<<
กรกฏาคม 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
29 กรกฏาคม 2550

หนังสือ : ปล่อยวางอย่างเซน








ปล่อยวางอย่างเซน

รวบรวมและเรียบเรียงโดย : ละเอียด ศิลาน้อย















สวัสดีเมฆา



ฉันเขียนจดหมายถึงเธอตอนตีห้าครึ่ง
ซึ่งฉันตื่นและไม่คิดจะล้มตัวหลับต่อ
เมฆารอรับหนังสือที่ฉันกำลังส่งไปถึงเธอด้วย
หนังสือเล่มนี้ชื่อ ปล่อยวางอย่างเซน
เขียนโดยละเอียด ศิลาน้อย



.....................................



ฉันเคยเล่าไปก่อนหน้านี้ ว่าหนังสือเล่มนี้คือหนังสือที่ทำให้ฉันอึ้ง ทึ่ง และงงงันมาพักใหญ่ในชีวิต
ก่อนหน้านี้ฉันเคยอ่านหนังสือเซนมามาก
แต่การอ่านมามากๆ ไม่ได้แปลว่าเราถ่องแท้หรือเข้าใจในสิ่งที่อ่าน

เซนอ่านไม่ยาก แต่เข้าใจโคตรยาก

นับเนื่องจากอดีต....เซนเป็นการถ่ายทอดวิถีธรรมโดยไม่พึ่งพิงคัมภีร์หรือตัวอักษร
เซนไม่อาจอธิบายได้ด้วยพระสูตรหรือการท่องบ่นสวดมนต์ใดใด
เซนถ่ายทอดผ่าน “จิต” สู่ “จิต”
เซนบรรลุธรรมได้ในทุกขณะจิต
และเมื่อเรามองเห็นธรรมชาติเดิมแท้แห่งจิตตน
เราก็บรรลุความเป็นพุทธะ....


หลายปีที่ฉันนั่งอ่านหนังสือเป็นตั้งๆ เพื่อหาคำตอบว่าอะไรคือเซน?
และเซนคืออะไร ?
เมฆาเชื่อไหม.....ฉันไม่เคยได้รับคำตอบที่แจ่มกระจ่างเลยสักครั้ง




..................................



ต้นธารแห่งเซนน่าจะเกิดในอารยธรรมอินเดีย
ผ่านจีน และ เบ่งบานถึงขีดสุดที่ญี่ปุ่น
แล้วในที่สุดสายธารธรรมก็ไหลรินผ่านไปยังทุกแห่งบนพื้นโลก
ไม่ว่าจะเป็นโลกตะวันตก หรือ โลกตะวันออก

เราศึกษาเรื่องราวของเซนผ่านคำสอน ผ่านเรื่องราวเล่าขาน
จากอาจารย์เซนทั้งหลาย นับตั้งแต่พระพุทธเจ้า เล่าจื๊อ
พระโพธิธรรม เว่ยหลาง บาโช เอกิโด ฯลฯ


อาจารย์เซนต่างท้าท้ายวิธีคิดอันยึดติดกับตัวตนของศิษย์แต่ละคนด้วยวิธีต่างๆ
สอนโดยไม่สอน..
แต่ชี้ทางด้วยวิธีอันเฉียบขาดและฉับพลันทันใด

เราจึงมักงงงวย...
เมื่อได้อ่านและพบว่า หลายครั้งลูกศิษย์เซนบรรลุธรรมขณะที่ถูกตะคอกใส่หน้า
ถูกตีด้วยไม้พลอง หรือแม้ขณะที่นั่งมองดูก้อนหินตกกระทบน้ำ

รวมไปถึงวิธีการขับโกอาน หรือ การไขปริศนาแห่งถ้อยคำกวี


“ทุกขณะจิต คือ หนทางแห่งการรู้แจ้งเห็นธรรม”


เซนจึงไม่ใช่เรื่องลี้ลับซับซ้อน
เป็นวัตรปฏิบัติอันเรียบง่าย ไม่มีอภิหารใดใดมาล่อลวง
หากแต่ผู้เรียนต้องทุ่มเทจิต พร้อมกายอันมุ่งมั่น
ในการเรียนรู้สอบจิต --- และมุ่งเข้าสู่จิตเดิมแท้ของตน



.......................................



