ข่าวสารการเงิน หุ้น เศรษฐกิจ และการลงทุน ติดตามได้ที่ Facebook.com/ThaiMoneyNews

xemmy.bloggang.com

กรุณาเลือกหัวข้อที่ต้องการ => ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรี เรื่อง Hot น่ารู้ ออมเงินที่ไหนดี ยานยนต์อัพเดท กลเม็ดเคล็ดลับ DIY-ทำเองก็ได้ง่ายจัง
Group Blog
 
All Blogs
 

มุมมองการลงทุนในปี 2013 โดยจอร์จ โซรอส




 

Create Date : 01 มกราคม 2556    
Last Update : 1 มกราคม 2556 18:45:10 น.
Counter : 1482 Pageviews.  

กฤษดามหานคร (KMC) ปรับราคาพาร์ เพิ่มทุน จัดสรรหุ้นแบบ RO/PP และแจก Warrant

นายวิรัตน์ เอี้ยวอักษร กรรมการผู้จัดการ บริษัท กฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) หรือ KMC เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการปรับโครงสร้างเงินทุน โดยการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของบริษัทจากเดิมหุ้นละ 10 บาทเป็นหุ้นละ 20 บาท เนื่องจากเหตุผลของความจำเป็นที่บริษัทมีแผนระดมทุนเพื่อใช้ในการขยายธุรกิจ ทั้งเพื่อซื้อที่ดินมาเพื่อพัฒนาต่อ และซื้อโครงการที่สร้างเสร็จแล้วมาขาย เพื่อให้บริษัทมีรายได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาวต่อไป บริษัทจึงพิจารณาเลือกวิธีระดมทุนโดยการเพิ่มทุน ซึ่งหากคำนวณจากเงินทุนที่บริษัทต้องการเทียบกับมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของบริษัทในปัจจุบัน จะทำให้บริษัทต้องออกหุ้นเพิ่มทุนจำนวนมาก ประกอบกับการที่บริษัทยังมีขาดทุนสะสมและส่วนต่ำมูลค่าหุ้นค่อนข้างมาก หากบริษัทมีผลประกอบการกำไร จะทำให้บริษัทไม่สามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ บริษัทฯ จึงขอเสนอปรับโครงสร้างทุน โดยให้เปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ต่อหุ้นจากเดิมหุ้นละ 10 บาทเป็นหุ้นละ 20 บาท ก่อนดำเนินการลดทุนเพื่อตัดขาดทุนสะสมและส่วนต่ำมูลค่าหุ้นให้หมดไป

จากนั้นคณะกรรมการได้มีมติอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทอีกจำนวน 89,725.16 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวน 4,486.25 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 20 บาท ซึ่งจะจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 2,639.71 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 20 บาท ให้กับผู้ถือหุ้นเดิม ตามสัดส่วน (Rights Issue) ในอัตรา 4 หุ้นเดิม ต่อ 5 หุ้นเพิ่มทุน ในราคาเสนอขายหุ้นละ 0.50 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่มีรายชื่อปรากฏในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 7 มีนาคม 2556 โดยกำหนดวันจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนในระหว่างวันที่ 20-27 มีนาคม 2556 เพื่อให้บริษัทสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของแผนปรับโครงสร้างหนี้ ตลอดจนเพิ่มความสามารถของบริษัทในการขยายโครงการเพื่อให้ก่อให้เกิดรายได้และกำไรในอนาคต

นอกจากนี้ จะจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 1,795.00 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 20 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทที่จะจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมและผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวข้างต้น (KMC-W3) ส่วนหุ้นเพิ่มทุนที่เหลืออีกจำนวนไม่เกิน 51.54 ล้านหุ้น จะสำรองไว้สำหรับการปรับราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิของ KMC-W2

จากนั้นที่ประชุมคณะกรรมการได้มีมติให้ลดทุนจดทะเบียน โดยการลดมูลค่าหุ้น จากมูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 20 บาท เป็นมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.70 บาท เพื่อลดส่วนต่ำมูลค่าหุ้นและลดขาดทุนสะสม เนื่องจากบริษัทยังคงมีผลขาดทุนสะสมอยู่ และก่อนที่จะล้างผลขาดทุนสะสมได้ จะต้องดำเนินการล้างส่วนต่ำมูลค่าหุ้นก่อน เพื่อลดขาดทุนสะสมทั้งหมด ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้ในทันที หากผลการดำเนินงานมีกำไร 

