<<
กรกฏาคม 2560
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
20 กรกฏาคม 2560

:: การอ่านสร้างชีวิต ::





:: การอ่านสร้างชีวิต ::

นิตยสาร : สารคดี ฉบับที่ 386









ผมเคยเสนอกรุงเทพฯ*
ว่าหนึ่ง building หนึ่ง library
คือหนึ่งอาคารสูงควรมีห้องสมุด
เราพยายามพูดว่าที่สิงคโปร์ตึกสูงมีห้องสมุด
เวลาเราสร้างตึกขึ้นมาในกรุงเทพฯที่มีความสูงหกชั้น
กรุงเทพฯกำหนดว่าต้องมีห้องส้วมกี่ห้อง
ในเมื่อคุณกำหนดให้สร้าง ‘ห้องขี้’ ได้
แล้วทำไมคุณไม่กำหนดให้เขาสร้าง ‘ห้องคิด’
ว่าในตึกนี้ควรมีห้องสมุดหนึ่งห้อง


* หมายถึงกลุ่มผู้บริหารกรุงเทพมหานครฯ


จรัญ หอมเทียนทอง

เจ้าของสำนักพิมพ์แสงดาว
นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และจำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย









บทสัมภาษณ์ของคุณจรัญ หอมเทียนทองในนิตยสารสารคดี
มีความน่าสนใจมากในความรู้สึกของผม
เป็นบทสะท้อนความจริงที่ซ่อนอยู่ในวงการหนังสือของบ้านเรา
ประเทศที่เคยได้ชื่อว่าคนอ่านหนังสือเฉลี่ยเพียงปีละ 8 บรรทัด !

คำกล่าวที่ว่า “วงการหนังสือกำลังจะตาย” เป็นจริงหรือไม่
ในความรู้สึกของคุณ

ตลอดระยะเวลาหลายสิบปี ผมอ่านหนังสือทุกวัน
เข้าห้างใหญ่ ๆ ผมเดินเข้าร้านหนังสือก่อนเป็นอันดับแรก
บางครั้งแทบจะเดินครบทุกร้านที่มีอยู่
เพื่อหาซื้อหนังสือที่ตัวเองและลูกสนใจกลับไปอ่าน

ปีนี้สิ่งที่รู้สึกอย่างเห็นได้ชัด
คือนิตยสารที่ตัวผมเองเคยอ่าน
หายไปจากร้านหนังสือเป็นจำนวนมาก
การปิดตัวลงของสื่อสิ่งพิมพ์สะท้อนอะไรบ้าง ?

สะท้อนว่าคนเลิกอ่านหนังสือกระดาษ
แล้วหันไปอ่านสื่อออนไลน์

สะท้อนว่าเศรษฐกิจของประเทศกำลังล้มเหลวย่ำแย่
จนคนไม่เหลือเงินเพื่อซื้อหนังสือ

สะท้อนว่าธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์กำลังอยู่ในสภาพดิ้นรนเฮือกสุดท้าย
เพื่ออยู่รอดให้ได้ท่ามกลางลมหายใจที่รวยริน

นักเขียน โรงพิมพ์ สำนักพิมพ์ ร้านจัดจำหน่ายหนังสือ สายส่ง ฯลฯ
ทั้งหมดกำลังพึ่งพากัน หรือ งัดข้อกัน
เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ

แต่ทั้งหมดทั้งมวลในเนื้อหาของการพูดคุย
ผมคิดว่าประเด็นสำคัญอยู่ที่มุมมองและการช่วยเหลือจากภาครัฐ

ในประเทศที่พัฒนาแล้วรัฐบาลจะเข้ามาช่วยโอบอุ้มดูแลระบบหนังสือ
โดยเฉพาะระบบหนังสือสาธารณะ อย่างเช่น ห้องสมุด และร้านค้าหนังสือ
เพราะถือว่านี่คือแหล่งความรู้ของประชาชน
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับประเทศของเราคืออะไร ?

