หาหมอหูคอจมูกรอบสอง
เมื่อวานไปตามนัดกับหมอหูคอจมูก เรียกได้ว่าเตรียมใจไว้เลยว่าจะได้เปิดศึกกับหมอถ้าหมอพูดไม่ดีอีก ก็จะบอกว่า ไม่เป็นไร ไม่ต้องรักษาแล้ว เท่าไหร่เท่านั้น อยู่กับมันให้ชินพอ
แต่พอเข้าไปรอบนี้ยังกะหนังคนละม้วน เหมือนหมอคิดได้หรือยังไงก็ไม่รุ้ว่ะ หมอให้เราไล่อาการให้ฟังใหม่ คราวนี้ยอมฟัง และไม่พูดถึงเรื่องเรามีปัญหาสมองแล้ว
จากนั้นก็อ่านชื่อยาเคมีที่พยาบาลจดให้ (ทั้งที่แกเองก็สามารถเปิดประวัติดูได้) บอกว่า เดี๋ยวจะค้นในแอปนี้นะ (แอปของฝรั่ง) ว่ายามีผลต่อการเวียนหัวไหม เราได้ยาสองตัว (จำชื่อตัวเดียว Cyclophosphamide อีกตัวจำชื่อไม่ได้ ถ่ายรูปไม่ทัน เรียกเข้าห้องไปก่อน)
สรุปว่าไอ้ตัวที่เราจำได้น่ะแหละที่มีผลต่อการเวียนหัวจริง อีกตัวไม่มี แต่บอกไม่ได้ว่ามีผลระยะยาวแค่ไหน ถาวรหรือหายได้ ยังไม่มีผลวิจัยตัวนี้ เราก็ถามว่า ไม่เคยมีคนไข้มะเร็งที่ให้คีโมมาปรึกษาหมอเลยเหรอ หมอเลยบอกว่ารพ.นี้เพิ่งจะได้รักษามะเร็งได้แค่สองปี (เพิ่งมีหมอเฉพาะทาง) จึงมีคนไข้ที่รับคีโมไม่มากนัก เราจึงเป็นคนแรกๆ ที่ได้รับ และมีผลข้างเคียง
หมออธิบายเหมือนครูสอนนักเรียนว่าความน่าจะเป็นตอนนี้เป็นยังไงบ้าง อย่างแรกคือหูชั้นในมีหินปูน สองคือ กระดูกต้นคอไปกดทับเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงในหัว สามก็คือ คีโมไปทำลายหลอดเลือด (มันก็เป็นภาษาหมอนะ แต่เราสรุปได้ประมาณนี้)
หมอเลยทดลองโยกหัวเราอีกรอบ (คราวที่แล้วทำแล้วชั้นนอกไม่มีอะไร) คราวนี้โยกซ้ายขวาและท่านอนหงายไม้ตาย ก็ไม่มีอะไรอีก ชั้นในก็ไม่มีหินปูนเสื่อมหรือหลุดอะไร สาเหตุแรกก็ตัดทิ้งไป
หมอเลยว่าก็ลองกายภาพกระดูกต้นคอดู เราบอกว่าเราเคยเอกซเรย์แล้วนะ หมอกระดูกบอกว่าปกติ แกเลยว่ามันอยู่ข้างในไม่ใช่ภายนอก เลยส่งต่อให้ไปกายภาพอาทิตย์หน้าสักสามรอบ เผื่อได้ผล ต้องลองไปทุกอย่าง
แล้วก็บอกว่าระหว่างก็กินยาใหม่ด้วย จะให้ยาเม็ดฟู่เข้าไปสลายอะไรสักอย่างอยู่ในหลอดเลือดเนี่ยแหละ (flemex) อีกอย่างหมอว่ากินยานอนหลับไปเลย จะได้ไม่ต้องรับรู้อะไร ช่างแม่งมันชีวิตจะอะไรนักหนา เราหัวเราะเสียงดังมาก เออก็จริงของหมอ
เราว่าปกติเราก็กินนะ แกก็เลื่อนไปดูประวัติการกินยา แกว่าของแกแรงกว่า รับรองฟินกว่าเยอะ เพราะแกก็กิน แกว่าเราเป็นคนติดยาคุยกัน แกว่าแกก็เครียด นอนไม่หลับ ยังไงก็ได้ร่างกายต้องได้นอน
