|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
เคล็ดลับเมนูปลา
1.ปลาดุกทำอย่างไรถึงจะไม่กลิ่นคาว
- การทอดปลาดุกไม่ให้มีกลิ่นคาว ก่อนที่เราจะ ทำไปล้างให้นำแป้งมัน มาคลุกเคล้าตัวปลาจนทั่วแล้ว จึงล้างออกให้สะอาด จะทำให้เหมือกที่ติดกับตัวปลา และเลือดต่างในน้ำออกไปได้มาก เมื่อเรานำปลาไป ทอดเนื้อปลาจะสวยและไม่มีกลิ่นคาว
- อีกวิธีหนึ่งสำหรับการทำปลาดุกคือ การล้าง ด้วยน้ำส้มสายชูก่อน แล้วจึงค่อยนำปลามาคลุกเคล้า และหมักกับเครื่องปรุง ก่อนนำไปย่างไปจะทำให้ปลา ดุกมีรสชาติอร่อยยิ่งขึ้น และไม่มีเหม็นคาว
2. ปลาช่อนทำอย่างไร ไม่ให้มีกลิ่นคาว
- ให้ใช้เกลือป่นคลุกตัวปลาให้ทั่วเวลาจะขอด เกล็ด จะทำให้ขอดเกล็ดปลาได้ง่ายขึ้นและไม่ลื่น พอ ขอดเกล็ดปลาเสร็จก็ให้นำไปล้างด้วยสารส้ม จากนั้น ทาด้วยน้ำมะนาวอีกครั้ง เนื้อปลาจะขาว และไม่มีกลิ่น คาว
3.ขอดเกล็ดปลาอย่างง่าย
- วิธีการง่ายๆเตรียมจานหรือภาชนะอื่นๆ ที่ สามารถทนความร้อนใส่ของร้อนๆ ได้จากนั้นให้คุณ เทน้ำร้อนที่ร้อนจัด ลงไปบนตัวปลา แล้วเทน้ำทิ้ง ต่อ ด้วยเทน้ำเย็นใส่แทน อุปกรณ์ต่อมาใช้มือถูกเพียง เบาๆที่่ตัวปลาเกล็ดของปลาก็จะหลุดออกมาอย่าง ง่ายดาย
4. ต้มยำปลาอย่างไรไม่เหม็นคาว และสดน่าทาน
- นอกจากเคล็ดลับตั้งแต่การล้างตัวปลา และ เนื้อปลาก่อนที่จะนำมาปรุงเป็นอาหารนั้น ขั้นตอนใน การปรุงหรือการทำก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะมีส่วน ปลาจะมี กลิ่้นคาวหรือไม่เหมือนกันนะ การต้มยำปลาไม่ให้มี กลิ่นคาวนั้น เคล็ดลับง่ายๆคือ เราต้องต้มน้ำให้เดือน ก่อนและใส่เครื่องปรุงเครื่องต้มยำต่างๆ เข้าไปให้น้ำ เดือนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงค่อยนำปลาลงไป โดยไม่ ต้องคนเด็ดขาด เมื่อสุดแล้วจึงใส่ต้นหอม หรือผัดใน ขั้นตอนสุดท้ายก็จะได้ต้มยำที่ไม่มีกลิ่นคาว และเนื้อ ปลาจะไม่เละด้วย
- และเมื่อใส่เนื้อปลาแล้ว ทุกอย่างได้ที่แล้ว มี เทคนิคอย่างหนึ่ง คือ ให้บีบ น้ำมะนาวลงไปสักเล็ก น้อยเพื่อให้เนื้อปลาแข็งตัว มีเนื้อขาวสวยและแกงนั้น ไม่เหม็นคาวด้วย - นอกนจากนั้น ยังมีอีกวิธี คือเวลาที่เราต้มปลา ให้นำใบชาจีนมาใส่ลงในหม้อต้มปลาสัก 6-7 ใน ใบชา จะช่วยดับกลิ่นคาวได้เยอะทีเดียว และจะให้หมดกลิ่น และมีรสชาติด้วยควรทุบหัวหอม และกระเทียมลงไป ซัก 2-3 กลีบ ลองทำดูนะ
