เย้ๆ น้ำหนักลดลงนิดนุงแล้วจ้า ในที่สุดก็สัมผัส 56.xx อีกครั้งนึง !!!!!ชั่งน้ำหนักเมื่อวานนี้น้ำหนักลดนึกว่าตาฝาดเพราะที่ผ่านมากินเยอะกว่าปกติ เลยปลุกคุณเปเล่มาถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานว่าลดจริงๆนะเนี่ย ไม่ได้โม้ ....เมื่อเช้านี้ชั่งอีกทีก็อยู่ที่ 56.5 ดีใจจัง จะรอดูวันพรุ่งนี้ว่ายังอยู่ที่หลักนี้อยู่หรือป่าว วันนี้เราตั้งใจจะกินโลว์คาบมื้อเย็นเพื่อควบคุมน้ำหนักไม่ให้กระโดดขึ้นไปอีก ไม่งั้นเสียดายแย่เลยเนอะ ที่ผ่านมาคิดว่าน้ำหนักจะขึ้นเพราะเรากินมื้อค่ำเยอะตลอดเลย .. แต่มีเหตุผลนะเพราะเพื่อนเราแพ้ท้องมากเลย และไม่อยากกินข้าวเพราะกินแล้วอาเจียร เราเลยไปชวนเธอกินข้าวและเดินเล่นเกือบทุกเย็นแบบว่าถ้าไม่มีใครมาชวนเธอกินอะไรหรือทำอะไรสนุกๆ เธอจะทานข้าวได้น้อยมาก แต่ตอนนี้อาการเธอดีขึ้นแล้วล่ะ นี่ก็ใกล้สอบเข้ามาทุกที กังวลนะเนี่ย เราเป็นคนประเภทตื่นเต้นมากๆเวลาสอบ ยังไงก็ขอกำลังใจด้วยนะค้าาาาาตามคำเรียกร้อง.... เราขอนำเสนอ Before & After ถ่ายไว้ตอนมาสวีเดนด้วยวีซ่าท่องเที่ยว ยังไม่อ้วนเท่าไรอืดมากๆๆๆ หน้าบานเท่ากระด้งเลย อ๊ายอายนะเนี่ย น่าจะ 65 kgไม่ได้ท้องนะคะ ไม่ช่าย นั่นมันพุงล้วนๆค่ะ วันนี้เองค่ะ 56.5 กางเกงที่เคยใส่พอดี หลวมไปเยอะเลยเราเองไม่ได้เป็นคนที่อ้วนมาตั้งแต่เด็กค่ะ เมื่อตอนวัยรุ่นก็รูปร่างดีนะ ( เชื่อนะ Please ไม่ได้โกหก)แต่ด้วยความกลัวอ้วน กลัวไม่สวย อยากตัวเล็กกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งเมือก่อนหนักแค่ 48 kg ด้วยความหลงผิดเลยไปหาหมอ และกินยาลดความอ้วนซึ่งไม่ได้ช่วยอะไรเราเลยมาตอนนี้เราคิดว่าหมอคนนั้นร่ำรวยจากเงินของคนโง่ๆและหลงผิดอย่างเรานะ....จากนั้นมาเราก็ควบคุมน้ำหนักได้ยากมาก เผลอเมื่อไรเป็นอ้วน เพราะเราไม่ชอบออกกำลังกายเราเคยลดน้ำหนักด้วยตัวเองได้หลายครั้ง แต่ทุกครั้งน้ำหนักก็ขึ้นมาเหมือนเดิม เพราะความไม่มีวินัยและไม่ออกกำลังกายเราเคยลดได้สิบกิโลในสองเดือน ด้วยการนับแคลอรี่นี่แหละ ตอนนั้นอายุ 24 ปี หนัก 58 ตอนนั้นลดได้เร็วเพราะอายุยังน้อยด้วย และคงน้ำหนักไว้ได้เป็นปีๆ จากนั้นมาก็ขึ้นๆลงๆนะคะ แต่ไม่เคยเกิน 54 แต่ที่อ้วนมากที่สุดก็ตอนมาอยู่สวีเดนนี่แหละค่ะ จากตอนที่รู้จักกับสามี ปี 2005 เราหนัก 