• ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรี (Freeware/Shareware)
• การเงิน หุ้น เศรษฐกิจ และการลงทุน
• กลเม็ดเคล็ดลับ
• DIY - ทำเองก็ได้ง่ายจัง
• เล่นเกมส์ออนไลน์ (Online Game)
• ยานยนต์อัพเดท
• แผนที่สถานที่ต่างๆและรายงานสภาพจราจรขณะนี้
• เรื่อง Hot น่ารู้
• บันทึกกีฬาเด่น
• ข่าวด่วนล่าสุด
• ภาษาอังกฤษง่ายนิดเดียว
• เนื้อร้อง/เนื้อเพลง
• ไอที อินเตอร์เน็ต มือถือ

บลจ.ทหารไทยเปิดเสนอขายกองทุนเปิดทหารไทย Global Bond Dividend Fund ดร.สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด เปิดเผยว่าตามที่บริษัทฯได้เปิดเสนอขาย กองทุนเปิดทหารไทย Global Bond Dividend Fund ซึ่งเป็นกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุน มีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองเดียว (Master Fund) คือ กองทุน Templeton Global Bond Fund และ มีลักษณะพิเศษคือมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้ผู้ลงทุนไม่เกินปีละ 4 ครั้ง พิจารณาจากการเพิ่มขึ้นในสินทรัพย์สุทธิจากการดำเนินงานประจำแต่ละงวดบัญชี หรือกำไรสุทธิที่เกิดขึ้นจริง ณ สิ้นงวด ตามที่บริษัทจัดการพิจารณาเห็นสมควร โดยกองทุนดังกล่าวได้เปิดเสนอขายครั้งแรกในช่วงระหว่างวันที่ 26 กรกฎาคม – 5 สิงหาคม ที่ผ่านมา ปรากฏว่าสามารถสร้างยอดจองซื้อได้เป็นประวัติการณ์ของบริษัทฯ กล่าวคือสามารถระดมเงินลงทุนได้ถึง 1,654.70 ล้านบาท ถือเป็นกองทุนเปิดที่สร้างยอด IPO ได้สูงที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมาของบริษัทฯ ทั้งนี้ กองทุนฯ จะเปิดเสนอขายต่อไปในวันที่ 17 ส.ค. ศกนี้ โดยมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ที่ลงทุนทุกๆ 100,000 บาทจะได้รับเงินลงทุนสมทบในกองทุนเปิดทหารไทยธนบดี 100 บาท “กระแสตอบรับการเปิด IPO ของกองทุนเปิดทหารไทย Global Bond Dividend Fund ที่ดีมากน่าจะมาจากเหตุผลหลักซึ่งได้แก่ความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของกองทุนเปิดทหารไทย Global Bond Fund ที่มีกองทุนแม่ (Master Fund) กองทุนเดียวกันคือกองทุน Templeton Global Bond Fund ซึ่งได้แนะนำตัวกับผู้ลงทุนชาวไทยและเพิ่งจะครบรอบการเปิดตัวได้ 1 ปีไปเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2554 ที่ผ่านมานั้น สามารถเติบโตอย่างต่อเนื่องจนมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุน (AUM) ล่าสุดวันที่ ณ วันที่ 5 สิงหาคม 2554 ได้เพิ่มขึ้นเป็น 13,101.87 ล้านบาท โดยมูลค่าหน่วยลงทุนเพิ่มจาก 10 บาทต่อหน่วยลงทุน เป็น 11.0698 หรือคิดเป็นเป็นอัตราเติบโตกว่า 10% และปัจจุบันจัดเป็นหนึ่งในกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศประเภทที่สามารถไถ่ถอนได้ทุกวันที่มีขนาดสินทรัพย์ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เราเชื่อว่าเหตุผลหลักของความสำเร็จของกองทุนเปิดทหารไทย Global Bond Fund เกิดจากการที่กองทุนได้ช่วยปรับรูปแบบของกรอบความคิดในอดีตที่มักจะมีการนำเสนอแต่เฉพาะการลงทุนในกองทุนที่กำหนดผลตอบแทน