ปล่อยวางอย่างเซน

เป็นหนังสือที่น่าอ่านมาก .....ฉันจำได้ดีนะเมฆา
ครั้งแรกที่ฉันอ่านหนังสือเล่มนี้ ฉันมีอายุไม่มากนัก
พื้นความรู้ฉันมีอยู่น้อยจนไม่อาจเข้าใจในโกอานบางอันได้
เช่นโกอานที่ว่า

“เสียงของการตบมือข้างเดียวเป็นอย่างไร ?”

ใจฉันคิดในตอนนั้นว่า เอามือเดียวตีไปที่อากาศ
แล้วมันจะมีเสียงอะไร หรือว่าต้องเอามือตีไปที่พื้น
นั่นย่อมไม่ใช่คำตอบ....


.........................................



ปล่อยวางอะไร ? .....

ปล่อยวางตัวตน

ตัวตนอะไร ? ….

ตัวตนที่ยึดติด

ยึดติดสิ่งใด ? ......


“เสียงของการตบมือข้างเดียว”



……………………………………………..



นี่คือคำสอนเซนที่ฉันชอบมากที่สุดเรื่องหนึ่ง...


ครั้งหนึ่งพระภิกษุทันซันและเอกิโด ร่วมเดินทางไปตามถนนซึ่งเป็นโคลนตมสายหนึ่ง
ขณะนั้นฝนกำลังตกหนัก จึงทำให้มีน้ำเจิ่งไปทั่วถนน
เมื่อทั้งสององค์เดินมาถึงหัวโค้งถนน
ก็พบสาวสวยคนหนึ่ง แต่งกายด้วยเสื้อกิโมโนไหมที่มีสายคาดเป็นแพรเนื้อดี
เธอไม่อาจเดินข้ามห้วงน้ำที่กำลังเจิ่งถนนตอนนั้นได้
(เพราะเกรงเสื้ออันสวยงามของเธอจะเปียกเปื้อน)

ทันใดนั้น...พระภิกษุทันซันได้เดินเข้าไปหาหญิงสาวผู้นั้น
และกล่าวว่า

“มานี่ซิเธอ ฉันจะช่วย”

ว่าแล้วก็อุ้มหญิงสาวบุกข้ามห้วงน้ำนั้นไป

พระภิกษุเอกิโด ได้มองดูการกระทำของเพื่อนร่วมทางอย่างเงียบๆ
และมิได้ปริปากพูดอะไรขึ้นอีกเลย
ทั้งสองรูปเดินทางต่อไปจนค่ำ และเข้าอาศัยอยู่ในวัดแห่งหนึ่ง

เมื่อต่างจัดที่ทางเรียบร้อยแล้ว
เอกิโดจึงได้กล่าวขึ้นด้วยอดรนทนไม่ได้อีกต่อไปว่า

“นี่แน่ะท่าน ในฐานะที่เราเป็นสมณะ ไม่ควรบังอาจเข้าไปใกล้สตรี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสตรีที่สาวและสวย
เพราะมันเป็นอันตรายต่อพรหมจรรย์อย่างร้ายกาจ
เมื่อกลางวันนี้ทำไมท่านจึงเข้าไปอุ้มหญิงสาวผู้นั้น”

“ผมวางเธอไว้ที่นั่นตั้งแต่กลางวันแล้ว” พระภิกษุทันซันตอบ

“ท่านยังอุ้มเธออยู่อีกหรือ”



...............................................



เซนคืออะไร ?
อะไรคือเซน ?

ถ้าเธอเข้าใจธรรมชาติ
เธอจะเข้าใจเซน



..............................................



ก่อนศึกษาเซน
ภูเขาคือภูเขา แม่น้ำคือแม่น้ำ

เมื่อศึกษาเซน
ภูเขาไม่ใช่ภูเขา แม่น้ำไม่ใช่แม่น้ำ

เมื่อบรรลุธรรม
ภูเขาคือภูเขา แม่น้ำคือแม่น้ำ



เมฆา...เธออาจคิดนึกอยู่ในใจ
ว่าที่แท้เซน ก็คือ พวกเล่นลิ้นและประดิษฐ์ถ้อยคำอันชวนน่าเวียนหัว

แต่ฉันกลับคิดว่านี่คือหนึ่งในคำสอนอันเรียบง่ายและปฏิบัติตามได้ไม่ยาก
เพราะไม่มีพิธีกรรมรุ่มร่าม ไม่มีนรกมาขู่ ไม่มีสวรรค์มาล่อ
ไม่ต้องบูชารูปเคารพหรือเมามัวยึดติดในวัตถุเครื่องรางของขลังแต่อย่างใด