รัฐมีงบสร้างห้องสมุด
แต่ไม่มีงบจัดซื้อหนังสือ
ใช้การขอบริจาคหนังสือของสำนักพิมพ์ต่าง ๆ
นี่คือความล้มเหลว
นี่คือแนวคิดที่น่าละอาย

ทำไมนักอ่านต้องรองานสัปดาห์หนังสือ
ถึงจะเข้าไปซื้อหนังสือ
เพราะหนังสือราคาถูก
เพราะมีการลดแลกแจกแถม
เพราะหนังสือใหม่จะออกเฉพาะช่วงนี้
ฯลฯ

เราไม่เคยเริ่มต้นคำถามด้วยความรู้สึกว่า

“การอ่าน คือ สิ่งสำคัญ” เลย

รัฐบาลเราเพิกเฉยต่อการอ่าน
ไม่เห็นความสำคัญของการอ่าน
แต่อยากพัฒนาคุณภาพการคิดของคนในชาติ

สิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างไร
ถ้าคนในชาติไม่ใฝ่รู้ ไม่สนใจวิธีคิดอย่างสร้างสรรค์
ไม่สนใจวิธีการในการหาคำตอบที่ถูกต้อง
เราต้องการแต่คำตอบที่สำเร็จรูปและได้มาง่าย ๆ

ถ้าเราไม่เชื่อมั่นในการอ่าน
ว่า การอ่าน คือ ชีวิต
จะวางแผนพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนไปอีกกี่สิบปีก็เปล่าประโยชน์
จะพูดปาว ๆ ว่าจะพัฒนาระบบการศึกษาให้ดีขึ้นก็ไร้ประโยชน์
เพราะถ้าคนไม่สนใจที่จะเรียนรู้เสียแล้ว
ต่อให้มีผู้นำเป็นคนดีขี่ม้าขาวอีกสักกี่สิบกี่ร้อยคน
ก็ไม่อาจพาชาติให้รุ่งเรืองได้อย่างยั่งยืน




































 

Create Date : 20 กรกฎาคม 2560
30 comments
Last Update : 3 มีนาคม 2561 12:59:57 น.
Counter : 1732 Pageviews.

 

สวัสดีคะคุณก๋า...

ซื้อหนังสือมาหลายเล่ม ยังอ่านไม่หมดเลยคะ

ผลสำรวจที่ว่าคนไทยอ่านหนังสือ คนละ8บรรทัด

ได้ยินมานาน..หดหู่ใจชอบกลนะคะ

 

โดย: ิอ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) 20 กรกฎาคม 2560 6:16:56 น.  

 

กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog
..............
อ้าววว,เมื่อวานนีเห็น นายก ให้ข่าวว่าจะพัฒนาการศึกษาให้ดีขึ้นไงคะ
แต่ขอโทษนะ นายก คนนี้พูดอะไร พี่ไม่เคยเชื่อเลยสักครั้ง
แกพูดอย่างนึง แต่ทำให้ทางตรงข้ามเกือบทุกเรื่องฮ่า โคตรอัจฉริยะจริงๆ นายกเรา

เยาวชนน่าห่วงมากๆคะคุณก๋า ติดแต่ไฮเทค จะเห็นว่าเด็กๆชอบอ่านหนังสือกันน้อยลงมากๆ

มีแต่คนที่สุงอายุแล้วเท่านั้นที่สนใจหา หนังสืออ่าน... เรื่องเศรษฐกิจหรือคะ น่าจะเอา ม.44 ออกมากระตุ้นนะ

เพราะว่า ม. 44 ทำได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งไปล้อมวัดแห่งหนึ่งทั้งหลายเดือน ไม่รุหมดงบภาษีไปเท่าไหร... ม. 44 ไปจับบ่อนก็ยังใช้เลย ทำไมไม่เอามากระตุ้น ให้คนอ่านหนังและเศรษฐกิจมั่งนะ

 

โดย: Opey 20 กรกฎาคม 2560 7:04:57 น.  

 

พูดตรงเลย...ครับคุณก๋า.... คนอ่านจากหนังสือเป็นเล่ม
ลดน้อยลง..มากจริง ๆ

ตอนนี้ วิดิโอ ที่ยาว ๆ กำลังปรับ ตัดต่อให้กระชับ เล่าเรื่อง
ให้รู้เรื่อง แล "น่าสนใจ" ไม่เกิน 5 นาที..

