Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2568
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
8 พฤษภาคม 2568
 
All Blogs
 

วิธีรับมือ แผ่นดินไหว




วิกฤตจากเหตุการณ์ไม่คาดคิด ควรเตรียมรับมือไว้ล่วงหน้า

1. เงินสดและของมีค่า:

เงินสด 3–6 เดือน

ทองคำขนาดเล็กพกพาง่าย (เช่น 1 กรัม, 5 กรัม)

2. พลังงานสำรอง:

Solar Cell แบบ Off-grid

Power Box หรือแบตเตอรี่สำรอง

เครื่องปั่นไฟ

เตาแก๊ส, เตาอั้งโล่, ฟืน

3. การสื่อสารสำรอง:

วิทยุสื่อสาร (Walkie Talkie)

วิทยุทรานซิสเตอร์แบบใช้ถ่าน

แผนการสื่อสารระหว่างครอบครัว

4. อาหาร-น้ำ:

อาหารแห้งที่เก็บได้นาน เช่น ข้าวสาร, บะหมี่, ปลากระป๋อง

น้ำดื่มอย่างน้อย 2 ลิตร/คน/วัน สำหรับ 1 เดือน

ระบบกรองน้ำพกพา (Portable Filter)

5. ความปลอดภัย:

อุปกรณ์ป้องกันตัวที่ถูกกฎหมาย

ไฟฉาย, มีดเอนกประสงค์, เครื่องมือฉุกเฉิน

6. การเตรียมใจ:

ฝึกการอยู่โดยไม่พึ่งเทคโนโลยี

เรียนรู้ทักษะเอาตัวรอดพื้นฐาน เช่น จุดไฟ, ทำอาหารง่ายๆ, ปฐมพยาบาล

คำแนะนำเพิ่มเติม:

ทำ Check List สำหรับครอบครัว

จัดกระเป๋าฉุกเฉิน (Bug Out Bag) ไว้ใกล้มือ

วางแผนการนัดพบหรือเคลื่อนย้ายหากต้องอพยพ
























































เช้าวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ทะเลอันดามันยังสงบราวกระจกเงา แต่ความเงียบนั้นกลับเต็มไปด้วยคำเตือน ที่มีเพียงบางชีวิตได้ยิน

นกฝูงใหญ่ทิ้งรังบินสูงขึ้นฟ้า ไม่สนใจอาหารเช้าที่เคยรออยู่ริมหาด
ช้างลากโซ่ดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง สายตาเต็มไปด้วยความกลัว
สัตว์ป่าโบกหางวิ่งไม่หยุด ทิ้งร่องรอยบนพื้นดินมุ่งสู่ภูเขา

และแล้ว—กำแพงน้ำสูงสุดสามสิบเมตรก็ถาโถมเข้าใส่ชายฝั่งหกประเทศ ดุจมือยักษ์ที่ลูบล้างทุกสิ่งบนผืนดิน

มนุษย์กว่าสองแสนชีวิตจากไปในพริบตา แต่สัตว์ส่วนใหญ่กลับรอดชีวิตอย่างน่าพิศวง

ไม่ใช่เวทมนตร์หรือสัญชาตญาณเท่านั้น แต่เป็นการรับฟัง—ฟังเสียงที่เงียบงันสำหรับหูมนุษย์ แต่ดังกึกก้องในโลกของสัตว์

🙊 I. สัตว์รู้ได้อย่างไร?

แผ่นดินไหวใต้ทะเลก่อนเกิดสึนามิสร้างคลื่นความถี่ต่ำที่เราไม่ได้ยิน แต่สัตว์ได้ยินชัดเจน:

ช้าง — ฝ่าเท้าของพวกมันไม่ใช่เพียงรองรับน้ำหนัก แต่เป็นเครื่องรับแรงสั่นสะเทือนอันละเอียดอ่อน ที่รับรู้การสั่นไหวของแผ่นดินได้แม้อยู่ห่างออกไป 150 กิโลเมตร เมื่อเปลือกโลกขยับ พวกมันจึงรู้ตัวก่อนมนุษย์หลายชั่วโมง