เซนคือการเรียนรู้ในทุกขณะจิต
คือการใช้ชีวิตอยู่ในปัจจุบันขณะ
อดีตก็ผ่านไปแล้ว อนาคตก็ยังมาไม่ถึง


ธรรมะอันเรียบง่ายที่สุด
อาจสรุปผ่านถ้อยคำของอาจารย์เซนชาวญี่ปุ่น
ด้วยประโยคที่ว่า


“ปาฏิหาริย์ของฉันมีดังนี้ คือ
เมื่อฉันรู้สึกหิว ฉันก็กิน
และเมื่อรู้สึกกระหาย ฉันก็ดื่ม”





...........................................



เมื่ออ่านจดหมายมาถึงตรงนี้
เมฆาตอบได้หรือยังว่า


“เสียงของการตบมือข้างเดียวเป็นอย่างไร ?”



ในโศลกธรรมนี้...อาจารย์เซนตอบว่า


“ฉันไม่ได้ยินเสียงอะไรอีกแล้ว...
ดังนั้น...ฉันจึงได้ยินเสียงที่ไร้เสียงได้ในที่สุด”




…………………………………………..



ฉันหาคำตอบมาชั่วชีวิต
ว่าฉันเกิดมาเพื่ออะไร ?
และตายแล้วไปไหน ?

ฉันครุ่นคิดถึงคำถามนี้มิวางวาย
ค้นเค้นคำตอบในทุกขณะจิตด้วยความสงสัย

วันหนึ่งฉันวางความสงสัยนี้ลง
เพ่งมองทิวเขาที่อยู่เบื้องหน้า
แล้ว วินาทีนั้น “ตัวตนของฉัน”
ก็หายไป......



.............................................




เมฆา...ขณะนี้เวลาหกโมงสิบห้านาทีแล้ว
ข้างนอกห้องฟ้ายังคงมืดอยู่
จดหมายและหนังสือคงเดินทางไปหาเธอในเร็ววัน
โปรดอ่านอย่างช้าๆ แล้วเธอจะพบว่าบางที
สิ่งที่เราเที่ยวตามหาหรือเสาะแสวงหา
แท้จริงแล้วเธอไม่ต้องไปค้น ไม่ต้องออกเดินทางแต่อย่างใด

เธอค้นพบความจริงแห่งชีวิตนี้ได้
ในทุกขณะจิต ในทุกสถานที่ ในทุกโมงยาม
เพียงแต่ นิ่ง เข้าใจอย่างถ่องแท้ และรู้จักปล่อยวาง

มันไม่ใช่สาระอันใดที่ต้องไปครุ่นคิดว่าเราจะปล่อยวางอย่างเซน
อย่างพุทธ อย่างคริสต์ หรืออย่างอิสลาม

“ความว่าง” เดียว ที่โลกนี้มีอยู่
คือ ความว่างอันเป็นหนึ่งเดียว
เป็นความว่างที่เราไม่จำเป็นต้องพูดถึง ไม่อาจสร้างขึ้นมาได้
ไม่ต้องไปค้นหา หลับตาภาวนาสร้างขึ้นก็ไม่ได้

อย่าถามฉันว่า “เราจะปล่อยวางความว่างแห่งชีวิตได้อย่างไร ?”



“เมื่อว่าง แล้วยังต้องปล่อยวางอะไรอีก”

นี่คือคำตอบสุดท้ายของฉัน



สุจริตใจ

สิงห์โตหมอบ

เชียงใหม่ , จดหมายไม่ลงวันที่







 

Create Date : 29 กรกฎาคม 2550
21 comments
Last Update : 30 พฤษภาคม 2560 19:36:36 น.
Counter : 3889 Pageviews.

 

วันนี้หยุดครับ
จะออกไปเที่ยวใกล้ๆแถวบ้าน
เย็นๆจะกลับมาทักทายเพื่อนๆนะครับ

สวัสดีครับ

 

โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) 29 กรกฎาคม 2550 7:13:28 น.  

 

คุณก๋า

ป้ายังแวะเวียนมาเยี่ยมบล็อกของคุณในทุกวันว่าง
อ่านแบบซาบซึ้ง ซึมลึกทุกถ้อยคำ
เนื้องานของคุณโดนใจผู้ชราจริงๆ

แวะเข้ามายกนิ้วให้อีกครั้ง
เยี่ยม เยี่ยม เยี่ยม


ก็แค่ความว่างนะ

 

โดย: ป้ากุ๊กไก่ IP: 125.24.68.184 29 กรกฎาคม 2550 8:47:34 น.  

