American Pie - Don McLean ... ความหมาย
YouTube / Uploaded by TrueBlueCdnEh A long, long time ago I can still remember how that music used to make me smile And I knew if I had my chance that I could make those people dance And maybe they'd be happy for a while But February made me shiver with every paper I'd deliver Bad news on the doorstep, I couldn't take one more step I can't remember if I cried when I read about his widowed bride But something touched me deep inside the day the music died กาลครั้งหนึ่งนานนานมาแล้ว ฉันยังจำได้ว่า ดนตรีนั้นทำให้ฉันมีความสุขอย่างไร และฉันรู้ว่าหากฉันมีโอกาส ฉันจะทำให้คนเหล่านั้นเต้น และบางที เขาคงจะมีความสุขแม้แค่ช่วงเวลาสั้น ๆ แต่กุมภาพันธ์นั้นทำให้ฉันเหมือนโดนฟ้าผ่า จากข่าวร้ายในหนังสือพิมพ์ทุกฉบับที่ผมนำไปส่ง ข่าวร้ายมาถึงหน้าบันไดบ้าน จนไม่อาจก้าวเดินต่อไปได้ ฉันจำไม่ได้ว่าร้องไห้หรือเปล่า เมื่ออ่านเกี่ยวกับภรรยาหม้ายของเขา แต่มีบางอย่างมาสัมผัสฉันลึก ๆ ว่าเป็นวันที่สิ้นเสียงเพลง 3 กุมภาพันธ์ 2502 Buddy Holly นักร้องนักแต่งเพลงที่มีอิทธิพลต่อดนตรี rock and roll เครื่องบินตกเสียชีวิตในไอโอว่า ภรรยาเขาเสียใจจนแท้งลูก ... จบกัน rock and roll ... So bye, bye Miss American Pie Drove my Chevy to the levee but the levee was dry And them good old boys were drinking whiskey and rye Singing this'll be the day that I die, this'll be the day that I die ลาก่อนมิสอเมริกันพาย ได้ขับเชฟวี่ขึ้นไปบนคันกั้นน้ำ ที่ปราศจากน้ำ และเด็กชายคนดี กำลังดื่มเหล้า พลางร้องว่าวันนี้จะเป็นวันที่ฉันสิ้นใจ, วันนี้จะเป็นวันที่ฉันสิ้นใจ มิสอเมริกันพาย อาจเป็นตัวแทนของความฝันของคนเอมริกัน - rock and roll ยุคนั้นหนุ่มมักพาสาวขับเชฟวี่ไปพลอดรักที่สันเขื่อน ไม่มีน้ำ - ไม่มีสาวไปด้วย Did you write the book of love and do you have faith in God above If the Bible tells you so? Now do you believe in rock and roll? Can music save your mortal soul? And can you teach me how to dance real slow? Well, I know that you're in love with him 'Cause I saw you dancing in the gym You both kicked off your shoes Man, I dig those rhythm and blues I was a lonely teenage bronc'n' buck With a pink carnation and a pickup truck But I knew I was out of luck The day the music died คุณได้แต่งเพลงเรื่องความรักไหม และคุณมีความเชื่อในพระเจ้าเบื้องบน ตามที่ไบเบิลบอกคุณไหม? ตอนนี้คุณเชื่อในร็อคแอนด์โรลไหม? บทเพลงจะรักษาจิตวิญญาณคุณไหม? และคุณจะสอนให้ฉันเต้นรำจังหวะช้า ๆ ไหม? เอาละฉันรู้ว่าคุณรักเขา เพราะฉันเห็นคุณเต้นรำในยิม คุณทั้งคู่ต่างสะบัดรองเท้า เพื่อน, ฉันจึงขุดจังหวะเก่า ๆ และเศร้าขึ้นมา ... ฉันเป็นวัยรุ่นที่เหงา กวางหนุ่มในรั้วผุ มีคาร์เนชั่นสีชมพูกับรถปิ๊กอัพ แต่ฉันรู้ว่าฉันอับโชค ในวันที่สิ้นเสียงเพลง เหมือนเขาเอาเพลงหรือคำพูดเด็ด ๆ ของเพลง เข้ามาร้อยเข้าด้วยกัน เป็นเรื่องราวเช่น the book of love * the Bible tells me so?