I AM SOMEONE
<<
ตุลาคม 2556
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
18 ตุลาคม 2556

ดราม่าทุกวันศุกร์

ว่าจะไม่บ่นเรื่องตัวเองแล้วนะ แต่ในเมื่อยังไม่มีอะไรนอกเหนือจากตัวเองให้บ่น ก็ต้องวนมาบ่นเรื่องของตัวเองอยู่ดี จริงๆ แล้ววันนี้ไม่ได้โศกเศร้าแต่อย่างใด ตอนสายๆ ไปเดินอัพเดทเทรนด์แฟชั่นห้างในสบายใจไม่ต้องเสียเงิน แล้วกลับมาเขียนนิยายต่อ พอแม่โทรมาคุยด้วย เราก็ลองแย็บๆ ไปเรื่องอาชีพใหม่ที่เพิ่งค้นพบ แม่จึงเล่าว่าคนที่มาเช่าก็ทำอยู่ ไม่ประสบความสำเร็จ เราถอนหายใจเล็กน้อย แม่หัวเราะ แล้วบอกว่า “ฝันสลายแล้ว แม่ว่าไม่ได้ตั้งใจทำให้ฝันสลายนะ แค่เล่าให้ฟังเฉยๆ” เราเข้าใจแม่นะ แม่ก็แลกเปลี่ยนประสบการณ์ แสดงความเห็นเป็นธรรมดา

เราไม่ได้คิดอะไรมาก เห็นเพื่อนที่เมกายังไม่นอน ก็เลยเขียนไปในไลน์เล่าให้อ่าน แต่เพื่อนมันจริงจังมาก มันบอกว่า มันกำลังจะทำให้เราร้องไห้แล้วนะ เตรียมน้ำตาไว้ได้เลย แล้วมันก็พิมพ์มาเป็นชุดใหญ่ เล่นเอาบ่อน้ำตาแตกได้จริงๆ เราบอกว่า มันเก่งมาก ที่ทำให้เราร้องไห้ได้ในตอนเย็น มันบอกว่ามันเก่ง เพราะเรียนมาจากเรา แน่นอนว่ามันพูดเรื่อง “ตัวตนคนเดิมของเรา” ที่หายไป เรื่องที่ sensitive ของเราเลยล่ะ



เหตุผลที่เราร้องไห้ ไม่ใช่แค่มันพูดสะเทือนใจเท่านั้น แต่เราร้องเพราะมันรู้จักเราดี และมันก็จำทุกคำที่เราเคยพิมพ์ไปเล่าโน่นนี่นั่นไปก่อนหน้านี้ให้มันอ่าน โดยไม่น่าเชื่อเลยว่ามันจะจำได้ ขนาดเราเองเรายังจำไม่ได้เลยว่าเราเคยเขียน ตั้งแต่สัปดาห์ก่อนแล้วล่ะ เราบอกว่าเรากำลังเขียนไดอารี่ย้อนหลังอยู่ แต่จำไม่ได้ว่าเราทำอะไรมาบ้าง เพื่อนเรามันก็สาธยายให้ฟังว่าเราทำอะไรบ้างในสัปดาห์ก่อน มันบอกว่า “นี่แหละชีวิตแกอาทิตย์ที่แล้ว” ซึ่งเรื่องบางเรื่องเราลืมไปแล้วจริงๆ แต่เพื่อนเราจำ!

นี่แหละเรียกว่า “ความใส่ใจ” ซึ่งเราไม่มีคุณสมบัตินี้เลย เพราะเราคิดแต่เรื่องตัวเองมากเกินไป คิดแล้วก็คิดอีก คิดวนไปเวียนมา ไม่พ้นเรื่องตัวเองเสียที

เราอ่านข้อความของเพื่อน(ที่มันก็เขียนทั้งๆ ที่ง่วงนอน) จนเราหิวข้าว เราเดินออกไปซื้ออาหารมื้อเย็น คิดถึงวนเวียนถึงสาเหตุที่ทำให้เราเป็นอย่างนี้ และในที่สุดก็ได้คำตอบ---ตัวตนที่เคยเป็นของเราหายไปเพราะมีสาเหตุอย่างเดียวที่ไม่สามารถบอกใครได้ มันจะเป็น “ความลับ” ที่ตายไปพร้อมกับเรา ไม่น่าเชื่อจริงๆ ว่ามันจะทำร้ายชีวิตที่เหลือของเราให้ป่นปี้ได้ หากมันเกิดขึ้นเมื่อสิบปีที่แล้ว เราคงไม่เป็นอย่างนี้

ระหว่างทางฝนตกปรอยๆ เรากางร่ม และยังคงเดินคิดไปเรื่อยๆ จนมาถึงบ้าน ถึงรู้ว่า---ฝนหยุดตกไปนานแล้ว แต่เรายังกางร่มอยู่ นี่เราใจลอยจนไม่รู้เรื่องอะไรเลยอย่างนั้นหรือ???




 

Create Date : 18 ตุลาคม 2556
1 comments
Last Update : 18 ตุลาคม 2556 20:33:23 น.
Counter : 1535 Pageviews.

 

"ฝนหยุดตกไปนานแล้ว แต่เรายังกางร่มอยู่"
คิดลึกๆ นี่มันปรัชญาเลยนะครับเนี่ย

เอาละ ได้เวลาหุบร่ม แล้วสัมผัสกับแสงแดดอุ่นๆ กันแล้ว ^^

 

โดย: Dragonfly7Colors 19 ตุลาคม 2556 0:58:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Alex on the rock
Location :
มหาสารคาม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]




Blog นี้เป็นพื้นที่ส่วนตัว เป็นความเห็นส่วนตัว ผู้อ่านอาจจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับข้อเขียนใน Blog กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยความสุภาพและเคารพสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญของเจ้าของ Blog ด้วย หากผู้อ่านที่แสดงความคิดเห็นไม่อาจจะปฏิบัติตามนี้ได้ เจ้าของ Blog สามารถลบความคิดเห็นของท่านโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ
[Add Alex on the rock's blog to your web]