มันอาจจะไม่ซาบซึ้ง เพียงแต่ เรียกความสนใจ เพื่อที่จะทำ
อาหาร (หมวดนี้เริ่มพัฒนาขึ้นแทนที่ จะ ตักน้ำพริก ใส่กะทะ
ผัดจนหอม เทหมูหั่นซอย ตามด้วย เห็ดหอมฯฯฯฯ)

ส่วนหนังสือ คงจะเป็นที่ต้องการของ คนรักหนังสือเล่มจริง ๆ

บางทีคงเป็น บทความที่ กินใจ สั้น ๆ ลงในเวฟ... ผู้เขียน
คงจะได้ ส่วนแบ่งจาก เจ้าของเวฟ บางเวฟเท่านั้นเอง

....

ห้องสมุด ผมเข้าไปดูเมื่อ 10 ปีที่แล้ว.... ร้านหนังสือ
ยังเข้าดูหนังสือ ด้านความรู้ เทคโนโลยีที่ เขาเขียนเองไม่
ได้แปล(แบบห่วย) ลอกมาทั้งดุ้น ทำตามแล้ว ไม่ได้ผล
ลัพภ์ใดๆ เลย..

แต่แปลก หนังสือ นิยาย มีคนดูมากกว่าครับ 555


กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 20 กรกฎาคม 2560 7:09:23 น.  

 

สวัสดีค่ะ พี่ก๋า
มีเด็กที่ทำงาน กำลังจะจบป.ตรี
ไม่รู้ว่าประเทศไทย
มีหอสมุดแห่งชาติค่ะ
อ่านคำที่ว่าประเทศเรา
วงการหนังสืออัปลักษณ์แล้ว
ปวดใจจังค่ะ
ความจริงมักเจ็บปวดเสมอ

 

โดย: ann_shinchang 20 กรกฎาคม 2560 7:19:21 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับ คุณก๋า
ในอนาคตคนจะไม่รู้จักกระดาษครับ กระดาษจะกลายเป็นสิ่งมีค่าเหมือนวัตถุโบราณ
เด็กๆจะรู้จักแต่หน้าจอสี่เหลี่ยม ทัชแล้วเจอบทเรียน การบ้าน เกมส์ ซื้ออาหารได้ จ่ายค่าโน่นนี่ได้
หน่วยงานที่ผมอยู่ ก็มีห้องสมุดครับ แต่มีหนังสือวิชาการเป็นส่วนใหญ่ นิยายก็มีพออ่านคลายเครียดได้55
หนังสือพิมพ์ นิตยสาร วารสารประเภทประจำวัน/สัปดาห์/เดือน ไม่มี
ผมมาทำงานที่นี่ เข้าห้องสมุดยังไม่ถึง 10 ครั้งครับ แต่กับที่ทำงานเก่าผมไปเกือบทุกวัน
paperless บันทึกประวัติลงในกระดาษจะหายไป บันทึกในคอมพิวเตอร์แทน
หนังสือหายไป อนาคตห้องสมุดก็ไม่ต้องมีครับ อ่านอีบุ๊ค
วันก่อนอ่านข่าว(ออนไลน์) รัฐมนตรีศึกษาจะให้เด็กอ่านหนังสือมากขึ้น ก็ไม่รู้โครงการไปถึงไหนแล้ว

ยุคเทคโนโลยี ไม่มีอะไรหยุดยั้งเทคโนโลยีได้ครับ

คงต้องใช้ ม.44 จัดการกับ เทคโนโลยี ให้ได้ก่อนครับ
เริ่มกับ ไอโฟน ตามด้วย ซัมซุง ฯลฯ
นโยบาย 4.0 กับ 4G 555

เช้านี้ ฝนตกแต่เช้าครับ

 

โดย: สองแผ่นดิน 20 กรกฎาคม 2560 8:06:00 น.  

 

แหล่ม
มาโหวตหนังสือให้เลยจ้า

 

โดย: อุ้มสี 20 กรกฎาคม 2560 8:09:26 น.  

 

กะว่าก๋า Book Blog

พี่ก๋าค่ะมี้ว่าเดี่ยวนี้จะไปกันใหญ่แล้ว ตอนนี้หนังสือน้อยลงคนหันไปอ่านออนไลน์ ก็ยังพอทำใจได้ แต่ตอนนี้ มีแบบอ่านให้ฟังด้วยคือนั่งฟังเฉยๆ ไม่ต้องอ่านเองแล้วนะ 555555 ก็ ตลกดี

 

โดย: kae+aoe 20 กรกฎาคม 2560 8:27:53 น.  

 

คนหันไปอ่านออนไลน์เยอะจริงๆ แล้วอ่านแบบฟรีด้วยค่ะ คนเลยซื้อหนังสือน้อยลง ประมาณว่า อ่านฟรีก็ได้ ทำไมต้องจ่ายตังค์ แถมมีพวกชอบเอาหนังสือมาสแกนแล้วแจกให้ดาวน์โหลดฟรีด้วยนะคะ สงสารคนทำหนังสือกันมากๆ

เราเองยังอ่านน้อยลงเลยค่ะ ซื้อก็น้อยลง แต่ก็ยังมีกองดองอีกสองสามร้อยเล่มนะ แหะๆ

ขออภัยค่ะ คุณโหวตบล็อกนี้ไปแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เกศสุริยง Education Blog ดู Blog
ข้ามขอบฟ้า Klaibann Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 20 กรกฎาคม 2560 9:34:48 น.  

 

กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog
ส่วนตัวเห็นว่าสื่ออย่างอื่นก็แทนหนังสือไม่ได้ 100%
ใครไม่อ่านหนังสือก็ช่างเราอ่านแล้วกันนะคุณก๋า

 

โดย: หอมกร 20 กรกฎาคม 2560 10:00:39 น.  

 

ชอบอ่านหนังสือเหมือนกัน แต่รู้สึกว่าอ่านน้อยกว่าสมัยก่อนเยอะเลยครับ สำหรับตัวผม มีบางเล่มอ่านยังไม่จบก็คาไว้ ต้องไปสำรวจตู้ใหม่อีกรอบละครับ

 

โดย: The Kop Civil 20 กรกฎาคม 2560 10:18:48 น.  

 

สวัสดีคะคุณก๋า
โอ้โห...คุณจรัญ ให้สัมภาษณ์ให้แนวคิดดีมากๆ
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการอ่านจากหนังสือ เราชอบเลยคะ
ชอบตรงที่กล่าวว่า " คนที่บอกว่าหนังสือราคาแพง
คือ คนที่ไม่อ่านหนังสือ ! .... หนังสือราคาแพง
แต่มีคุณค่าเขาก็ซื้อ ...)

"การอ่าน คือ ชีวิต " ถูกต้องเลย !


กะว่าก๋า Book Blog

 

โดย: Tui Laksi 20 กรกฎาคม 2560 10:18:55 น.  

 

55 คุณสร้างห้องขี้ได้ ทำไมคุณจะสร้างห้องอ่านไม่ได้
อันนี้เห็นด้วยอย่างมากค่ะ ดูเหมือนว่าประเทศเราไม่ค่อยให้ความสำคัญกับอ่านเลยนะคะ
ทุกวันนี้คนไทยอ่านหนังสือน้อยมาก ที่จริงแล้วเรื่องอ่านนี่ต้องปลูกฝังตั้งแต่เด็กเลยนะคะ
คุณจรัล พูดได้น่าคิดค่ะ

ขอบคุณโหวตค่ะ


 

โดย: mambymam 20 กรกฎาคม 2560 10:56:37 น.  

 

มาถึงวันนี้ ใครจะเป็นคนกล่อมเกลาให้เด็ก
มีทัศนคติที่ดีในการอ่าน แค่นี้ก็เหนื่อยแล้ว
พ่อแม่ส่วนใหญ่กว่า 90% มั้ง ลืมตาขึ้นมาก็
ตาลีตาลานออกไปทำมาหากิน บางคนไม่มี
เวลาไปส่งลูกถึงโรงเรียนด้วยซ้ำ รอรถ
โรงเรียนกันไป

ถ้าเด็กไม่มีนิสัยรักการอ่าน จะสร้างห้องสมุด
ไว้ให้ใครเหรอ อย่างน้อยต้องมีในหลักสูตรให้
เด็กอ่านหนังสือนอนเวลาเยอะกว่าแอบเล่นเน็ต
ในเวลา

วันนี้บอกว่ามันต้องแก้ยังงี้ๆๆๆๆๆ แต่จุดเริ่มต้น
มันผ่านไปนานแล้ว พอจะคิดเพาะเชื้อจุดเริ่มต้น
กันสักหน่อยไหม ไม่รู้จะถามใคร กลัวโดนดุ

คนจะชอบการอ่านหรือไม่ บังคับกันไม่ได้หรอกค่ะ
จ้างให้อ่านยังไม่ได้ผลเลย การอ่านพอให้จบก็ไม่
เกิดประโยชน์โพดผลอันใดถ้าอ่านไปแบบไม่คิดตาม

คนจะอ่านหนังสืออย่างมีความสุขและได้ประโยชน์
จากการอ่าน ต้องปลูกฝังกันมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ เอิ๊ก บางคนมาสนใจอ่านเมื่อโต
หรือเมื่อเกษียณไม่มีอะไรจะทำแล้ว อยากเขกหัว
ตัวเองว่า ทำไมเพิ่งมาอ่านฟระตู ก็มีนะคะ

กะว่าก๋า Book Blog

 

โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) 20 กรกฎาคม 2560 11:24:56 น.  

 

ไม่ได้ครับเดี๋ยวคนไทยฉลาดแล้วจะควบคุมยาก ผมเห็นข่าวการศึกษาแล้วอยากเอามือปิดหน้า

ผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับคำพูดที่ว่าคนที่บอกว่า คนที่บอกว่าหนังสือแพงคือคนที่ไม่อ่าน หนังสือมันแพงจริงๆ ครับ สมัยก่อนตอนที่เป็นเด็กไม่มีรายได้ บางครั้งเราต้องไปอ่านฟรี หรือไม่ก็แลกกับเพื่อนอ่านเลยทีเดียว แม้แต่ตอนที่เราหาเงินได้แล้ว ราคามันก็สูงเกิน ผมมองในมุมที่ว่าหนังสือควรมี 2 เกรด คือ เกรดอ่าน ดับ เกรดเก็บสะสม (อ่านแล้วเก็บสะสม)

"ในประเทศที่พัฒนาแล้วรัฐบาลจะเข้ามาช่วยโอบอุ้มดูแลระบบหนังสือ" คำตอบนี้จะตอบคำถามได้ทุกคำถามที่พี่ก๋าสงสัยครับ "คุณก็รู้นี่ว่าที่นี่ประเทศไทย"

แต่ไม่ต้องห่่วงนะครับ ถึงเราจะล้มเหลวในหลายๆ ด้านเราก็ยังได้ชื่อว่าเป็น "ผู้เชี่ยวชาญด้านความล้มเหลว"

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 20 กรกฎาคม 2560 11:31:54 น.  

 

ตะเตือนไตที่ผู้นำก็ไม่อ่าน

 

โดย: mariabamboo 20 กรกฎาคม 2560 11:51:44 น.  

 

ป๊าน้องซียังฟัง เรื่องตัวละคร พวกซุปเปอร์ฮีโร่ แทนการอ่านศึกษาเลยค่ะ 5555

 

โดย: kae+aoe 20 กรกฎาคม 2560 14:19:23 น.  

 

5555555555 จริงสิค่ะ เนอะๆ เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็ว่าง นั่งดูคลิปกัน นั่นนี่ ... ไม่มีใครนั่งอ่านหนังสือเวลาว่างแล้วรึเนี่ย

 

โดย: kae+aoe 20 กรกฎาคม 2560 15:53:13 น.  

 


ฝนตกไหมค่ะ ทางนู้น ทางนี้เกือบทั้งวันทั้งคืนเลยค่ะ
รักษาสุขภาพด้วยน๊าคะ
มีความสุขมากมากค่ะ

 

โดย: white in the dark 20 กรกฎาคม 2560 16:34:33 น.  

