ตกบันได
วันนี้จะซวยอะไรขนาดนั้น มาทำงานทั้งที่ตื่นก่อนนาฬิกาปลุก แต่มีเด็กโทรมาขอคำปรึกษาเรื่องฝึกงานตอนจะออกไปทำงาน พอถึงที่ทำงานก็วนหาที่จอดรถอีก เพราะเมื่อคืนจัดงานลอยกระทงกัน เช้ามาเลยต้องเก็บกวาดกันให้วุ่นวาย ทำให้เข้าสอนช้าเลย
เลือกแต่งตัวสวยเดรสสั้นสีฟ้าสดใส ใส่ส้นสูงไปสอนเด็ก สมาธิก็ไม่มี เพราะรีบร้อน สอนก็งงๆ คาดว่าเด็กก็คงงงเหมือนกัน พอเลิกสอน ขี้เกียจลงลิฟต์ พร้อมเด็ก ก็เดินลงจากชั้น 5 มาชั้น 3 พอเดินลงจากชั้น 5 เกือบถึงที่พักบันไดชั้น4 ไม่รู้เดินอีท่าไหน รองเท้าส้นสูง (ซึ่งก็ไม่ใช่ส้นเข็มนะ) ดันไปขัดกับขอบบันไดที่เป็นกันลื่น เสียหลักพุ่งถลาลงมาสามขั้น อ๊ากสสสสสส์ ถลาขาพันกันไปหมดโดยไม่รู้ว่าลงไปได้ยังไง
ตอนที่ถลาลมลงมานั้นคิดแต่ในใจว่าหัวทิ่ม เจ็บ หน้าแตก ฟันหัก กระโปรงเปิดแน่กู!!! โชคดีที่ที่พักบันไดมันมีกระถางต้นไม้สูง เราเลยเอามือยันไว้ทันด้วยความที่กลัวจะตีลังกา (ไม่งั้นมีหวังหลุดพ้นไปนอกราวบันไดอาจจะตกไปคอหักตายแน่ๆ) หนังสือหนังหาที่ถือมาด้วยกระจัดกระจายเต็มพื้นหมดแล้ว (แต่แปลกที่กำปากกากับแฟลชไดร์ฟไว้แน่นเชียว)
สิ่งแรกที่ทำหลังจากตกบันไดคือ หันไปมองซ้ายขวาว่ามีใครเห็นเราหรือตามเรามาหรือเปล่า ท่าเราคงทุเรศมากๆ ไอ้ตอนถลาก็ไม่กล้าร้องดัง ด้วยสัญชาตญาณคิดว่าอยู่ที่สาธารณะจะเสียงดังไม่ได้ แต่จากการคาดเดาคิดว่าเสียงของหล่นและเสียงกุกกักที่เราตกบันไดคงดังพอสมควร จนเด็กที่ลงไปก่อนหน้านี้หยุดแล้วหันมาดู เราหันไปยิ้มเหมือนแค่ทำหนังสือหล่น :P
ดีนะเรายันตัวเองไว้ทัน ไม่ลงไปกองอยู่กับพื้น ไม่งั้นอายคนแย่เลย ยังดีที่เด็กที่หันมามีแค่ 2 คน นอกนั้นลงลิฟต์ไปหมดแล้ว เราทำฟอร์มเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น เก็บของใหญ่เลย แต่เจ็บมือที่ยันกระถาง ส่วนนิ้วก็จกไปในดินในกระถาง---
นึกโมโหไอ้รองเท้าส้นสูงที่ใส่มาซะจริงๆ ร้อยวันพันปีไม่ใส่ ดันมาใส่วันนี้ กลับถึงห้องทำงานไม่กล้าบอกใคร จนไปกินข้าวเล่าให้เพื่อนๆฟังว่าเมื่อกี๊ตกบันไดมาว่ะ มี 2 คำถามทีเพื่อนถามคือ 1. มีเด็กเห็นหรือเปล่า 2. หวอออกมั้ย
แล้วหัวเราะชอบใจที่รู้ว่าเราตกบันไดไป 3-4 ขั้น
ดู๊ดู...ไม่มีใครถามเลยว่าเราเจ็บตรงไหนเป็นอะไรหรือเปล่า ไอ้สองคำถามนี้มันสะท้อนให้เห็นว่า "เจ็บไม่ว่า แต่อย่าให้อาย"
Create Date : 09 พฤศจิกายน 2554 |
|
2 comments |
Last Update : 9 พฤศจิกายน 2554 14:08:34 น. |
Counter : 2004 Pageviews. |
|
|