ข่าวสารการเงิน หุ้น เศรษฐกิจ และการลงทุน ติดตามได้ที่ Facebook.com/ThaiMoneyNews

xemmy.bloggang.com

กรุณาเลือกหัวข้อที่ต้องการ => ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรี เรื่อง Hot น่ารู้ ออมเงินที่ไหนดี ยานยนต์อัพเดท กลเม็ดเคล็ดลับ DIY-ทำเองก็ได้ง่ายจัง
Group Blog
 
All Blogs
 

บลจ.ฟินันซ่า เปิดขายกองทุนเปิดฟินันซ่าตราสารหนี้พลัส โรล โอเวอร์ 3เดือน4 วันที่ 21 — 27 สิงหาคม 2555

นายธีรพันธุ์ จิตตาลาน  กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ฟินันซ่า เปิดเผยว่า กองทุนเปิดฟินันซ่าตราสารหนี้พลัส โรล โอเวอร์ 3เดือน4 (FAM FIPR3M4) จะเปิดเสนอขายครั้งต่อไป ตั้งแต่ 21 — 27 สิงหาคม 2555 นี้ ด้วยประมาณการผลตอบแทนที่ 3.17% ต่อปี  โดยสามารถลงทุนขั้นต่ำเพียง 2,000 บาท  นักลงทุน สามารถใช้ช่องทางการลงทุนใหม่ล่าสุดของบริษัทโดยซื้อกองทุนผ่านระบบอินเตอร์เนต skype ได้ด้วย

ทั้งนี้ เชื่อว่า กนง.น่าจะลดดอกเบี้ยในการประชุมช่วงที่เหลือของปีนี้ เมื่อดูจากผลการประชุมล่าสุดของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธปท. ที่ไม่เป็นเอกฉันท์  ดังนั้น การการลงทุนในตราสารที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบัน   กล่าวคือสูงกว่า 3 % ขึ้นไป จะสร้างผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ลงทุน เมื่อเปรียบเทียบกับแนวโน้มของดอกเบี้ยที่จะปรับลงในอนาคต

FAM FIPR 3M4 เป็น specific fund หรือกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน  มีนโยบายที่จะลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารแห่งหนี้ที่มีความสามารถในการชำระดอกเบี้ยและเงินต้น โดยกองทุนจะพิจารณาลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ตราสารทางการเงิน และ/หรือ เงินฝาก ของภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade)

ในครั้งนี้เราจะลงทุนในเงินฝากธนาคารต่างประเทศ สกุลเงิน USD หรือ CNY  กับธนาคาร BOC, Macao, ธนาคาร CIMB, Niaga, Indonesia หรือเงินฝากสกุลเงิน AED ธนาคาร Abu Dhabi Commercial Bank, UAE (F1), ธนาคาร Union National Bank, UAE (P-1), ตั๋วเงินหรือเงินฝากธนาคารพาณิชย์ในประเทศ** ตั๋วแลกเงิน บมจ. เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง (BBB+) หรือ บมจ.มั่นคงเคหะการ (BBB+) ตั๋วเงิน บมจ. ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) (BBB) ตราสารหนี้ของ บมจ.บัตรกรุงไทย (BBB+)หรือตราสารหนี้ภาคเอกชน ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ BBB+ขึ้นไป***, ตั๋วเงินคลัง หรือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย

บริษัทจะเปิดให้มีการซื้อและขายคืนหน่วยลงทุน ทุก ๆ 3 เดือนโดยประมาณ นับตั้งแต่วันจดทะเบียนกองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวม  กองทุนนี้เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะสั้นในตราสารหนี้ภาครัฐและภาคเอกชนและ/หรือ เงินฝาก ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และมีโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากธนาคาร ในระยะเวลานานประมาณ 3 เดือนสำหรับการลงทุนแต่ละรอบ  กองทุนมีการลงทุนในต่างประเทศซึ่งเราจะทำการการป้องความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน




 

Create Date : 20 สิงหาคม 2555    
Last Update : 20 สิงหาคม 2555 15:31:15 น.
Counter : 1106 Pageviews.  