 

เห็นด้วยกับบล็อกนี้ค่ะคุณก๋า
หนังสือดี ๆ หลายเล่มปิ่ดตัวไปอย่างน่าเสียดาย
เพราะตอนนี้หาสปอนเซอร์มาลงหนังสือยากมากค่ะ

 

โดย: เนินน้ำ 20 กรกฎาคม 2560 18:08:15 น.  

 

มาโหวตค่ะ



 

โดย: mambymam 20 กรกฎาคม 2560 18:20:52 น.  

 

ปี้ว่า มันต้องเริ่มต้นส่งเสริมหื้อคนกลับมาอ่านหนังสือก่อนเจ้า
ถ้าคนบะอ่านหนังสือ สร้้างห้องสมุดไปก่อบะมีคนเข้า
ต่อหื้อทำหนังสือออกมาดีแค่ไหน บะมีคนอ่าน
ก่อขายบะได้ ต้องหื้อคนเห็นความสำคัญของการอ่าน
กระตุ้นหื้อคนอ่าน คนชอบอ่าน จะซื้อหนังสือ
จะขวนขว๋ายหาหนังสือมาอ่าน แล้วมันจะค่อย ๆ ขยายเจ้า

เช่น หลักสูตรของโรงเรียนในภาครัฐ
ควรจะมีชั่วโมงในการอ่าน หื้อนักเรียนอ่านหนังสือในห้องเรียน
โดยที่บะใช่วิชาการ หื้อละอ่อนได้อ่านที่เขาอยากจะอ่าน
ปูพื้นฐานการอ่านหื้อเขา บะใจเขเขาอ่านหนังสือเรียน
ถ้าเขาฮักที่จะอ่านแล้ว เขาจะบะรังเกียจหนังสือ

อ่อ อย่างการทำรายงาน หื้อหาข้อมูลในเน็ต
แล้วส่งงานทางอีเมลเหมือนที่โรงเรียนดัง ๆ ฮิตกั๋น
บะเหมือนตะก่อนต้องไปค้นในห้องสมุด แล้วเอามาลอก
ใส่สมุดรายงาน ฝึกทั้งเขียน ฝึกทั้งอ่าน และฝึกทั้งสรุปใจความ
บะใช่ก็อปมาแปะไว้ใน word แล้ว print ส่งครู

อู้ ๆ ไป มันก่อต้องแก้กั๋นยาวเลยนะเจ้า
คือ ยะได้ก่อได้หื้อคนชอบอ่าน ก่อนที่จะสร้างที่อ่านอ่ะ

อย่างปี้เป็นนักลงทุน ถ้าจะเป็นสปอนเซอร์ในหนังสือ
ปี้ต้องดูว่าหนังสือเล่มนั้น มีคนอ่านหรือหื้อความสนใจหรือเปล่า
ถ้าบะมีคนสนใจ ก่อลงทุนที่เปล่าประโยชน์

ล่าสุด นิตยสาร "ครัว" เพิ่งปิดตัวไปล่าสุดเดือนที่แล้ว
แม้บะได้ติดตามนิตยสารครัว แต่ก่ออดใจหายบะได้
ยังทันได้ซื้อเล่มสุดท้ายมาเป็นที่ระลึก

 

โดย: JinnyTent 20 กรกฎาคม 2560 19:01:10 น.  

 

สวัสดีรอบเย็นค่ะพี่ก๋า
เพลงบรรเลงแอนก็ชอบค่ะ
แต่ไม่ได้ฟังบ่อยมาก
แต่ถ้าเป็นเพลงบทสวด
ท่าจะไม่ไหวค่ะ แหะแหะ

 

โดย: ann_shinchang 20 กรกฎาคม 2560 19:29:24 น.  