54พอมาอยู่สวีเดนได้ไม่ถึงปีน้ำหนักขึ้นเป็น 65 และตอนที่หนักที่สุดนั้นเราหนัก 67 ที่เราคิดได้ว่าต้องลดความอ้วนแล้วก็คือ เราถ่ายรูปออกมาพอเห็นตัวเองแล้วรับไม่ได้อย่างแรงเหมือนป้า ซิ้ม อะไรซักอย่าง จากคนตาโต หน้าเรียว กลายเป็นคนตาตี่ที่ยิ้มทีตาปิด แถมคางสองชั้นตอนกลับเมืองไทยเจอเพื่อนฝูง ทุกคนก็ทักว่า ทำไมปล่อยตัวให้อ้วนขนาดนี้ ( อายมากๆเลยตอนนั้น )เราอยากเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆนะคะ ทุกคนทำได้ เราเองก็พยายามอยู่ไม่มีอะไรเกินความพยายามหรอกค่ะ ความสวยได้มาแบบโชคดีเกิดมาสวยสำหรับบางคน แต่สำหรับเราต้องพยายามด้วยค่ะ เพราะแม่ให้มาแค่นี้ อิอิ
รายงานผลงานการลดความอวบ27 เมษายน หนัก 60.2 kg29 พฤษภาคม หนัก 59.4 ลดลงไป 800 g3 กรกฎาคม หนัก 58.8 ลดลงไป 600 g รวมน้ำหนักลด 1.4 kg13 สิงหาคม หนัก 56.8 ลดลงไป 2 kg รวมน้ำหนักลด 3.4 kg24 สิงหาคม หนัก 57.2 เพิ่มขึ้นมา 400 g รวมน้ำหนักลด 3.0 kg ( อายจัง พิมพ์ผิดไปโน่นเลย 70.2 )30 สิงหาคม หนัก 56.4 ลดลงไป 800 g รวมน้ำหนักลด 3.8 kg+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++เคล็ดไม่ลับอยากบอกต่อ : หากมื้อไหนที่เราทานเยอะเกินไป หรือกังวลว่าน้ำหนักตัวจะขึ้น หรือน้ำหนักขึ้นมานิดหน่อยแล้วนอนไม่หลับ เราจะกำจัดเจ้าส่วนเกินนั้นด้วย Low carb 2 วันค่ะ หลังจากที่ใช้วิธีนี้สู้รบกับน้ำหนักที่เกินๆมาอย่างไม่ตั้งใจ เราว่าเห็นผลดีนะคะ น้ำหนัก 56.8 kg ส่วนสูง 160 cmBMI 22น้ำหนัก 56.8 BMR = 1330ออกกำลังกายปานกลาง = 1330 x 1.55 = 2062กินน้อยลง 40% = จะต้องกินไม่เกิน 1240 kclจะลดน้ำหนักได้ ( 2062 1240 ) x 30 24,660 / 77003.2 kg / monthปล. ค่าที่คำนวณไว้ข้างบนเอาไว้ดูแค่เตือนใจตัวเองเท่านั้นค่ะ ว่าอย่ากินเยอะๆ เป้าหมายของเราลดน้ำหนักเดือนละประมาณหนึ่งกิโลกรัมประมาณนี้ค่ะ ลดช้าหน่อยแต่มีความสุข และสดใสนะคะ
อย่างนี้เปเล่ซื้อทองให้น้อง
จอยกี่บาทแล้วเพราะน้อง
จอยลอดไปมากที่เดียว
น้องจอยเป็นต้นแบบและอาจารย์ในการลดความอ้วนมาก ๆ เพราะน้องจอยให้ช้อมูลที่เป็นประโยชน์มาก ๆ
น้องจอยเหมือนพี่เลย กินยาลดความอ้วน พยายามลดความอ้วน แต่ก็กลับมาอีก ในที่สุดความจริงของการลดความอ้วนก็คือ ควบคุมอาหารและออกกำลังกาย
น่าภูมิใจแทนเปเล่มาก ๆ เลย
สุขสันต์วันหยุดค่ะ