บลจ. เอ็มเอฟซี เปิดขายกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี สปอท 10 ซีรี่ส์ 7 ตั้งเป้าหมายผลตอบแทนร้อยละ 10 ภายใน 1 ปี วันที่ 20-28 สิงหาคม 2555

นางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เอ็มเอฟซีมองว่า เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ในเกณฑ์ดี หลังจากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ดีเกินคาด โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้ เศรษฐกิจไทยยังคงเติบโตได้ต่อเนื่องจากแรงขับเคลื่อนของการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน ส่วนอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับควบคุมได้ จึงไม่สร้างผลกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ 

นอกจากนี้ กำไรของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปีนี้ขยายตัวโดดเด่นกว่าภูมิภาค โดยคาดว่ากำไรของบจ.จะขยายตัวในระดับร้อยละ 17-20 เมื่อเทียบกับภูมิภาคที่มีการขยายตัวที่ร้อยละ 10-12 เท่านั้น ในขณะที่มูลค่าตลาดไม่แพง เพราะตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงมาร้อยละ 9-10 จากจุดสูงสุด ทำให้ตลาดหุ้นไทยปัจจุบันขายอยู่ที่ระดับ P/E ratio 11.5 เท่า ซึ่งมีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนประมาณร้อยละ 10-12 จากเป้าหมายดัชนีปีนี้ของเอ็มเอฟซี

เอ็มเอฟซีถือเป็นจังหวะการลงทุนในไทยที่เหมาะสม จึงเปิดขายกองทุนเปิด SPOT 10S7 ที่ตั้งเป้าหมายผลตอบแทนร้อยละ 10 ภายใน 1 ปี โดยมีกลยุทธ์ลงทุนหุ้นในประเทศเป็นหลัก และสามารถเลือกลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าใน SET50 Index Futures ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารพอร์ตการลงทุน และช่วยลดความเสี่ยงในกรณีที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์มีความผันผวน โดยผู้จัดการกองทุนจะจัดสัดส่วนการลงทุนทั้งในตราสารทุน ตราสารหนี้ ตราสารอนุพันธ์ และเงินฝากให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตลาดทุนและตลาดเงินแต่ละขณะ เพื่อโอกาสของผลตอบแทนที่ดีและกระจายความเสี่ยงในการลงทุน 

ทั้งนี้ ภายในระยะเวลา 1 ปี หากมูลค่าหน่วยลงทุนของกองทุนเปิด SPOT 10S7 เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 11.30 บาทเป็นเวลา 3 วันทำการติดต่อกัน หรือเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 11.30 บาทและทรัพย์สินของกองทุนเป็นเงินสดหรือเทียบเท่าเงินสดทั้งหมด โดยผลตอบแทนที่คืนผู้ถือหน่วยลงทุนต้องไม่ต่ำกว่า 11 บาทต่อหน่วยลงทุน บริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุน และสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนอัตโนมัติภายใน 5 วันทำการไปยังกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี พันธบัตรตลาดเงิน (MM-GOV) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงินที่มีความมั่นคง ที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐในประเทศ เพื่อสนับสนุนการลงทุนอย่างต่อเนื่องของผู้ถือหน่วยลงทุนต่อไป 

หากไม่เป็นไปตามคาดหมายภายในเวลาดังกล่าว กองทุนเปิด SPOT 10S7 จะเปิดโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนมีสิทธิ์เลือกที่จะลงทุนต่อไป ซื้อหน่วยลงทุนเพิ่ม หรือขายคืนหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการภายในเวลารับคำสั่งซื้อขายตามที่ระบุไว้ในโครงการ และกองทุนยังคงตั้งเป้าหมายเลิกกองทุนหากผลตอบแทนถึงร้อยละ 10