5.คนที่ชอบหัวปลา ทำอย่างไรไม่ให้มีกลิ่นคาว
- วิธีการต้มหัวปลา เช่นเดียวกัน ให้น้ำเดือดจัดๆ และใส่ตะใคร้ (มากหน่อย) และใบมะกรูดหลัวจากนั้น เตรียมหัวปลาที่เตรียมไว้ไม่ว่าจะเป็น ปลากระพง ปลา เก๋าก็ตาม ใส่ลงไปต้มสัก 1 นาที แล้วเอาขึ้นพักไว้ให้ สะเด็ดน้ำเสียก่อน แล้วหลังจากนั้นจึงค่อยนำมา ประกอบเป็นอาหารต่างๆนอกเหนือจากต้มยำ อาทิเช่น ข้าวต้มปลา เป็นต้น
6. วิธีการทอดปลาให้หนังสวย และไม่ติดกะทะ และกรอบน่าทาน
- หลายๆครั้งคุณแม่บ้านทอดปลาแล้วเกิด ปัญหาบ่อยๆคือ หนังปลาหลุด หรือติดกะทะ หนัง ถลอกบ้าง ไม่สวยงาม และอีกอย่างเวลาทอดปลา น้ำมันกระเด็ดเลอะเทอะไปทั่วเลยวันนี้เรามีวิธีแก้ ปัญหานี้มาแนะนะ
- วิธีคือ เมื่อล้างปลาเสร็จแล้วให้ซับเนื้อปลาให้ แห้ง และใช้น้ำมะนาวทาให้ทั่วแล้วจึงคลุกด้วยเกลือ การคลุกเกลือป่นจะทำให้เมื่อเวลาเราทอดปลาน้ำมัน จะไม่กระเด็น เวลาจะนำปลาลงทอดให้น้ำมันร้อนก่อน นะ และรอจนปลาลอยตัวขึ้นมาแล้วจึงค่อยพลิกกลับ อีกด้านหนึ่ง ไม่ควรพลิกบ่อยๆ เพราะจะทำให้หนังปลา ถลอก และเนื้อปลาหลุด ดูไม่น่ารับประทาน
- อีกวิธี คือ เมื่อเราตั้งกะทะให้ร้อน นำเกลือลง คั่วประมาณ 2 นาที จึงเทเกลือออกจากกะทะ ใส่น้ำมัน ลงในกะทะที่คั่วเกลือโดยไม่ต้องล้างกะทะ พอน้ำมัน ร้อนนำปลาลงทอดใช้ไฟปานกลาง ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งนะ ลงทดลองทำดู
- การทอดปลาให้เนื้อกรอบเหมือนร้านอาหาร อันดับแรก ปลาที่นำมาทอดควรจะเป็นปลาที่ใหม่ สด.แน่นอนเนื้อจะไม่ติดกะทะ - ถ้าชอบกรอกมากให้คลุกปลากับแป้งข้าวโพด ก่อนนำไปทอด แป้งข้าวโพดจะช่วยให้เนื้อปลากรอบ ยิ่งขึ้น
- สิ่งสำคัญในการทอดปลาให้กรอบก็คือ น้ำมัน จะต้องใหม่ และต้องท่วมตัวปลาและต้องใช้ความร้อน ปานกลางไม่แรงเกินไป และไม่เบาจนเกินไปเมือปลา สุกได้ที่ให้เร่งไฟแรงๆๆเพื่อใล่น้ำมันนะครับจะได้ปลา ที่กรอบและไม่อมน้ำมันเลยครับ
7.เกี๊ยวปลา
- ในการทำเกี๊ยวปลา ควรเลือกใช้เนื้อปลากราย หรือปลาน้ำดอกไม้สดๆ มาทำแผ่นเกี้ยวปลา แล้วใน ขณะบดเนื้อปลาให้ค่อยๆ เติมน้ำเกลือลงไปทีละน้อย แล้วจึงใส่แป้งมันลงในเนื้อปลาตีพร้อมน้ำแข็งลงไป ด้วยในขณะบด
- จากนั้นนำเนื้อปลามาคลึงบนแผ่นพลาสติกที่ ท่าน้ำมัน โดยคลึงให้เป็นแผ่นบางๆแล้วจึงค่อยตัดเป็น แผ่นสี่เหลี่ยม เมื่อจะต้มเกี้ยวปลาที่ทำเสร็จแล้วนั้นน้ำ จะต้องเดือนจัดๆมิฉะนั้นจะเหม็นคาว
