• การเงิน หุ้น เศรษฐกิจ และการลงทุน
• กลเม็ดเคล็ดลับ
• DIY - ทำเองก็ได้ง่ายจัง
• ยานยนต์อัพเดท
• เรื่อง Hot น่ารู้
• บันทึกกีฬาเด่น
• ข่าวด่วนล่าสุด
• ภาษาอังกฤษง่ายนิดเดียว
• เนื้อร้อง/เนื้อเพลง
• ไอที อินเตอร์เน็ต มือถือ

งาน THAILAND SMART MONEY ครั้งที่ 7 วันที่ 16-18 ธันวาคม 2559   งาน THAILAND SMART MONEY ครั้งที่ 7 ภายใต้แนวคิด Smart Integration รวมพลังสถาบันการเงินการลงทุนชั้นนำ ออกบูทให้บริการโปรโมชั่นสุดพิเศษ เตรียมรับมือเทรนด์การลงทุนปีไก่ทองกับสัมมนาสุดเจ๋งจากกูรูขั้นเทพ พร้อมเช็กพอร์ตการลงทุนฟรี และลุ้นรับรางวัลใหญ่ภายในงาน ระหว่างวันที่ 16-18 ธันวาคม 2559 ณ Sky Hall ชั้น 3 เซ็นทรัลลาดพร้าว   นายรัฐกร อัสดรธีรยุทธ์ ประธานเครือหนังสือพิมพ์ดอกเบี้ยธุรกิจและบริษัท พี.เอ.พริ้นท์ติ้งเฮ้าส์ จำกัด ในฐานะประธานจัดงาน ไทยแลนด์ สมาร์ท มันนี่ ครั้งที่ 7 เปิดเผยว่า งานไทยแลนด์ สมาร์ท มันนี่ ครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Smart Integration” การประสานพลังทางการเงิน เป็นการร่วมมือระหว่างสถาบันการเงินชั้นนำของไทย บริษัทในเครือ และ Non-Bank กว่า 30 แห่ง ร่วมกันจัดแคมเปญพิเศษคุ้มค่าแบบครบวงจร โดยการประสานพลังทางการเงินครั้งนี้เพื่อที่จะช่วยเดินหน้าผลักดันเศรษฐกิจการเงินของประเทศให้ก้าวต่อไปอย่างมั่นคง และมีเสถียรภาพงาน ไทยแลนด์ สมาร์ท มันนี่ จัดขึ้นทุกปีเพื่อเปิดโอกาสให้สถาบันการเงินชั้นนำของไทย บริษัทในเครือ และ Non-Bank ได้ให้ข้อมูลข่าวสาร แนะนำบริการ และผลิตภัณฑ์ในเงื่อนไขพิเศษให้กับนักลงทุน ประชาชน และผู้ที่สนใจ สามารถเข้ามาพิจารณาเพื่อประกอบการตัดสินใจในการใช้บริการ หรือเลือกการลงทุน รวมไปถึงการให้ความรู้ เทคนิค และเคล็ดลับเรื่องการเงิน การลงทุน ในรูปแบบของสัมมนาที่จะมีผู้เชี่ยวชาญต่างๆ มาเป็นผู้ให้ข้อมูล   ทั้งนี้ ภายในงานมีการออกบูทจากสถาบันทางการเงินชั้นนำที่มาพร้อมกับโปรโมชั่นส่งท้ายปี ทั้งเงินฝากดอกเบี้ยสูง สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ สลาก ประกันคุ้มครองครบครัน กองทุนลดหย่อนภาษี หุ้น ทองคำ อสังหาริมทรัพย์มือสอง และยังมีบริการพิเศษฟรีภายในงาน อาทิ การตรวจเครดิตจาก Credit Bureau การสแกนลายนิ้วมือเพื่อตรวจ IQ จากสถาบัน Super Brain และปรึกษาพอร์ตหุ้นแบบตัวต่อตัวกับผู้เชี่ยวชาญ   สำหรับนักลงทุน สามารถเตรียมความพร้อมก่อนการลงทุนในปี 2560 ด้วยสัมมนาเจาะลึกเทรนด์การลงทุนปี 2017 หัวข้อเข้มข้นจากกูรู อาทิ เล่นหุ้นแบบเซียน เลือกจับไก่ใส่เล้า โดย คุณสมพงศ์ เบญจเทพานันท์ บล.