และจากเหตุผลความจำเป็นที่ KMC มีแผนการระดมทุนเพื่อใช้ในการขยายธุรกิจ เพื่อทำให้บริษัทมีผลประกอบการที่ดีในระยะยาวต่อไป ที่ประชุมคณะกรรมการ จึงมีมติให้มีการเพิ่มทุนจดทะเบียน อีก 5,000 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.70 บาท ให้กับนักลงทุนโดยเฉพาะเจาะจง และ/หรือ นักลงทุนประเภทสถาบัน (Private Placement) เพื่อนำเงินซื้อที่ดินเพื่อมาพัฒนาต่อ และซื้อโครงการที่สร้างเสร็จแล้วมาขาย เพื่อให้บริษัทมีรายได้ในระยะสั้น รวมทั้งเพื่อรองรับไว้สำหรับการขยายโครงการ และรองรับการลงทุนต่างๆ ของบริษัทที่จะก่อให้เกิดรายได้ต่อไปในอนาคต และหรือเพื่อไว้สำหรับกรณีที่มีนักลงทุนที่เป็นนักลงทุนลักษณะ Strategic Shareholder ที่จะมาร่วมลงทุนกับบริษัทในอนาคต

"หุ้นเพิ่มทุนในส่วนนี้ เราอาจจะขายให้กับเจ้าของที่ดิน หรือเจ้าของโครงการที่เราไปเทคโอเวอร์มาเพื่อพัฒนาโครงการ หรือเพื่อขายต่อ ซึ่งจะทำให้ KMC มีรายได้ระยะสั้นเข้ามารวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งการปรับโครงสร้างทุนในครั้งนี้ คณะกรรมการมีความเชื่อมั่นว่าจะเกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้ถือหุ้นทุกคน และทำให้ KMC มีเงินทุนที่แข็งแกร่ง พร้อมที่จะเดินหน้าพัฒนาโครงการเพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงในระยะยาวต่อไป และที่สำคัญการลดทุนเพื่อล้างขาดทุนสะสม จะทำให้บริษัทฯ สามารถจ่ายเงินปันผลได้เร็วขึ้น หากผลการดำเนินงานเริ่มมีกำไร ซึ่งผมเชื่อว่ามีโอกาสได้เห็นแน่นอนในปี 2556 หลังจากที่บริษัทฯ เริ่มเดินแผนหารายได้ระยะสั้น โดยการ เทคโอเวอร์โครงการคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จแล้วมาทำตลาดและขายต่อ ซึ่งได้มาร์จิ้นค่อนข้างดี และจะทำให้ยอดขายของบริษัทฯในปีหน้าก้าวกระโดดทะลุ 3,000 ล้านบาท พร้อมมีโอกาสจ่ายปันผลได้ทันที" นายวิรัตน์กล่าว

ทั้งนี้ KMC กำหนดเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2556 เพื่อขออนุมัติการทำรายการดังกล่าว ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2556 และกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อสิทธิเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2556 ตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2556 (Record date)




 

Create Date : 31 ธันวาคม 2555    
Last Update : 31 ธันวาคม 2555 15:09:22 น.
Counter : 1784 Pageviews.  

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ จัดงานสัมมนาเรื่อง “การพัฒนาคุณภาพคนอุตสาหกรรมเพื่อก้าวสู่ AEC ”

การเปิดเสรีทางเศรฐกิจอาเซียนหรือ AEC จะมีผลกระทบต่อองค์กรธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมมากน้อยแค่ไหน แรงงานฝีมือจะหลั่งใหลเข้ามาจากต่างประเทศหรือใหลออกกันแน่ ทิศทางของแรงงานในอุตสาหกรรมจะเป็นอย่างไร โรงงานอุตสาหกรรมประเภทไหนบ้างที่มีโอกาสจะย้ายไปตั้งฐานการผลิตในประเทศเพื่อนบ้าน และที่สำคัญภาคอุตสาหกรรมของไทยจะต้องเตรียมรับมือกับ AEC กันอย่างไร