และระยะเวลาการลงทุนที่แน่นอน (Fixed-Term Fund) ซึ่งอาจทำให้ ผู้ลงทุนสูญเสียโอกาสการลงทุนเพื่อให้เต็มศักยภาพอย่างแท้จริง อาทิเช่น ผู้ลงทุนเกิดต้นทุนของความเสี่ยงจากการลงทุนให้ต่อเนื่อง (Reinvestment Risk) ที่เกิดจากการแสวงหาการลงทุนอื่นต่อไป เมื่อกองทุนที่เดิมผู้ลงทุนไว้สิ้นสุดลง เป็นต้น ดังนั้น กองทุนฯ จึงสามารถตอบโจทย์ของเม็ดเงินจากกองทุนพันธบัตรเกาหลีใต้ในระบบการเงินไทยที่จะครบกำหนดจำนวนมากในระหว่างปีสองปีนี้ได้ ซึ่งเราสามารถเห็นได้จากความตื่นตัวและกระแสตอบรับของผู้ลงทุนไทยที่มีอย่างล้นหลาม ซึ่งเมื่อรวมยอดเงินลงทุนคร่าวๆจากทั้งสองกองทุนดังกล่าวคือ กองทุนเปิดทหารไทย Global Bond Fund ซึ่งมี AUM ประมาณกว่า 13,000 ล้านบาท และ ยอด IPO กองทุนเปิดทหารไทย Global Bond Dividend Fund อีก 1,600 กว่าล้านบาท คิดเป็นยอดเงินลงทุนรวมกว่า 14,700 ล้านบาท เลยทีเดียว มากยิ่งไปกว่านั้น เรามั่นใจว่ากองทุนแม่ (Master Fund) ที่เรานำเสนอมาให้แก่ผู้ลงทุนนั้น เป็นกองทุนที่ดีเยี่ยมระดับโลกอย่างแท้จริง โดยกองทุน Templeton Global Bond Fund ได้รับรางวัลระดับโลกมาแล้วอย่างมากมาย อาทิ Morning’s Star 2010 Fund Manager of the Year, The Top Mutual Funds 2010-Global Bonds by Bloomberg, The Top U.S. and Global Bonds 2009 by Bloomberg เป็นต้น นอกจากนั้น กองทุนได้พิสูจน์ให้เห็นถึงผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในรอบกว่า 20 ปีที่จัดตั้ง โดยจะเห็นได้ว่า ณ วันที่ 29 กรกฎาคม 2554 ที่ผ่านมา กองทุน Templeton Global Bond Fund มีขนาดกองทุนเติบโตอย่างต่อเนื่องจนถึง 48,648.023 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นสกุลเงินบาทไทยกว่า 1,446,792.20 ล้านบาท (ณ อัตราแลกเปลี่ยน 29.740 บาท ต่อหนึ่งดอลลาร์สรอ.) ” ดร.สมจินต์ กล่าว ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในกองทุนเปิดทหารไทย Global Bond Fund หรือกองทุนเปิดทหารไทย Global Bond Dividend Fund นั้น บลจ.ทหารไทย ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ที่ลงทุนในทั้งสองกองทุน คือทุกๆเงินลงทุน 100,000 บาทจะได้รับเงินลงทุนสมทบในกองทุนเปิดทหารไทยธนบดี 100 บาท โปรโมชั่นดังกล่าวจะสิ้นสุดในวันที่ 30 กันยายน 2554 ทั้งนี้ รายละเอียดเป็นไปตามเงื่อนไขที่ บลจ.ทหารไทย กำหนด สำหรับผู้สนใจลงทุนในทั้งสองกองทุนดังกล่าว หรือสนใจการลงทุนในกองทุนรวมอื่นๆภายใต้การจัดการของบริษัทฯ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนลูกค้าสัมพันธ์ บลจ.ทหารไทย โทร 1725 หรือผ่านช่องทางการขายของบริษัท ได้แก่ธนาคารทหารไทยทุกสาขาทั่วประเทศ ตัวแทนการสนับสนุนการขาย และบริการต่างๆของบริษัท อาทิ ทางอินเตอร์เนตผ่านเว็บไซด์ //www.tmbam.com ผ่านระบบ FundLink Online, ระบบโทรศัพท์อัตโนมัติ (FundLink IVR) หรือ FundLink ATM   Create Date : 09 สิงหาคม 2554     Last Update : 9 สิงหาคม 2554 17:38:50 น. Counter : 1106 Pageviews.   0 comment Share Tweet