ไอร่า, บันได 7 ขั้นประหยัดภาษี LTF/RTF โดย Finnomena, เคล็ดลับพิชิตหุ้น คุณทำได้ โดย คุณรณกฤต สารินวงศ์, (เด็กแนว) กระแสโลก กระแสทุน ในยุคเปลี่ยนผ่านเมืองลุงแซม โดย อาจารย์บุญธรรม รจิตภิญโญเลิศ และอีกหลายหัวข้อที่น่าสนใจสามารถเข้าฟังฟรีตลอด 3 วัน   นอกจากนี้ ผู้ที่เข้าร่วมงานมีสิทธิได้รับของที่ระลึกจากสถาบันต่างๆ ที่มาร่วมออกบูท และของที่ระลึก Premium จากผู้จัดงาน เช่น เสื้อ หมอนรองคอ หมอนผ้าห่ม กระบอกน้ำ นอกจากนี้ ยังมีสิทธิลุ้นรับรางวัลใหญ่ในงานตลอด 3 วัน ได้แก่ iPhone 7, กระทะ Korea King, มือถือ AIS LAVA, TV, สร้อยคอทองคำ ระหว่างวันที่ 16-18 ธันวาคม 2559 ณ Sky Hall ชั้น 3 เซ็นทรัลลาดพร้าว     Create Date : 06 ธันวาคม 2559     Last Update : 11 สิงหาคม 2567 14:27:18 น. Counter : 3057 Pageviews.   Share Tweet

บลจ.กรุงไทยขายกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้เอฟเอเอฟ 101 ( KTFF101) ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 6 ธันวาคม 2559 อายุ 1 ปี เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ประเภทเงินฝากประจำ Emiratcs NBD PJSC ผลตอบแทนประมาณ 2%ต่อปี , Commercial Bank of Qatar Q.S.C. , Abu Dhabi Commercial Bank 1.95%ต่อปี , Ahi bank QSC. 2.05%ต่อปี และ First Gulf Bank PJSC 1.90%ต่อปี ในสัดส่วนสถาบันการเงินละ 20% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และมีค่าใช้จ่ายประมาณ 0.27%ต่อปี ดังนั้น ผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนประมาณ 1.70%ต่อปี ซึ่งกองทุนมีนโยบายการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน  ส่วนแนวโน้มอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบทุกช่วงอายุ ต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยแรงขายของนักลงทุนต่างประเทศเริ่มชะลอลง มียอดขายสุทธิจำนวน 217 ล้านบาท โดยอัตราผลตอบแทนอายุ2 ปี อยู่ที่ 1.63% ต่อปี อายุ 5 ปี อยู่ที่ 2% และอายุ10 ปี อยู่ที่ 2.62% ไม่เปลี่ยนแปลง ด้านอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกช่วงอายุ ตามความกังวลต่อนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนใหม่ที่จะทำให้เงินเฟ้อและหนี้สาธารณะปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงโอกาสค่อนข้างสูงที่Fed จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้สหรัฐ อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 1.12% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 1.83% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 2.36% ต่อปี ราคาทองคำ ยังคงอ่อนตัวลงต่อเนื่องจากการแข็งค่าของค่าเงินดอลล่าร์ เข้าใกล้แนวรับสำคัญแถวๆ 1,160 US ต่อออนซ์ ระยะสั้นยังมีความเสี่ยงที่จะผันผวนอยู่ เพราะฉะนั้น นักลงทุนระยะยาวสามารถพิจารณาถึงจังหวะสะสมเพิ่มได้ ราคาน้ำมันดิบยังแกว่งตัวผันผวนหลังรีบาวด์ขึ้นมาค่อนข้างแรง คาดว่าอาจยังอยู่ในกรอบเดิม คือ 40-50 / bbl ผลของการประชุมในกรุงเวียนนา ของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันน่าจะเป็นตัวตัดสินในทิศทางของราคาน้ำมันดิบ ซึ่งที่ผ่านมา ผลการเลือกตั้ง ทำให้ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นมาก และทำให้มีกระแสเงินไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ ไหลกลับเข้าไปในตลาดพัฒนาแล้ว โดยเฉพาะสหรัฐฯมากขึ้น เหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะยังมีผลไปซักพักแม้ว่าจะมีแรงขายทำกำไรในค่าเงินดอลล่าร์อยู่บ้าง ด้านการประชุมของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันทั้ง OPEC และ Non- OPEC ยังตกลงลดเพดานการผลิตไม่ได้ ทำให้มีความเสี่ยงเกิดขึ้นในตลาดน้ำมันดิบโลก หากตกลงกันไม่ได้จริงๆ อาจส่งแรงกดดันต่อตลาดเกิดใหม่ได้อีก ทั้งนี้ กองทุน KTFF101 อายุ1 ปี เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ไม่สูงมากนัก และต้องการโอกาสในการรับผลตอบแทนตามที่กำหนดไว้   Create Date : 06 ธันวาคม 2559     Last Update : 6 ธันวาคม 2559 9:09:42 น. Counter : 673 Pageviews.   Share Tweet

ตลาดหลักทรัพย์ฯประกาศกองทุนยอดเยี่ยมปี 2558 (LTF/RMF/ตราสารหนี้/ตราสารทุน) นางวรวรรณ ธาราภูมิ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ บริษัท มอร์นิ่ง สตาร์  รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศผลรางวัล Morningstar Fund Awards และ รางวัล SET Excellence Awards  ประจำปี 2558 เพื่อยกย่องและชื่นชมการบริหารกองทุนของ บลจ. ที่มีผลงานยอดเยี่ยม และเพื่อเป็นการเผยแพร่ให้ผู้ลงทุนรับรู้ถึงคุณลักษณะของกองทุนที่ดี เพื่อประกอบการตัดสินใจในการลงทุนในกองทุนรวม โดยมีรายละเอียดดังนี้ 1. รางวัล SET Excellence Awards   บลจ. ยอดเยี่ยมด้านกองทุนรวมอีทีเอฟ ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด  2. รางวัล บลจ. ยอดเยี่ยมด้านกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) 3. รางวัล Morningstar Thailand Fund Awards   รางวัลกองทุนตราสารทุนยอดเยี่ยม  3.1 ประเภทกองทุนหุ้นขนาดกลางและเล็ก ได้แก่ กองทุนเปิดอเบอร์ดีนสมอลแค็พ โดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน  อเบอร์ดีน จำกัด   3.2 ประเภทกองทุนหุ้นขนาดใหญ่ ได้แก่กองทุนเปิด วรรณเอเอ็มเซ็ท 50 โดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด 4. รางวัลกองทุนตราสารหนี้ยอดเยี่ยม   4.1 ประเภทกองทุนตราสารหนี้ระยะปานกลางและยาว ได้แก่กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ โดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด  4.2 ประเภทกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น ได้แก่ กองทุนเปิดเอกตราสารหนี้คืนกำไร โดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด 5. รางวัลกองทุนรวมหุ้นระยะยาวยอดเยี่ยม  ได้แก่ กองทุนเปิด อเบอร์ดีน หุ้นระยะยาว โดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อเบอร์ดีน จำกัด  6. รางวัลกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพยอดเยี่ยม ประเภทตราสารทุน ได้แก่ กองทุนเปิดอเบอร์ดีนสมาร์ทแคปปิตอลเพื่อการเลี้ยงชีพ โดย บริษัทหลักทรัพย์ จัดการกองทุน อเบอร์ดีน จำกัด   7. รางวัลกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพยอดเยี่ยม ประเภทตราสารหนี้ ได้แก่กองทุนเปิดเปิดธนชาตตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ โดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด 8. รางวัล Morningstar Thailand Fund House Awards   รางวัล บลจ. ยอดเยี่ยมประเภทกองทุนหุ้นในประเทศ ได้แก่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บัวหลวง จำกัด  9. รางวัล บลจ. ยอดเยี่ยมประเภทกองทุนตราสารหนี้ในประเทศ ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด.-สำนักข่าวไทย   Create Date : 19 มีนาคม 2558     Last Update : 19 มีนาคม 2558 21:00:15 น. Counter : 1941 Pageviews.   Share Tweet

เทคนิควิธีการเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ให้เหมาะสมและประหยัด ยามเมื่อคุณขับรถ ในระหว่างทางอาจมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุหรือภัยอันตรายต่างๆต่อชีวิตร่างกายของคุณเอง คนในครอบครัวหรือทรัพย์สินอันมีค่าของคุณ ตลอดจนของผู้อื่น คุณสามารถจะสร้างความคุ้มครองจากการทำประกันรถยนต์แบบต่างๆ ซึ่งการเลือกซื้อกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์จึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง โดยคุณต้องคำนึงถึงความจำเป็นต่างๆและขอบเขตของความคุ้มครอง ลักษณะการใช้งานรถยนต์ของคุณในชีวิตประจำวัน ประเภทของรถยนต์ที่ใช้และความเสี่ยงของผู้ขับรถยนต์ นอกเหนือจากนั้นแลัว ในการซื้อประกันภัยรถยนต์ ยังมีหลักเกณฑ์ส่วนลดต่างๆ ดังนั้นเพื่อให้คุณได้ซื้อประกันรถยนต์ที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับคุณในราคาที่ประหยัด คุณควรพิจารณาดังต่อไปนี้ 1.พิจารณาว่าจะซื้อประกันชั้น 1, 2 หรือ 3 ปัจจุบันนี้นอกจากประกันภัยรถยนต์ชั้น 1, 2 และ 3 แล้วยังมีแบบ 3+ หรือแบบอื่นๆให้เลือกอีกหลายแบบ ซึ่งคุณสามารถเลือกได้ตามงบประมาณของคุณ หรือตามความคุ้มครองที่คุณต้องการว่าจะให้ประกันภัยจ่ายทดแทนค่าสินไหมให้ทั้งหมด หรือเฉพาะคู่กรณีของคุณ 2.พิจารณาเรื่องอู่ซ่อมรถยนต์ คุณสามารถเลือกได้ว่าจะซ่อมที่อู่ข้างนอกหรือซ่อมที่ศูนย์บริการของรถยนต์ยี่ห้อนั้นๆ โดยที่ค่าเบี้ยจะต่างกันประมาณ 10-30% ซึ่งปัจจุบันนี้อู่ข้างนอกที่ดีลกับบริษัทประกันภัยนั้นค่อนข้างมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ ซึ่งหากคุณเลือกซ่อมที่อู่ก็จะประหยัดค่าเบี้ยในส่วนนี้พอสมควร 3.