* Do You Believe In Magic* ธรรมเนียมเช่น การเต้นสโลว์เมื่อไหร่จะเข้าใจว่าเป็นแฟนกัน เป็นการร้อยเรียงถึงยุคเก่า ยุคใหม่อะไรจะเกิดขึ้นจากนี้ จะกลับไปเป็นบบเดิมไหม จะมีใครสานต่อไหม I started singing bye, bye Miss American Pie Drove my Chevy to the levee but the levee was dry And them good old boys were drinking whiskey and rye Singing this'll be the day that I die, this'll be the day that I die ฉันจึงร้องว่า ลาก่อนมิสอเมริกันพาย ได้ขับเชฟวี่ขึ้นไปบนคันกั้นน้ำ ที่ปราศจากน้ำ และเด็กชายคนดี กำลังดื่มเหล้า พลางร้องว่าวันนี้จะเป็นวันที่ฉันสิ้นใจ, วันนี้จะเป็นวันที่ฉันสิ้นใจ Now, for ten years we've been on our own And moss grows fat on a rolling stone But that's not how it used to be When the jester sang for the king and queen In a coat he borrowed from James Dean And a voice that came from you and me Oh, and while the king was looking down The jester stole his thorny crown The courtroom was adjourned No verdict was returned And while Lenon read a book on Marx The quartet practiced in the park And we sang dirges in the dark The day the music died เป็นเวลาสิบปีที่เราอยู่ด้วยตัวเอง คนที่ไม่หยุดอยู่กับที่ย่อมเกิดความคิดใหม่ ๆ ที่ไม่เหมือนที่เคยเป็น ตัวตลกร้องเพลงให้ราชาและราชินี ใส่โค้ทที่ยืมมาจากเจมส์ดีน และเสียงนั้นมาจากพวกคุณและฉัน และเมื่อราชามองลงมา ตัวตลกก็ขโมยมงกุฏ การตัดสินความผิดถูกเลื่อนออกไป โดยไม่ได้กลับมาพิจารณาอีก เมื่อเลนอนอ่านหนังสือมาร์ซ วงดนตรีสี่คนเล่นอยู่ในพาร์ค และเราร้องเพลงในพิธีศพ ในวันที่สิ้นเสียงเพลง วง Rolling stone พ้องกับสุภาษิตว่า ... คนที่ไม่หยุดอยู่กับที่ย่อมเกิดความคิดใหม่ ๆ ตัวตลก ... บ็อบ ดิแลนด์ ราชา ... เอลวิส ราชินี ... Connie Francis, Little Richard, ฯลฯ ในหนังเรื่อง Rebel Without a Causeเจมสศ็ดีน มีเสื้อกันลมสีแดง ในชีวิตจริง บ็อบ ดิแลน ชอบใส่เสื้อกันลมสีแดง บ็อบ ดิแลนร้องเพลงโฟล์ค ... folk แปลว่า ประชาชน คือเรา ๆ ท่าน ๆ เมื่อเอลวิสถูกเกณท์ทหาร บ็อบดิแลนขึ้นมาเป็นราชาเพลงแทน การตัดสินความ ... หมายถึงคดีเคคาดี้ และมือปืน ออสวอลด์ เลนอนเลียนแบบมาร์ซในการปฏิวัติเพลง ในปี 1968 สี่เต่าทอง คือ สี่คน คือ Beatles งานศพในยุค 60's มี Kennedy's คือ John และ Robert มี Martin Luther King We were singing bye, bye Miss American Pie Drove my Chevy to the levee but the levee was dry And them good old boys were drinking whiskey and rye Singing this'll be the day that I die, this'll be the day that I die เราร้องว่า ลาก่อนมิสอเมริกันพาย ได้ขับเชฟวี่ขึ้นไปบนคันกั้นน้ำ ที่ปราศจากน้ำ และเด็กชายคนดี กำลังดื่มเหล้า พลางร้องว่าวันนี้จะเป็นวันที่ฉันสิ้นใจ, วันนี้จะเป็นวันที่ฉันสิ้นใจ Helter skelter in a summer swelter The birds flew off with a fallout shelter Eight miles high and falling fast Landed foul on the grass The players tried for a forward pass With the jester on the sidelines in a cast Now the half time air was sweet perfume While sergeants played a marching tune We all got up to dance Oh, but we never got the chance 'Cause the players tried to take the field The marching band refused to yield Do you recall what was revealed The day the music died? ความสับสนในฤดูร้อนที่อบอ้าว จนนกตกตกจากคอน สูงแปดไมล์และตกอย่างรวดเร็ว ลงพื้นอย่าน่าขยะแขยงลงบนกัญชา นักดนตรีอื่นพยายามบุกไปข้างหน้า