 

วันนี้บีอ่านบทความของก๋าอย่างช้าๆ สามรอบ

บีซึมซับรับรู้ ชื่นชอบ
บีได้แนวคิดที่ลึกซึ้ง
ตามแบบฉบับของเซน
แนวคิดของการอยู่กับปัจจุบัน

สองวันนี้รับรู้เรื่องราวต่างๆ
ที่ทำให้สุข ทุกข์และสุข
ที่กลับมาสุขได้
ก้เพราะเรียนรู้ที่จะอยู่แต่กับปัจจุบัน

ไปเที่ยวกับภรรยาให้สนุกนะ
พี่ไม่อวยพรให้มีความสุขหรอก
เพราะความสุขคุณมันทะลัก blog
มาถึงกรุงเทพแล้ว

ฮ่าๆๆ ดาวซินฝากมาบอกว่า
ไปหาที่โดมด้วย

 

โดย: rendezvous (be-oct4 ) 29 กรกฎาคม 2550 10:30:53 น.  

 

อิ อิ มาลงชื่อไว้เป็นหลักฐานว่ามาเยี่ยมแล้ว

เดี๋ยวจะออกไปข้างนอกกับที่บ้านค่ะ

เมื่อเช้าไปทำบุญมาแล้ว

เย็นนี้แม่จะชวนไปพุทธมณฑลด้วย

คุณก๋าและมาดามเที่ยวให้มีความสุขนะคะ

555++กลิ่นไอของความสุขมาไกลจริงๆ

อิจฉาตาร้อนวาบๆๆๆเชียวละค่ะemoemo

 

โดย: เพียงแค่เหงา 29 กรกฎาคม 2550 10:36:35 น.  

 

อ่านแล้วชวนงง...เหมือนทุกครั้ง ที่หยิบยื่นหนังสือ....เซนจากเพื่อน หรือห้องสมุด...สุดท้าย เลยไปยืนแมททริก มาดู...บรรลุ....
อ่ะ...ล้อเล่น...จัดอยู่ในจำพวก..พวกก่อกวนนะเจ้า...ที่จริง เพียงเคยหยิบๆ มันขึ้นมาดูสอง สามรอบ...พิจารณาจากสันดานตนเอง....สงสัยหลับ กับไม่เข้าใจ
แต่ที่แน่ๆ..คนอินเดีย...เขาชอบนั่งเฉยๆ....มองเฉยๆ...ดูเฉยๆ....คงเป็นที่มาของเซน....นักปราชญ์เฉยๆ....

 

โดย: กาบชมพู 29 กรกฎาคม 2550 10:42:21 น.  

 




แวะมาทักทายหลังจากหายไปนาน
ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมคร้าบบ
และขอบคุณสำหรับกำลังใจและความห่วงใหญ่ที่มีให้กันเสมอมา
เอาบุญถวายเทียนพรรษามาฝากนะค่ะ..สาธุ
เชิญไปเยี่ยมที่บล๊อกได้นะค่ะ อัพแล้วคะ

เกยหันอยู่บนฮ้านหนังสทอเหมือนกัน แต่บ่าได้เอามาอ่าน
แต่ชอบความคิดของเซนเปิ้นเหมือนกันเจ้า เพราะว่าฮื้อแง่คิดดีดีหลายอย่างเลย

รักษาสุขภาพและมีความสุขมากๆ นะค่ะ

 

โดย: weraj 29 กรกฎาคม 2550 10:54:16 น.  

 

เอ๊ะ...ความเงียบนี่เสียงดังอย่างไร

 

โดย: floral_flory 29 กรกฎาคม 2550 11:08:30 น.  

 

มาทักทายก่อนจากลา...

 

โดย: UnEdiTED 29 กรกฎาคม 2550 11:54:45 น.  

 

เรื่อง "จิต" นี่แหละครับที่อธิบายยากที่สุด
ใช้ "จิต" อธิบาย"จิต" นี่แหละ ทางที่ง่ายที่สุดแล้วครับ

เสียงตบมือข้างเดียวดังไปทั่วจักรวาลเลยครับ
เสียงแห่ง "ความเงียบ"

 

โดย: กายแก้ว 29 กรกฎาคม 2550 12:24:32 น.  

 

สวัสดีค่ะ.....