พิจารณาลักษณะการใช้รถยนต์ของคุณ หากว่ารถยนต์ของคุณมีผู้ขับขี่ประจำ การระบุชื่อผู้ขับขี่ในกรมธรรม์จะทำให้ประหยัดเบี้ยประกันได้ตั้งแต่ 5-20%  โดยคุณสามารถระบุชื่อผู้ขับขี่ได้ไม่เกิน 2 คน โดยดูที่ผู้ที่มีอายุน้อยที่สุดใน 2 คนนี้ ซึ่งจะได้ส่วนลดดังนี้ อายุ 18 – 24 ปี ส่วนลด  5% อายุ 25 – 35 ปี ส่วนลด 10% อายุ 36 – 50 ปี ส่วนลด 15% อายุเกิน 50 ปี   ส่วนลด  20% ข้อควรระวังคือ ในกรณีที่ผู้อื่นที่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อผู้ขับขี่ในกรมธรรม์ประกันภัย นำเอารถยนต์ของคุณคันดังกล่าวไปขับขี่แล้วเกิดเหตุเป็นฝ่ายผิด คุณในฐานะผู้เอาประกันจะต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายของรถของคุณที่เอาประกันตามความเสียหายจริงแต่ไม่เกิน 6,000 บาท และคุณต้องรับผิดชอบค่าเสียหายต่อรถคู่กรณี 2,000 บาทแรก สำหรับส่วนที่เกินนั้นบริษัทประกันภัยจะเป็นผู้รับผิดชอบตามมูลค่าที่เสียหายจริงแต่ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกัน 4.พิจารณาเรื่องการระบุค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) การทำประกันภัยรถยนต์แบบที่มีการระบุค่าเสียหายส่วนแรกหรือ Deductible เป็นการเลือกรับความเสี่ยงภัยไว้เองบางส่วน ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุในเเต่ละครั้ง จะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนแรก เพื่อแลกกับส่วนลดที่ระบุไว้โดยทั่วไปเป็นจำนวนเงินตั้งแต่ 1,000 - 5,000 บาท ซึ่งการระบุค่าเสียหายส่วนแรกนี้จะทำให้สามารถประหยัดค่าเบี้ยประกันภัยได้มากพอสมควร ซึ่งเหมาะสำหรับผู้เอาประกันภัยที่มีประวัติการขับขี่ที่ดี ไม่ค่อยเป็นฝ่ายผิดหรือไม่เคลมโดยที่ไม่มีคู่กรณี หรือไม่มีการเคลมเพื่อเก็บสีเก็บรอยส่วนใดส่วนหนึ่งหรือรอบรถทั้งคัน ทำให้ประหยัดค่าเบี้ยประกันภัยไปได้ไม่น้อย ข้อควรรู้คือ ในกรณีที่เกิดเหตุและคุณเป็นฝ่ายผิด ส่วนลดประวัติดีจะลดลงทีละขั้น เช่น หากคุณมีประวัติดีและได้ส่วนลดอยู่แล้ว 30% และในปีนั้นเป็นฝ่ายผิด 1 ครั้ง ปีถัดมาส่วนลดของคุณก็จะลดลงเหลือ 20% เป็นต้น 5.สุดท้ายให้พิจารณาเลือกบริษัทประกันภัยรถยนต์ เนื่องจากการทำประกันภัยรถยนต์จะครอบคลุมระยะเวลา 1 ปีเต็ม ดังนั้นการเลือกบริษัทประกันภัยจึงควรดูถึงความมั่นคงทางการเงิน การบริการลูกค้าที่ดี และไม่เคยมีปัญหาเรื่องการจ่ายค่าสินไหมทดแทน ตลอดจนมีศูนย์บริการทั่วประเทศเพื่อความสะดวกในการติดต่อของลูกค้า ซึ่งข้อมูลต่างๆเหล่านี้สามารถดูได้จากเว็บไซต์ของบริษัทประกันภัยหรือใช้ Google ค้นหาดูประวัติเก่าๆ หวังว่าข้อมูลดังกล่าวข้างต้นจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่กำลังพิจารณาเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ไม่มากก็น้อย   Create Date : 17 สิงหาคม 2557     Last Update : 17 สิงหาคม 2557 22:25:15 น. Counter : 848 Pageviews.   Share Tweet