ขณะที่บ็อบดิแลนอยู่นอกวงเพราะถูกเหวี่ยง เมื่อกลิ่นควันที่ไม่ถูกสูดช่างหอมหวน ขณะที่ตำรวจพาเรดมา เราควรได้ลุกขึ้นเต้น แต่เราไม่มีโอกาส เพราะผู้เล่นพยายามได้อิสระ พวกพาเรดก็ไม่ยอมอ่อนข้อให้ คุณจำได้ไหมว่าอะไรเกิดขึ้น กำเนิดวันสิ้นเสียงเพลง Helter skelter* birds คือวง The Byrd ซึ่ง เพลง Eight miles high ถูกแบน และความนิยมตกอย่างเร็ว เพราะเกี่ยวกับยาเสพติด บ็อบ ดิแลน ประสบอุบัติเหตุมอเตอร์ไซด์ พักไป 9 เดือน sweet perfume อาจหมายถึงแก๊สน้ำตา การเดินขบวนประท้วงสงครามเวียตนาม ที่ Kent State มีนักศึกษาเสียชีวิต 4 คน เพลง OHIO ของ CSN&Y We started singing bye, bye Miss American Pie Drove my Chevy to the levee but the levee was dry Them good old boys were drinking whiskey and rye And singing this'll be the day that I die, this'll be the day that I die เราร้องว่า ลาก่อนมิสอเมริกันพาย ได้ขับเชฟวี่ขึ้นไปบนคันกั้นน้ำ ที่ปราศจากน้ำ และเด็กชายคนดี กำลังดื่มเหล้า พลางร้องว่าวันนี้จะเป็นวันที่ฉันสิ้นใจ, วันนี้จะเป็นวันที่ฉันสิ้นใจ Oh, and there we were all in one place, a generation lost in space With no time left to start again So come on Jack be nimble, Jack be quick Jack Flash sat on a candlestick ' cause fire is the devil's only friend Oh, and as I watched him on the stage My hands were clenched in fists of rage No angel born in hell Could break that Satan's spell And as the flames climbed high into the night To light the sacrificial rite I saw Satan laughing with delight The day the music died เราต่างอยู่ในที่เดียวกัน ในเจนเนอเรชั่นที่ไม่รู้จัก ที่ไม่มีเวลาเหลือให้เริ่มต้นใหม่ มาเร็วแจ๊คผู้ว่องไว เร็ว ๆ แจ็คแฟลชปักอยู่ในเชิงเทียน เพราะไฟเป็นเพื่อนคนเดียวของอสูร โอ แล้วเมื่อฉันดูเขาบนเวที มือของฉันก็กำแน่น ไม่มีนางฟ้าเกิดในนรก ที่จะแก้คำสาปของซาตาน และเมื่อที่ไฟกำลังลุกโชนสู่ค่ำคืน เพื่อจุดไฟบูชายันต์ ฉันเห็นซาตานหัวเราะด้วยความยินดี ในวันสิ้นสุดเสียงเพลง เราทั้งหมดมารวมกันในที่เดียว ... woodstock Jack be nimble คือ Mick Jagger วง Rolling Stone Jumpin Jack Flash * เพลงของ Rolling Stone candlestick คือ Candlestick park concert cause fire is the devil's only friend อยู่ในเพลง Sympathy for the Devil* 6 ธันวา 2512 มีการจัด rock concert ที่สนามแข่งรถ Altamont Meredith Hunter พยายามจะปีนขึ้นไปบนเวที ขณะที่ Rolling Stone กำลังเล่นเพลง Sympathy for the Devil สมาชิกของกลุ่ม Hells Angels motorcycle club ที่รับจ้างเป็นการ์ดด้วยเบียร์ และ ยา ได้ลากตัวออกไปซ้อม เขาได้กลับเข้ามาใหม่ ชักปืน จึงถูกการ์ดแทงตาย วง rolling stone ขึ้นฮอออกจากเวทีทันที ทิ้งร่าง Meredith Hunter ไว้ ดั่งใช้ชีวิตหนึ่งบูชายันต์ซาตาน He was singing bye, bye Miss American Pie Drove my Chevy to the levee but the levee was dry Them good old boys were drinking whiskey and rye And singing this'll be the day that I die, this'll be the day that I die เขาร้องว่า ลาก่อนมิสอเมริกันพาย ได้ขับเชฟวี่ขึ้นไปบนคันกั้นน้ำ ที่ปราศจากน้ำ และเด็กชายคนดี กำลังดื่มเหล้า พลางร้องว่าวันนี้จะเป็นวันที่ฉันสิ้นใจ, วันนี้จะเป็นวันที่ฉันสิ้นใจ I met a girl who sang the blues And I asked her for some happy