นก — กระดูกโพรงของพวกมันบรรจุอวัยวะพิเศษ (บาโรรีเซพเตอร์) ที่ไวต่อความกดอากาศ เมื่อแรงดันเปลี่ยนแม้เพียงเล็กน้อย พวกมันรู้ว่าภัยกำลังมา จึงบินหนีไปในทิศทางที่ปลอดภัย

สัตว์ทะเล — แนวเส้นข้างลำตัวของปลาและสัตว์น้ำรับรู้ความเปลี่ยนแปลงของแรงดันน้ำ กระแสน้ำที่ผิดธรรมชาติแม้เพียงเบาบางก็สร้างความปั่นป่วนให้อวัยวะรับสัมผัสเหล่านี้ ทำให้พวกมันว่ายลงสู่ที่ลึกก่อนคลื่นจะถาโถม

แมลง — มด ปลวก แม้ตัวเล็กนิดเดียว กลับมีประสาทรับความชื้นและความกดอากาศที่ไวกว่าเครื่องมือวัดบางชนิด เมื่อความชื้นเปลี่ยนไปเพียง 0.1% พวกมันก็รู้ว่าต้องย้ายบ้าน

เหล่านี้คือภาษาเก่าแก่ที่โลกใช้สื่อสาร — ภาษาที่มนุษย์เคยรู้ แต่ลืมเลือน

💡 II. ปัญญาที่ไม่มีในหนังสือ

ตำราวิทยาศาสตร์อธิบายว่า "สึนามิ" คือคลื่นที่เกิดจากแผ่นดินไหวใต้ทะเล แต่ความรู้นี้ช่วยชีวิตคนไม่ทันในวันนั้น

กลับเป็นเด็กชาวมอแกนอายุสิบขวบชื่อโต๊ะตี เมื่อเห็นทะเลถอยห่างออกไปอย่างผิดธรรมชาติ เขากรีดร้อง: "มาเลงา! มาเลงา!" (น้ำทะเลกำลังกลืนกิน) เสียงเตือนนี้ดังมาจากเรื่องเล่าที่สืบทอดมาเจ็ดชั่วรุ่น ทำให้ชาวบ้านทั้งหมดวิ่งขึ้นเขา

ภูมิปัญญาดั้งเดิมปรากฏในทุกวัฒนธรรม:

• มดดำขนไข่ — ชาวนาไทยรู้ว่า เมื่อมดดำขนไข่ขึ้นที่สูงโดยเฉพาะบริเวณที่เคยมีน้ำท่วม นั่นคือสัญญาณว่าจะมีน้ำท่วมใน 1-2 วัน การขนย้ายประชากรรุ่นใหม่ขึ้นสู่เสาบ้านอย่างกระวนกระวายคือระบบเตือนภัยที่ชาวบ้านเชื่อถือมานานกว่าที่จะมีกรมอุตุนิยมวิทยา

• ปลวกสร้างจอมปลวกสูง — ในภาคอีสานของไทย ชาวบ้านสังเกตว่าปีไหนที่ปลวกสร้างจอมปลวกสูงผิดปกติ ปีนั้นจะมีฝนตกหนักกว่าปกติ บางหมู่บ้านจะตัดสินใจปลูกข้าวชนิดที่ทนน้ำหรือยกยอดข้าวสูงขึ้นเพื่อรับมือ

• กบและคางคกร้องกลางวัน — เมื่อกบร้องเสียงดังผิดปกติในเวลากลางวัน โดยเฉพาะในวันที่ท้องฟ้ายังไม่มีเมฆฝน ชาวประมงภาคใต้จะไม่ออกเรือ เพราะพวกเขารู้ว่าพายุกำลังจะมา

• เมฆและท้องฟ้า — "แดงเช้าฝนตก แดงเย็นแดดออก" เป็นภูมิปัญญาที่พบทั่วโลก ทั้งในไทยและตะวันตก ท้องฟ้าสีแดงในยามเช้ามักเป็นสัญญาณว่ามวลอากาศชื้นกำลังเคลื่อนเข้ามา