ธนาคารกสิกรไทยออกบริการสินเชื่อเอสเอ็มอี ซูเปอร์เทรด (SME Super Trade) นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารออกบริการสินเชื่อเอสเอ็มอี ซูเปอร์เทรด (SME Super Trade) ขึ้น เพื่อให้การสนับสนุนทางการเงินแก่เอสเอ็มอีที่ทำการค้าระหว่างประเทศทั้งการส่งออกและนำเข้าสินค้าอย่างครบวงจร เนื่องจากปัจจุบันผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของไทยให้ความสำคัญในการทำการค้าระหว่างประเทศมากขึ้น โดยธนาคารตั้งเป้าปล่อยกู้สินเชื่อดังกล่าวในสิ้นปีนี้ไว้ที่ 5,000 ล้านบาท "ช่วง 5 เดือนแรก ธุรกิจเอสเอ็มอีมีการนำเข้าเพิ่ม 13% และมีการส่งออกเพิ่มถึง 17.26% ทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีความต้องการเงินทุนในการผลิตสินค้าเพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการมากขึ้น"นายปกรณ์ กล่าว บริการสินเชื่อ SME Super Trade ประกอบด้วย วงเงินที่ใช้ผลิตสินค้าก่อนการส่งออก ได้แก่ วงเงินสินเชื่อเพื่อการค้าระหว่างประเทศ (Trade Finance Credit) วงเงินซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า (Forward Contract) รวมถึงวงเงินสินเชื่อเพื่อดำเนินธุรกิจภายในประเทศ ได้แก่ เงินกู้เพื่อการพาณิชย์ (Loan), วงเงินสินเชื่อเบิกเงินเกินบัญชี (O/D), ตั๋วสัญญาใช้เงิน (P/N), วงเงินหนังสือค้ำประกัน (L/I) วงเงินที่ใช้หลังการส่งออก ได้แก่ วงเงินสินเชื่อเพื่อการค้าระหว่างประเทศหลังการส่งออก เช่นPacking Credit, Bill Discount สินเชื่อแฟคเตอริ่งกสิกรไทย (K-Factoring) ที่สามารถเปลี่ยน Invoice ลูกหนี้การค้าให้เป็นเงินสดได้ และบริการสินเชื่อเพื่อการขายลดเช็คกสิกรไทย (K-Cheque 2 Cash) ที่สามารถเปลี่ยนเช็คให้เป็นเงินสดได้ในทุกสาขาทั่วประเทศ ซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับธุรกิจและช่วยบริหารเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ นายปกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สินเชื่อเอสเอ็มอี ซูเปอร์เทรด เป็นการนำผลิตภัณฑ์ด้านสินเชื่อและบริการทางการเงินต่างๆ ที่เกี่ยวกับธุรกิจการนำเข้า-ส่งออก และเงินทุนเพื่อดำเนินธุรกิจมารวมไว้ด้วยกันอย่างครบวงจร มีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ทำธุรกิจนำเข้า-ส่งออกมียอดขาย 50-400 ล้านบาทต่อปี โดยธนาคารจะให้วงเงินสินเชื่อสูงสุดถึง 140 ล้านบาท เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถนำเงินไปบริหารกิจการ รวมถึงเสริมสภาพคล่องได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การเปิดเสรีทางการค้าระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะกับกลุ่มประเทศในอาเซียน และคู่ค้าอื่น ๆ จะขยายตัวเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามแนวโน้มของระบบการค้าใหม่ของโลก ซึ่งจะยิ่งช่วยส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต ดังนั้น ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีควรมองหาโอกาสทางธุรกิจ เนื่องจากตลาดส่งออกมีขนาดที่ใหญ่กว่าตลาดในประเทศมาก การส่งออกสินค้าไปต่างประเทศจะเป็นการขยายธุรกิจ และลดความเสี่ยงทางการตลาดได้มาก ในขณะที่ผู้นำเข้าก็มีโอกาสมองหาแหล่งวัตถุดิบและสินค้าที่มีต้นทุนที่เหมาะสมเพื่อนำมาทำการตลาดในประเทศได้ ดังนั้นการมีความพร้อมด้านเงินทุนและการจัดการจะช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของไทยเติบโตได้อย่างยั่งยืน และสามารถแข่งขันกับตลาดนานาชาติได้   Create Date : 09 สิงหาคม 2554     Last Update : 9 สิงหาคม 2554 17:28:31 น. Counter : 925 Pageviews.   0 comment Share Tweet

เอเชียพลัส (ASP) เตรียมขาย DW อ้างอิงหุ้น IVL (IVL08CB) จำนวน 11.3 ล้านหน่วย เข้าเทรด 18 ส.ค.นี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)เปิดเผยว่า บมจ. เอเชีย พลัส(ASP) จะเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์(DW)ในหุ้นสามัญของบมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส(IVL) รุ่น B ประเภทสิทธิในการซื้อ ใช้ชื่อย่อ IVL08CB ออกจำนวน 11,300,000 หน่วย โดยกำหนดซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ในวันที่ 18 ส.ค.นี้ IVL08CB มีอัตราการใช้สิทธิ 8 DW ต่อ 1 หุ้น ในราคาใช้สิทธิ 35 บาท ซึ่งบริษัทจะเสนอขายตามราคาใดที่เป็นไปตามกลไกการเสนอซื้อและเสนอขาย(bid/offer)ของระบบซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พร้อมกำหนดวันซื้อขายวันสุดท้ายในวันที่ 15 ธ.ค.2554 และวันครบอายุ 21 ธ.ค.2554 ทั้งนี้ ASP ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อในระดับ A- โดยบริษัท ฟิทช์ เรตติ้งส์ จำกัด   Create Date : 08 สิงหาคม 2554     Last Update : 8 สิงหาคม 2554 14:24:51 น. Counter : 770 Pageviews.   0 comment Share Tweet

ธนาคารอิสลามฯเปิด 20 สาขา เดือน ส.ค.นี้ ออกโปรฯ เงินฝากผลตอบแทนพิเศษดึงลูกค้า นายธีรศักดิ์ สุวรรณยศ กรรมการผู้จัดการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) เปิดเผยว่า ภายในเดือน ส.ค.นี้ ธอท.จะเร่งเปิดสาขาใหม่อีก 20 สาขา เพื่อขยายการให้บริการสู่กลุ่มลูกค้ารายย่อยอย่างต่อเนื่อง และครอบคลุมทั่วประเทศ ทั้งในแหล่งชุมชนและห้างสรรพสินค้า เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการทำธุรกรรมการเงินตามหลักศาสนาอิสลามที่เพิ่มขึ้น ซึ่ง ธอท.มั่นใจว่าจะมีศักยภาพในการให้บริการที่ดีได้หลังจากที่ใช้ระบบคอร์ แบงก์กิ้งใหม่แล้วตั้งแต่เดือน ก.ค.ที่ผ่านมา พร้อมทั้งคาดว่าภายในสิ้นปี 54 นี้ ธอท.จะมีสาขาครบ 100 สาขา ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดย ธอท.ได้ออกโปรโมชั่นพิเศษสุดสำหรับลูกค้าที่มาใช้บริการเงินฝากประจำกับธนาคารในโครงการ นิว บร้านซ์ โอลี่ ซึ่งเป็นเงินฝากประจำ แบบ 3 เดือน 6 เดือน และ 12 เดือน โดยคาดว่าจะจ่ายผลตอบแทนสูงสุดถึง 4% ต่อปี และมีเวลาโปรโมชั่น 2 สัปดาห์ นับแต่วันแรกที่เปิดสาขาแต่ละแห่งเท่านั้น “เชื่อว่าการเปิดสาขาทั้ง 20 สาขา ภายในเดือน ส.ค.