8. การต้มเค็มปลาตะเพียน
- การต้มปลาโดยทั่วไปมักเกิดปัญหาเนื้อปลาเละ ดูไม่น่ารับประทาน เคล็ดลับง่ายๆในการต้มปลา ตะเพียน โดยไม่ให้เนื้อปลาหลุดลุ่ยออกจากตัวปลา
- เมื่อทำความสะอาดปลาตัดหาง ตัดครีบ เรียบร้อยแล้ว นำเกลือป่นมาทาให้ทั่วตัวปลา แล้วพัก ไว้ 20 นาที จากนั้นนะมาล้างเอาเกลือออก ทิ้งไว้ให้ สะเด็ดน้ำพักแล้วจึงนำไปต้มจะได้ปลาต้มเค็มที่มีรูป ร่างครบทุกส่วน เนื้อปลาก็ไม่หลุดลุ่ย
9. ดับคาวปลาด้วยมะนาว
- ปลาเป็นเนื้อสัตว์ที่ย่อยง่ายเหมาะสำหรับทุก เทศ ทุกวัย ราคาก็ไม่แพง เราสามารถนำปลาไป ประกอบอาการได้หลายอย่าง เช่น ต้ม ปิ้ง นึ่ง ทอด เผาเกลือ แต่บางคนจะไม่นิยมรับประทาน เพราะเห็น ว่าปลามีกลิ่นคาว จะต้มจะแกงก็เหม็นคาวเลยเป็นผล ทำให้ไม่อยากรับประทานปลา เลยต้องหันไปทานเนื้อ สัตว์จำพวก เนื้อหมูไก่แทน ทั้งๆ ที่ปลาราคาถูกกกว่า
- วิธีแก้กลิ่นคาวปลา โดยง่ายๆคือ ฝานมะนาว บางๆ แช่ในน้ำที่จะนำไปล้างปลา มะนาว 1 ลูก ต่อน้ำ 1 ลิตรพอเราขอดเกล็ดปลาเสร็จแล้ว ก็ควักไส้ออก นำปลาที่ทำเสร็จไปวางในน้ำมะนาว
10. น้ำนมสามารถทำให้ปลามีสีน้ำตาล
- น้ำนมนั้นมีคุณค่ามากมายนอกจากจะใช้ดื่มกิน แล้ว สามารถนำมาดัดแปลงเป็นอาหารที่มีคุณค่าเพิ่ม ขึ้นได้อีก อย่างเช่น
- การทอดปลาจะให้มีสีน้ำตาลสวย เราทำได้ไม่ ยาก เพียงแค่เรานำปลาไปล้างทำความสะอาด และ ก่อนทอดปลาให้จุ่มปลาลงในนมที่เตรียมไว้ จึงนำปลา ไปชุบแป้งทอด จะทำให้เนื้อปลามีสีน้ำตาลเนื้อนุ่ม น่า รับประทาน
11. ปลาย่างเนื้อแข็ง แก้ได้
- การถนอมอาหาร เช่น ปลาซ่อน ปลาดุก ปลา หมอ ปลาตะเพียน โดยเฉพาะปลาย่างเป็นที่นิยมทำกัน มาก แต่ถ้าคุณแม่บ้านเคยทำปลาย่างแล้วแข็งทานไม่ ได้ จะนำมาตำน้ำพริกก็ตำยาก วิธีง่ายๆคือ นำปลา ย่างมาแกะใส่ครกแล้วบีบน้ำมะนาวใส่ลงไป แล้วจะตำ จะทำให้เนื้อปลาแหลกง่ายและฟูขึ้น
12. เก็บรักษาปลาไม่ให้เหม็น
- วิธีตาก ถ้าเราจะเก็บปลาดุก ปลาช่อน ปลาสลิด เอาไว้ทำอาหารทานนานๆ โดยไม่ส่งกลิ่นเหม็นเรา สามารถทำได้โดยเมื่อทำเสร็จแล้วควรล้างน้ำให้ สะอาดประมาณ 2-3 ครั้ง (และเคล้าเกลือหมักไว้และ ใส่ผงปรุงรส ไปซักนิดหนึ่งซึ่งได้ไม่ยากโดย (อาจจะ ทำเกลือ พริกไทยดำ กระเทียมตำรวมกัน ) ไม่ต้องมาก ทิ้งไว้ประมาณ 2-6 ชั่วโมง เมื่อได้เวลาที่ตั้งไว้ก็กลับ ปลาเอาด้านพุงหงายขึ้นให้ได้แดดอีกประมาณ 3 ชั่วโมง เท่านั้นก็สามารถระงับกลิ่นปลาได้ส่วนหนึ่ง