กองทุนเปิด SPOT 10S7 เป็นกองทุนรวมผสมแบบไม่กำหนดสัดส่วนในตราสารทุน เหมาะสำหรับนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงได้ในระดับปานกลางถึงค่อนข้างสูง นักลงทุนที่สนใจสามารถลงทุนขั้นต่ำได้ตั้งแต่ 10,000 บาท โดยติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายการลงทุน ความเสี่ยง หรือหนังสือชี้ชวนได้ที่บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) โทรศัพท์ 0-2649-2000 ติดต่อฝ่ายวางแผนการลงทุน กด 2 หรือ Contact Center กด 0 หรือที่ //www.mfcfund.com หรือสาขาเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ โทร. 02-835-3055-57 

กรรมการผู้จัดการเอ็มเอฟซีกล่าวเพิ่มเติมว่า ณ สิงหาคม 2555 เอ็มเอฟซีสามารถบริหารทาร์เก็ตฟันด์ได้ตามเป้าหมายผลตอบแทนถึง 5 กองทุนด้วยกัน โดยเป็นกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ 1 กองทุน และกองทุนที่ลงทุนในหุ้นในไทยอีก 4 กองทุน ทั้งนี้ เอ็มเอฟซีเชื่อว่าจากปัจจัยสนับสนุนที่ดีต่อการเติบโตของตลาดหุ้นไทย จะเป็นโอกาสในการสร้างความสำเร็จของทาร์เก็ตฟันด์ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน




 

Create Date : 20 สิงหาคม 2555    
Last Update : 20 สิงหาคม 2555 12:32:09 น.
Counter : 1310 Pageviews.  

ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย ออกโปรโมชั่นเงินฝากดอกเบี้ยสูง วันนี้ ถึง 31 สิงหาคม 2555

ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย บริษัทในกลุ่มไทยประกันชีวิต ออกโปรโมชั่นเงินฝากดอกเบี้ยสูง เงินฝากประจำ 6 เดือน ดอกเบี้ย 3.65% ต่อปี และเงินฝากออมทรัพย์เพิ่มค่าพิเศษถอนได้ไม่จำกัด ดอกเบี้ยสูง 2.90% ต่อปี สนับสนุนผู้รักการออมเงิน ผลักดันผลิตภัณฑ์เงินฝาก เพื่อความอยู่ดีกินดีอย่างยั่งยืน

เงินฝากประจำ ประเภทสมุดคู่ฝากประจำและใบรับฝากประจำ ระยะเวลา 6 เดือน อัตราดอกเบี้ย 3.65% ต่อปี สำหรับยอดเงินฝาก มากกว่า 5 ล้านบาท และอัตราดอกเบี้ย 3.55% ต่อปี สำหรับยอดเงินฝาก ไม่เกิน 5 ล้านบาท รับดอกเบี้ยเมื่อครบกำหนด ประเภทสมุดคู่ฝากประจำ เปิดบัญชีขั้นต่ำเพียง 1,000 บาทขึ้นไป และ สำหรับใบรับฝากประจำ เปิดบัญชีขั้นต่ำเพียง 500,000 บาทขึ้นไป

เงินฝากออมทรัพย์เพิ่มค่าพิเศษ ดอกเบี้ย 2.90% ต่อปี รับดอกเบี้ยรายเดือน เปิดบัญชีขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท สำหรับยอดเงินฝากไม่เกิน 20 ล้านบาท ถอนได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งต่อเดือน

ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 สิงหาคม 2555 สอบถามรายละเอียดได้ที่ ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย ทุกสาขา หรือ ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ โทร.0-2697-5454




 

Create Date : 19 สิงหาคม 2555    
Last Update : 19 สิงหาคม 2555 6:58:33 น.
Counter : 1995 Pageviews.  

กระทรวงการคลังเปิดขายพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษรุ่นอายุ 6 ปี ดอกเบี้ยคงที่ 3.99% ต่อปี วันที่ 3-14 ก.ย. 55

เมื่อวันที่ 16 ส.ค. นายจักรกฤษฎิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังกำหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษรุ่นอายุ 6 ปี ในอัตราคงที่ 3.99% ต่อปี โดยจะเปิดจำหน่ายพันธบัตรดังกล่าวในวงเงิน 80,000 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 3-14 ก.ย.นี้ ให้แก่นักลงทุนรายย่อยผ่านธนาคารพาณิชย์ 4 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงเทพ และ ธนาคารกสิกรไทย

ทั้งนี้ จะกำหนดช่วงเวลาจำหน่ายพันธบัตรดังกล่าว ดังนี้ ช่วงที่ 1 วันที่ 3-4 ก.ย.55 ผู้มีสิทธิ์จะต้องอายุ 60 ปีขึ้นไป หากมีวงเงินเหลือจะเปิดจำหน่ายต่อช่วงที่ 2 ในวันที่ 5-7 ก.ย.55 สำหรับผู้มีสิทธิ์ที่เป็นประชาชนทั่วไป รวมถึง ผู้ที่อายุ 60 ปีขึ้นไป หลังจากนั้น หากยังมีวงเงินเหลือ สบน.ก็จะเปิดจำหน่ายในช่วงที่ 3 ระหว่างวันที่ 10-14 ก.ย. 2555 สำหรับผู้มีสิทธิ์ที่เป็นประ ชาชนทั่วไป รวมถึงผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปด้วย โดยอัตราการจองซื้อขั้นต่ำในช่วง 1 และ 2 จะอยู่ที่ 1,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 2 ล้านบาทต่อครั้ง ส่วนช่วงที่ 3 จะเปิดให้ซื้อโดยไม่มีการกำหนดเพดานวงเงินขั้นสูงสุด โดยทั้งนี้ 3 ช่วงเวลาดังกล่าวผู้ที่สนใจสามารถลงทุนได้โดยไม่กำหนดจำนวนครั้ง เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อสามารถลงทุนในพันธบัตรได้หลายรอบ

“อัตราดอกเบี้ย ที่กำหนดคงที่ 3.99% นั้น ถือเป็นอัตราที่เหมาะสม และจูงใจสำหรับนักลงทุน เนื่องจาก แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในขณะนี้อยู่ในช่วงขาลง ขณะเดียวกัน อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรออมทรัพย์อายุใกล้เคียงกันก็อยู่ในอัตรา 3.75% และ อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ก็อยู่ในอัตรา 3.2-3.3%” 

นายจักรกฤษฎิ์ กล่าวว่า ในสิ้นปีงบประมาณนี้ ระดับหนี้สาธารณะต่อจีดีพีจะอยู่ไม่เกิน 43.5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพี ซึ่งขึ้นอยู่กับการกู้เงินของรัฐบาล และในปีงบประมาณ 56 คาดว่า จะเพิ่มขึ้นเป็นระดับ 44-45% เนื่องจาก มีการกู้เงินเพื่อใช้ในโครงการบริหารจัดการน้ำวงเงิน 350,000 ล้าบาท ขณะที่ ประเมินว่า ปีนี้เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ 5% อย่างไรก็ตาม คาดว่า หนี้สาธารณะจะอยู่ระดับสูงสุดในอีก 5 ปีข้างหน้าที่ 54-55% จากแผนการกู้เงินเพื่อการลงทุนของรัฐบาลวงเงิน 2 ล้านล้านบาท 

“ระดับหนี้สาธารณะที่สูงขึ้นนั้นไม่ได้น่าเป็นห่วง เพราะรัฐบาลยังมีความสามารถในการชำระหนี้ ซึ่งหากภาระหนี้ต่องบประมาณยังอยู่ในระดับ 10-11% ยังถือว่า อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ แต่หากเกิน 15% จึงจะถือว่าน่าเป็นห่วง” 

