บลจ.ฟินันซ่า เสนอขายกองทุนเปิดฟินันซ่าตราสารหนี้ 3 เดือน 7 (FAM FIX 3M7) วันที่ 27 กค 2 สค 54
นายธีรพันธุ์ จิตตาลาน กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ฟินันซ่า จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ออกกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีอายุประมาณ 3 เดือน กองทุนเปิดฟินันซ่าตราสารหนี้ 3 เดือน 7 (FAM FIX 3M7) ให้ประมาณการผลตอบแทน 3.25% ต่อปี (ก่อนหักภาษี 15% อยู่ที่ประมาณ 3.82% ต่อปี) อายุกองทุนประมาณ 3 เดือน พร้อมเสนอขายวันที่ 27 กรกฎาคม2 สิงหาคม 2554 ผู้ที่สนใจสามารถจองซื้อขั้นต่ำ 2,000 บาท
กองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนที่มีนโยบายที่จะลงทุนหรือมีไว้ซึ่งตราสารแห่งหนี้ที่มีความสามารถในการชำระดอกเบี้ยและเงินต้น โดยกองทุนจะพิจารณาลงทุนในตราสารแห่งหนี้ภาครัฐ และ/หรือ ตราสารแห่งหนี้ภาคเอกชน โดยอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ FAM FIX 3M7 จะลงทุนในตั๋วเงินหรือเงินฝากธนาคารในประเทศ ตั๋วแลกเงินบมจ. Double A, บมจ.KTC, บมจ.สวนอุตสาหกรรมโรจนะ, บมจ.เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง, และบมจ.ภัทรลีสซิ่ง และตั๋วเงินคลังหรือพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ประมาณอัตรารับซื้อคืนอัตโนมัติ (ต่อปี) 3.25 เมื่อครบกำหนดการลงทุนบริษัทจัดการจะทำการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ
โดยจะจัดให้มีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนส่วนที่เหลือทั้งหมดของกองทุนนี้เพื่อใช้ในการสับเปลี่ยนไปยังกองทุนเปิดฟินันซ่าเพิ่มพูนทรัพย์ (FAM VF) หรือกองทุนรวมตลาดเงินอื่นภายใต้การจัดการของบริษัทจัดการของผู้ถือหน่วยลงทุนทุกรายโดยอัตโนมัติ โดย FAM VF มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น ให้ประมาณการผลตอบแทนที่ 2.24% ต่อปี 3 เดือนย้อนหลังและ 2.02% ต่อปี 6 เดือนย้อนหลัง ณ วันที่ 24 มิถุนายน 2554
นายธีรพันธุ์ กล่าวว่า ในภาวะตลาดอัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในทิศทางขาขึ้น และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 3.00% เป็น 3.25% ในการประชุมวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา และธปท.ได้แสดงความเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังคงอยู่ในช่วงขาขึ้น ตามภาวะเงินเฟ้อที่ยังมีอยู่อย่างมีนัยสำคัญ
ขณะที่ตลาดเงินฝากภาคธนาคารมีการระดมเงินฝากอย่างต่อเนื่องจากการที่สถาบันประกันเงินฝากจะลดยอดการค้ำประกันเหลือ 50 ล้านบาทมีผลตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2554 และเหลือ 1 ล้านบาทหลังเดือนสิงหาคม 2555 กับภาคสินเชื่อของธนาคารก็มีการเติบโตเช่นกัน ประกอบกับความต้องการสภาพคล่องจากภาคธนาคารทั้งของรัฐและเอกชนจึงมีผลต่อการแข่งขันการแย่งชิงเงินฝากจากผู้ออมเงินในตลาดเงินจากทิศทางของอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในทิศทางขาขึ้น การฝากเงินหรือการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีอายุประมาณ 36 เดือน จึงน่าจะเหมาะสมกับผู้ลงทุนเพื่อจะได้ไม่เสียโอกาสในช่วงอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น
Create Date : 29 กรกฎาคม 2554 |
Last Update : 29 กรกฎาคม 2554 13:02:39 น. |
|
0 comments
|
Counter : 729 Pageviews. |
|
|
|
| |