- วิธีเก็บรักษา การเก็บรักษาเป็นเรื่องไม่ยากนัก วิธีทำคือ นำเอาปลาที่ตากไว้มาห่อด้วยกระดาษทิชชู ให้รอบตัวปลาซัก 2 รอบ (ห่อให้มิดชิดนะ)เมื่อห่อเสร็จ แล้วเราก็ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่ออีกครั้ง และใส่ถุง ปิดปากให้มิดชิดนำใส่ตู้เย็นแช่ไว้ เท่านี้ปลาเราที่เคย ส่งกลิ่นเหม็นก็ไม่สามารถทำให้เราหงุดหงิดกับกลิ่นได้ แล้ว
13. ทำปลาให้หมดกลิ่นเน่า
- ปลาดุก หรือปลาช่อน ถ้ามีกลิ่นเน่าอย่าทิ้ง มีวิธี แก้ดังนี้นำปลาไปย่างให้สุก แล้วนำมาสับผึ่งลมให้แห้ง หมาดๆนำไปทอดให้กรอบฟูในน้ำมัน ใส่ใบเตย 6 ใบ ม้วนให้เป็นก้อน เมื่อปลาสุกแล้วกลิ่นเหม็นก็จะหายไป หมดสิ้น
14. ต้มปลาให้ก้างยุ่ย
- ถ้าแม่บ้านท่านไหนรำคาญใจกับปลาที่มีก้างเล็ก น้อยๆ มากเหลือเกินเมื่อนำมาทำอาหาร อย่างปลา กระมังหรือปลาหมอ ถ้าเราจะต้องการให้เนื้อปลาแข็ง แต่ก้างยุ่ยเหมือนก้างปลากระป๋องละก็วิธีง่ายๆเลย
- เพียงใช้อ้อยมาปลอกเปลือกข้างนอกออกแล้ว ตัดเป็นเสี้ยวเล็กๆ นำมาวางเรียงในหม้อที่เราจะใช้ต้ม ปลานำปลามาวางทับ แล้วเติมน้ำลงไปพอประมาณ นำ ไปตั้งไปสัก 40 นาที เราจะสังเกตุได้ว่าปลานั้นตัวยัง แข็งอยู่ เนื้อปลาไม่เละแล้วยังเก็บไว้ได้นานอีกด้วย ยิ่ง ต้มหลายวันยิ่งอร่อยและก้างยุ่ยมาก
15. หม้อเหม็นคาวปลา
- ปัญหาที่เกิดตามมาเมื่อปรุงอาหารประเภทปลา คือ ภาชนะที่ใช้จะมีกลิ่นคาวติดอยู่เมื่อเรานำภาชนะ นั้นไปประกอบอาหารชนิดอื่นๆ เช่นขนมหวารก็จะ ทำให้ขนมนั้นมีกลิ่นคาวปลา วิธีแก้ปัญหาคือ
- ให้น้ำชาหรือกากชาที่ใช้ชงดื่มกันในบ้าน นำมา ใส่ลงในภาชนะที่ต้องการดับกลิ่นความปลา แล้วต้มให้ เดือด จากนั้นจึงล้างน้ำออกให้สะอาดน้ำชาจะช่วยดูด กลิ่นความของปลา ออกจากภาชนะ หรือจะใช้อีกวิธี หนึ่งคือ
- ให้ใช้ถ่านที่เราใช้หุงข้าวจุดเตา ใส่ในภาชนะที่ ต้องการจะดับกลิ่นคาวปลาแล้วเติมน้ำต้มจนเดือน วิธี นี้ก็จะช่วยให้ดับกลิ่นได้เหมือนกัน แต่อาจจะเลอะเทอะหน่อย
Create Date : 30 สิงหาคม 2556 |
Last Update : 10 พฤษภาคม 2558 15:38:16 น. |
|
0 comments
|
Counter : 3239 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|