พบคำตอบเหล่านี้ได้ในงานสัมมนา “การพัฒนาคุณภาพคนอุตสาหกรรมเพื่อก้าวสู่ AEC ” วันพุธที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2556 เวลา 13.00 น.-16.30 น. ณ ห้องประชุมสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ

งานสัมมนาดังกล่าวเกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ กับ บริษัท โรแบร์แอนด์เอสโซซิเอส (ประเทศไทย) จำกัด เป็นงานสัมมนาที่จะเข้ามาสร้างภูมิคุ้มกัน และความเข้าใจอย่างถ่องแท้ เกี่ยวกับต่อผลกระทบและวิธีการเตรียมการเพื่อรับมือกับการเปิดเสรี AEC โดยเฉพาะเรื่องการวางแผนลพัฒนาบุคลากรในองค์กร 

โดยในงานสัมมนานี้ได้แบ่งออกเป็นสอนส่วน ส่วนแรก ท่านจะได้พบกับการบรรยายพิเศษจาก ดร.ณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เรื่อง “ผลกระทบของ AEC ต่ออุตสาหกรรมไทยและมาตรการเร่งด่วนที่ต้องเร่งพัฒนาเพื่อการรับมือ” และส่วนที่สอง เป็นการเสวนาในหัวข้อเรื่อง “พัฒนาคนอุตสาหกรรมรับ AEC” จากผู้เชื่ยวชาญทั้งจากสายวิชาการและภาคธุรกิจ ได้แก่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุธีร์ รัตนนาคินทร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัท อังกฤษตรางู(แอล.พี.) จํากัด ดร.สาธิต พุทธชัยยงค์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ ดร.พอล โรแบร์ ประธานกรรมการ บริษัทโรแบร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ (ประเทศไทย) จํากัด และ คุณอุดมเดช คงทวีเลิศ Chief Executive for Thailand บริษัท บูโร เวอริทัส (ประเทศไทย) จำกัด

ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายได้ที่ คุณภัทรวดี ภู่โต๊ะยา โทรศัทพ์ 0-2661-8952 หรือลงทะเบียนเข้าร่วมงานสัมมนาได้ที่ //goo.gl/vs1bv




 

Create Date : 30 ธันวาคม 2555    
Last Update : 30 ธันวาคม 2555 9:54:20 น.
Counter : 1210 Pageviews.  

ปี 2556 ตลาดหลักทรัพย์ฯตั้งเป้ามูลค่า IPO ที่ 1.2 แสนล้านบาท

นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเปิดเผยว่าปี 2556 ตลาดหลักทรัพย์ฯตั้งเป้ามูลค่าระดมทุน (มูลค่าตามราคาตลาด) ที่เข้าใหม่ผ่านการเสนอขายให้ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ที่ 1.2 แสนล้านบาท

ส่วนปี 2555 คาดว่าจะจบที่ 1.13 แสนล้านบาท และถือเป็นปีที่ประสบความสำเร็จอย่างมากเรื่องการระดมทุน โดยมีมูลค่าระดมทุนสูงสุดในรอบ 10 ปี จากบริษัทที่เสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวน 24 บริษัท รวมกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ 

กรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวว่า แนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นปี 2556 น่าจะเป็นปีที่ยังผันผวนสูงจากสถานการณ์ยุโรปที่ยังต้องแก้ไขปัญหากันต่อไป และมาตรการต่างๆ ที่จะออกมาเป็นระลอก จึงเชื่อว่าตลาดหุ้นมีความผันผวนสูงตามไปด้วย ดังนั้นนักลงทุนต้องระมัดระวังการลงทุน เพราะขณะนี้ค่า PE Ratio (อัตราราคาปิดต่อกำไรต่อหุ้น) ของตลาดหุ้นไทยไม่ได้ต่ำอีกต่อไปแล้ว โดยปรับตัวสูงขึ้นมากว่า 15 เท่า ไม่นับรวมหุ้นบมจ.ปตท.( PTT) แต่หากนับรวมก็จะอยู่ที่ 17 เท่า