นายจักรกฤษฎิ์ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันภาระหนี้ภาครัฐ 99% เป็นหนี้ในประเทศ ซึ่งยังสามารถบริหารจัดการได้ดี ดอกเบี้ยตอนนี้ยังอยู่ในระดับต่ำ เป็นหนี้ระยะยาวเฉลี่ย 6-7 ปีขึ้นไป มีต้นทุนดอกเบี้ยอยู่ที่ 4% และหากระดมทุนระยะยาวมากขึ้น ต้นทุนดอกเบี้ยจะยิ่งลดลง ก็ยิ่งสามารถบริหารจัดการได้ จึงไม่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด




 

Create Date : 18 สิงหาคม 2555    
Last Update : 18 สิงหาคม 2555 10:34:27 น.
Counter : 1539 Pageviews.  

บลจ.วรรณ เปิดขายกองทุนเปิด วรรณ เวลธ์ แอ็คทีฟ ฟันด์ 2 (ONE-WEALTH 2) วันที่ 17-23 ส.ค.55 ตั้งเป้าสร้างผลตอบแทน 5% ในเวลา 4 เดือน

นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) วรรณ เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดขายกองทุนเปิด วรรณ เวลธ์ แอ็คทีฟ ฟันด์ 2 (ONE-WEALTH 2) เสนอขายครั้งเดียว ระหว่างวันที่ 17-23 ส.ค.2555 หน่วยลงทุนละ 10 บาท ลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท โดยมีเป้าหมายสร้างผลตอบแทน 5% ในระยะเวลา 4 เดือน เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนที่พลาดการลงทุนในกองทุน ONE-WEALTH เมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา

กองทุนนี้จะเลือกลงทุนในสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า COMEX ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการ ซื้อขายต่ำ และมีสภาพคล่องสูง เนื่องจากตลาด COMEX เป็นหนึ่งในตลาดซื้อขายล่วงหน้า ที่มีการซื้อขายทองคำมากที่สุดในโลก  ขณะเดียวกัน กองทุนจะป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนแบบ Dynamic Hedging หรือตามสถานการณ์ ซึ่งจะทำให้ผลกระทบจากความผันผวนระหว่างเงินบาท และดอลลาร์สหรัฐ อยู่ในระดับต่ำ นอกจากนี้ กองทุนดังกล่าวจะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) หรือ เงินฝากในประเทศ เพื่อเป็นสินทรัพย์สภาพคล่องของกองทุน

นายวิน กล่าวว่า  ภาวะการลงทุนในตลาดทองคำในระยะสั้น ยังคงมีความ ผันผวนตามกระแสการคาดการณ์ของปัจจัยที่เข้ามากระทบในช่วงนี้ เช่น มาตรการเพิ่มสภาพคล่องเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ(QE3) ของสหรัฐ และความกังวลเรื่องอิสราเอลและ อิหร่าน  อย่างไรก็ตาม ด้วยปัจจัยพื้นฐานที่มีอยู่ เชื่อว่าการลงทุนในทองคำยังคงได้ รับปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ อาทิ QE3 ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), มาตรการเงินกู้ระยะยาวของธนาคารกลางยุโรป(LTRO) รวมถึงมาตรการ กระตุ้นเศรษฐกิจของจีน ผ่านการลดดอกเบี้ย และการลดอัตราเงินสำรองธนาคารพาณิชย์  

"ในช่วงนี้จึงไม่แนะนำลงทุนในทองคำแบบซื้อและถือ และเชื่อว่ากลยุทธ์การ ลงทุนแบบจับจังหวะการซื้อขาย จะสร้างผลตอบแทนได้ดี ในช่วงราคาทองปรับตัวผันผวน ในกรอบแคบๆ โดยในช่วงต่อไป ประเมินว่าราคาทองคำน่าจะยังมีกรอบการเคลื่อนไหว อยู่ที่ 1,560-1,640 เหรียญ" นายวินกล่าว




 

Create Date : 17 สิงหาคม 2555    
Last Update : 17 สิงหาคม 2555 9:48:59 น.
Counter : 1667 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  

xemmy
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




Friends' blogs
[Add xemmy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.