ความเกรงใจคือสมบัติของผู้ดี
ตั้งใจจะขียนเรื่องความเกรงใจตั้งแต่เมื่อวานแต่ยังไม่มีเวลา เลยมารวบเขียนวันนี้ละกัน
เมื่อวานไปทานข้าวกับน้องที่ทำงาน ไม่รู้จะกินไรดีจึงเลือกลงที่ร้านอาหารตามสั่งร้านหนึ่ง แต่ปรากฏว่าโต๊ะเต็มไม่มีที่นั่ง เลยถามแม่ค้าว่าเราไปนั่งร้านขนมจีนที่ติดกันได้มั้ย แม่ค้าว่า ได้ เดี๋ยวไปส่ง เราว่า แต่เราไม่ได้กินขนมจีนนะ แม่ค้าว่า ไม่เป็นไร เดี๋ยวไปบอกให้
แล้วเราก็ไปนั่งร้านขนมจีนซึ่งเป็นร้านขนมจีนบุฟเฟ่ต์คนละ 39 บาท รู้สึกเก้อๆ เขินๆ แฮะ เพราะคิวข้าวค่อนข้างยาว แม่ค้าร้านขนมจีนก็ยิ้มให้หลายรอบแล้ว ด้วยความเกรงใจร้านขนมจีนก็เลยบอกน้องที่ไปด้วยกันว่า ไม่เป็นไร พี่หิว พี่ช่วยกินเอง จึงไปตักขนมจีนมากินจานหนึ่ง น้องที่ไปด้วยบอกว่า ทำไมน้อยจังคะ มันไม่คุ้ม 39 บาทนะคะ เอาไงล่ะทีนี้ กินขนมจีนแล้วก็อิ่ม กินข้าวที่สั่งไว้ไม่ได้อีก
น้องบอกว่า งั้นข้าวเราใส่กล่องมั้ยคะ นั่นไง เกรงใจร้านข้าวอีก สั่งไปแล้วจะยกเลิกก็กระไรอยู่ กลัวเขาจะเสียรายได้ แฮ่ะๆๆ สรุปว่าเปลี่ยนใจกินขนมจีนบุฟเฟ่ต์คนละสองจานเลย แล้วหิ้วข้าวกล่องกลับคนละกล่องอีกด้วย อิอิอิ
แถมให้อีกเรื่อง...วันนี้ตอนเย็นไปซื้ออาหารที่ตลาด อยู่ๆ อยากกินมะม่วง เลยเดินไปถามหามะม่วงนิ่มๆ แม่ค้าว่า เกือบสุกใช่มั้ย แล้วแกก็เลือกให้มาลูกหนึ่ง หั่นให้เสร็จสรรพ แล้วเราถามว่า เท่าไหร่ แกว่า คิด 10 บาทแล้วกัน ปกติลูกละ 15-20 แต่ลูกนี่มันนิ่ม เข้าใจว่าแกจะเกรงใจเราที่เราเลือกลูกที่ขายไม่ออกเลยไม่กล้าคิดแพง
พอจ่ายเงินให้ แกบอกว่า เด็กๆ เขาชอบกรอบๆ กัน เอ่อ...มันเจ็บต้องประโยคสุดท้ายนี่แหละ!
Create Date : 21 พฤษภาคม 2556 |
|
0 comments |
Last Update : 21 พฤษภาคม 2556 21:41:09 น. |
Counter : 1839 Pageviews. |
|
|