ส่วนเม็ดเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ในปี 2555 เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยราว 7 หมื่นล้านบาท เทียบเคียงกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาค 

นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) และรองผู้จัดการ สายงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวว่า ปี 2556 คาดว่าจะมีหุ้น IPO ที่เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไออีกกว่า 30 บริษัท 

ขณะที่ปี 2555 (ณ 25 ธ.ค.2555) มีบริษัทเข้าจดทะเบียนไม่ทันอีก 14 บริษัท เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) จำนวน 6 บริษัท และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ จำนวน 7 บริษัท ส่วนอีก 1 บริษัท เป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ โดยปี 2555 มูลค่าระดมทุนผ่านตลาดรองรวม 2.5 แสนล้านบาท




 

Create Date : 29 ธันวาคม 2555    
Last Update : 29 ธันวาคม 2555 10:26:06 น.
Counter : 1311 Pageviews.  

บลจ. กสิกรไทย คาดการณ์ราคาเป้าหมายของทองคำในปี 2556

นายนาวิน   อินทรสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย  เปิดเผยว่า บลจ. กสิกรไทย คาดการณ์ราคาเป้าหมายของทองคำในปี 2556 ที่ประมาณ 1,850 – 1,900 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์  และมองว่าในระยะยาวราคาทองคำยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่รัฐบาลในประเทศต่างๆ มีแนวโน้มจะดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางเศรษฐกิจต่อเนื่องผ่านการอัดฉีดเม็ดเงินออกมาโดยเฉพาะในสหรัฐฯ และยุโรป  ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยที่จะยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม แม้ราคาทองคำจะมีแนวโน้มเป็นบวก แต่อาจมีความผันผวนขึ้นและลงเป็นรอบๆ ตามสภาวะตลาดและทิศทางของค่าเงินเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับผู้ลงทุนที่จะจับจังหวะซื้อขายทำกำไรได้

ความกังวลจากมาตรการ Fiscal Cliff และแรงเทขายทำกำไรเพื่อนำเงินไปใช้จ่ายในช่วงเทศกาลที่ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลงไปประมาณ 5% ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมาเป็นเพียงความผันผวนในระยะสั้น เพราะปริมาณการถือครองทองคำในกองทุน ETF ยังไม่มีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลงตามไปด้วย ในทางกลับกันพบว่ามีปริมาณทองคำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่กลางปี ซึ่งสะท้อนชัดถึงมุมมองต่อราคาทองคำในระยะยาวที่เป็นบวก และเชื่อว่าทองคำจะยังคงเป็นสินทรัพย์ที่สร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจต่อไปได้

อย่างไรก็ตามมองว่านักลงทุนในกองทุนทองคำอาจได้รับข่าวดีเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหา Fiscal Cliff ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในตลาดเชื่อว่าสภาคองเกรสและพรรครีพับลิกันอาจได้ข้อสรุปร่วมกันหลังปีใหม่ ช่วงต้นปีหน้าจึงอาจเป็นจังหวะที่ผู้ลงทุนจะสามารถเข้าลงทุนเพื่อสะสมโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจจากการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำได้

อนึ่ง บลจ. กสิกรไทยเตรียมจ่ายปันผลกองทุนเปิดเค โกลด์ (K-GOLD) ซึ่งเป็นกองทุนทองคำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่  1 ก.ค.– 31 ธ.ค.2555 ประมาณการอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 0.20 บาทต่อหน่วย โดยจะจ่ายให้แก่ผู้ลงทุนที่มีรายชื่ออยู่ในสมุดทะเบียนของกองทุน ณ เวลา 08.00 น. ของวันที่ 2 ม.ค.2556 ประมาณการมูลค่าการจ่ายเงินปันผลจากจำนวนหน่วยลงทุน ณ วันที่ 26 ธ.ค.2555 กว่า 300 ล้านบาท




 

Create Date : 28 ธันวาคม 2555    
Last Update : 28 ธันวาคม 2555 9:31:59 น.
Counter : 1605 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  

xemmy
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




Friends' blogs
[Add xemmy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.