มีเล่มนี้เหมือนกันแต่หน้าปกต่างกัน

เพราะครั้งที่พิมพ์น้อยกว่า

ซื้อมาตั้งนานแล้วค่ะ ชอบมากๆเลย

อ่านแล้วใจสงบดี

 

โดย: หิมะสีดำ 29 กรกฎาคม 2550 12:36:22 น.  

 

จริงค่ะ ทั้งเซนและเต๋า อ่านไม่ยาก แต่เข้าใจโคตรยาก
บางทีก็รู้สึกว่าออกจะกวนๆอยู่
แต่ถ้าขบคิดซาโตริออกแล้ว
เราจะรู้ว่ามัน "จริง"
เราจะจดจำและปิติเลยล่ะ รู้สึกแบบนี้ไหม..

เต๋าบอกว่า
ปล่อยวางตนแล้ว ค้นพบอีกฝ่าย
ปล่อยวางอีกฝ่าย และค้นพบตนเอง
ฝากให้กะว่าก๋าช่วยคิดนะคะ

ขอบคุณที่นำหนังสือ ความคิดดีๆมาแบ่งปันเสมอนะ

 

โดย: ยิปซีสีน้ำเงิน 29 กรกฎาคม 2550 13:44:47 น.  

 

อ่านแล้วชวนคิดค่ะ คิดแล้ว ก็งงค่ะ

อิอิ..

วันนี้วันพระใหญ่ เอาบุญมาฝากค่ะ

 

โดย: printcess of the moon 29 กรกฎาคม 2550 14:52:10 น.  

 

ก็คงจะเป็นทำนองเดียวกันใช่มั๊ยคะ
ที่ว่า ถ้าเราพยายามจะเข้าใจปรัชญาเซนเท่าไหร่
เราก็มักจะไม่สามารถเข้าใจได้เอาซะเลย
แต่ถ้าเราปล่อยใจให้ว่าง และไม่พยายามทำความเข้าใจมันมากเท่าไหร่
เราก็จะยิ่งเข้าใจเซนได้มากขึ้นเท่านั้น คิดว่าอย่างนั้นมั้งคะ
..............
ไม่ได้เข้ามาหลายที่นี่เกือบสองวันเต็ม เป็นไงบ้างคะ
คงจะสบายดีนะ วันหยุดยาวแบบนี้ไม่ไปเที่ยวที่ไหนเหรอคะ
ส่วนพี่ ไม่ได้ไปไหนเหมือนกัน ยังเปิดร้านตามปกติค่ะ
มีความสุขมากๆและรักษาสุขภาพด้วยนะ

 

โดย: เราสองคน (ฝากเธอ ) 29 กรกฎาคม 2550 16:50:06 น.  

 

ที่ว่าอ่านสิบครั้งก็ไม่เข้าใจเนี่ย...อ่านงานของกาบ...หรืออ่านปราชญ์อย่างเซนค่ะ...ถ้าอย่างหลังขณะอาจารย์ก๋างง...โห...ชีวิตตู....จะไปหากัญญานมิตร ไหนอีกหนอ..เริ่มกลุ้ม

 

โดย: กาบชมพู 29 กรกฎาคม 2550 19:51:28 น.  

 

มาส่งอ้ายเข้านอนเจ้า

 

โดย: weraj 29 กรกฎาคม 2550 19:57:41 น.  

 

อิด ขนาดค่ะ
เพิ่งกลับมาจากทริปโก๊ะเทะอีกแล้ว

เดี๋ยวพรุ่งนี้จะเข้ามาอ่านอีกทีนะคะ

ตอนนี้ไม่ไหวแล้วค่ะ

แบตฯหมด

 

โดย: BFBMOM 29 กรกฎาคม 2550 21:02:37 น.  

 

อะ คุณก๋า อัพยาว
.. แมงปอแวะมาได้แป๊บเดียว ต้องไปทำงานต่อแล้ว

++ แวะมาชวนคุณก๋าไปทายเพลงด้วย

btw, พูดถึงหนังสือของ ท่าน ว. วชิรเมธี
ตอนนี้ยังอ่านไม่ได้ เพราะติดหนังสือของหลวงพ่อปราโมทย์ กับ Socrates ทีเคยอัพเอาไว้

คงอีกซักพักอ่ะนะคะ แล้วจะมาบอก ถ้าอ่านแล้ว

 

โดย: แ ม ง ป อ 29 กรกฎาคม 2550 21:26:56 น.  