• พฤติกรรมของพืช — ไมยราบและพืชตระกูลถั่วจะหุบใบลงก่อนฝนตก ชาวนาในอดีตสังเกตการเปลี่ยนแปลงนี้เพื่อเตรียมเก็บเกี่ยวหรือหยุดการทำงานกลางแจ้ง

• กลิ่นดิน — กลิ่นดินหอมชัดเจน (เปติชอร์) ก่อนฝนตกคือสัญญาณที่คนรุ่นก่อนใช้เตรียมตัว เกิดจากน้ำมันจากพืชที่ถูกปล่อยออกมาเมื่อความชื้นเพิ่มขึ้น

ในขณะที่นักอุตุนิยมวิทยาสมัยใหม่ส่องกล้องดูดาวเทียม ชาวบ้านเพียงสังเกตธรรมชาติรอบตัว—และมีชีวิตรอดด้วยเทคนิคเหล่านี้มาหลายพันปี

🌎 III. เมื่อเราหยุดฟัง โลกก็หยุดเตือน

มนุษย์ยุคใหม่ปิดเสียงเตือนของโลกด้วยสามวิธี:

• ปิดกั้นด้วยความมั่นใจ — เราสร้างกำแพงคอนกรีต เขื่อนสูง คิดว่าเราควบคุมธรรมชาติได้ วันที่มรสุมมาเยือน เราคาดไม่ถึงว่าน้ำจะทะลวงสิ่งที่เราสร้าง

• ปิดกั้นด้วยเทคโนโลยี — เราจ้องแต่หน้าจอ สวมหูฟัง เสพข้อมูลจากโลกเสมือน จนลืมความจริงที่อยู่รอบตัว ลมที่พัดผ่านใบไม้กำลังเล่าเรื่องอะไร? เราไม่ได้ยินแล้ว

• ปิดกั้นด้วยความเร่งรีบ — ชีวิตเร่งรีบจนไม่มีเวลามองเงาพระอาทิตย์เคลื่อนไหว ไม่มีเวลาสังเกตว่าปลวกสร้างจอมปลวกสูงขึ้นเพราะอะไร หรือทำไมลมถึงมีกลิ่นเปลี่ยนไป

👂🏻แต่หูทุกคู่ของสัตว์โลกยังคงทำงาน:

มดยังขนไข่หนีน้ำก่อนฝนจะตก

กระรอกยังเก็บอาหารมากกว่าปกติก่อนหิมะจะถล่ม

ผึ้งยังคาดการณ์อุณหภูมิอากาศได้แม่นยำกว่าพยากรณ์อากาศในบางครั้ง

ธรรมชาติยังกระซิบเตือนอยู่เสมอ — เรามัวแต่ตะโกนใส่กันเองจนไม่ได้ยิน

📝 บทส่งท้าย: กลับมาฟังอีกครั้ง

ในโลกที่พูดมากเกินไป เราลืมความสำคัญของการเงียบและฟัง

การฟังธรรมชาติไม่ใช่แค่เพื่อจับสัญญาณเตือนภัย แต่คือการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับบ้านของเรา—โลกใบนี้

พอเราเงียบลง เราจึงได้ยินว่า:

- ผีเสื้อไม่ได้แค่เพียงสวยงาม แต่พวกมันกำลังบอกว่าสภาพอากาศกำลังเปลี่ยน
- นกไม่ได้เพียงร้องเพลง แต่พวกมันกำลังบอกว่าฤดูกาลเริ่มแปรปรวน
- ผึ้งไม่ได้เพียงทำน้ำผึ้ง แต่พวกมันกำลังบอกว่าพืชพรรณกำลังเปลี่ยนไป

เราไม่ใช่แค่ผู้เฝ้าสังเกตโลก แต่เป็นส่วนหนึ่งของมัน เมื่อธรรมชาติพูด เราควรรับฟังและตอบรับ... ด้วยการใช้ชีวิตอย่างเคารพในสิ่งที่มันบอก