หมอบอกเราต้องลองวิธีรักษาไปเรื่อยๆ อย่ายอมแพ้ สู้กับมัน เราก็บอกว่า จนกว่าจะสู้ไม่ได้ก็ต้องยอมรับมันเนอะ แกว่ามันต้องได้ ลองไปก่อน ปลายเดือนมาติดตามผลกันใหม่
สรุปว่านั่งคุยกันเรื่องการรักษาสัก 20-30 นาทีได้ ไม่มีการรักษาอะไรที่ทำให้เวียนหัวขับรถไม่ได้หรอก (จริงๆ ไม่ต้องรบกวนน้องที่ทำงานไปรับส่งก็ได้) ปกติ ตอนเย็นกลับมาบ้านพร้อมกับเริ่มเป็นไมเกรนหน่อยๆ ตุ่ยๆ มาแล้ว
ยาที่ได้มาเป็นยานอกบัญชีหมด เบิกไม่ได้ จนหมอต้องเขียนจดหมายถึงคณะแพทย์ให้ยกเว้นบางตัวให้เรา เป็นคนไข้พิเศษไป เราก็จ่ายเพิ่มร้อยกว่าบาท
ตกค่ำ ทุ่มครึ่งเรากินยานอนหลับตัวใหม่เลย เตรียมว่าสามทุ่มครึ่งสี่ทุ่มจะนอนแล้ว เพราะเช้าวันรุ่งขึ้นจะสดชื่นมีงานต้องไปทำแต่เช้า เราก็ไม่กินยาไมเกรนนะ คิดว่าเดี๋ยวหลับก็หายเอง
สามทุ่มกว่าไม่มีแววจะง่วงอย่างที่คิด แต่สักพักก็ลองปิดไฟนอน ไม่รู้หลับไปตอนไหน รู้สึกตัวอีกที ไมเกรนแดกหนักมาก นอนหลับต่อไม่ได้ ไม่รู้ตีเท่าไหร่ล่ะ นอนทรมานอยู่พักนึงก็ไม่เข้าใจว่ากูจะนอนทรมานทำไม ลุกมากินยาไมเกรน นอนเป็นชม.ไม่หลับไม่ออกฤทธิ์ซะทีเคยกินตัวนึงครั้งแรกเมื่อเดือนทีแล้วมันออกฤทธิ์ดีมาก หายไว และได้ผลนานทั้งคืน แต่กลายเป็นว่าตอนนี้ไม่ได้ผลอะไรแล้ว
แต่เผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ มันจะลอยๆ เคลิ้มๆ ฝันๆ หมอบอกว่ายาทำให้ฝันดี แต่ทำไมเราฝันว่ากำลังเก็บขยะ 555 พอจะพลิกตัว เอ้า เป็นไมเกรนต่อ กูจะบ้าตาย ได้ยินไก่ขันแล้ว ทีนี้อีไก่ขันไม่หยุด เรานอนไม่หลับแล้ว ยาที่ว่าแรงที่ว่าฟินไม่ได้ผลสักนิด ตีห้าลุกมาเข้าห้องน้ำ แล้วก็หลับต่อไม่ลง
ตีห้าครึ่งส่งข้อความบอกเพื่อนว่าให้ช่วยไปทำงานแทนที เราไม่รอด นอนก็ไม่หลับ ลุกมาก็ไม่ช่วยให้ดีขึ้น กินยาไมเกรนอีกตัวพร้อมพาราฯ ไป ผ่านไปสี่ชม.(ตอนเขียนblog) ก็ไม่ดีขึ้น หลังบ้านทาสีบ้านกลิ่นสีทำให้ปวดหัวหนักไปอีก แล้วไม่รู้สึกง่วงซึมอะไรนะ นอนไม่ได้แล้ว ปวดหัวอย่างเดียว ชีวิตบัดซบแค่ไหนคิดดู
ไม่เวียนหัว แต่ปวดหัวแทน หุงข้าวกิน แล้วกินยา Nicergoline หลังอาหารเช้าไป (แก้หลอดเลือดสมองอะไรนี่ล่ะ) นี่จะกินยาไมเกรนซ้ำไปอีกแล้ว อยู่บ้านไม่ได้ละเหม็นสีมาก ไม่งั้นจะอยากตายแล้วนะ
Create Date : 05 สิงหาคม 2566 |
Last Update : 5 สิงหาคม 2566 9:31:54 น. |
|
2 comments
|
Counter : 611 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: **mp5** วันที่: 10 สิงหาคม 2566 เวลา:14:14:18 น. |
|
|
|
| |