 

วันนี้เริ่มว่างตระเวนไปทั่ว..มีความสุขจัง
เราก็ชอบค่ะ..ปล่อยวางอย่างเซน
แต่รู้สึกเครียดจัง..มันฝืนๆๆธรรมชาติไงก้ไม่รู้ค่ะ

วันนี้กทม..ครึ้มค่ะแดดไม่จัดในช่วงนี้ค่ะ
ทางคุณร้อนมากเหรอค่ะ

คืนนี้พักผ่อนเต็มที่เลยนะค่ะ
นอนหลับกับคนข้างกายอันเป็นที่รักรู้สึกสุขเสมอค่ะ




เวลาที่ได้รับอายอุ่นจากกันและกันอิๆๆๆๆๆ
ขอให้คุณมีความสุขเช่นเดียวกับที่เราได้รับนะค่ะ
มีความสุขทั้งสองคนนะค่ะ..นอนหลับฝันดีนะค่ะ

เพื่อนแสนดี

 

โดย: catt.&.cattleya (catt.&.cattleya.. ) 29 กรกฎาคม 2550 21:41:12 น.  

 

เพลงวันนี้ใน blog for kaa นะคะ

for น้องคนสวยของก๋าด้วยค่ะ

หมู่บ้านนี้น่ะคนน้อยค่ะ
ไม่สวยจริงๆอยู่ไม่ได้

คือว่าต้องประมาณว่าสวยมาก
ถึงมากที่สุดอ่ะ

เออ นี่พี่ก็เตรียมย้ายออกแล้ว

อิอิ

 

โดย: rendezvous (be-oct4 ) 29 กรกฎาคม 2550 22:24:49 น.  

 

เหวยคุงก๋า ไม่ช่ายรูปอิชั้นซักหน่อย
ไม่มีทางหลุดเอาลงบล็อกหรอก

เวลาไปเที่ยว อย่าได้ไปกับไกด์เลยค่ะ ไม่มีเวลานาน แถมต้องตื่นเช้าอีกตั่งหาก

แต่ว่า ถ้าไปตามใจฉันเนี่ยนะ จะได้แค่ไปดมฮ่ะ
ไม่ได้ไปเที่ยวหลายที่

เห็นด้วยมากกับเรื่องเซน
เพิ่งอ่านมาเหมือนกันค่ะ
จนสับสนว่า นี่เราเรื่มเอนเอียงไปทางเซนแล้วหรือ

 

โดย: Piterek 29 กรกฎาคม 2550 22:28:52 น.  

 

-- เซน คือ ธรรมชาติ --
-- ธรรมชาติ คือ ธรรมะ --

เมื่อไปเวียนเทียนวันนี้

กานต์ได้รำลึกถึงคุณ พระพุทธ พระธรรม และ พระสงฆ์
ได้ตระหนักว่า พระพุทธเจ้าคือ สุดยอดอัจฉริยะ

-----------------------------------------------------------

เรื่องที่คุณก๋า ชอบกานต์ก็ชอบค่ะ

วันนี้กานต์ก็มีเรื่องที่ยังอุ้มอยู่ตั้งแต่เมื่อวาน

น้องที่ทำงานกานต์นะค่ะ

เป็นคนที่กานต์รู้สึกดีด้วยเอามากมาก

และคุยเล่นกันดีมาตลอด เหมือนเป็นเพื่อนกัน

เมื่อวานกานต์แค่ไปเล่นเกมส์ที่เครื่องน้องอีกคนนึง

ซึ่งน้องคนที่กานต์รู้สึกดีด้วยจะใช้

กานต์ก็ไปบอกน้องว่าไปเปิดเครื่องอื่นใช้ก่อนไป๊

ด้วยความที่สนิทกัน และมักคุยเล่นและแกล้งกันอยู่เสมอ

ก็คิดว่าไม่มีอะไร

แต่น้องกลับแสดงกิริยา ปึงปัง ปิดเปิดลิ้นชักเสียงดัง

และไม่พูดกับกานต์เลย

---------------------------------------------------------

ก็แค่บ่นให้ฟังนะค่ะ ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่กานต์ยังคงอุ้มอยู่
ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้

ก็แค่เสียใจ - และผิดหวัง กลุ้มใจด้วยค่ะ คนที่เคยสนิทและรักใคร่กัน ไม่อยากให้มีปัญหาเลยค่ะ

 

โดย: karnlaka 29 กรกฎาคม 2550 22:46:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]