news But she just smiled and turned away I went down to the sacred store Where I'd heard the music years before But the man there said the music wouldn't play And in the streets the children screamed The lovers cried and the poets dreamed But not a word was spoken The church bells all were broken And the three men I admire most The Father, Son, and the Holy Ghost They caught the last train for the coast The day the music died ฉันได้พบสาวที่ร้องเพลงบลู และฉันถามเธอถึงข่าวดี แต่เธอแค่ยิ้มและผละไป ฉันแวะที่ร้านที่มีมนต์ขลัง ร้านที่ฉันเคยฟังเพลงเก่าหลายปี แต่ชายในร้านกลับพูดว่าดนตรีนั้นไม่ได้เล่นอีกแล้ว ในถนนเด็ก ๆ ต่างกรีดร้อง คู่รักเศร้าและกวีฝัน แต่กลับไม่มีคำพูดแม้เพียงคำ ระฆังโบสถ์ทุกใบเสียหาย และชายสามคนที่ฉันบูชาที่สุด พระบิดา พระบุตร และพระจิต เขาจับรถขบวนสุดท้ายไปแผ่นดินสวรรค์ ในวันสิ้นเสียงเพลง Janis Joplin เป็นนักร้องเพลงบลู เพลงฮิตของเธอคือ "Piece of My Heart" และ "Me and Bobby McGee." เธอตายเพราะเสพเฮโรอินเกินขนาด เมคลีนชอบเพลงของเธอ I saw ten thousand talkers whose tongues were all broken อยู่ใน Sound of Silence โดย Simon and Garfunkel And they were singing bye, bye Miss American Pie Drove my Chevy to the levee but the levee was dry Them good old boys were drinking whiskey and rye Singing this'll be the day that I die, this'll be the day that I die และพวกเขาร้องว่า ลาก่อนมิสอเมริกันพาย ได้ขับเชฟวี่ขึ้นไปบนคันกั้นน้ำ ที่ปราศจากน้ำ และเด็กชายคนดี กำลังดื่มเหล้า พลางร้องว่าวันนี้จะเป็นวันที่ฉันสิ้นใจ, วันนี้จะเป็นวันที่ฉันสิ้นใจ They were singing, bye, bye Miss American Pie Drove my Chevy to the levee but the levee was dry Them good old boys were drinking whiskey and rye Singing this'll be the day that I die เพลงในเพลง Peggy Sue - BUDDY HOLLY The Book Of Love The Bible Tells Me So (Jesus Loves Me อยู่ในเพลงนี้ For the Bible tells me so) Do You Believe In Magic Helter Skelter 8 Miles High OHIO Sgt. Pepper's Lonely Hearts Club Band Jumping Jack Flash Sympathy for the Devil Me and Bobby McGee Sound Of Silence *** อเมริกันพาย เป็นเรื่องราวส่วนหนึ่งของอเมริกา ช่วงยุค 50s-60s เริ่มจากแรงบันดาลใจของดอน แมคลีนขณะเป็นเด็กส่งหนังสือพิมพ์ เมื่อ 2502 ได้ทราบข่าวการเสียชีวิตของ บัดดี้ โฮลี่ เป็นการถ่ายทอดการวิวัฒนาการของเพลงและการเมือง ที่เริ่มจุดประกายในยุค 50 จนมาถึงยุคมืดใน 60 และเชิงเปรียบเทียบมาจนถึงเพลงในยุคปัจจุบัน ... ปี 1971 หรือ 2514 ไม่ได้เป็นการอาลัยอาวรณ์ แต่อเมริกัน เองนั้นเปลี่ยนแปลงอเมริกัน สำหรับแมคลีนจากวันอ่อนเดียงสาสู่ยุคมืดของชีวิต เมื่อเสียพ่อไป เสียบัดดี้ โฮลี่ และ ประธานาธิบีเคนนาดี้ ที่ทำให้อเมริกาเข้าสู่ยุคแห่งความยากลำบาก ที่ทำให้เขาตัดสินใจออกจากมหาวิทยาลัยสู่นักร้องอาชีพตามฝัน *** เป็นเพลงที่เข้าใจยากมาก เป็นเพลงที่ยาวมาก ไม่คิดว่าที่ตัวเข้าใจจะใช่ที่คนแต่งตั้งใจ แนวความคิดอ่านมาจาก หลาย ๆ เวปที่ให้ความหมายของเพลงนี้
Create Date : 21 กรกฎาคม 2557
Last Update : 26 มิถุนายน 2559 21:49:31 น.
28 comments
Counter : 4656 Pageviews.
ซอบเพลงนี้มาเมินแล้ว
แต่บ่าเกยทราบความหมายของเพลงเลยครับ