ก้อนหิน...ก้อนนั้น
สมเด็จพระญาณสังวรมีคำสอนว่า ให้อยู่กับปัจจุบัน ไม่จมอยู่กับอดีต ไม่เพ้อฝันถึงอนาคต ซึ่งเป็นความจริงทั้งสิ้น ที่เราเพี้ยนๆ บ้าๆ ทุกข์ทนอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะเราจมอยู่อดีต และเพ้อฝันถึงอนาคตมาตลอด
ไม่ได้ธรรมะอะไรนักหนาหรอก แต่อยู่ๆ ก็คิดได้ว่า ตอนนี้ชีวิตเราช่างเหมือนเพลง ก้อนหินก้อนนั้น เลยแฮะ
ระหว่างที่เรานั่งรถทัวร์กลับมาอีสาน (ทุกวันนี้ไม่รู้ที่ไหนคือบ้านกันแน่ เรียกไม่ถูกแล้ว) คุยกับสมาชิกในครอบครัว คุยจบรู้สึกทุกข์ขึ้นมาทันที เบื่อ คุยกันไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าหู ไม่ตลก ไม่พอใจ ไม่อยากฟัง ไม่อยากรับรู้ ณ ขณะนั้นอยากอยู่คนเดียวในโลก
และแว่บหนึ่งของความคิด---อยากมีความสุขกว่านี้ก็ต้องลาโลก!! ไม่ต้องรับรู้อะไรใดๆ จากใครอีก เพราะเวลาที่เรารับรู้เรื่องราว คำแนะนำ คำติ คำด่า คำกระแนะกระแหน คำเหยียดหยาม เย้ยหยัน ผสมกับความคิดที่ฟุ้งซ่านส่วนตัวอยู่แล้ว ล้วนแล้วแต่สร้างความทุกข์ให้เราทั้งนั้น ถ้าลาโลกไปแล้วไม่ต้องรับรู้อีก ก็น่าจะมีความสุขเสียที---มีความสุขในนรกก็ยังดีกว่าทุกข์อยู่บนโลก
แต่ไม่รู้จะทำยังไงให้ลาโลกโดยสงบเสียที...
ฉะนั้น ในเมื่อต้องทนอยู่ หนทางแรกที่จะบรรเทาทุกข์ได้ คือขว้างก้อนหินก้อนนั้นออกไปไกลๆ ปิดหู ปิดตา ปิดปาก---ไม่ฟังในสิ่งที่ไม่อยากฟังให้รกสมอง ไม่ดูในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์กับสายตา และไม่พูดกับคนที่คุยกันไม่รู้เรื่องด้วย
หวังว่าคงเป็นหนทางดับทุกข์ในขั้นต้นของเรานะ
Create Date : 23 มิถุนายน 2556 |
|
1 comments |
Last Update : 23 มิถุนายน 2556 19:43:42 น. |
Counter : 1726 Pageviews. |
|
|
เก๋ชอบเพลงก้อนหินก้อนนั้นมากค่ะ เพราะให้ความหมายเป็นคติสอนใจได้ดี
เก๋คิดว่ามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่หลากหลายในเรื่องของความคิดและการกระทำ
การอยู่ร่วมกับคนรอบข้างโดยที่บางครั้งเค้าก็ทำอะไรกระทบใจเรา ทำให้รู้สึกไม่ดีได้
เราก็คงต้องหาวิธีการที่จะอยู่ร่วมกับคนเหล่านั้น อยู่กับคำพูดเหล่านั้น อย่างเข้าใจและไม่เก็บมาเป็นความทุกข์อยู่กับตัวเรานาน
วิธีของแต่ละคนคงต่างกัน สำหรับเก๋ใช้วิธียอมรับในความหลากหลายของแต่ละคน และเวลาที่มีอะไรมากระทบใจก็เลือกที่จะทิ้งไปให้ไวที่สุดค่ะ :)