 

กระแทกใจ ตรงใจมากค่ะ

พี่ไม่เคยคิดว่าจะไม่ซื้อหนังสืออีก เพราะสามารถอ่านออนไลน์ได้ แต่รอช่วงงานหนังสือลดราคา อันนี้เรื่องจริง ถามว่าหนังสือแพง จนเราจับไม่ลงมั้ย ไม่ถึงขนาดนั้นค่ะ คือถ้ามีให้เลือกว่าถูกกว่า ก็เลือกที่จะซื้อราคาถูกกว่า

สำนักพิมพ์หนังสือเคยโทร.มาหาพี่ ขอให้ช่วยบริจาคค่าหนังสือ ทางสำนักพิมพ์ไม่สามารถส่งให้ทางโรงเรียนตามต่างจังหวัดได้หมด เค้าให้ราคาพิเศษ แต่ก็ต้องหาแนวร่วมช่วยเหลือด้วย เค้าส่งรายชื่อ รร. มาให้ ... มี รร. รอรับหนังสือเยอะมาก หนังสือดี ๆ เข้าไม่ถึง ฟังแล้วก็นะ บางทีเราต้องคิดใหม่ว่า ไม่ใช่เพราะเค้าไม่อ่าน แต่เพราะเค้าไม่มีจะอ่านมากกว่า

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 20 กรกฎาคม 2560 20:07:01 น.  

 


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ชีริว Travel Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

สวัสดีค่ะน้องก๋า เมื่อวานไม่ได้เข้าบล็อกเลยค่ะ วันนี้ก็มาซะดึกเลย มาอ่านรีวิวหนังสือดีๆค่ะ พี่กิ่งโหวตให้นะคะ

 

โดย: กิ่งฟ้า 20 กรกฎาคม 2560 21:49:22 น.  

 

สวัสดีจ้า..
โหวตจ้า..

 

โดย: ก้นกะลา 20 กรกฎาคม 2560 21:58:26 น.  

 

สวัสดี จ้ะ น้องก๋า

เรื่องของการอ่านหนังสือ ต้องปลูกฝังทัศนคติเรื่องการอ่านให้ตั้งแต่เด็กเสียก่อน แต่ปัจจุบัน ดูเหมือนทางครอบครัวที่จะปลูกฝังเด็กชอบอ่านหนังสือ มีน้อย เพราะสภาพของครอบครัวไม่อำนวย ในการแนะนำ แค่วัน ๆ ทำมาหากินก็หมดเวลา หรือพ่อแม่เองก็ไม่มีเวลาอ่านหนังสือให้เด็ก ๆ เห็นเป็นตัวอย่างที่ดี
อีกประการหนึ่ง เทคโนโลยี ล้ำหน้าก้าวไกล ค้นหา จาก อินเทอร์เน็ต ได้อยู่แล้ว ทำให้วงการหนังสือที่เป็นเล่ม สำนักพิมพ์แต่ละสำนัก ปิดตัวไปตาม ๆ กัน เฮ้อ ! คนโทษแต่รัฐอย่างเดียวคงไม่ได้ จ้ะ ต้องแก้กันหลาย ๆ อย่าง ทีเดียว

โหวด หมวดรีวิวหนังสือ

 

โดย: อาจารย์สุวิมล 20 กรกฎาคม 2560 22:28:04 น.  

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
อุ้มสี Topical Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
มาดึกมาก ย่องมาส่งกำลังใจให้ค่ะคุณก๋า

 

โดย: เกศสุริยง 21 กรกฎาคม 2560 0:22:43 น.  

 

สวัสดีจ้ะน้องกิจ

สมัยนี่อะไรก็เปลี่ยนไปหมด
น่าใจหายถ้าหนังสือจะหายไปเรื่อยๆ

พี่ชอบอ่านหนังสือมากกว่าอ่านทางออนไลน์
เคยซื้อหนังสือส่งมาทางเรือ 2 ครั้ง แต่ค่าส่งก็แพงมาก
ไปเมืองไทยก็ซื้อหนังสือกลับมาทุกครั้ง แต่ก็เอามาได้ไม่มาก

ยังมีคนอีกเยอะที่อยากจะอ่านหนังสือแต่ไม่สามารถอ่านได้
แต่คนที่สามารถอ่านได้แต่กลับไม่สนใจ

กะว่าก๋า Book Blog

 

โดย: ข้ามขอบฟ้า 21 กรกฎาคม 2560 1:19:22 น.  

 

สวัสดีค่ะน้องก๋า

 

โดย: newyorknurse 21 กรกฎาคม 2560 2:57:30 น.  

 

สวัสดี ตอนเช้าค่ะ พี่ก๋า

 

โดย: ann_shinchang 21 กรกฎาคม 2560 5:40:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 393 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]