นี้ จะช่วยเพิ่มช่องทางและความสะดวกในการบริการให้ลูกค้าได้เป็นอย่างดี ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่จะขยายฐานลูกค้าสู่รายย่อยให้มากขึ้น โดยแคมเปญดังกล่าว จะให้เฉพาะลูกค้าที่ไปใช้บริการในสาขาที่เปิดใหม่ทุกแห่ง โดยเงินฝาก 3 เดือนให้ผลตอบแทน 2.75-3.5% ฝาก 6 เดือน ให้ผลตอบแทน 3-3.75% และฝาก 12 เดือน ให้ผลตอบแทน 3-4% ฝากขั้นต่ำรายละ 5,000 บาทขึ้นไป ปัจจุบัน ธอท.มีสาขาทั้งสิ้น 58 แห่ง อยู่ในเขตภาคกลางและตะวันออก 22 แห่ง ภาคเหนือและอีสาน 11 แห่ง และภาคใต้ 25 แห่ง ทั้งนี้ เมื่อรวมอีก 20 แห่ง ที่จะเปิดภายในเดือน ส.ค.นี้ จะทำให้จะมีสาขารวมทั้งสิ้น 78 แห่ง” นายธีรศักดิ์ กล่าว   Create Date : 07 สิงหาคม 2554     Last Update : 7 สิงหาคม 2554 23:01:45 น. Counter : 883 Pageviews.   0 comment Share Tweet

GLD:กองทุนรวมอีทีเอฟทองกองแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯพร้อมเทรดวันที่ 8 ส.ค.นี้ นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ รับกองทุนเปิด เคแทม โกลด์อีทีเอฟ แทร็กเกอร์ (KTAM GOLD ETF TRACKER: GLD) ซึ่งเป็นกองทุนที่นำเงินของผู้ถือหน่วยไปลงทุนใน SPDR® Gold Trust ทั้งนี้กองทุนรวมอีทีเอฟทองคำรายแรกของโลก ที่ปัจจุบันได้รับความนิยมและมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยเข้าซื้อขายในหมวดธุรกิจหน่วยลงทุนของอีทีเอฟ ตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม 2554 เป็นต้นไป ใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “GLD” นอกจากนี้“GLD "ยังเป็นกองทุนรวมอีทีเอฟกองแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่เปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนสามารถได้รับผลตอบแทนที่เคลื่อนไหวตามราคาทองคำในตลาดโลก โดยปัจจุบันทองคำเป็นสินทรัพย์เพื่อการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนในระดับสูง และเป็นที่สนใจของผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนทั่วไป ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีนโยบายที่จะร่วมมือกับ บลจ. ในการส่งเสริมการออกกองทุนรวมอีทีเอฟบนสินค้าอ้างอิงใหม่ ๆ ให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลายของผู้ลงทุน นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับบริษัทสมาชิกและบลจ. ด้วย” นายจรัมพรกล่าว สำหรับGLD บริหารจัดการโดย บลจ. กรุงไทย จำกัด (มหาชน) โดยมี บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เป็นผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุนและผู้ดูแลสภาพคล่อง โดยมีผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุนรายอื่น ได้แก่ บล. เคที ซิมิโก้ จำกัด (มหาชน) บล. เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และ บล. ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย)   Create Date : 06 สิงหาคม 2554     Last Update : 6 สิงหาคม 2554 17:45:43 น. Counter : 864 Pageviews.   0 comment Share Tweet

• Webmaster - BlogGang