กดดันบ้างจะไปเก่งได้ยังไง ฯลฯ
ยิ่งรัก ยิ่งไม่เข้าใจ ลูกยิ่งทุกข์ พ่อแม่ยิ่งไร้สุข
เอาเข้าจริง...มันไม่มีคู่มือเลี้ยงลูกที่ดีที่สุดหรอก มีแต่การยอมรับและเข้าใจในสิ่งที่ลูกเป็น อยู่ข้าง ๆ ห่างกันบ้างก็ได้ ลดข้อบังคับลง แล้วนั่งลงฟังลูกพูดเยอะ ๆ ถ้าเขาไม่อยากพูด ก็ถอยออกมา ถ้าลูกรู้ว่าพ่อแม่รัก เขาไม่ผลักเราออกจากชีวิตแน่ ๆ ช่วงเวลาที่แย่ เหนื่อยและท้อ เขารออ้อมกอดของพ่อแม่ เขารู้ว่าพ่อแม่จะอยู่ข้าง ๆ เขาเสมอ
ถ้าบรรยากาศในบ้านอบอุ่น มีข้าวหอมกรุ่น อาหารรสชาติคุ้นเคยที่ลูกชอบ มีคำปลอบ มีถ้อยคำให้กำลังใจ ลูกไม่ไปไหนไกล ถึงอยู่ไกลก็ไว้ใจเขาได้ ว่าเขาจะเอาตัวรอด และแก้ปัญหาด้วยตัวเองได้
กอดเขาแล้วอย่ารัดจนแน่น ปล่อยให้ลูกเติบโตในอย่างที่เขาเป็น หน้าที่ของพ่อแม่ คือ ปล่อยมือและไว้ใจ แล้วลูกจะเติบใหญ่ภายใต้ร่มเงาชีวิตของเขาเอง
Create Date : 12 มีนาคม 2563 |
|
27 comments |
Last Update : 16 มกราคม 2564 7:38:20 น. |
Counter : 508 Pageviews. |
|
|
ลิเวอร์พูลเล่นดีมากครับ คุมเกมส์ไว้ในมือ แต่ปิดสกอร์ไม่ได้ เจอทีเด็ดตราหมีไป ถึงขั้นแพ้ ตกรอบเลยครับ อาเดรียนนี่หลอนไปเลย
ที่หนักกว่านั้น นักเตะยูเว่ติดโควิดแล้วด้วยครับ
ลิเวอร์พูลชิงตกรอบก่อนหนีโควิด หาข้อแก้ตัวตอนแพ้ครับ 555