เพราะหากวันหนึ่งโลกเงียบให้กับเรา—นั่นไม่ใช่เพราะมันหมดคำพูด
แต่เพราะมันหมด “ผู้ฟัง” ที่คู่ควรกับการพูดด้วย

การฟังอาจเป็นทักษะโบราณที่สุด แต่กลับเป็นสิ่งจำเป็นที่สุดสำหรับโลกใหม่ที่กำลังจะมาถึง





 

Create Date : 08 พฤษภาคม 2568
0 comments
Last Update : 8 พฤษภาคม 2568 15:24:51 น.
Counter : 317 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณนายแว่นขยันเที่ยว


ใจรัก Jairuk Channel
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 91 คน [?]








ติดตามดูต่อที่YouTube

ใจรักJairukChannel



ติดตามดูต่อที่TikTok

ใจรักJairukChannel



ติดตามดูต่อที่Facebook

ใจรักJairukChannel



แนะนำให้ชม

บัวหิมะ
บัวหิมะ
วิธีเลี้ยงบัวหิมะ
เกิดมาทำไม ตายแล้วไปไหน
บั้งไฟพญานาคที่ไปดูมา
ติดอันดับTOP Page Views
อาหารและการดูแลสุขภาพ ผู้ป่วยมะเร็งและคนทั่วไป
เที่ยวขอนแก่น
Michael Jackson
คอนเสิร์ตบอย Peacemaker
คลิปเจ้าขุน
การกลับมาของX Japan

ท่องเที่ยว

UFOที่เคยเห็น
บั้งไฟพญานาคที่ไปดูมา
หาดใหญ่และปัตตานี
ไข่มุกอันดามัน
อะ พีพี
เกนติ้ง
กัวลาลัมเปอร์
หาลิงเข้าถ้ำทะเลภูเขาเลยจ้า นอนดูหมอกที่ปราจีนบุรี
เที่ยวปราจีนบุรีต่อ
เลยจะถึงไหมละนี่
พักค้างแรมที่เลย
เลยจนเกือบถึงลาว
ขุดกรุเขื่อนป่าสัก
บึงแก่นนคร ขอนแก่น
พระธาตุขามแก่น
เดินทางไปลพบุรี
กินข้าวอิงภูชัยภูมิ
ลาว เวียงจันทร์
ลาว2
ปิดทริปเที่ยวลาว
ล่องเรือเจ้าพระยา
รถไฟลอยฟ้า ฟ้า ไทย
รถไฟใต้ดินไทย
ทะเลน้ำจืดหาดวังโกขอนแก่น บ้านปราสาทโคราช
วังน้ำเขียวโคราช
ชอปปิ้งหนองคาย
ตัวเมืองขอนแก่น
น้ำผุดทับลาว ชัยภูมิ
สนามหลวง2
ไปดูงานศิลป
สายน้ำกับปลาที่ไปปล่อย
งานExpro
เขื่อนอุบลรัตน์
เที่ยวป่าวัดพรไพรวัลย์
ล่องแพอ่างเก็บน้ำห้วยไร่
ทะเลหมอกภูพานน้อย
วัดเจดีย์ชัยมงคล
ครั้งหนึ่งที่เคยโบกรถ
น้ำหนาว,เพชรบูรณ์
พระพุทธชินราช,พระธาตุลำปางหลวง
น้ำพุร้อน,วัดร่องขุ่น
มหาลัยแม่ฟ้าหลวง,น้ำตกก้างปลา
เวียงแก่น,ภูชี้ฟ้า
ดอยแม่สลอง
อุทยานฯขุนแจ
สวนโลกราชพฤกษ์
วัดเจดีย์7ยอด,วัดเจดีย์หลวง
ดอยสุเทพ,ทุ่งสแลงหลวง
โครงการครูบ้านนอก
วัดหลวงพ่อโตใหญ่ที่สุดในโลก
ที่พักปากช่อง
เลย-ลาว-ท่าลี่
ถึงระยองแล้วจ้า
ทะเลตอนเช้า
งานเที่ยวภาคใต้






Friends' blogs
[Add ใจรัก Jairuk Channel's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.