กฎพื้นฐานสำหรับการเริ่มต้นลงทุนโดยวอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffet) การลงทุนอาจจะเป็นเรื่องน่ากลัวสำหรับบางคน แต่ก็เป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับการเงินส่วนบุคคล วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffet) สุดยอดนักลงทุนในตำนาน สรุปพื้นฐานของการลงทุนในหุ้นของเขาในจดหมายประจำปีถึงผู้ถือหุ้น และต่อไปนี้เป็นข้อความที่คัดมาจากจดหมายของ Buffett รวมถึงห้าหลักการหลักของการลงทุน : 1. "จงทำให้การลงทุนเป็นเรื่องง่ายและสม่ำเสมอ" และเมื่อมีโอกาสที่จะทำกำไรได้เร็ว จะต้องตอบสนองได้อย่างรวดเร็วด้วยคำว่า 'ไม่' 2. "เน้นภาพใหญ่" ให้เน้นดูที่ประสิทธิภาพของสินทรัพย์ที่จะสร้างรายได้ในอนาคต ถ้าคุณไม่สามารถหาประมาณการคร่าวๆของรายได้จากสินทรัพย์ในอนาคตแล้วละก็ ให้ลืมมันไปซะ และทำอย่างอื่นต่อไป 3. "อย่าคาดเดา" ครึ่งหนึ่งของนักทายเหรียญทั้งหมดจะชนะการทายเหรียญในครั้งแรกของพวกเขา ไม่มีผู้ใดสามารถคาดหวังในสิ่งที่จะได้รับถ้าเขายังคงเล่นเสี่ยงทายต่อไป และไม่ควรใช้ความจริงที่ว่า สินทรัพย์นั้นมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมาโดยตลอด เป็นเหตุผลในการเข้าซื้อสินทรัพย์นั้น 4. "อย่าหมกมุ่นกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ" เกมจะชนะได้ก็โดยผู้เล่นที่มุ่งเน้นไปที่เกมการเล่น - ไม่ใช่ผู้เล่นที่มีสายตาจดจ้องอยู่กับป้ายคะแนนตลอดเวลา ถ้าคุณสามารถเพลิดเพลินกับวันเสาร์และวันอาทิตย์ โดยที่ไม่ต้องมองดูราคาหุ้น ก็ให้คุณลองทำดูบ้างในวันธรรมดา 5. "การคาดการณ์ของตลาดเป็นเรื่องที่เสียเวลา" การฟังความคิดเห็นของสภาวะเศรษฐกิจแบบมาโคร หรือการคาดการณ์ของตลาดโดยผู้อื่นเป็นเรื่องที่เสียเวลา และเป็นอันตรายอย่างยิ่งเพราะอาจทำให้คุณมองไม่เห็นข้อเท็จจริงที่สำคัญ จดหมายของ Buffett ได้รวมถึงคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ในการเริ่มต้นการลงทุนส่วนบุคคลไว้ด้วย เว็บไซต์ "20's Something Finance" ยังได้สรุปไว้อีกว่า: " ให้ประเมินมูลค่าปัจจุบันและมูลค่าอนาคตของสิ่งที่คุณจะซื้อ" " จงมองหาโอกาสงามๆในการเข้าซื้อ" " ให้ถือหุ้นไว้เมื่อทุกคนขาย" " ใช้พฤติกรรมความบ้าคลั่งของผู้อื่นเพื่อประโยชน์ของคุณ" บัฟเฟตต์ยังได้แนะนำวิธีการจัดสรรเงินไว้ดังนี้: "สำหรับเงินของผมนั้น สิ่งที่ผมจะแนะนำไว้ในที่นี้เป็นหลักการเดียวกันกับที่เขียนไว้ในพินัยกรรม. . . . . . . นั่นก็คือ ให้ใส่ 10% ของเงินสดเพื่อลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นและ 90% ในกองทุนดัชนี S&P 500 ที่มีต้นทุนต่ำ (ผมแนะนำให้ลงทุนกับกองทุนของ Vanguard (VFINX) ) และทั้งหมดนี้คือคำแนะนำการลงทุนขั้นพื้นฐานโดยวอร์เรน บัฟเฟตต์   Create Date : 12 มีนาคม 2557     Last Update : 12 มีนาคม 2557 17:56:10 น. Counter : 1217 Pageviews.   Share Tweet

• Webmaster - BlogGang